Cambridge ว้าวมีแบบนี้ด้วย

เนอะ อย่าว่าแต่พี่ไทยรับน้องเลย แต่ต่างกันที่ว่าเค้ามีมาตรการลงโทษและปราบปราม

ดีกว่าบ้านเรามากๆ บ้านเราต้องมีนศ.ตามก่อน เป็นข่าวลงหน้าหนึ่งก่อนค่อยมีการเคลื่อนไหว

จากสถาบันการศึกษา...สมองเด็กไทยพวกนี้ยังด้อยพัฒนาอยู่

ตามลิ้งค์เข้าไปอ่านและไปดูภาพมาแล้ว

เมารั่วแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ของคนอังกฤษ
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือสงสัยเด็กกลุ่มนี้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเมารั่วตามเกาะแก่งที่ค่าใช้จ่ายถูกๆ ค่าเครื่องบินถูกๆ กันไม่ทัน
(เด็กวัยรุ่นอังกฤษ จะฮิตไปเกาะตามทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนมากๆ หลักๆ คือไปเมารั่ว และไปล่าแต้มกัน)
หรือเวลาไม่พอไป จึงต้องไปเมารั่วกันในพาร์คแทน_ผิดที่ผิดทางไปหน่อย จริงๆ คงไม่ได้กะไปรั่วแบบนี้ในพาร์ค
แต่คงเมากันจนเลยเถิดไปหน่อย

ในลอนดอน หรือเมืองอื่นๆ เวลาผับเลิก พวกรั่วๆ แบบนี้เยอะแยะไป บางคนก็เมานอนตรงถนน หรือเมาแล้วโวยวาย
ไร้สติ หรือเมาแล้วเข้าไปฉี่ในตู้โทรศัพท์สวยๆ หรือเมาแล้วอ้วกพุ่ง เมาแล้วทำอะไรบ้าๆ บอๆ อีกเยอะ

ที่ซิดนี่ย์ก็เมาแล้วรั่วกันแนวๆ นี้ โดยเฉพาะคืนวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ และที่ซิดนี่ย์จะพิเศษกว่าลอนดอนนิดนุง ตรงที่ว่า
เวลาคืนวันศุกร์-เสาร์ จะชอบมีรถหวอมาวิ่ง เปิดหวอดังลั่น เพราะคนออสซี่เมาแล้วชอบตีกัน คนอังกฤษเมาแล้วรั่ว
คนออสฯ เมาแล้วชอบตีกัน จำไว้จ่ะ

เข้ามาพิมพ์ต่ออีกนิดนุงนะคะ เพราะเข้าใจว่าคุณ จขกท. อ่านข่าวแล้ว และดูภาพแล้วคงจะคิดแบบไทยๆ ว่า
เรียนถึงมหาวิทยาลัยดังระดับโลกและเก่าแก่มาก ทำไมเด็กๆ ทำแบบนี้ คือจะบอกว่าอย่าไปคิดแบบนั้นค่ะ
เพราะเด็กๆ กลุ่มนี้คือคนอังกฤษ เด็กๆ ในภาพหน่ะ แต่ละคนเป็นลูกผู้ดีมีเงิน เป็นคนอังกฤษที่มาจากครอบครัว
ชั้นกลางหรือชั้นสูง ไม่ใช่คนอังกฤษระดับชนชั้นแรงงานเลย หนังสือพิมพ์เขาเขียนพาดหัวข่าวประชดด้วยค่ะ
เด็กๆ หน่ะ เขาเล่นกัน เมากัน สนุกกันจนเลยเถิดค่ะ เพราะเมาจนรั่ว ตัวอย่างชัดๆ เมื่อไม่นานมานี้เอง
ข่าวเจ้าชายแฮร์รี่ ไงคะ เวลาที่ท่านทำอะไรห่ามๆ เวลาเป็นข่าวหน่ะ สังเกตเถอะคุณ จะเป็นตอนที่ท่านไปเที่ยวดื่มเหล้า
สังสรรค์ ไปงานปาร์ตี้ทั้งนั้นเลย

อ่านแล้วอย่าคิดแบบไทยๆ ค่ะ อย่าไปคิดเปรียบกับว่าคนไทยถ้าเรียนมหาลัยดังๆ แล้วต้องทำตัวเคร่งขรึม ต้องทำตัว
อยู่ในกรอบ ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้ว่าไม่ได้ทำตัวแบบในอุดมคติ

การดื่มเหล้าของคนอังกฤษส่วนใหญ่แล้ว ดื่มเพื่อสังสรรค์ เพื่อพูดคุย เพื่อพบปะเพื่อนฝูง ครอบครัว และมันเป็นวัฒนธรรม
ของเขาค่ะ โดยเฉพาะวัฒนธรรมในการไปผับ หมู่บ้านไหน เมืองไหนในอังกฤษ ถ้าไม่มีผับประจำหมู่บ้าน
ไม่มีผับประจำเมือง ไม่ใช่อังกฤษค่ะ ขนาดวันอาทิตย์พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลูกเด็กเล็กแดง ถ้าเขาไม่ทำ Sunday Roast
กินกันเองที่บ้าน เขาก็ต้องออกไปผับกันค่ะ เพื่อไปกิน Sunday Roast หรือ Roast Dinner ไปเพื่อพบปะสังสรรค์
กับครอบครัวของตัวเอง ของเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง และ คนในชุมชนค่ะ กินเสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่น และ/ หรือพาสุนัข
ไปเดินเล่นด้วยค่ะ

เด็กๆ ในรูปหน่ะ เขาสนุกกันค่ะ _และในหลายๆ สังคม คนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ใช่คนไม่ดีค่ะ ถ้าดื่มเพื่อความสนุก
ดื่มเพื่อสังสรรค์ และการที่คนเราเป็นคนดีหรือไม่ดี ไม่ได้วัดกันที่ว่าใครดื่มเหล้าหรือไม่ดื่ม สูบบุหรี่หรือไม่สูบด้วยค่ะ
แต่มันเป็นเรื่องของความสนุกสนาน การเข้าสังคม การสรวลเสรเฮฮา

ดูข่าว อ่านข่าวแล้ว อย่าไปคิดแบบไทยๆ ค่ะ การที่จะรู้จักคนชาติไหนก็แล้วแต่ เข้าใจคนชาติไหนก็แล้วแต่ ต้องเข้าใจ
ประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรมของเขา เข้าใจเมนทาลิตี้ของเขา การเลี้ยงดูของเขา Value ในสังคมของเขา
เข้าใจสภาพแวดล้อมที่เขาคุ้นเคยและเติบโตมา เข้าใจแนวคิดในการใช้ชีวิต ความเชื่อ และอีกหลายๆ อย่างค่ะ

หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบคนอินเดีย คนจีนแผ่นดินใหญ่ คนฮ่องกง แต่ดิฉันชอบค่ะ หรือบางครั้งดิฉันชอบบ่นคนสิงคโปร์
แต่จริงๆ แล้วดิฉันหน่ะ บ่นไปอย่างนั้นแหละ และจริงๆ แล้วเข้าใจคนสิงคโปร์ด้วย และคนไทยมากมายบอกว่าคนฮ่องกง
ไม่สุภาพ แต่ดิฉันเห็นว่าคนฮ่องกงหน่ะ น่ารัก มีน้ำใจ หรือคนอินเดียเนี่ย ดิฉันชอบที่พวกเขาตลก มีอารมณ์ขัน
เจ้าเล่ห์เล็กน้อย แต่ถ้ามองเขาอย่างเข้าใจเนี่ย แล้วจะสามารถคบคนอินเดียเป็นเพื่อนได้เลยนะคะ อิอิ

ถามข้างบนหน่อยครับว่าในอังกฤษนี่มีอะไรที่บ่งบอกถึงฐานะได้บ้างครับ คืออยากทราบไว้หน่อยน่ะครับ

ว่าคนอังกฤษเราจะพอรู้ได้จากอะไรบ้างว่าคนนี้รวย คนนี้กลางๆ คนนี้จน คนนี้จนมากๆ อะไรยังงี้ครับ

เคมบริดจ์เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแต่ผมไม่ทราบว่าระบบทางนั้นเป็นอย่างไร ทำไมถึงสามารถตอบได้ครับว่าคนที่เรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ส่วนใหญ่มักจะมาจากครอบครัวที่มีเงินครับ

เรียนคุณ Keichun คนอังกฤษหน่ะ เขาดูกันที่มารยาทสังคม ที่ Movement ที่คำศัพท์ที่ใช้ สำเนียง
ดูที่ Personality

ส่วนเรื่องมีเงินเนี่ยมีกันได้ทุกชนชั้นค่ะ คนอังกฤษระดับเวิร์คกิ้งคลาสที่รวยๆ ระดับเศรษฐีก็มี

ในจุดนี้เราไม่สามารถเรียบเรียงมาเป็นคำพูดหรือคำเขียนออกได้อย่างแจ่มแจ้งสละสลวยค่ะ การดูต้องใช้เซ้นส์หลายๆ อย่าง
ประกอบกันต้องเจอคนเยอะๆ ประสบการณ์ชีวิตต้องมี ประสบการณ์ในการติดต่อกับคนต่างชาติต้องมี
ความเข้าใจคนต่างชาติต้องมีค่ะ และต้องมีความเข้าใจผู้อื่น เข้าใจวัฒนธรรมอื่นด้วย

เราได้ในจุดนี้เนื่องด้วย ประสบการณ์หลายๆ อย่าง ทั้งจากการเดินทาง การทำงานกับคนต่างชาติมาหลายชาติ
การอาศัยอยู่ในต่างประเทศ หรือการเคยไปศึกษาเล่าเรียนในต่างประเทศ และการที่ได้คลุกคลีกับคนต่างชาติมาอย่างน้อยๆ
30 ปีค่ะ

เพื่อนฝูงส่วนใหญ่ของเราเป็นคนต่างชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่คบคนไทยนะคะ เรามีเพื่อนคนไทยค่ะ
แต่คบแต่คนนิสัยดีๆ ใจกว้างๆ ค่ะ และคนไทยที่เราคบไม่จำเป็นต้องเป็นคนไทยที่เมืองนอกหรือคนไทยที่เคยผ่านเมืองนอก
เมืองนามาเสมอไป เพื่อนเราคนไทยที่ใจดีๆ ใจกว้างๆ หลายๆ คนไม่เคยไปเมืองนอกเมืองนามาเลยก็มี แต่เขามี
ความรู้รอบตัว มีประสบการณ์ชีวิตค่ะ

หรืออย่างอังกฤษ กับ ออสเตรเลียนี่ เรามีความผูกพันกับสองประเทศนี้เกินผู้ไปเยือนธรรมดา และคุ้นเคยกับผู้คนและ
วัฒนธรรมของสองประเทศนี้มานาน จึงสามารถมาแสดงความคิดเห็นในมุมมองของเราได้ค่ะ

คุณ Keichun คะ เราไม่ได้เขียนตรงไหนนะคะ ว่าคนที่เรียนเคมบริดจ์มาจากครอบครัวคนมีเงิน นักศึกษาเคมบริดจ์
ที่เป็นพวกนักเรียนทุนก็มี เพียงแต่นักศึกษากลุ่มในภาพข่าวนี้เส่วนใหญ่เลยป็นลูกคนมีอันจะกินค่ะ แต่เราไม่สามารถ
บรรยายได้ค่ะ ว่าดูอย่างไร

คุณ Keichun ตอนนี้คุณอยู่อังกฤษชิมิคะ คุณลองเอาไปถามคนอังกฤษสิคะ

ฮ่าๆๆ แล้วอยู่อังกฤษ ควรจะรู้ศัพท์ เช่นคำว่า Hoity-Toity คำว่า Posh คำว่า Pompous เอาไว้บ้างนะคะ
และถ้ารู้ศัพท์พวกนี้แล้วและเข้าใจแล้ว คุณ Keichun จะไม่ต้องมาถามอีกเลยค่ะ ว่าอะไรยังไง ดูยังไง อิอิอิ

อ้อ แต่ก่อนอื่น ต้องสลัดความติดแบบไทยๆ ออกไปก่อนด้วยนะคะ คือว่าคนรวยของอังกฤษมากมายเนี่ย เขาก็เหมือนงกับคนรวยของไทยๆ ที่ของประเทศอื่นๆ นะคะ คือเขาไม่ต้องพยายามทำอะไรที่แสดงว่ารวยหรือมีชาติตระกูลเลยค่ะ
แต่ทุกๆ อย่างจะออกมาโดยธรรมชาติ ต่อให้ใส่เสื้อยืดตัวเดียว นุ่งกางเกงธรรมดา ใส่แตะ ไม่ใส่นาฬิกาแพงๆ เลย
หรือไม่ต้องถือกระเป๋าแพงๆ แต่รัศมีของคนที่มีชาติตระกูลจะบ่งบอกออกมาเองค่ะ จากการพูดจา ศัพท์ที่ใช้
Movement ต่างๆ Personality มารยาทในการกินการดื่ม การพูดคุย

หรือ เวลาที่คุณเห็นฝรั่ง หรือคนจีน หรือคนเอเชีย ที่เป็นเศรษฐีใหม่ จะสามารถบอกได้ทันทีนะคะ ว่าเขามีเงินเยอะ
แต่ไม่มีคลาสค่ะ แต่ใช้เงินยกระดับของคลาสมา แต่ในเมื่อไม่ได้มีคลาสมาแต่อ้อนแต่ออก เพราะฉนั้นลักษณะต่างๆ
การกินอยู่ การพูดจา Movement และ Personality ก็จะไม่ใช่หน่ะนะคะ

พี่ไม่ได้มาว่าอะไรคุณ Keichun นะคะ แต่เข้ามาคุยกัน แต่พี่ต้องดักบอกเอาไว้ก่อน เพราะเห็นว่าหลังๆ นี้คุณ Keichun
ไปอังกฤษ เพิ่งจะไปอยู่ และมีคำถามเข้ามาบ่อยๆ เกี่ยวกับคนต่างชาติ ของแบบนี้ ต้องอาศัยเวลา และประสบการณ์ค่ะ
และใจต้องกว้างค่ะ ความรู้รอบตัวต้องมี หูตาต้องไว ต้องกว้างไกลค่ะ เรื่องความรู้รอบตัว สอนกันยากค่ะ เพราะเป็นสิ่ง
ที่แต่ละบุคคลต้องสั่งสมกันเอาเองค่ะ ส่วนใครจะสะสมได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับความไฝ่รู้ ขวนขวาย และโอกาสหลายๆ อย่างใน
ชีวิต และที่สำคัญใจต้องกว้างมากๆ ค่ะ และต้องมองคนชาติต่างๆ ว่าเป็นมนุษย์เหมือนเราก่อน จากนั้นค่อยมาพิจารณา
ถึงสาเหตุที่ทำให้คนชาติต่างๆ แสดงพฤติกรรมออกมาไม่เหมือนกันค่ะ

คนไทยเองเวลามาแล้วรั่วๆ แบบนี้มีเยอะแยะไป เพียงแต่ต่างวัฒนธรรมกัน การแสดงออกไม่เหมือนกัน สังคมไม่เหมือนกัน

ข่าวจาก Mirror ก็แนวๆ ข่าวคล้าย The Sun คล้ายไทยรัฐ คล้ายเดลินิวส์ค่ะ คือทุกเรื่องสามารถเป็นข่าวได้หมด
สามารถเอามาเขียนได้หมด ประเภทข่าวแมวมีสามหาง เด็กชายอายุ 12 ทำเด็กหญิงอายุ 15 ท้อง
ข่าวดาราเปลี่ยนแฟน ข่าวดาราวิวาทะกัน ข่าวแนวๆ นี้หน่ะค่ะ เพราะฉนั้นข่าวนักศึกษาเคมบริดจ์เมารั่วในพาร์คจึงสามารถ
เป็นข่าวได้เหมือนกัน _เด็กๆ หน่ะ คงเรียนกันหนักมาก จึงหาเรื่องสนุก แล้วจนเลยเถิดไปอย่างพี่ว่านั่นแหละ
แล้วทีนี้มาสนุกกันในพาร์คไง จึงมีคนอื่นเห็น จึงเป็นข่าว

คนไทยหน่ะ เด็กๆ มหาวิทยาลัยดังๆ หลายๆ คณะ เมาแล้วรั่วมีถมไปค่ะ

คนเราก่อนสู่วัยผู้ใหญ่ ต้องผ่านวัยนี้กันมาทั้งนั้นค่ะ เว้นเสียแต่ว่าจะถูกเลี้ยงมาแบบอยู่ในกรอบจนเกินไป เก็บกดนะคะ

ตามพี่ been there, done that เลยค่ะ
posh people, hi-so ตามที่เมืองไทยชอบเรียกไม่จำเป็นต้องรวย
เหมือนลักษณะว่าเป็นผู้ดีมากกว่า
แม้ว่าผู้ดีส่วนมากจะรวย

คนรวยที่ไม่ได้เป็นผู้ดี
นักบอลอะไรแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ได้เรียนหนังสือสูง พิมพ์ twitter ทีแกรมม่าผิดกระจาย สำเนียงแบบ working class แต่รวยเพราะว่ารายได้เยอะ
รายการ Dragon's Den ที่เป็นอารมณ์คล้าย ๆ SME ตีแตกบ้านเรา
นายทุนแต่ละคนรวยมาก
แต่สำเนียงแบบ chav มากค่ะ สำเนียงไม่ผู้ดีเลย ฟังก็รู้เลยว่าเค้ามาจาก working class แต่มารวยเองตอนหลัง

เด็ก Cambridge-Oxford ส่วนมากจะมาจาก รร boarding school หรู ๆ ทั้งนั้นไม่ว่าจะ Eton (ที่เจ้าชายวิลเลี่ยมและแฮรี่เรียน รวมถึงนายกอังกฤษหลายคนและนายกไทยบางคน) Tonbridge, Dulwich และอื่น ๆ

ซึ่งโรงเรียนพวกนี้ส่วนมากก็จะมีแต่ upper-middle classถึง hi so ผิวขาวส่วนมาก สำเนียง posh เป๊ะ ๆ ซึ่งเวลาเค้าจะเฮ้วกันก็เยอะค่ะ เพื่อนเราแต่ละคนที่เรียนที่ดี ๆ แบบนี้มีวีรกรรมปีนออกนอกรั้วโรงเรียนไปกินเหล้าสูบบุหรี่ปีนเข้าหอรร หญิงมาเยอะแล้ว

ตามน้อง PuppyPower เลยค่ะ

อย่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดวิด คาเมร่อน หรือ นายกเทศมนตรีลอนดอน บอริส จอห์นสัน สองท่านนี้มาจากครอบครัว
ชั้นสูง เป็นลูกผู้ดีมีเงิน เกิดมาในแวดวงสังคมชั้นสูงของอังกฤษ แวดล้อมไปด้วยคนมีเงิน มียศฐาบรรดาศักดิ์
เรียนโรงเรียนของลูกผู้มีอันจะกิน จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สองท่านนี้ก็ชอบดื่มค่ะ และสมัยเรียนพี่เคยอ่านเจอนานแล้วว่า
เมารั่วเหมือนกัน มีประวัติห่ามๆ แผลงๆ เหมือนกัน เหมือนคนอังกฤษทั่วๆ ไป


การดื่มหน่ะ เป็นวัฒนธรรมอังกฤษ อยู่ในสายเลือดของคนอังกฤษส่วนใหญ่ ลูกเด็กเล็กแดงเวลาที่มีงานปาร์ตี้กันในครอบครัว
หรืองานสังสรรค์ในหมู่ญาติในช่วงคริสต์มาส Christmas Lunch หน่ะ เด็กๆ บางคนจะได้รับอนุญาตให้จิบไวน์นะคะ
หรือดื่มแชนดี้ค่ะ เบียร์ผสมสไปร์ทอะไรพวกนี้ ดื่มแล้วก็ตลก เล่าเรื่องโจ๊ก ทำอะไรขำๆ สไตล์คนอังกฤษค่ะ

คนอังกฤษหน่ะ ส่วนใหญ่ชอบคุยเรื่องตลก ปากจัด หัวไว ปากไว คิดเรื่องขำๆ เก่ง และชอบเอาตัวเองมาทำเป็นเรื่อง
ตลกค่ะ ไม่ต้องดูอะไรไกลเลย ดูวันพิธีเปิดโอลิมปิคที่ลอนดอนค่ะ ที่สมเด็จพระราชินีอังกฤษท่านมาร่วมแสดงหนังสั้นๆ
หน่ะ แล้วมีสุนัขคอร์กกี้แสนรักสุนัขทรงเลี้ยงของท่านสองตัวเข้าฉากด้วย แล้วที่สตั๊นท์โดดร่มลงมาทำเหมือนว่า
พระราชินีอังกฤษโดดร่มลงมาในสนามกีฬาจากนั้นท่านออกมาปรากฏพระวรกายหน่ะค่ะ นั่นแหละ
อารมณ์ขันแบบอังกฤษแท้ๆ เลย

พี่มีศัพท์อีก 2 คำ ที่คุณ Keichun ควรจะทราบด้วยค่ะ ถ้าอยู่อังกฤษ คือคำว่า Snooty กับคำว่า Snob ค่ะ

Khun BTDT, are you a Tory supporter? From your opinion, it sounds like you are.

Those stupid posh kids are horrible. They even do no have to study hard to get to Cambridge or Oxford. It's about classes and connection between those disgusting high class people.

เถื่อนกว่าบ้านเราบ้างที่อีก


http://thebsreport.wordpress.com/2009/02/06/hi-mom-hi-dad-im-doing-great-at-school-and-im-learning-so-much-send-money/

ตอนนี้อยู่เมืองไทยแล้วครับแต่ว่าเคยไปเที่ยวอังกฤษสองครั้งสองปีติดเลยครับ ไประยะยาวด้วยแต่ไม่ยาวมาก ไปแล้วหลงรักมากแต่รู้สึกได้ว่าทั้งสองครั้งที่ไปอังกฤษก็มีคนหลายระดับ เคยนั่งคุยกับบางคนที่อยู่ชนชั้นแรงงานเขาก็พูดเองว่ามีแต่ด้วยความเป็นฝรั่งหน้าตาเขาก็ผิดแผกจากพวกเรา ทุกอย่างไม่เหมือนกัน จึงยากที่ผมจะแบ่งชนชั้นได้ครับ เพราะชม.บินต่ำ

ไม่ได้คิดจะแบ่งแยกแต่อย่างน้อยส่วนตัวมองว่าถ้ามีคอนเนคชั่นเป็นคนรวยคนมีการศึกษามันก็ดี (มีประสบการณ์ไม่ดีกับคนจนที่อังกฤษ เพราะมาโกงตังเราถึงสามครั้ง - o - แต่กับคนดีๆก็มีเยอะนะครับ)

ขอบคุณทุกข้อมูลมาก ส่วนตัวกลับไทยมาคราวนี้เพื่อเรียนให้จบครับ อนาคตคงมีโอกาสได้ไปเยือนอีกแต่คงไปในฐานะนักศึกษาของที่นั่นครับ

อยากให้กีบคุณ been there, done that! จังเลยค่ะ :)

คุณ From Hell ก็นี่ไง คนเราเลือกเกิดไม่ได้ไงคะ โอกาสและโชค วาสนา มีไม่เท่ากัน เด็กพวกนี้หน่ะ
ใครว่าสบายคะ ยิ่งเกิดมาในครอบครัวที่รวยเท่าไหร่ มีหน้ามีตามียศฐาบรรดาศักดิ์เท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องทำตัว
ให้เป็นความหวังของตระกูลว่าจะต้องสืบทอดความดีงาม ความมีหน้ามีตาต่อไปค่ะ จะเข้าเรียนตั้งแต่ชั้น
อนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามแบบแผนเป็นแพทเทิร์นนะคะ จะแต่งงานกับใคร
ก็ต้องดูว่าชาติตระกูล การศึกษา ทรัพย์สมบัติเหมาะสมกันหรือเปล่า

ดิฉันไม่ใช่พวก Tory Supporter ค่ะ ดิฉันแสดงความคิดเห็นตามที่เห็น ตามที่ประสบค่ะ
และดิฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในคนกลุ่มเหล่านี้ด้วยดิฉันเป็นคนธรรมดา และคนรวยหน่ะมีคนดีๆ เยอะแยะไป
ไม่จำเป็นต้องนิสัยไม่ดีนะคะ หรือคนจน คนชั้นกลางที่ดีๆ ก็มีมากมาย ดิฉันไม่ชอบพวก Hoity-Toity พวก Snob
พวก Pompous นะคะ คนพวกนี้หน่ะ น่าเบื่อจะตาย เรื่องมากค่ะ ดิฉันชอบมนุษย์ธรรมดาที่มีจิตวิญญาณ และสามารถ
จับต้องได้ ต้องอยู่กับความจริง ต้องมีเมตตา เข้าอกเข้าใจผู้อื่น โดยที่ไม่เกี่ยสกับเชื้อชาติ ศาสนา การศึกษา สีผิว และ
พื้นฐานครอบครัวค่ะ

_______________________________

คุณสาหร่ายเกลียวทอง วัยรุ่นสมัยนี้หน่ะ ไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหน เขาต้องการมีตัวตนค่ะ ยิ่งเป็นยุคทวิตเต้อร์
อินสตาแกรม เฟสบุ๊ค บล็อก ยูทุ้ย เขายิ่งต้องทำอะไรแปลกๆ แหวกแนวไม่ซ้ำแบบใครค่ะ หลักๆ คือ ต้องการ
เอารูปไปโพสท์ ทำเท่ห์ ทำเก๋ ทำห่าม _ไม่งั้นจะมีการคิดท่าแปลกๆ เช่น แพล๊งค์กิ้งที่เคยฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองทั่วโลก
เหรอคะ

______________________________

รับทราบค่ะ คุณ Keichun ฝึกชั่วโมงบินต่อไปค่ะ ต้องอ่านเยอะๆ ดูเยอะๆ คบคนเยอะๆ ค่ะ และต้องทำใจกว้างๆ นะคะ
คุณมีพื้นฐานสนใจเป็นทุนเดิม และรู้จักซักถาม คุณมาถูกทางแล้วค่ะ

พี่สนใจข่าวต่างประเทศมาตั้งแต่ชั้นประถมต้นค่ะ พี่อ่านสตรีสารและสกุลไทยเป็นตั้งแต่อยู่ ป.4 และโตมากับข่าว
ต่างประเทศ รายการวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศทั้งหลาย และอ่านหนังสือแปลเป็นตั้งแต่ชั้นประถมต้นค่ะ เช่นพวก
วรรณกรรมต่างๆ ของต่างประเทศค่ะ และพี่ชอบดู ชอบอ่านแผนที่โลกมาตั้วแต่เด็กๆ ค่ะ
______________________________

ขอบคุณคุณ Calotropis ค่ะ และเจตนารมย์ในการตอบกระทู้ของพี่ยังเหมือนเดิมค่ะ คือไม่ขอรับกีบ ไม่รับอะไรทั้งสิ้นค่ะ
แต่ขอบคุณคุณ Calotropis มากค่ะ

ที่อังกฤษ ตั้งแต่ออกซ์ฟอร์ตถึงมหาลัยเห่ยๆธรรมดาๆ
นักศึกษาก็เมารั่ว หัวราน้ำเหมือนกันค่ะ
มันเหมือนเป็นการสังสรรค์อย่างนึง การเข้าสังคมอ่ะ
ไม่ต้องรอโอกาส หรืองานอะไร เขาก็ดื่มกันทุกอาทิตย์อยู่แล้ว
แค่ที่มหาลัยเรา วันดีคืนดี เที่ยวเสร็จกลับหอ เจอคนถูกผูกติดอยู่กับต้นไม้
ยิ่งพวกคลับกีฬา ที่มีแต่ผู้ชาย จะห่ามกันมาก