อังกฤษเตรียมขับนศ.ต่างชาติ2,700คนกลับปท.

31 ส.ค. 55 นายดาเมียน กรีน รัฐมนตรีกระทรวงผู้อพยพอังกฤษ แถลงเมื่อวันพฤหัส (30 ส.ค.) ว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอังกฤษ ได้เพิกถอนสถานะน่าเชื่อถือสูง (เอชทีเอส) ของมหาวิทยาลัยลอนดอน เมโทรโพลิแทน ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถออกเอกสารรับรองเพื่อขอวีซ่า และเปิดการเรียนการสอนแก่นักศึกษานอกสหภาพยุโรปได้อีกต่อไป เนื่องจากผลการสุ่มตรวจนักศึกษาต่างชาติ พบว่า กว่าหนึ่งในสี่ ไม่ได้รับอนุญาตอยู่ในประเทศ นักศึกษาที่ความสามารถด้านอังกฤษต่ำกว่ามาตรฐาน มีสัดส่วนสูงอย่างมีนัยสำคัญ และครึ่งหนึ่งของนักศึกษาที่สุ่มตรวจสอบ ไม่พบหลักฐานการเข้าเรียน

ผลทำให้นักศึกษานานาชาติกว่า 2,700 คน มีเวลา 60 วันในการหาสถาบันศึกษาใหม่ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องถูกเนรเทศ แต่นายเดวิด วิลเล็ตส์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อให้คำแนะนำและช่วยเหลือนักศึกษาที่ไปเรียนจริง และได้รับผลกระทบโดยที่ไม่ได้ทำความผิด หาสถาบันใหม่ลงเรียนเพื่อสำเร็จการศึกษาตามที่ตั้งใจ
ทางด้าน นายมัลคอล์ม กิลเลส รองคณะบดีมหาวิทยาลัยลอนดอนเมโทรโพลิแทน กล่าวว่า กำลังหารือทนายความที่เก่งที่สุดในประเทศเพื่อโต้แย้งคำตัดสินของตม.อังกฤษ ที่ตนมองว่ากำลังเขียนกฎใหม่ตามอำเภอใจ และกำลังสร้างความวิตกแก่มหาวิทยาลัยทุกแห่งในสหราชอาณาจักร
การตัดสินใจเพิกถอนเอชทีเอส ถูกประณามรุนแรงจากสหภาพนักศึกษาแห่งชาติที่กล่าวหารัฐบาลว่า ใช้นักศึกษาต่างชาติ เป็นลูกฟุตบอลการเมือง และมองว่าการทำเช่นนี้จะกระทบความต่อเนื่องในการพัฒนาการศึกษาขั้นสูง เป็นอุตสาหกรรมการส่งออกให้ประสบความสำเร็จ
แต่รัฐมนตรีกระทรวงอพยพ ยืนยันว่า มหาวิทยาลัยลอนดอนเมโทรโพลิแทน ละเมิดระเบียบหลายข้อและไม่ได้แก้ไขอย่างรวดเร็วทั้งที่ส่งหนังสือเตือนหลายเดือนก่อน นี่จึงเป็นมาตรการที่สมเหตุผสมล ในการบังคับใช้กฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ป้องกันชาวต่างชาติ ใช้ประโยชน์จากวีซ่านักศึกษาเข้าไปทำงานในอังกฤษ
บีบีซี รายงานว่า การแข่งขันและแรงกดดันด้านเงินสนับสนุน ทำให้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง พยายามเจาะตลาดนักศึกษาต่างชาติ ที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราสูงกว่านักศึกษาในบ้านและสหภาพยุโรป
ในภาพรวม การลงเรียนและการใช้จ่ายของนักศึกษาต่างชาติในอังกฤษ สร้างรายได้แก่เศรษฐกิจปีละ 5,000 ล้านปอนด์(ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) และหวังจะเพิ่มเป็น 16.9 หมื่นล้านปอนด์ภายในปี 2568 แต่ความเข้มงวดเรื่องวีซ่า อาจกระทบขีดความสามารถของมหาวิทยาลัยในการดึงนักศึกษาต่างชาติ


คมชัดลึก

การศึกษาแทบจะกลายเป็นธุรกิจหมดแล้ว

ความคิดเห็นที่ 1
ถูกต้อง... และมันก็เป็นแบบนี้ทั่วโลก
กำลังคิดว่าอีกหน่อยไม่กี่สิบปีข้างหน้า คงจะเป็นแบบในหนังเรื่อง IN TIME ที่มนุษย์ต้องซื้อเวลาเพื่อมีชีวิตอยู่


ตอบกลับความเห็นที่ 1