ขอคำแนะนำ&สอบถามนักเรียนไทยในอังกฤษหน่อยคะ ว่าจะลองไปเรียนคอสภาษาก่อน หรือจะสมัครไปเรียนโทเลยคะ

คือตอนนี้อยากไปเรียนต่อที่อังกฤษมากๆเลยคะ แล้วก้ออยากไปแบบเร็วๆนี้ด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะลเือกไปแบบไหนดีระหว่าง

1. ลองยื่นสมัครมหาวิทยาลัยไปเลย แล้วถ้าเค้ารับก้ออาจจะมีofferให้เรียนปรับพื้นฐานด้านภาษายังไงก้อแล้วแต่เงื่อนไขที่เค้ากำหนดมา แล้วก้อค่อยรอไปทีเดียว ซึ่งเร็วสุดก้ออาจจะปีหน้า

2. หรือ ลองไปเรียนคอสภาษาก่อนเพื่อความคล่องในการใช้ภาษา เรียนรู้วัฒนธรรม การใช้ชีวิต บ้านเมือง ถนนหนทาง(หางานทำไปด้วย แบ่งเบาภาระที่บ้าน)แล้วค่อยอาจจะกลับมาสอบทุนที่เมืองไทยหรือไม่ก้อค่อยตัดสินใจว่าจะเรียนที่ยูไหนดี เพราะจุดๆนั้นคงได้เรียนรู้ชีวิตที่นั่นมาพอสมควร เราอาจจะมีความรู้ในการเลือกเรียนโทมากขึ้น แล้วถ้าไปเรียนภาษาก้ออาจจะไปได้เลย รึป่าว??

3. หรือ ไปเรียนแบบ work&study ดีอ่ะคะ

ที่สำคัญจะติดต่อเอเจนซี่หรือทำด้วยตัวเองดี มีค่าเสียหายมากมั้ยคะ ใจจริงอยากติดต่อเอเจนซี่เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกเอกสารเท่าไร ขอคำแนะนำจากคนที่ไปหน่อยคะ ว่าเอเจนซี่ไหนบริการดีๆไม่ลอยแพเรา

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆคะ :))))

ความคิดเห็นที่ 1
อยากทราบข้อมูลเช่นกันค๊า


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
1. ลองยื่นสมัครมหาวิทยาลัยไปเลย แล้วถ้าเค้ารับก้ออาจจะมีofferให้เรียนปรับพื้นฐานด้านภาษายังไงก้อแล้วแต่เงื่อนไขที่เค้ากำหนดมา แล้วก้อค่อยรอไปทีเดียว ซึ่งเร็วสุดก้ออาจจะปีหน้า

ถ้าเป้าหมายคือการได้วุฒิเรียนโท ไม่ใช่แค่อยากไปอยู่เมืองนอก และเงินไม่ใช่ปัญหาขนาดนั้นก็ไปเถอะค่ะ การเรียนมันบังคับให้ต้องได้ภาษาอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องฟัง และ อ่าน และ เขียน ส่วนพูดนี่แล้วแต่คุณว่าจะพุดเยอะมั้ย ถึงเร็วสุดอาจจะเป็นปีหน้า แต่ระหว่างนี้ก็เตรียมใบสมัครไป ก็ไม่ใช่ทำแป๊บเดียวนะคะ ไหนจะต้องสอบIELTS ต้องเขียน SOP ต้องขอ recommendation จากอาจารย์ ต้องยื่นอีก เรียน presessional ก็น่าจะได้อะไรเยอะเหมือนกัน อย่างน้อยเค้าก็สอนเพื่อ prep เตรียมเรียนโทซึ่งก็คือภาษาแบบ advance ในระดับนึงไม่ใช่แค่เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน

2. หรือ ลองไปเรียนคอสภาษาก่อนเพื่อความคล่องในการใช้ภาษา เรียนรู้วัฒนธรรม การใช้ชีวิต บ้านเมือง ถนนหนทาง(หางานทำไปด้วย แบ่งเบาภาระที่บ้าน)แล้วค่อยอาจจะกลับมาสอบทุนที่เมืองไทยหรือไม่ก้อค่อยตัดสินใจว่าจะเรียนที่ยูไหนดี เพราะจุดๆนั้นคงได้เรียนรู้ชีวิตที่นั่นมาพอสมควร เราอาจจะมีความรู้ในการเลือกเรียนโทมากขึ้น แล้วถ้าไปเรียนภาษาก้ออาจจะไปได้เลย รึป่าว??

ไม่เคยไปเรียนภาษาตอนโตแล้วอะค่ะ โนคอมเม้นว่าจะได้ไปเลยมั้ย แต่ว่าเรียนภาษาทำงานได้ 10 ชม เองถ้าเกิดว่าเรียนกับสถาบันที่รัฐรับรองอะไรประมาณนี้อะค่ะ ไม่งั้นทำงานไม่ได้ด้วยซ้ำ วัฒนธรรมการใช้ชีวิต ถนนหนทางบ้านเมือง ตอนเรียนโทก็รู้ได้

สำหรับเรา ทางเลือกนี้มันเสียเวลา ไม่ได้เพิ่ม value ให้กับตัวเองแบบจับต้องได้ เรียนโทมันยังเพิ่ม qualification ให้กับเรากลับมาทำงานได้ แต่คนคิดไม่เหมือนกัน ถ้าจขกท ชิว ๆ ไม่ซีเรียสก็ไปเรียนก็ได้ค่ะ

3. หรือ ไปเรียนแบบ work&study ดีอ่ะคะ

อันนี้ไม่เคยไป ไม่มีคอมเม้นเหมือนกันค่ะ แต่ไม่น่าคุ้ม ถ้าทำงานถึงขั้นคุ้มนี่คงไม่ได้ study

ที่สำคัญจะติดต่อเอเจนซี่หรือทำด้วยตัวเองดี มีค่าเสียหายมากมั้ยคะ ใจจริงอยากติดต่อเอเจนซี่เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกเอกสารเท่าไร ขอคำแนะนำจากคนที่ไปหน่อยคะ ว่าเอเจนซี่ไหนบริการดีๆไม่ลอยแพเรา

เอเจนซี่ทำให้ฟรีค่ะ ถ้าสมัครเรียนโทนะ เรียนภาษาไม่ทราบ
แต่เอเจนซี่เค้าได้ค่าคอมจากมหาลัยที่สมัครไปและคุณได้เข้า เพราะฉะนั้นบางทีเค้าจะแนะนำให้คุรไปเรียนมหาลัยที่เค้าเป็นตัวแทน แต่จริง ๆ คุณอาจมีความสามารถเข้ามหาลัย rank ดีกว่านั้นได้ อันนี้เพื่อนเราเคยทำเอเจนซี่แบบนี้มา ไปแนะนำเด็กว่าโปรไฟล์อย่างน้องไปสมัคร KCL, UCL ดีกว่า โดนนายด่าเละ เพราะฉะนั้นก่อนไป กูเกิ้ลสักนิดว่า สาขาที่อยากเรียน ที่ไหนดัง แล้วranking เป็นยังไง โปรไฟล์อย่างเราเข้าอันไหนได้บ้าง

ตอนเราสมัครเราสมัครเองจ้า ไม่ยากเลย อ่านเวบมหาลัย ทำตามที่เค้าบอก มีคำถามอีเมล์ไปถาม จบค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เจ้าของกระทู้อยากเรียนอะไรคะ ลองไปหาดูว่าสาขาที่อยากเรียนยูไหนดังบ้าง แล้วเข้าไปดูในเวปเขาจะมี language requirement บอกว่าต้องได้ieltsเท่าไหร่ ลองไปสอบดูถ้าคะแนนถึงไม่ต้องใช้ข้อสองข้อสามหรอกค่ะ เปลืองและเสียเวลา มันไม่ได้ประโยชน์มากมายอะไร

ถ้าอยากจะมาดูว่าอยากอยู่ยูไหนก็ลองหาดูก่อนว่ายูที่ขึ้นชื่อว่าสอนสาขาที่อยากเรียนได้ดีมีที่ไหนบ้างแล้วก็แค่มาสำรวจบริเวณดูสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็น่าจะตัดสินใจได้ว่าจะเรียนที่ไหน (ถ้าจะเลือกตามทำเล)

มหาลัยใหญ่ๆส่วนมากจะมีตัวแทนในไทยค่ะ ลองดูในเวปมหาลัยเขาจะบอกไว้ว่าเขาให้ที่ไหนเป็นตัวแทนบ้าง เขาจะให้คำแนะนำฟรี บางที่ก็ส่งapplicationให้ด้วย แต่เราก็ต้องทำเรื่องเองนะคะ เขาแค่ติดต่อมหาลัยให้เฉยๆ ไม่อยากหรอกค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ขอแชร์ประสบการณ์ตัวเองนะคะ

ตัวเองเลือกที่จะเทียบราคาเรียนภาษาอังกฤษ กับค่าเรียน pre-sessional ว่าอันไหนแพงกว่า อย่างของมหาลัยที่ตัวเองไปนั้น ถ้าไม่สอบไอเอลใหม่ (ตอนนั้นได้ 5.5) แล้วรับ offer ไปเรียนเลย ค่าเรียนอยู่ที่ pre-sessional 5 เดือน ประมาณ 5,800 ปอนด์

แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าไปลงเรียนภาษเองกับสถาบันภาษาที่อังกฤษแล้วสอบไอเอลเอง จนผ่านไม่ต้องเรียน pre-sessional (ไอเอล 6.5) 6 เดือน ประมาณ 2,600 ปอนด์ บวก ค่าสอบไอเอล อีก 2 ครั้ง ครั้งละ ประมาณ 150 ปอนด์

มองความคุ้มแล้ว ก็เลยเลือกทางที่สองค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าจำเป็นต้องใช้ เอเจนซี่มั้ย สำหรับสมัครเรียนภาษาเฉยๆ ก็ควรใช้ค่ะ เพราะเราจะได้ราคาพิเศษที่ทางสถาบันตกลงกับเอเจนซี่ไว้แล้ว ยกตัวอย่างของสถาบันที่เราไปเรียนมา ตอนไปเที่ยวแล้วติดต่อเอง เขาบอกว่า สัปดาห์ละ 130 ปอนด์ แต่พอถามเอเจนซี่เขาว่า สัปดาห์ละ 110 ปอนด์

แต่ถ้าพูดเรื่องสมัครมหาลัย ก็ไม่จำเป็นเลย เดี๋ยวนี้เราสามารถสมัครด้วยตัวเอง ผ่านระบบออนไลน์ของมหาลัยได้แล้ว สะดวกและรวดเร็วค่ะ ถ้ามีปัญหาอะไร สามารถอีเมล์ถามได้ตลอด อย่างของตัวเอง พอสอบไอเอลผ่าน ก็สมัครเองค่ะ ไม่ได้วานเอเจนซี่เลย จริงๆแล้วเคยคิดจะใช้ แต่พอเอาโปรไฟล์ตัวเอง กับมหาลัยที่่อยากเข้าให้ดู เขาพูดจาแบบว่า "เกรดเท่านี้ น้องเข้าที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ มันยากมาก" ถึงกับเฟลเลยค่ะ แต่พอเขียนอีเมล์ไปสอบถามโดยตรงกับเจ้าหน้าที่มหาลัย เขาส่งเมล์เราให้อาจารย์ดู ก็ตอบกลับมาว่า โปรไฟล์ของเราโอเคมากๆ สมัครมาได้เลย ไม่มีปัญหาแน่นอน

ทำให้เราเห็นว่า เกณฑ์ที่เอเจนซี่บอกเรานั้น เขาก็บอกได้แค่ตามเว็บที่มหาลัยแจ้งไว้ แต่ท้ายสุดแล้วคนตัดสินใจ คืออาจารย์มหาลัยอยู่ดี อย่าลืมว่า ระบบของเรา กับอังกฤษนั้น การคิดเกรดและวิชาเรียนนั้นต่างกัน จะมาบอกว่า คะแนนแบบ 2:1 ของอังกฤษ คือ 3.25 ของไทย จะสรุปแบบนั้นไม่ได้ มันแล้วแต่การเทียบเกณฑ์ของแต่ละมหาลัย บางที่บอกว่า 3.00 บางที่ 2.99 ก็ได้ บางที่ต้องคำนวณเกรดใหม่ เอาแต่วิชาที่เกี่ยวข้องมาคิด ดังนั้น ติดต่อด้วยตัวเองจะดีที่สุด

สู้ๆค่ะ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถตัวเอง

ส่วนเรื่อง work & study ไม่มีความรู้ค่ะ เท่าที่รู้มาจากเพื่อน มันไม่ได้ภาษาอะไรที่เป็นวิชาการหรือแบบ academic หรอกค่ะ เป็นภาษาที่ใช้ทั่วๆซะมากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าไป work อะไร ถ้าพวกงานโรงแรม พวกนี้ก็จะมีศัพท์เฉพาะ ก็อาจจะได้เรียนรู้เพิ่ม แต่ถ้าไปทำ mcdonald หรืออื่นๆ ก็ดูจะเฉยๆนะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 4