== ขอวีซ่าอิตาลี แล้วต้องกลับมาเตรียมเอกสารเพิ่ม ขอกำลังใจค่ะ ==

ขอให้ด้วยดีค่ะ

ผ่าน^^

ขอบคุณนะคะ เครียดจนยังปวดหัวไม่หาย ไม่น่าเลือกอิตาลีเล้ยยยย

ขอให้โชคดีคะ ^^

55 สงสารสามี

ถ้ากลับกัน ผมบ่นแฟนด้วยเรื่องนี้ คงโดนงอนกลับอยู่ดี

มาให้กำลังใจค่ะ ทำใจร่ม ๆ นะค่ะ เดี่ยว

วีซ่าผ่านแล้ว จะไปเที่ยวไม่หนุกน้า

เดี๋ยว วันจันทร์หน้า จัดไปให้เต็ม เอาแบบ ไม่ขอ แต่ฉันอยากให้ไปเลยค่ะ

แบบ จัดหนัก เอกสารเพียบ ( ถ้าไม่ผ่าน บอก เออ ดีค่ะ ดิฉัน จะได้มีเงินเพิ่มไปเที่ยวประเทศอื่น ที่ไม่ใช่อิตาลี อิิิ อิ )

เป็นกำลังใจค่ะ มาบ่นที่ห้องบลูดีแล้วค่ะ สามีอย่าไปบ่นเค้าเลย

เดี่ยวสามีเค้าไม่ให้ ( วีซ่า ) อดไปเที่ยวด้วย ( คนมีครอบครัว ตัองขอวีซ่าคนข้างๆก่อน
ค่อยไปขอ วีซ่าของจริง )

555 งีบไปหน่อยเพราะปวดหัวค่ะ
ตื่นมาเห็นกำลังใจก็รู้สีกดีค่ะ

มีคุณผู้ชายมาให้กำลังใจคุณสามีด้วย แต่มันก็น่าโมโหไม่น้อยน่ะค่ะ

รู้งี้ เลือกไปพวกปท สังคนิยม จะได้ต้องขอวีซ่าทั้งครอบครัวก็ดี
เค้าจะได้ไปขอ เราไม่ต้องทำอะไร เหมือนตอนไปเมืองจีน 555

จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยขอวึซ่าสมัยที่ยังต้องไปจองคิวตั้งแต่เช้ามืดหน้าสถานทูต

ที่นี่ "เยอะ" ถึงขนาดเด็กเดินวีซ่าของบริษัททัวร์ยังออกปาก

เราต้องไปสี่เที่ยวถึงจบ สองวันแรกสำหรับจองคิว (เค้าให้แค่หนึ่งร้อยวีซ่าต่อวัน วันแรกเจอ
วีซ่ากรุ๊ปทัวร์เข้าไปก็เลยต้องไปอีกวัน) เที่ยวสามสัมภาษณ์ (ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราขอวีซ่าสาม
เดือนรึเปล่า) เที่ยวสี่ถึงได้วีซ่า

แบบว่าลุ้นแทบแย่เพราะไม่เคยมีปัญหาหรือโดนปฎิเสธมาก่อนเราก็เลยออกตั๋วรอเลย สรุปไม่
ประทับใจตั้งแต่ยังไม่ไป

มารับฟังคุณ จขกท. บ่น และ เข้าไปเที่ยวในเว็บไซท์ของสถานทูตอิตาลี่ในสิงคโปร์มา เพื่อประกอบการช่วยตอบกระทู้
ด้วยค่ะ

อยากจะบอกว่า เมื่อเข้าไปในเว็บไซท์แล้ว รู้สึกเห็นใจคุณ จขกท. เป็นอย่างยิ่ง ที่ไปเจอเมนทาลิตี้แบบ "เลี่ยนๆ"
เข้าให้ (งานนี้คุณเจอสองเลี่ยนเลยนะคะ ทั้งสิงขะโปเลี่ยน และ อีตาเลี่ยน เลย )

ข้อมูลในเว็บไม่เคลียร์จริงๆ ด้วยค่ะ ไม่เคลียร์อย่างแรง โดยเฉพาะกับผู้ขอเชงเก้นวีซ่ามือใหม่
คุณเจ้าของกระทู้ไม่ต้องไปว่าอะไรสามีของคุณนะคะ อย่าไปบ่นเขา อย่าไปลงที่เขาเลย

ปกติแล้วการขอเชงเก้นวีซ่าสำหรับคนไทยในสิงคโปร์ ที่ถือหนังสือเดินทางไทย คุณใช้แค่หลักฐานหลักๆ เท่านั้นแหละ
และไม่ต้องทำจดหมายใดๆ ทั้งสิ้น itinerary ก็ไม่ต้องทำค่ะ แค่ส่งเอกสารให้ครบ แค่กรอกใบคำร้องให้เรียบร้อย
เท่านั้นเอง

เผอิญเราไปเห็นที่คุณ จขกท. ได้เขียนถามเอาไว้ที่เว็บอื่นเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องสเตทเม้นท์ บัญชีธนาคาร
โดยปกติแล้วคุณต้องไปขอให้ธนาคารทำจดหมายรับรองให้ค่ะ ที่เมืองไทยกับที่สิงคโปร์ทำเหมือนกัน คือไปธนาคารสาขา
ที่คุณเปิดบัญชีอยู่แล้วบอกเขาว่าต้องการจดหมายรับรองบัญชีว่ามีอยู่จริง และ จำนวนเงินฝาก เพื่อเอาไปให้สถานทูต
เพื่อประกอบการขอวีซ่าค่ะ และ ทั้งที่เมืองไทยและที่สิงคโปร์สามารถขอแบบด่วนได้ บอกเขาว่ารีบใช้ค่ะ นั่งรอได้เลย
และต้องแสดงหลักฐานในการที่มีเงินเข้าออกบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือนค่ะ (แต่บางสถานทูตในกลุ่มเชงเก้นไม่สนใจตรงนี้
ไม่ขอดู ไม่ถามหา)

ในเคสของคุณ จขกท. หน่ะ เอกสารไม่ครบดีนัก และ พอเขาให้คุณไปเตรียมมาใหม่ จึงเรื่องมากเป็นพิเศษค่ะ
จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องทำจดหมายเลยค่ะ คุณ จขกท. ขอที่สิงคโปร์ได้แสดงว่าคุณต้องมีบัตรใดบัตรหนึ่งที่
แสดงว่าคุณอาศัยอยู่ที่สิงคโปร์ ให้ถ่ายเอกสารบัตรนั้นส่งไปด้วย ของสามีของคุณด้วย และสำเนาพาสปอร์ตของสามี
นามบัตรของสามี

แต่ถ้าเขาให้ทำจดหมายแบบนี้ คุณก็ต้องทำแล้วหล่ะค่ะ หรือ ถ้าไม่ทำ ให้ส่งหลักฐานแน่นๆ ค่ะ แต่ถ้าไม่ทำ อาจจะโดน
"เจ๊" ที่ตรวจเอกสารแกล้งได้

คุณ จขกท. พูดภาษาอังกฤษโต้ตอบคล่องหรือเปล่าคะ และ หน้าตาออกแนวไทยๆ อินโด ฟิลิปปินส์ มาเลย์หรือเปล่า
คนสิงคโปร์หลายๆ คน เขามักจะคิดว่าคนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้นะคะ หรือ ถ้าพูดได้เขาคิดว่าคงได้แค่งูๆ ปลาๆ
และอีกอย่างคนไทยขี้เกรงใจ ไม่ค่อยมีปากมีเสียง ไม่เถียง แต่ส่วนใหญ่จะยอมเขา คนต่างชาติของบางประเทศ
เขาจึงได้ใจนะคะ และ คิดว่าจะแกล้งคนไทยอย่างไรก็ได้ เพราะเมื่อเขาทำแล้ว คนไทยไม่โต้ตอบ

ยังไม่ต้องเข็ดกับยุโรปนะคะ แต่ให้เตรียมเอกสารตามที่เขาบอกมา คุณไม่โดนปฏิเสธวีซ่าหรอกค่ะ ขออย่างไรก็ได้อยู่แล้ว
เพียงแต่ข้อมูลในการเตรียมเอกสารที่คุณได้รับมาไม่ชัดเจน และคุณยังไม่มีประสบการณ์ในการเตรียมเอกสารให้
สถานทูตในกลุ่มเชงเก้นมาก่อน ทำไปเรื่อยๆ ค่ะ ไปขอบ่อยๆ เดี๋ยวก็ "รู้ทาง" เอง ไม่ว่าจะขอที่เมืองไทย หรือ ขอที่
ต่่างประเทศค่ะ

เที่ยวอิตาลี่ให้สนุกนะคะ อาหารอร่อยค่ะ นึกถึงของอร่อยๆ เข้าไว้ จะได้ไม่ต้องเสีย'รมย์ค่ะ

1 เรื่อง copy ของ passport มีระบุใน check list ครับ "all documents in original and photocopy" "Valid Passport (and copy of first pages) "

http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/pdf/DOCUMENT_CHECKLIST_FOR_SCHENGEN_VISA_04.09.12.pdf

2. ถ้ากรอกอาชีพเป็น housewife อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าทางสถานทูตเขาหมายถึงไม่มีรายได้หรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นการที่เขาขอหลักฐานเพิ่มเติมของผู้ที่จะเป็นสปอนเซอร์ก็ถือว่าถูกแล้ว

3. หลักฐานการจองรถไฟ จำได้ว่าตอนที่ไปยื่นเขาไม่ได้ขอนะ (แต่ผมขอที่ vfs global ในไทย)

ผมว่าเรื่องของวีซ่า ถ้าจนท. เขาอยากได้อะไรเพิ่มก็ให้ความร่วมมือ อย่าไปหงุดหงิดเลยครับ ทุกอย่างก็เพื่อตัวคนยื่นเองนี่แหละ เพราะถ้า จนท.ปล่อยให้เอกสารไม่ครบแล้ว visa โดน reject มา คนที่ซวยไม่ใช่ จนท. แต่ก็คือตัวคนขอวีซ่าเอง จนท ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียหรืออยากจะแกล้งเลย

ถ้าแค่นี้ถึงกับเข็ดจนไม่กล้าไปยุโรป ก็แล้วแต่ครับ

คุณ คห. 10 คะ Check List ของเอกสารการขอเชงเก้นวีซ่าสำหรับการขอที่สถานทูตของประเทศในกลุ่มเชงเก้น
ในประเทศไทย และ ในประเทศสิงคโปร์ ในรายละเอียดไม่เหมือนกันค่ะ

ส่วนสถานะภาพในการเป็นแม่บ้านในสิงคโปร์ คุณสามารถขอเชงเก้นวีซ่าในนามของตนเองได้ค่ะ ถ้าคุณมีเอกสารครบ
โดยมีบัญชีธนาคารของตนเอง มีเครดิตการ์ดของตนเอง ยื่นใบทะเบียนสมรสแสดงค่ะ และ ถ่ายเอกสารหลักฐานต่างๆ
ของสามีแสดง เพื่อแสดงว่ามีตัวตนจริง

คนไทยที่มีเรสซิเดนซี่ในสิงคโปร์ จะต้องมีบัตรประจำตัวเสมอค่ะ ไม่บัตรใดก็บัตรหนึ่ง เช่น พีอาร์, ดีพี, อีพี เป็นต้น
บัตรนี้ต้องเอาไปแสดงตอนขอวีซ่า และ ต้องถ่ายสำเนาไปค่ะ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ ด้วยความเคารพ และ ไม่ได้มาว่าอะไรนะคะ แต่นำข้อมูลมาแชร์ให้ฟังค่ะ

บ้องหูคุณสามีตัวดีเลยครับ

ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ คุณoilora คุณ CTU Gal คุณGRAYFOX คุณnuning trang คุณMY DOG CAN FLY คุณ CLK BRABUS คุณ Been there, done that!

เอกสารที่คุณ BTDT (ขอใช้ชื่อย่อที่เห็นบางท่านใช้นะคะ - เคยอ่านที่คอมเม้นทฺหลายๆอัน ) ก็มีครบน่ะค่ะ ดีใจมากที่อุตส่าหฺเข้าไปอ่านในเวบของที่นี่ให้ เพราะ วันนี้กลับมา ความมั่นใจมันลดลงไปมาก (ตอนเช้า ไปอย่างสง่าผ่าเผย เลยค่ะ) ดูรายการเอกสาร ก็ไม่พลาด เพราะคือก่อนหน้าก็สามีดูให้อีกรอบ (ตอนกลับ เซ็งมาก ไม่แวะชอปปิ้งอย่างที่คิดไว้ด้วยซ้ำ)

ถือ บัตร PR อยู่ค่ะ แสดงให้จนท ดูด้วยค่ะ อยู่ที่สิงคโปร์มา สิบกว่าปีแล้ว ใช้ภาษาปะกิด เป็นภาษาหลัก (เราเรียนที่เมกา3ปีค่ะ ) ถึงได้ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่ามีปัญหาในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่
สเตทเม้นท์ท่ี่ถามเค้า เราก็จัดการถ่ายเอกสาร บช ของเรา 6 เดือนย้อนหลัง ของสองเล่มไปค่ะ (เค้าก็ดู แต่ก็ยังบอกต้องการจมรับรอง )

หน้าตาก็ถ้าเดินตลาด ข้างถนน คนนีกว่าเป็นอาหมวยที่นี่แน่นอนค่ะ แต่ถ้าพูด ยังไงสำเนียงเราก็เป็นไทย ซิงลิช ที่ไม่ภูมิใจสักนิดค่ะ

ประมวลดู คิดว่า พาสปอร์ตเราเพิ่ง ไปต่อมาเมื่อ มิย หน้าคงดูว่าง มีแสตมป์ไปมาเลย์ หน่อยนีง เพราะเพิ่งไปบ้านสามี
จนท ป้าแขก ก็คง อยากทำให้มันยุ่ง เพราะดวงเราไม่ดี ซวยจริง คิดยังงี้จริง เพราะแขก ยังไงก็มีชั้นวรรณะอยู่ดี ตอนนี้ได้ที ก็เอาเหอะ เพราะ
ถ้าเช็คกันจริงๆ เรามีครบทุกอย่าง ขนาด copy passport ที่เขาถาม ที่จริงไม่จำเป็น ใบทะเบียนสมรส เราก็เอาไปเผื่อ เพราะจะได้ให้เค้าเห็นว่า คนนี้ในรายชื่อตั๋วเครื่องบินเนี่ย ไปกะเรา เป็นสามีเราจริง

เราไม่ได้ไปโต้ตอบอะไร เพราะคิดว่าโต้ไปก็เท่านั้น อยากได้อะไร จะหามาให้แล้วกัน วันพระไม่ได้มีหนเดียวไงคะ (แต่ก็ไม่ได้จะไปแก้แค้นอะไรเค้าได้หรอกค่ะ) เพราะการขอวีซ่า ถ้าเราไปโวยวายมาก เค้าไม่ให้ เราก็ไม่ได้ เราเสียประโยชน์ ใช่ไหมคะ
แต่วันนี้ตอนกลับมา ไม่รู้จะไปบ่นที่ไหน แล้วห้องนี้ก็ เหมือนเพื่อนจริงๆ รับฟัง รับรู้ ช่วยแก้ปัญหา เป็นกำลังใจให้เราจริงๆ
ขอบคุณมากๆ นะคะ

อ้อ เราไม่ได้ว่าอะไรสามีหรอกค่ะ เค้ารู้ว่าเราหงุดหงิด แต่จดหมายที่เราบอกเค้า ก็จัดการให้เราเรียบร้อย จมจากที่ทำงาน หวังว่า พรุ่งนี้คงได้น่ะค่ะ เราก็จัดเต็มแน่นอน วันจันทร์เอาไปให้พอเลย ถ้ามีอะไรแนะนำเพิ่มเต็ม ช่วยบอกด้วยนะคะ เพราะไปมาหลายรอบ เปลืองค่าแท็กซี่อ่ะค่ะ

คุณ chai_cdd คะ
ไม่อยากพูดมากค่ะ แค่นี้เค้่าก็เจี๋ยมเจี่ยมมากจนน่าสงสารแล้วอ่ะค่ะ อิอิ
ขอบคุณนะคะ

เท่าที่อ่านโพรไฟล์ของคุณ sivalee และ เท่าท่ี่อ่านข้อความภาษาอังกฤษที่คุณ sivalee ไปโพสท์ถามในเว็บอื่นเอาไว้
ก็ทราบแล้วว่าคุณไม่ใช่แม่บ้านธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เป็นคนมีการศึกษาที่มีอาชีพแม่บ้าน (หรือเป็น "คุณนาย" หรือ เป็น
"Tai Tai" นั่นเอง อิอิ) อยากจะบอกว่า เมื่ออ่าน คห. ทั้งหมดของคุณ sivalee แล้ว ดิฉันขอบอกได้ประโยคเดียวสั้นๆ
ว่า "คุณลืมจับยามสามตา ลืมหาฤกษ์ยามดีๆ ก่อนออกจากบ้านที่สิงคโปร์ ไปสถานทูตอิตาลี่ค่ะ"

ส่วนเรื่องพาสปอร์ตใหม่ และมีสแตมป์แค่ไปมาเลย์ อาจจะมีส่วนอย่างมากค่ะ นั่นคือสำหรับคนที่มองอะไรแค่ผิวเผิน
เขาก็คงมองคุณแค่ที่เห็นนั่น _อ่ะนะคะ ขนาดหน้าตาเป็นอาหมวยเหมือนคนที่สิงค์ฯ ส่วนใหญ่ที่เชื้อสายจีน ยังเจอ
เรื่องเยอะเลยเหรอคะ

ส่วนเรื่องโต้ตอบ บางครั้งไม่ได้หมายถึงการทะเลาะ ไม่ได้หมายถึงการทุ่มเถียงค่ะ แต่หมายถึงการที่สามารถโต้ตอบ
บทสนทนาได้ทันควัน โดยที่ให้คนสิงคโปร์ (หรือ คนต่างชาติอื่นๆ ที่ชอบดูถูกคนไทย) ทราบว่าพวกเรามีสมอง มีปาก
มีความคิด และ Assertive ค่ะ เพราะถ้านิ่งเฉยเขาจะได้ใจค่ะ การโต้ตอบในที่นี้ หมายถึงโต้ตอบแบบมีเหตุผล สุภาพ
ใช้สติปัญญาโต้ตอบแก้ไขสถานะการณ์ หรือ เจรจา ไม่ใช่การโต้ตอบในเชิงลบค่ะ แต่เป็นการโต้ตอบเชิงบวก

รีบๆ ไปวันพฤหัสเลยนะคะ อย่าลืมว่าศุกร์นี้เป็นวันหยุดราชการในสิงคโปร์ค่ะ _โชคดีค่าาาา

มาอีกรอบค่ะ ลืมให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่คุณ sivalee ไปว่า โดยปกติแล้วการที่คุณอยู่สิงคโปร์ในสถานะของพีอาร์หน่ะ
และอยู่มาเกิน 10 ปีขึ้นไป แค่นี้ก็เพียงพอ เกินเหลือที่จะพอ ต่อการขอวีซ่าไปไหนๆ ก็แล้วแต่ด้วยตนเองแล้วค่ะ
ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องถูกขอใบรับรองการทำงานของสามี ไม่จำเป็นต้องถูกขอจดหมายจากสามี
ไม่จำเป็นต้องให้สามีเป็นสปอนเซ่อร์ให้

ในกรณีนี้คุณโดน เพราะว่าคุณถือพาสปอร์ตไทยนะคะ และสามีเป็นคนมาเลย์ ไม่ใช่คนสิงคโปร์
คุณอาศัยอยู่ในสิงคโปร์มานาน คงทราบดีนะคะ ว่าทำไมเราถึงได้สันนิษฐานแบบนี้

และอยากจะบอกคุณ sivalee ว่า บางสถานทูตของบางประเทศท่่อยู่ในในสิงคโปร์ มีระบุไว้ในเว็บไซท์เลยค่ะ
ว่าถ้าเป็นพีอาร์คุณไม่ต้องแสดงหลักทรัพย์ ไม่ต้องแสดงแบ๊งค์ สเตทเม้นท์ค่ะ เขาไม่ขอ

รบกวนคุณ sivalee มาตั้งกระทู้อัพเดทด้วยนะคะ เมื่อได้วีซ่าแล้วหน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ

ของเรา7วันค่ะ เอกสารเอาไปเกินไว้ดีกว่าค่ะ ตอนนี้ไปเที่ยวกลับมาล่ะ วีซ่ายังเหลืออีก80วัน ได้วีซ่า บิน16 กลับมา21 กำลังดูตั๋วฟรีแลกไมล์ไปอีกค่ะ ก่อนวีซ่าหมด

คุณ BTDT ขอบคุณที่เข้าใจตรงกัน ว่าดิฉัน แจ็กพอต จริง คือ ซ ว ย น่ะค่ะ
เพราะกลับมาตรองใหม่ มันสรุปได้อย่างนั้นจริงๆค่ะ

ต้องไปวันจันทร์ เพราะ เค้าระบุว่าให้ไปวันจันทร​์ค่ะ
แต่สามีคงเห็นเราเป็น (หมา)หงอย นั่งหน้าเน็ต ทั้งวันตั้งกะกลับบ้าน
เลยบอกว่า วันจันทร์ เค้าจะไปด้วย (ไม่เคยไปด้วยไม่ว่าจะขอวีซ่าครั้งไหน 555)
อ้อ ต้องเรียกคาถา มหาระรวย อีกด้วยค่ะ

ไว้จะมาอัพเดทนะคะ ว่าวันจันทร์จะต้องเผาพริกเผาเกลือแช่งใครใน embassy ไหมค่ะ

คุณ moonoiz คะ ตอนนี้ แทบจะเตรียมทุกอย่างที่นึกออกแล้วล่ะค่ะ อิอิ