(สงสัยค่ะ) ทำไมเราโดนศุลกากรเรียกทั้งที่ไทยและที่ปักกิ่งเลย

อาจเป็นไปได้ว่ามีทิปแจ้งเข้ามาเกี่ยวกับมีการขนของผิดกฏหมาย บังเอิญว่าคุณ
และคุณแม่มีลักษณะอยู่ในข่ายตามทิปที่แจ้งถึงได้โดนเรียกตรวจ

เราเคยโดนเรียกทุกครั้งที่กลับไทย มาไฟล์จากยุโรปมีแต่หัวทองถึงไทยโดนทุกรอบ แต่กลับไปยุโรปไม่เคยโดนเรียก รอบหน้าว่าจะถามหน่อยว่าหน้าตาเข้าข่ายทุกรอบขนาดนั้น แปลกนะแต่ฝรั่งรอบๆหรือแขกไม่โดน

คงอยู่ที่จังหวะ และดวงด้วยแหละค่ะ เราก็เคยทั้งไปและกลับ หลังๆเดินลากกระเป๋าไปรอตรวจเลย จนท.ก็สแกนไปงั้นๆก็มีค่ะ
แต่เบื่อ ตรงกลับเมกานี่แหละ สแกนไม่มีปัญหานะ แต่เสียเวลา อย่างไทย สิงคโปร์ มาเลย์ นี่ดักทางออก วางๆแล้วรอไหลรับได้เลย
เมกานี่ เห็นหัวดำ เอเชียๆหน่อย ก็กาหัวกระดาษเลย แถมม่ะหมามาดมๆ แท่งตรวจโลหะถูไปมาทั้งตัวระหว่างรอกระเป๋าก็มี 555
แต่ก็นะ คนเอเชียขนอาหารกลับกันเป็นเรื่องปรกติ เค้าก็ต้องเข้มหน่อย ถ้าเราไม่ได้ขนไรผิด เราก็เฉยๆค่ะ เค้าก็ปฏิบัติตามหน้าที่เนอะ

ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติ

เมกานี่ เห็นหัวดำ เอเชียๆหน่อย ก็กาหัวกระดาษเลย ...จากคุณ : dcapar

อาจจะจริงแต่ผมไม่ปักใจเชื่อนะครับ

ไม่เคยโดนเรียกที่ไหนเลยค่ะเรา
แต่เพื่อนเราอีกคนก็โดนตลอดจนชิน
อันนี้ความเป็นไปได้คงหลายอย่างอยู่เนอะ สงสัยด้วยคน

แล้วแต่ดวงค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลอะไร

หรือบางทีอาจเป็นไปได้ว่าคุณหน้าตาน่ารักน่าคุยด้วย

...พี่ของดิฉันเคยเจอหนหนึ่งที่ยุโรป ทุกคนผ่านฉลุย แต่พอมาถึงคิวพี่สาว ตม ดูพาสปอร์ตแล้วพูดเสียงดังลั่นว่า

"ไทยแลนด์" พูดแล้วเค้าก็บอกให้พี่สาวยืนรอแล้วเค้าก็ลุกออกไปเหมือนเกิดเรื่องใหญ่

พี่สาวใจเสียมาก ยืนรอโดยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

สักพัก ตม คนนั้นก็พา ตม อีกคนมา แล้วบอกกันว่า นี่ ผู้โดยสารคนนี้มาจากเมืองไทย

แล้วเค้าก็แนะนำให้พี่สาวรู้จักเพื่อนเค้าโดยบอกว่า เพื่อนเค้าแต่งงานกับคนไทยและกำลังฝึกพูดภาษาไทยอยู่ เลยอยากให้ช่วยคุยด้วยนิดหน่อย

สรุปว่า ที่อุทานไทยแลนด์เสียงดังลั่นและดึงตัวพี่ดิฉันไว้สักพัก ก็เพราะดีใจมากที่เจอคนไทย จะได้ให้เพื่อนฝึกทักทายเป็นภาษาไทย (ซะงั้น)

จังหวะเดินเข้า ตม. ของคุณแม่กับ จขกท. กระเป๋าใบใหญ่กว่าคนอื่น ๆ
เวลาสุ่มก็คงสุ่มคนใช้ใบใหญ่ คุณแม่เดินทางครั้งแรก อาจจะมองโน่นนี่นั่น
ทำให้ ตม. สะดุดตามั้งครับ

ปล. อย่าคิดมากเลยครับ เวลาผมไปดูงานกับเพื่อนที่ญี่ปุ่น ผมหน้าออกทางจีน
เพื่อนหน้าออกทางแขกอาหรับ มันโดนตรวจทั้งเข้า ออก ของไทย ของญี่ปุ่นเลย
แต่ผมไม่โดน

ถ้าผมเป็นหัวหน้าก่อการร้าย คงหาแนวร่วมหน้าตี๋ ๆ หน่อย

จขกท เอง ก็บอกแล้วว่าเราใช้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่คะ เพราะเห็นไม่ค่อยมีใครใช้ใบใหญ่ๆกันเลย
ก็คงอันนี้แหละ ที่ทำให้ จนท เขาสงสัย เลยขอตรวจนะ

คุณ จขกท. บังเอิญโดนสุ่มตรวจค่ะ

ขนาดของกระเป๋าเดินทางไม่เกี่ยวค่ะ

เราเดินทางเข้า-ออกเมืองไทยเดือนละหลายหน อย่างน้อยๆอย่างไม่ไปไหนเลยก็เดือนละสองหน
กระเป๋าเดินทางของเราไซส์ยักษ์มากๆ และ มีสองใบด้วย ไม่ใช่ใบเดียว
เราไม่เคยโดนศุลกากรไทยเรียกสุ่มตรวจเลย

เมื่อคืนนี้เราเพิ่งกลับมาจากโซล เกาหลีใต้ กระเป๋าใบโตมากๆ ไซส์ยักษ์ ก็ไม่โดนเรียกค่ะ

ตั้งแต่เดินทางมาหลายสิบปี เราเคยโดนศุลกากรไทยเรียกสุ่มตรวจไม่เกิน 5 ครั้งค่ะ ทั้งดอนเมือง และ สุวรรณภูมิรวมกัน
ทั้งสองแห่งเลย

เราคาดว่าที่ศุลกากรเรียกคุณ จขกท. ที่ปักกิ่ง และซักถาม คงเห็นว่าแปลกที่ไม่ได้มากับทัวร์ อาจจะคิดว่าไปเยี่ยมญาติ
เมืองจีน อาจจะพกของกิน พืช ผัก ผลไม้ เขัาไปด้วย

ส่วนของไทย อาจจะคิดว่าคนไทยไปจีน คงซื้อของมาเยอะ ก็เลยอยากตรวจนะคะ เผื่อจะเจออะไรดีๆ _ส่วนที่เหลือ
ไม่ขอเขียนต่อนะคะ

สิงคโปร์ เราก็เข้าออกเดือนละหลายหน ด้วยกระเป๋าไซส์ยักษ์นี่แหละ ไม่เคยโดนสุ่มตรวจเลยค่ะ ส่วนใหญ่ศุลกากร
สิงคโปร์ชอบตรวจหีบห่อแปลกๆ ค่ะ

หรือของอังกฤษ เราเข้ามา 20 กว่าครั้ง ไม่เคยโดนศุลกากรอังกฤษเรียกแม้แต่ครั้งเดียวค่ะ
บางครั้งเราเดินทางเข้าอังกฤษโดยที่มีสัมภาระโหลดขึ้นเครื่อง 5-7 ชิ้นใหญ่ๆ ด้วยซ้ำไปค่ะ
เช่นกระเป๋าเดินทาง 5 ใบ ถุงปุ๋ยสายรุ้งโตๆ 1 ใบ กล่อง 1 กล่อง อะไรแบบนี้

หรือศุลกากรญี่ปุ่น ศุลกากรในยุโรปหลายๆ ประเทศไม่เคยเรียกเราค่ะ

แต่ของออสเตรเลียไปทีไรโดนเรียกทุกครั้ง ศุลกากรออสเตรเลียเน้นตรวจคนไทย และคนเอเชียหัวดำเป็นพิเศษค่ะ
หลักๆ ก็เรื่องนำของกิน ผลไมั พืชผัก สมุนไพรเขัาไป หรือตรวจพวกของละเมิดลิขสิทธิ์เช่นพวกซีดี อะไรทำนองนี้ค่ะ

มาคุยต่อนะคะ เมื่อสองชั่วโมงกว่าๆ ที่แล้วพิมพ์ยังไม่เสร็จค่ะ พอดีต้องรีบออกไปทำธุระอื่นก่อน

มาคุยถึงเรื่องศุลกากรจีนนะคะ จากประสบการณ์ที่ไปจีนมาหลายครั้งในรอบเป็นสิบปี หลายเมือง
รวมทั้งปักกิ่งที่คุณ จขกท. ไปมาแล้วโดนตรวจ แล้วสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะขนาดกระเป๋า ขอตอบว่า
เราเคยเข้า-ออกปักกิ่งมาไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง แต่ละครั้งกระเป๋าใบใหญ่มากกว่า 1 ใบ ก็ไม่เคยโดนเรียกตรวจนะคะ

//ปอลอ อย่าสงสัยนะคะ ว่าทำไมเวลาเดินทางเราชอบใช้กระเป๋าใบโตๆ คือบางครั้ง น้ำหนักขาไปหน่ะ
สองกระเป๋าใบโตรวมกันแล้ว ไม่ถึง 10 กิโลหรอค่ะ แต่ขากลับเนี่ยสิคะ เพราะหลายๆ เมืองที่ไป
ซื้อแม้กระทั่งถ้วยกาแฟ จาน ชาม หม้อ ไห หรือ เก้าอี้ หรือ เสื่อ หรือพรม หรือ
โคมไฟค่ะ รวมทั้งผลไม้ อาหารต่างๆ หนังสือ จึงชอบเดินทางกับกระเป๋าใบโตๆ ค่ะ

เรื่องแบบนี้เป็นการสุ่มตรวจค่ะ
ส่วนจะสุ่มใครเขามีลักษณะเฉพาะหลายอย่างให้เรียกค่ะ เตะตามั่งไม่เตะตามั่ง แล้วแต่จังหวะ
อย่าไปเครียด อิฉันนี่โดนประจำ ที่ UK ขาออก ขนาดไม่มี immigration นะ
จะต่อไปเครื่อง ตอนเดินจู่ๆมีจนท.มาขอดูหนังสือเดินทางพร้อมขอดูกระเป๋าอีกรอบ
ที่ Australia ขอตรวจหายาเสพติดเฉยเลย ก็เข้าใจเพราะเป็นผู้หญิงโสดเดินทางคนเดียว
หนำซ้ำยังไม่แต่งหน้าแต่งตัวดีๆ แต่งแบบ 5 ย. ที่เขาว่ากัน ฝรั่งบอก You just fit junkie profile...

น้องผมเคยโดนเรียกเพราะกระเป๋ามันใบใหญ่ อารมณ์พึ่งลงเครื่องมาเหนื่อยมาก แล้วโดนเปิดกระเป๋าอยู่คนเดียวหน้าน้องผม เหวี่ยงสุดๆ บอกเจ้าหน้าที่ว่าค้นได้ทุกซอกเลยค่ะ แต่จัดให้เหมือนเดิมด้วย เท่านั้นแหละแค่เเง้มๆดูเฉยๆ

K.Been there, done that! ค่ะเพราะหน้าตาเราก็ถ้าไม่มาพูดคุยก็คงคิดว่าคนจีนอะคะ พนักงานโรงแรมเดินมาถามเค้ายังบอกไม่เชื่อว่าเป็นคนไทยฮ่าๆๆ