สอบถามเรื่อง Top U

ตอบตามความเห็นส่วนตัวนะคะ

1.มหาลัยระดับท็อป10 ท็อป 20 พวกนี้มีแจกทุนไหมครับหรือว่าต้องทุนส่วนตัวอย่างเดียวครับแล้วการขอทุนเขาใช้อะไรพิจารณาหรอครับ
- ทุนมีหลายอย่าง ทุนเรียนดี ทุนส่วนลด บลาๆๆ แต่ทุกทุนที่กล่าวมา คือต้องสมัครเรียน รับเข้าเรียนเรียบร้อยก่อน จะได้ไม่ได้ ไปว่าเอาดาบหน้า ยกเว้นสอบชิงทุน พวกทุนได้เปล่าไม่ต้องใช้คืน พวกนี้แข่งขันสูงแนะนำให้เข้าไปดูตามสถานฑูต หรือประกาศของ กพ นะคะ

2.กิจกรรมที่ทำมีผลต่อการสมัครมากแค่ไหนครับ
-กิจกรรมที่ทำ มีผลเวลาเขียน SOP หรือ เรซูเม่ คือมีเรื่องให้เขียนมากกว่าคนอื่น แลดูมีประสบการณ์มากกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะที่สมัครค่ะ

3.อยากทราบค่าใช้จ่ายด้านกินอยู่อ่ะครับว่าเมืองใหญ่ๆค่าใช้จ่ายต่อปีรวมทุกอย่างประมาณเท่าไรครับ
- ไม่รู้ว่่าสนใจไปประเทศไหน อังกฤษ ราวๆปีหล่ะ 8 แสนอัพ สำหรับค่าเรียน อยู่ในลอนดอน ก็ใช้จ่าย กินอยู่ประมาณ 1000 - 1500 ปอนด์ต่อเดือน ตามความประหยัดและการใช้จ่าย อเมริกาฝั่ง LA ห้องพักราคาประมาณ 700 -800 ดอลล์ต่อเดือน NY ก็อาจจะแพงกว่านิดหน่อย ราคาค่าเรียนก้อราวๆเดียวกันอะคะ ไม่ต่างเท่าไหร่หรอกนะค

4.สมมุติว่ามีคน2คนคะแนนใกล้เคียงกันเค้าจะเลือกจากอะไรหรอครับ
- เกรดใกล้เคียงกัน ก็ดูคะแนน IELTS หรือ TOEFL ถัดไปก็ดู Reference จากอาจารย์ และ SOP แนะนำตัวเอง เขียนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

ขอบคุณคหของคุณ PPLoy มากครับ

1.
มีทุน แต่ทุนที่ว่าส่วนใหญ่อาจจะมีข้อกำหนดด้วยว่าต้องไม่ใช่นักเรียนต่างชาติ และจะเป็นลักษณะ financial aid คือพิจารณาจากฐานะนักเรียนค่ะ ถ้าเป็น top U ทุนเรียนดีก็ไม่ค่อยมีค่ะ เพราะนักเรียนที่เข้ามาก็เรียนเก่งทั้งนั้น

2&4
- ในการพิจารณารับนักเรียนเข้าเรียนคะแนนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุด แต่ทางมหาวิทยาลัยจะดูแพคเกจรวม เพราะฉะนั้นกิจกรรมมีผลต่อการสมัครมาก เพราะจริงๆนะคะ Top U นี่คนที่มาสมัครเรียนก็ล้วนแล้วแต่เก่งๆทั้งนั้น อัตราส่วนก็เรียกว่าสมัคร 10 รับแค่ 1 ก็ว่าได้ ทางมหาวิทยาลัยมีสิทธิืเลือกได้ ถ้านักเรียนที่มาสมัครได้เกรด 4.00 คะแนนสอบอะไรเต็มแต่กิจกรรมว่างเปล่าทางมหาวิทยาลัยก็ไม่รับเพราะเค้ามองว่าเอาแต่เรียน สู้ไปรับคนที่ได้ 3.8 คะแนนสอบก็ดีถึงจะไม่เต็มแต่เป็นประธานนักเรียน เป็นอาสาสมัครช่วยผู้พิการ เป็นนักกีฬาโรงเรียนไม่ดีกว่าหรือ เป็นคนที่มีมิติ well-rounded มากกว่า จะเห็นได้ว่าคนที่ได้คะแนนต่ำกว่าก็ถูกเลือกก่อนคนที่ได้คะแนนสูงกว่าได้
ซึ่งนอกจากนี้การทำกิจกรรมก็จะไปโผล่ในตอนเขียน application essay ด้วยเพราะหัวข้อการเขียนมันไม่ใช่แค่ว่าทำไมถึงอยากเรียนที่นี่ จะเรียนสาขาอะไร เรียนไปทำอะไร แต่มันมีหัวข้ออื่นๆอีกที่ดูทัศนคตินักเรียนดูความสามารถด้วย คุณอาจจะถูกให้เขียนถึงประสบการณ์ที่เคยล้มเหลว ประสบการณ์ทำงานกลุ่ม สิ่งที่คุณภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ความยากลำบากที่เคยเจอและผ่านมาได้ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าเอาแต่เรียนอย่างเดียวก็คงเขียนไม่ออกค่ะ

3.
-ของประเทศอื่นๆ นี่ไม่ทราบ แต่ถ้าฝั่งอเมริกาตอนปี 1 มักจะได้อยู่หอของมหาวิทยาลัยที่รวมค่ากินอยู่ค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ตเรียบร้อยซึ่งส่วนนี้ก็ต้องดูของแต่ละมหาวิทยาลัยมันจะมีบอกว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่พอปีต่อมาออกมาอยู่เองข้างนอก อันนี้ค่าใช้จ่ายก็จะต่างกันออกไปค่ะ ประมาณไว้ว่าค่ากินค่าซื้อของก็อาจจะราว 400-500 เหรียญต่อเดือน ส่วนค่าอยู่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะอยู่คนเดียวหรือแชร์กับคนอื่นค่ะ