สอบถามโครงการนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-อเมริกา(ice)

ลูกสาวสอบได้โครงการ THAI-INTER CULTURAL EXCHANGE (ICE) ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวโครงการนี้ เคยได้ยินแต่ AFS ครับ

สอบถามหน่อยครับว่าน่าสนใจไหม เพราะจะต้องจ่ายเงินมัดจำยืนยันภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้จำนวน 70,000 บาทในงวดที่1

24 กันยายน 2555 ชำระงวดที่2 150,000 บาท และชำระงวดที่3 28 พฤศจิกายน 2555 150,000 บาท โดยจะเดินทางไป

ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน 2556 เป็นเวลา 10 เดือน ไม่ทราบว่าโครงการนี้น่าไปไหมครับ ที่สำคัญทางโครงการเขียนว่า

"ใครมาก่อนรับสิทธิ์ก่อนปิดรับสมัครเมื่อครบจำนวนทุน" (จำนวนทุน 21 ทุน) แต่ผมดูเหมือนว่าจะได้กันทุกคนอยู่ที่ใครจ่ายเงินก่อน

ก็ได้ไป ไม่ทราบว่าพอจะมีข้อมูลทุนนี้ไหมครับ

ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ

ปล. ลูกสาวอยู่ม.3 อายุ 14ปี2เดือนครับ

ความคิดเห็นที่ 1
รายละเอียดครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ดูแล้ว จ่าย ๓ แสน ๗ ยังไม่รวม ค่าเครื่องบินไป-กลับ และ ค่าปฐมนิเทศ ตปท
ต่อให้รวม ก็อย่าไปดีกว่า เพราะดูเหมือนเป็นการค้า เอาคำว่า ทุน และ อเมริกา มาขาย
เช่นเดียวกับ AFS ที่ตอนนี้ ก็ไปหลายประเทศ แถมต้องเสียเงินกันอีกมากด้วย
ต่างกับสมัยก่อนที่ AFS จากไทยไปอเมริกาประเทศเดียวและเสียเงินไม่มากนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ทำไมเรียกกันว่า"ได้ทุน" ดูเหมือนออกเงินไปเองทั้งหมดแต่มีส่วนลดให้


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้กันเกลื่อนในอเมริกา คือบอกว่าได้ทุนหรือรางวัล ทำกันมาตั้งแต่เมื่อสี่สิบปีก่อน อาจจะก่อนนั้นด้วย แต่กรณีย์ของจขกท ผมไม่แน่ใจ อย่างไรก็ดีเงินขนาดนั้น ลูกอายุแค่นั้นไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ครับ เรียนในเมืองไทยแล้วเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยเอาเงินนั้นมาต่อโทเลยก็ยังได้
ความเห็น


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่เห็นต้องรีบคะ ลูกอยู่แค่ ม.3 เราเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ไปตอน ม.5 ตอนนั้นเสียไปประมาณ 2 แสน (แต่ก็เกือบสิบปีมาแล้วนะคะ) คิดว่าคุ้มค่าที่สุดค่ะ เพราะการไปอยู่แบบนั้น ได้ไปอยู่กับครอบครัวฝรั่ง ที่มันได้อะไรมากกว่าตอนไปเรียนมหาวิทยาลัย ที่ไปอยู่คนเดียว มันแตกต่างกันมากนะคะ กับการที่คุณส่งลูกไปอยู่ในอ้อมอกคนอื่น ที่เขาจะต้องรับผิดชอบ ดูแลตัวเอง ต้องเรียนรู้วัฒนธรรม ไม่ใช่แค่ไปเรียนเอาภาษาเหมือนตอนมหาวิทยาลัย อีกอย่าง เรื่องสำเนียงคะ เด็กที่ไปเรียนตอนมัธยม มีแนวโน้มที่จะพูดสำเนียงเหมือนเจ้าของภาษามากกว่าคนที่ไปเรียนช่วงมหาวิทยาลัย เพราะยังเด็กอยู่ เรียนรู้ได้ไว ลิ้นอ่อนค่ะ

แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องดูลูกของคุณด้วยนะคะ ว่ามีความรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน ไปแล้วจะย่ำแย่จนถูกส่งกลับมาหรือเปล่า สำหรับโครงการ ICE ให้คำแนะนำไม่ได้คะ ไม่เคยไป แต่รอให้ลูกโตอีกนิดล้วไปสมัคร AFS ไม่ดีกว่าเหรอคะ เชื่อถือได้แน่นอน

ป.ล ถ้าเด็กมีโอกาสแล้วก็อยากให้ไปคะ เพราะทุกวันนี้ เรายังติดต่อกับ Host Family ที่โน่นอยู่เลย บางทีเขาก็มาเมืองไทย บางทีเราก็ไปเที่ยวที่โน้น และการเก่งภาษา มันยิ่งทำให้ลูกคุณได้เปรียบกว่าเด็กคนอื่นๆ แน่นอนคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ตอนนี้มีโครงการลักษณะนี้มากมาย เพราะพลาดจาก AFS ก็มีโครงการลักษณะเดียวกัน
เรื่องค่าใช้จ่ายก็พอๆกับ AFS เพราะ AFS ให้จ่ายตามฐานะของผู้ปกครอง เพียงแต่ AFS จะมี profile ดีกว่า แต่ถ้าเด็กได้ครอบครัวดี ก็ไม่ต่างกันนะ ตอนอยู่ที่โน้น
หลานเคยไปกับ YES เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนอยู่ ม 4 ก็เสียเงินพอๆกับ AFS ประมาณ 2 แสนกว่า ไม่แน่ใจว่ารวมตั๋วเครื่องบินแล้วยัง
แต่โชคดีมากกกที่ได้ครอบครัวดีมากกกกก เพราะเราเลือกครอบครัวคริสเตียน เมืองเล็ก และได้ไปอยู่บ้านนอกจริงๆ internet ที่บ้านก็ไม่มี รถเมล์ก็ไม่ผ่าน ดีมากก ไปโรงเรียนพ่อแม่ไปส่งไปรับทุกวัน หรือไปรถโรงเรียน เด็กมีความสุขมากกก
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเด็ก เราก็ต้องจ่ายเองนะ เท่าไรขึ้นกับครอบครัวว่าให้เราได้แค่ไหน ตอนนั้น 5 ปีที่แล้วให้เขา 500 เหรียญต่อ 2 เดือน เพราะเขาต้องจ่ายค่าอาหารกลางวันอย่างเดียว นอกนั้นครอบครัวออกให้หมด รวมทั้งพาไปเที่ยวมากมาย

บางครอบครัวพาเด็กไปเที่ยว เราก็ต้องจ่าย โดยเขาจะบอกก่อนว่าจะให้จ่ายเท่าไร

ทุกวันนี้หลานยังติดต่อกับครอบครัวทางโน้นอยู่ และปีที่แล้วก็แวะไปเยี่ยม โดยเขาต้องขับเราข้ามเมืองมารับมาส่งที่สนามบินด้วย

ถ้าไปตอน ม 4 บางโรงเรียนอาจมีปัญหานะ เพราะที่โน้นเขาเคยรับแต่ ม 5 ตอนแรกเขาให้หลานไปเรียนคณิตศาสตร์กับเกรด 10 และอีกเทอมก็ให้เรียนคณิตศาสตร์กับเกรด 11

และเห็นด้วยกับ คห5 มากก เรื่องเขาไปตอนเรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัย แตกต่างกันมากกก
ไปตอนมหาวิทยาลัย เหมือนเข้าไม่ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของเขา การเป็นเพื่อนก็ไม่เหมือนกัน
แม้แต่การพูด ศัพท์ต่างๆก็ต่างกัน เหมือนไม่ได้คลุกวงใน


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก google ด้วยก็ได้นะคะ นอกจาก AFS แล้ว
ที่เคยได้ยินก็จะมีของ OEG, YFU, etc. ก็ดูข้อมูลประกอบด้วยก็ดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
มีหลังไมค์ถึงเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับโดยเฉพาะคุณkudogiftเป็นนักเรียนเก่าทุนAFSถือว่ามีประสบการณ์ตรง

ได้ความรู้มากมายครับ ปีนี้คงเรียนที่เก่าก่อน ปีหน้าจะลองให้ลูกสาวไปสอบทุนAFSดูครับ

มีอะไรอาจจะหลังไมค์ไปหานะครับ^_^

สำหรับคุณCU2morrowหลังไมค์ไปแล้วครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9