งงๆ กับการเขียนจดหมายสมัครงานในห้างต่างแดนค่ะ

ไม่แน่ใจว่าควรตั้งห้องนี้หรือเปล่า เพราะมันเป็นเรื่องงาน แต่ก็เกี่ยวกับชีวิตในต่างแดนด้วย
ขออนุญาตตั้งห้องนี้แล้วกันนะคะ

อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเขียนจดหมายสมัครงานเป็นภาษาอังกฤษค่ะ

คือเรากำลังจะสมัครตำแหน่งพนักงานขายของแบรนด์ต่างๆ ตามห้างนะค่ะ
อย่างเช่น Boots,Bbath & Body Works, Victoria Secret อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ
ที่นี้สิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต คือการเขียนเรซูเม่, เขียนจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ

เนื่องจากตอนอยู่เมืองไทย ตอนทำงานโรงแรม ก็ขับรถตระเวนสมัครซะทั่วหาด สัมภาษณ์กันตัวต่อตัว
หรือตอนเป็นพนักงานขายในห้าง ก็เข้าไปสมัคร สัมภาษณ์ตัวต่อตัวเช่นกัน

ตอนนี้ต้องมาเขียนจดหมาย เตรียมเรซูเม่ CV เป็นภาษาอังกฤษ เครียดจนนั่งร้องไห้เลยค่ะ
ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี

ลองเปิดกูเกิ้ลดูตัวอย่าง แล้วลองทำตามดู พอให้คุณแฟนมาตรวจ แกก็สั่งเปลี่ยนโน่นนี่นั่น เขียนทุกอย่างซะโอเวอร์เกินจริง เราปรี้ดอ่ะ เราไม่ได้เริ่ดขนาดนั้น อยากเขียนตามความเป็นจริงและก็
อยากแจ้งความมั่นใจว่าเราสามารถเป็นพนักงานขายที่ดีได้อะไรประมาณนี้ คือไม่อยากโกหกเวอร์

ความรู้เราก็ไม่ได้เยอะนะคะ แต่อ่านกับพูดภาษาอังกฤษได้ดี แต่เวลาเขียนมักจะผิดแกรมม่าอยู่
ท่านใดพอจะแนะนำวิธีเขียนง่ายๆ แต่สละสลวย ได้ใจความให้ได้บ้างคะ
เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว อยากได้งานก็อยากได้ เครียดอ่ะ T__T

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ตอนนี้กำลังลองเขียนเรียบเรียงเป็นภาษาไทยดูค่ะ กะว่าค่อยแปลเป็นภาษาอังกฤษทีหลัง

เฮ้อออ! จะไหวมั้ยเนี่ย

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ความเห็นนะความเห็น
ตอนผมสมัครงาน มีคนดำท่าทางมีการศึกษาดีมีมาดแนะนำผมว่า การเขียนเรซูมเมไม่ต้องอายเขียนให้เต็มที่ ดูเกินไปบ้างก็ไม่เป็นไร โอกาสที่จะได้สัมภาษณ์มีมากขึ้น สำคัญอยู่ที่การตอบคำถามในการสัมภาษณ์ และความสามารถตอนทำงาน ส่งไปเป็นร้อยเป็นพันไม่เป็นไร ใบเดียวที่จะได้งาน
ไม่ต้องเหนียมหรือถ่อมตัวแบบไทยๆ เคยคิดถึงคนรับจ้างเขียนมืออาชีพไหมครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คุณอิสวาสุ... ขอบคุณมากค่ะสำหรับความคิดเห็น ดิฉันคงจะอายจริงๆ ล่ะค่ะ
ถึงปรี้ด ตอนที่แฟนบอกให้เขียนอย่างนั้นอย่างนี้ รู้สึกว่ามันดูเก่งเวอร์ไปเลยไม่ค่อยกล้า
กลัวเขาสัมภาษณ์มาแล้วจะผิดหวัง คิดมากไปหน่อยอ่ะค่ะ ><


ว่าแต่ว่า...มันมีคนรับจ้างเขียนอะไรแบบนี้ด้วยหรือคะ
ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ
ขอบคุณมากนะคะ // รีบหาในกูเกิลอย่างรวดเร็ว ^^

ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
สมัครงานร้านประมาณพวกนี้ไม่ต้องเขียนเรซูเม่นะ วอคอินเลย ขอใบสมัครแล้วกรอกใบสมัครตรงทันที เสร็จแล้วก็ยื่นให้เค้า ถ้าเค้าต้องการคนก็จะโทรมาเรียกไปสัมภาษณ์เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
คุณ flymom ต้องเขียนค่ะ ส่งกันแบบละเอียดยิบเลยค่ะ
นี่ก็เพิ่งส่งไปเสร็จเรียบร้อย กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหงื่อตก :-)

ขอบคุณที่แวะมาแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เชคก่อนนะคะ ว่าร้านเค้ามีโพลิซี่รับพนักงานยังไง
บางร้านก็ให้กรอกฟอร์ม ไม่เอารีซูเม่
อย่างร้านที่เราทำให้กรอกฟอร์มออนไลน์อย่างเดียว มีคนเอารีซูเม่มายื่นก็รับไว้อะค่ะแต่ลงถังขยะ เค้าไม่เปิดดูเลยด้วยซ้ำ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เขียนให้เต็มที่ได้ อย่าโม้จนตกขอบ แต่เขียนเต็มที่ เชื่อสามีเหอะ ไม่เขียนเยอะสู้มะกันไม่ได้นะ เค้าพรีเซนต์ตัวเอง หรือภาษาไทยเรียก "โม้" เก่ง

เห็นพี่สะใภ้เคยทะเลาะกับพี่สามี (ฝรั่งทั้งคู่) เรื่องนี้แหล่ะ พี่สามีเค้าให้เขียนเวอร์ๆ คนเขียนก็กดดัน ความสามารถไม่เท่าที่เขียนไว้ แต่สุดท้ายก็ได้งานนะ

สรุปพรีเซนต์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ครับ เหมือนที่คุณ : โตช้าแก่เร็ว บอกเขียนให้เต็มที่เตรียมคำตอบไว้ด้วย แต่อย่าโม้จนตกขอบ ยิ่งเป็นงานที่จขกทบอก และจขกทก็พูดภาษาได้ดี ไม่ต้องกลัว เชื่อสามีไว้ก่อน
เขาไม่รับเพราะโม้ก็ค่อยสมัครใหม่


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าอยากได้คำแนะนำในการเขียน ซีวี สามารถไปที่ job centreในเมืองที่คุณอยู่ได้ค่ะ เค้ามีบริการช่วยเหลือด้านนี้ค่ะ

มาอ่านเจอทีหลัง ถ้าในอเมริกาไม่แน่ใจค่ะ รู้แต่ว่าเค้ามีบริการนี้ที่อังกฤษอ่ะค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณมากๆ ทุกท่านเลยค่ะ ที่มาแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำ :-)

คุณ Chocolate Junkie ขอบคุณมากค่ะ สมัครออนไลน์เหมือนกันค่ะ
มันมีฟอร์มให้กรอกประวัติ แล้วมีกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับงานเก่าที่เคยทำ
ไม่สามารถ skip ขั้นตอนได้เลยค่ะ พอกรอกทุกอย่างเสร็จ ก็มีให้แนบเรซูเม่ไป
เลยต้องตกลงสงบศึกกับแฟน แล้วให้มานั่งสอนเขียนเรซูเม่กันใหม่
กว่าจะถูกใจทั้งคนสอนและเจ้าของเรซูเม่ เกือบแย่ค่ะ ^^

คุณ โตช้าแก่เร็ว ขอบคุณค่ะ ประเทศที่ดิฉันอยู่ถ้าจะแพ้ใครก็คงเป็นสาวปินส์ล่ะค่ะ
พวกนางกวาดเรียบทุกงาน สาวไทยอย่างดิฉันไม่อยากแพ้ค่ะ ^^
เลยต้องยอมให้คุณแฟนโม้ไปตามที่คุณบอก แต่ก็คอยทักท้วงบ้างเวลาที่รู้สึกว่าเริ่มจะเยอะละ ;-)

คุณอิสวาสุ ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ ตกลงยอมเชื่อแฟนค่ะ พอเขียนเสร็จมานั่งอ่าน
รู้สึกว่าตัวเองเป็นมืออาชีพมาก ตอนนี้แอบกดดันอย่างคุณโตช้าแก่เร็วบอกอ่ะค่ะ ><
กลัวมันจะเริ่ดเกินจริงอ่ะ ^^ ลุ้นนน


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คุณ nuumama ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ได้แล้วค่ะ
ยอมให้คุณแฟนบังคับให้เขียนแบบเริ่ดๆ
มีการเอาของตัวเองมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย สรุปว่าได้เรซูเม่เทพมากเลยค่ะ

น่าจะยอมซะตั้งนานแล้วเนอะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
พอดีลิงค์กะเอเยนซี่จัดหางาน เขาบอกว่าเขียนอะไรก็ได้ให้เขาเห็นว่าตัวเราเหมาะสมกะตำแหน่งที่เขารับสมัคร เขียนเสร็จเอาไปให้เขาช่วยดู ก็แก้ไขให้ดูดีและเพิ่มเติมบางอย่างที่คิดว่าน่าจะเหมาะสม แต่ไม่ได้เวอร์มากมาย ก็อยู่ในหลัก ๆ ของงานที่เขาต้องการรับสมัคร

แต่มีอยู่ครั้งบริษัทโทรมาสัมภาษณ์ ถามว่าทำบัญชีโปรแกรมอะไร ของเขาใช้ควิกบุ๊คทำได้ไหม บอกว่าไม่เคยใช้โปรแกรมนี้มาก่อน เขาก็เลยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย ถามเอเย่นว่าถ้าหากเราโกหกไปว่าทำได้จะเป็นไง เขาบอกอย่าเลย ต้องซื่อสัตย์ว่างั้น โชคดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
อย่าหาว่างู้นงี้เลยนะ
เขียนไม่ได้ อย่าสมัครเลย
ต้องเจออะไรอีกเยอะอะ
ต้องสู้กว่านี้เยอะมากอะ เฮ้อ
ภาษาดี ฝรั่งคู่แข่งเราก็ภาษาดีนะ มีไรที่เราเก่งกว่าเค้ามั่งล่ะ เจอแค่นี้ก็แทบจะไปไม่เป็นละ จะบอกว่าภาษาดีได้ไง คิดไปเองปล่าว ไม่รู้คนสัมภาษณ์จะคิดเหมือนเรา(จขกท)ปล่าว
ยังไงก็ทำการบ้านเยอะๆละกัน

ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
คุณ หางานเหมือนกัน ขอบคุณมากนะคะ ของเราเขียนเอาแบบเรียบๆ เหมือนกันค่ะ
แต่พอเอาให้คุณแฟนอ่าน แกก็บอกว่ามันดูไม่น่าสนใจ แล้วดัดแปลงเพิ่มเติมให้มันดูสละสลวย
เป็นมืออาชีพมากขึ้น เราอ่านเองยังชอบเลยค่ะ
ขอให้ได้คุณได้งานเร็ว ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^

คุณlovelypriest ขอบคุณมากนะึคะ สำหรับความคิดเห็น และคำแนะนำ
อย่าว่าแต่เขียนเรซูเม่เป็นภาษาอังกฤษเลยค่ะ
ต่อให้เขียนภาษาไทยดิฉันก็แทบจะไปไม่เป็นเหมือนกัน
เพราะไม่รู้ว่าควรจะเขียนประมาณไหน เริ่มต้นยังไง
แต่พอได้คำแนะนำดีๆ จากหลายๆท่านที่บอกให้จัดเต็ม ตามที่คุณแฟนบอก
ก็เสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง อาจจะใช้เวลาหน่อยเพราะภาษาอังกฤษไม่ได้เทพ
ไม่ใช่นักเรียนนอก แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะยอมแพ้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
คุณจขกทค่ะ เรามีประสบการณ์คล้ายๆกันเลยค่ะ ตอนอยู่เมืองไทยเราก็ทำงานโรงแรมเหมือนกัน พอย้ายมาอยู่ที่แคนาดาก็ลองทำงานโรงแรมสักพัก แล้วก็ย้ายมาเป็นพนักงานขายค่ะ ปรากฏว่าชอบมากๆค่ะ

ขออนุญาตแบ่งปันนะคะ ประสบการณ์ตอนเราสมัครงานตามแบรนด์พวกนี้ เราเขียนเรซูเม่แค่อย่างเดียวค่ะ วอคอินท์เข้าไปสมัครค่ะ หลายๆแบรนด์ในห้าง เค้าจะมีเรซูเม่ของบริษัทให้กรอกอีกครั้ง แล้วส่วนใหญ่เค้าก็จะบอกว่าจะติดต่อกลับเพื่อนัดเวลาสัมภาษณ์อีกครั้งค่ะ

หัวใจของงานขายก็คือการมีหัวใจบริการ ถ้าคนที่เคยทำงานโรงแรมมาแล้วมีใจรักการบริการอยู่แล้ว ยิ่งทำให้การทำงานง่ายขึ้นค่ะ เพราะมีทักษะในการพูดคุยกับคน และให้บริการคน ส่วนเรื่องตัวสินค้าทางแบรนด์เค้าจะเทรนเราอีกทีค่ะ แล้วอีกอย่างที่ชอบคือส่วนลดของพนักงานค่ะ แต่ละแบรนด์ให้ส่วนลดพนักงานค่อนข้างดีค่ะ

เราเป็นพนักงานขายให้แบรนด์หนึ่งที่มีบริษัทแม่อยู่ที่อเมริกาค่ะ แบรนด์นี้ที่เราทำอยู่มาสามปีแล้วค่ะเป็นพาสไทม์ ส่วนอีกแบรนด์นึงทำมาปีครึ่งเป็นฟูลไทม์ สนุกกับงานค่ะ เราเลือกแบรนด์ที่ไม่มีคอมมิชชั่นค่ะ เพราะเราไม่อยากกดดันตัวเองและเราไม่ชอบกดดันลูกค้า อยากให้ลูกค้าเดินกลับบ้านไปกับสิ่งที่เค้าต้องการจริงๆค่ะ แล้วเวลาลูกค้าครั้งต่อๆไปก็จะเรียกหาเราเราช่วยเลือกของให้ มาซื้อกับเรา งานสองที่ของเราจึงไม่มีคอมมิชชั่นทั้งสองที่ค่ะ

เราตอนมาที่นี่ใหม่ๆ เราไปทำงานพาสไทม์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในออฟฟิศอยู่แผนกธุรการ แทนคนที่ทำอยู่แต่เค้าไปคลอดลูก อยากบอกว่าเราอยู่ได้ แต่ไม่มีความสุขเท่าที่ควรค่ะ ทำงานให้ผ่านไปวันๆ เพราะเราไม่ได้พบปะผู้คน เราชอบทำงานเอกสารนะ แต่ไม่ชอบงานออฟฟิศ จำได้ว่าเคยทำงานออฟฟิศอยู่ที่เมืองไทยช่วงสั้นๆก็ไม่มีความสุขเหมือนกัน เราคงไม่ถนัดงานออฟฟิศจริงๆ เพราะเราขี้เบื่อ

ขอให้โชคดีในการสมัครงานนะคะ ขอให้ได้งานที่รักไวๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณ Voici_Grace ขอบคุณมากมายค่ะ สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์
และความคิดเห็นดีๆ ช่วยได้มากเลยค่ะ เรามีกำลังใจขึ้นเยอะ
เราเองก็เป็นประเภทรักงานขายและการบริการ มีความสุขที่จะทำ

แต่ตอนนี้เรายังใหม่มากๆ กับการต้องทำงานในต่างแดน
แต่เราหวังและมุ่งมั่นมากค่ะ

ตอนนี้อะไรๆ ก็ยังไม่ลงตัว เพราะเพิ่งย้ายประเทศ
หลายอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ก็ตื่นเต้นดี ^^

ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ สำหรับคำอวยพร
ขอให้คุณมีความสุขมากๆ กับการทำงานที่รักเช่นกันค่ะ :-)


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เพื่อนดิฉันเห็น resume ของดิฉันแล้วถามว่า จะสมัครตำแหน่ง CEO เหรอ เพราะมันดูเวอร์มาก! 555

อยากที่ความเห็นข้างบนๆได้บอกไว้แหละค่ะ เขียนแสดงผลงานของตัวเองออกมาให้เต็มที่ บางอย่างบางจุดเราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องๆเล็กๆแต่ถ้ามันแสดงให้เห็นว่าเราได้ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ของเราก็ควรใส่ลงไป เพียงแต่ต้องเขียนบนพื้นฐานความจริงว่าเราเป็นสิ่งที่เราทำจริงๆเท่านั้นค่ะ

ขอให้คุณเจ้าของกระทู้ได้งานเร็วๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
คุณ ดาวกับเดือน ขอบคุณมากนะคะ สำหรับความคิดเห็น และคำแนะนำดีๆ
ยอมรับว่าตอนแรกเกร็งมากค่ะ ที่จะเขียนอะไรที่มันอ่านแล้วดูดีเวอร์ๆ
นี่ถ้าไม่ได้หลายๆ ท่่านที่นี่แนะนำ ป่านนี้ยังไม่รู้ว่าจะเขียนได้หรือยัง
หรือจะออกมาลักษณะไหน ^__^

ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำอวยพร
ขอให้คุณมีความสุขมากๆ เช่นกันค่ะ

และก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านมากมายอีกครั้งนะคะ
ที่มากรุณาแบ่งปันความคิดเห็น ประสบการณ์ และคำแนะนำดีๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ดีจัง พวกคุณชอบงานขาย ชอบคุยกับคน เรากลับไม่ชอบแม้จะทำร้านอาหารมาเป็นสิบปี ตอนนี้มาทำงานออฟฟิศแล้ว แต่ก็ยังทำร้านอาหารอยู่เสาร์อาทิตย์ ตอนหางานออฟฟิศใหม่ๆ พยายามแต่งเรซูเม่มาก ก็โอเคดีพอควร พอเอาเข้าจริงงานที่ได้ทำเค้าขอดูเฉยๆ แล้วก็สัมภาษณ์สองครั้ง ได้งานแบบง่ายไม่คาดคิด ตื่นเต้นและกังวลมาก คิดว่ายากแน่ๆ ต้องไม่ได้แน่ๆ ส่วนร้านอาหารไม่เคยต้องใช้เรซูเม่เลยค่ะ เค้าไม่สนใจ ยกเว้นจะเป็นร้านใหญ่ๆ จิง
ขอให้โชคดีได้งานนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 19