เลิกกับสามีชาวอเมริกัน จดทะเบียนที่อเมริกา แล้วจะหย่าที่เมืองไทย

สวัสดีค่ะทุกๆคน ตอนนี้เรากลุ้มใจมากค่ะ เพราะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาสามีชาวอเมริกันทิ้งเรากับลูกไป และย้ายออกไปอยู่ข้างนอก เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นรวมถึงคำพูดต่างๆที่ทำร้ายจิตใจ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่เราต้องการที่สุดคือการหย่าขาดจากผู้ชายคนนี้ ไม่อยากมีภาระผูกพันใดๆจากคนๆนี้อีก และสิทธิในการเลี้ยงดูบุตร (ลูกสาวอายุ 2 ขวบ เกิดที่อเมริกา)ต้องเป็นของเราเพียงผู้เดียว มีใครพอมีคำแนะนำบ้างมั้ยคะ ตอนนี้พวกเราทุกคนอยู่ที่ประเทศไทย

เรากับสามีจดทะเบียนสมรสกันที่ St. Louis, Missouri เดือนธันวาคม 2007

ลูกเราเกิดที่ St.Louis เดือน พ.ค. 2010

เดือน ธ.ค. 2010 พวกเราสามคน พ่อ แม่ ลูก ย้าย กลับมาอยู่เมืองไทย

เดือน เม.ย.2012 เค้าย้ายออกจากบ้านขณะที่เรากับลูกไปต่างจังหวัด และก็บอกขอเลิกเราทางโทรศัพท์!!!

ยอมรับว่าช่วงแรกเครียดมากเพราะพอเรามีลูกก็ไม่ได้ทำงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว อยู่ดีๆเค้าก็ทิ้งเราไปทั้งๆที่เราไม่มีเงินไม่มีงาน โชคดีอยู่อย่างที่เราอยู่เมืองไทยที่แวดล้อมไปด้วยครอบครัวของเรา

เรามารู้ทีหลังว่าเค้ามีผู้หญิงใหม่ และผู้หญิงคนนี้ก็ทำงานที่เดียวกับเค้า วันที่เค้าบอกเลิกเรา คืนนั้นเค้าก็พาผู้หญิงคนนี้ไปออกเดท แล้วผู้หญิงก็รู้ว่าเค้ามรลูกมีภรรยาแล้ว เพราะเคยเจอเรากับลูกแล้วสองสามครั้ง

เค้าทิ้งเรากับลูกไปแล้วอ้างว่าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆเพราะเรากับเค้าถือว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน เนื่องจากเราไม่ได้เอาทะเบียนสมรสที่จดที่อเมริกาไปรับรองในประเทศไทย แล้วเค้าก็เริ่มความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นทันที โดยไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆต่อลูก และต่อตัวเราที่เป็นภรรยา โดยหาข้ออ้างต่างๆนาๆมาใช้เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู

เรามีรูปและวีดีโอแสดงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของเค้าและผู้หญิงคนนั้นในที่สาธารณะ (กอด จูบ ลูบ คลำ)

ตอนนี้เราคุยกับทนายอยู่ แต่ทนายของเราก็ไม่รู้ตัวบทกฏหมายของอเมริกาว่าด้วยการหย่าและสิทธิในการดุแลลูกอย่างชัดเจนนัก ฝ่ายสามีเราอ้างว่าถ้าจะหย่าได้ ต้องอยู่ในอเมริกาเป็นเวลา 90 วัน ถึงสามารถดำเนินการหย่าได้ ตอนนี้เรามึนไปหมดแล้ว เหนื่อยมากกับการต่อสู้กับผูชายคนนี้ ถ้าเพื่อนๆ หรือพี่น้องท่านใดพอมีคำแนะนำ เราจะขอบคุณเป็นอย่างมาก

รายละเอียดจรงๆมีเยอะมาก ถ้าใครต้องการรายละเอียดเพิ่มให้ถามเราได้

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และขอคุณอีกครั้งสำหรับข้อแนะนำต่างๆในอนาคตค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ไม่รู้เรื่องกฎหมายอเมริกาค่ะ แต่รู้เรื่องหย่าในไทยก็เลยตอบส่วนที่เคยทำได้นะคะ

ถ้าคุณอยากหย่าที่เมืองไทยต้องไปทำเรื่องเปลี่ยนสถานะครอบครัวที่เขตคุณมีชื่อในทะเบียนบ้านก่อน แล้วก็พาสามีคุณไปเซ็นใบหย่าได้ที่เขตนั้นเลย

ดังนั้นคุณต้องเอาทะเบียนสมรสที่เป็นภาษาอังกฤษไปแปลแล้วรับรองจากกงสุลอเมริกา ไปรับรองจากกงสุลไทยอีกทีที่แจ้งวัฒนะ ถึงจะนำไปยื่นที่เขตเพื่อเปลี่ยนสถานะครอบครัว

การหย่าโดยกฎหมายไทยต้องไปด้วยกันสองฝ่ายนะคะ ถ้าสามีคุณไม่ยอมไปเซ็นด้วยก็หย่าไม่ได้ ต้องพึ่งศาลค่ะ หวังว่าคงช่วยได้นิดนึงนะคะ และเสียใจด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
"เค้าทิ้งเรากับลูกไปแล้วอ้างว่าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆเพราะเรากับเค้าถือว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน เนื่องจากเราไม่ได้เอาทะเบียนสมรสที่จดที่อเมริกาไปรับรองในประเทศไทย" ==> อย่าไปเชื่อครับ แค่เอาไปแปลแล้วรับรองก็ใช้ได้แล้ว มีผลตามกฎหมายแน่นอน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
อ่านเรื่องของคุณแล้วสงสารจับใจ
ทำไมผู้ชายมันเลวได้ใจจริงๆ
ขอโทษทีที่ไม่ได้ช่วยอะไร
แต่ขอเป็นกำลังใจให้


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
:-)ทั้งคู่ ตั้งสตินะคะ จขกท เป็นกำลังใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
แนะนำอย่างนี้นะครับ ในกรณีที่ทำการสมรสในต่างประเทศ และต้องการที่จะหย่าในประเทศไทย ถ้ากฎหมายของมลรัฐที่เราจดทะเบียนสมรสนั้น ยอมให้สามีและภริยาหย่าโดยความยินยอม ก็สามารถที่จะไปทำการหย่ากันที่สำนักงานเขต (ตามความเห็นที่ 1) ได้เลยครับ แต่ถ้าหากฝ่ายสามีไม่ยินยอมเซ็นใบหย่า ท่านต้องทำการฟ้องหย่าต่อศาล โดยในการนำสืบต่อศาลจำเป็นจะต้องนำสืบถึงเหตุหย่าว่าตามข้อกฎหมายของมลรัฐที่จดทะเบียนสมรส ยอมให้หย่าได้หรือไม่ มิฉะนั้นศาลจะไม่สามารถพิพากษาให้หย่าได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของกฎหมายขัดกัน เป็นต้น ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยประการใด ยินดีให้คำแนะนำด้วยความเต็มใจครับ เมล์มาที่นี้ก็ได้ครับ [email protected]


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เลวได้อีก ช่วยอะไรไม่ได้ แต่เป็นกำลังใจนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่ทราบเรื่องกฏหมายอเมริกาแต่เราคิดว่าควรทำได้นะคะ
ทั้งหย่าและค่าเลี้ยงดู เพราะคุณได้มีการจดทะเบียนจริง และมีลูกด้วยกันซึ่งเป็นลูกเขา
ทะเบียนน่าจะสามารถทำเอกสารที่ไทยต่อได้อาจจะแค่โดนว่าหรือปรับอะไรตามลักษณะของไทย ถ้าพูดเล่าดีๆทางเจ้าหน้าที่ไทยน่าจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ได้นะคะ

ส่วนเรืองหย่ายังไงเขาก็เป็นพ่อของลูก ดีเอนเอ ก็พิสูจน์ได้ยังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบ
เราคิดว่ายิ่งคุณมีรูปเที่ยวหรือมีคนอื่นของเขาต้องเก็บอย่างดี มันอาจจะเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องหย่าเพราะอีกฝ่ายนอกใจเรียกค่าเสียหายได้มากก็ได้นะคะ
(ไม่ทราบว่าทางอเมริกาจะมีเรื่องนี้รึเปล่า แต่ดูเหมือนหลายๆที่กรณีนอกใจเรียกค่าเสียหายได้เยอะนะคะ)

เรามองว่าสามีคุณโกหกเพื่อประโยชน์ของตัวเองแบบแย่มาก
ไม่ยอมให้หย่า เพื่ออยู่ไทยได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ยอมเลี้ยงดูเพราะอยากมีคนใหม่
ใช้ความที่คิดว่าคุณไมน่ารู้เรื่องประเทศเขามายกอ้าง คนแบบนี้ต้องเอาให้แรงๆนะคะ

ปล.รอความเห็นท่านต่อไปนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าทนายไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ลองหาทนายใหม่่ดู จากเว็บที่เขาพูดถึงเรื่องการหย่ากับต่างชาติ ดูได้ที่
http://www.lawfirm.in.th/divorce.html
http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=6374
ตอนนี้ก็พยายามเก็บหลักฐาน ความไม่ดีของเขาไว้ เพื่อเอาไปฟ้องศาลไทย ถ้าเขาไม่ยอม
ขอให้โชคดี แล้วตั้งกระทู้บอกความก้าวหน้าด้วยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เก็บหลักฐานให้ดี อย่าสู้คนเดียว ควรปรึกษาทนายโดยเฉพาะทนายทางอเมริกาด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
น่าจะฟ้องค่าเสียหายจากนางผู้หญิงนั่นด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ผช มีเงินมากแค่ไหน จะคุ้มไหม ในกรณีค่าเลี้ยงดูบุตร เพราะถ้าอยากได้ค่าเลี้ยงดูลูก ต้องกลับไปฟ้องที่เมกา ไปอยู่ที่รัฐที่จด จนครบรอบวันที่เขากำหนด แล้วยื่นฟ้อง ขอ sole custody ขอค่าเลี้ยงดูบุตร เมื่อศาลสั่งจ่ายแล้วไม่จ่าย ทีนี้ไปต่อพาสปิร์ต ใบขับขี่ใดๆ ไม่ได้ทั้งนั้น มาฟ้องร้องในเมืองไทยก็เท่านั้น เพราะไม่มีการบังคับเรื่องค่าเลี้ยงดู และบังคับได้เฉพราะราได้ที่มี หรือทรัพย์สินที่มี ในเมืองไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ลองอ่านๆดูครับ
http://www.google.com/search?q=How+to+File+for+Divorce+While+Living+Abroad

กรณีนี้มีเงื่อนไขเยอะพอควร แต่เดี๋ยวคงมีผู้รู้เข้ามาบอก

คคห. 8 จะให้ตั้งกระทู้บอกความก้าวหน้าด้วยคงยาก คนกำลังเดือดร้อนสามีทิ้ง
ลองเปลี่ยนเป็น"คืบหน้า"


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
More..

Q
I'm an American Civilian Living Abroad. Can I Get Divorced?

A
If you are an American civilian living abroad you can get divorced. Divorce decrees issued in
foreign countries are generally recognized by the United States, so long as:

- Both parties to the divorce are given sufficient notice of the proceedings, and
- One party is domiciled in the foreign nation at the time of the divorce. Your domicile is
the state or nation in which you presently live without any immediate intention to leave.


http://www.legalmatch.com/law-library/article/divorce-while-abroad.html


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ตามที่ค้นหามา ใช้เวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน ในเรื่องการหย่าร้างโดยใช้ศาล และถ้าคุณต้องการสินสมรส/สินสอด คุณต้องมีเงินอย่างน้อย 2 % ของยอดที่คุณต้องการไปมัดจำกับศาล คือถ้ายอดทั้งหมดประมาณ 200,000 เหรียญ คุณต้องมีเงินไปมัดจำกับศาล 4,000 เหรียญ ในการดำเนินเรื่อง ลองอ่านที่นี่ดูก็แล้วกัน สำหรับคุณดูจะเป็น Contested Divorce คือฝ่ายชายไม่ยินยอม แต่คุณต้องมี Married Cert. อยู่กับคุณ
http://www.thailawonline.com/en.html
http://isaanlawyers.com/

โชคดีนะครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ช่วยกลับมาเล่าสู่กันฟังบ้าง จะได้เป็นคนความรู้สำหรับคนที่อาจจะมีปัญหาเช่นคุณ หรือคนที่ผ่านมาให้ห้องนี้จะได้ให้คำตอบแก่คนรุ่นต่อๆๆ ไป ได้ถูกต้อง

ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ขอบคุณทุกคนนะคะสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ ตอนนี้เราเข้มแข็งขึ้นเยอะแล้วค่ะ ก็ได้ลูกนี่แหละค่ะ เพราะแค่ดูแลลูกก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว เลยทำให้ไม่มีเวลาที่จะมานั่งเศร้าหรือตรอมใจ (ตอนเกิดเรื่องแรกๆก็แอบอยากเป็นนางเอกมิวสิควีดีโอนะ) ไหนจะต้องเก็บของ ย้ายของ จัดของ และจัดระเบียบชีวิตของตัวเองกับลูก แค่นี้ก็หืดขึ้นคอแล้ว

สามีเราเค้าอยากหย่านะ แต่เค้าไม่อยากดำเนินการใดๆ เพราะความเห็นแก่ตัว ไม่อยากเสียเงินและเวลา ด้านกฏหมายไทยเราพอรู้บ้าง แต่ที่เราไม่แน่ใจคือ เราไม่รู้ว่าถ้าหย่าแล้วจะมีผลบังคับใช้ในอเมริการึเปล่า แล้วเงื่อนไขต่างๆที่มีในการหย่าในเมืองไทย เช่นสิทธิในตัวบุตร จะมีผลบังคับใช้ในอเมริกาเช่นเดียวกับในเมืองไทยหรือไม่ แล้วถ้าต้องกลับไปอเมริกาเพื่อไปหย่า ต้องรอ 90 วันเหมือนที่เค้าอ้างรึเปล่า

เรื่องค่าเลี้ยงดูเราไม่ซีเรียสเลย ที่ต้องการเรียกร้องก็เพื่อให้เค้าแสดงความรับผิดชอบบ้าง แต่ ณ จุดนี้ บอกได้เลยว่าไม่เคยคาดหวังอะไรจากผู้ชายคนนี้ อีกอย่างเค้าก็มีหนี้กู้ยืมเรียนที่อเมริกา รวมถึงหนี้อื่นๆอีกเกือบ $50,000 ซึ่งเค้าคงไม่มีปัญญาใช้ นอกจากรอสมบัติที่พ่อแม่จะให้เพื่อเอาไปใช้หนี้(ข้อนี้เค้าบอกเราเองนานมาแล้ว) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

จริงๆตอนแรกเค้าไม่ใส่ใจอะไรเลย ให้ทนายพยายามติดตามความคืบหน้าเค้าก็อ้างว่ากำลังหาทนายอยู่ จนเมื่อเร็วๆนี้พี่เราเค้าเข้าไปหาหัวหน้าของสามีเราพร้อมหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของเค้ากับผู้หญิงคนนั้นที่เราจ้างนักสืบให้ติดตาม แล้วหัวหน้าเค้าคงเรียกเค้าเข้าไปคุยเพราะหลังจากนั้นเค้าก็รีบติดต่อกลับมาที่ทนายเราแล้วบอกว่าเค้าต้องการจะเจรจา

ที่เราอยากตัดขาดจากเค้าโดยสิ้นเชิงเพราะเราไม่อยากให้เค้าใช้ช่องโหว่ตรงนี้มาใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้ตัวเค้าเองในอนาคต ถึงแม้ตัวเราเองตอนนี้ไม่มีอะไร แต่ครอบครัวเราก็มีเก็บมีสร้างไว้ให้เรากับลูกไม่น้อยเหมือนกัน

ถ้ามีใครทราบเกี่ยวกับกฏหมายของ Saint Louis, MO ในเรื่องการหย่าที่พอจะให้คำแนะนำเราได้ เราจะขอบคุณเป็นอย่างมาก ที่เราเข้ามาขอความช่วยเหลือจากทุกคนในที่นี้เพราะเราไม่อยากให้พี่เราหรือครอบครัวเราต้องสิ้นเปลืองเพราะเรื่องนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว แค่จุนเจือเรากับลูกทุกวันนี้ก็มากพอแล้ว เราไม่อยากให้เค้าต้องเอาเวลา เงิน และ สมอง มาต่อสู้กับผู้ชายเห็นแก่ตัวที่ขาดความรับผิดชอบอีก

เราจะพยายามอัพเดตเรื่องของเรานะคะ แต่คงทำได้ไม่บ่อยนักเพราะเราไม่ค่อยมีเวลา

ขอบคุณทุกคนมากนะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
สงสัยในใจว่า ผู้หญิงคนนั้นทำใจคบกับผู้ชายคนนั้นต่อไปได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่าเค้ามีลูกมีเมียแล้ว เคยเจอมาเหมือนกันฝรั่งที่มาทำงานเมืองไทย มีลูกมีเมียรออยู่ต่างประเทศ บอกว่าอยากหาผู้หญิงไทยดีๆ มาเป็นเมีย โว๊ะ! ตาคนนี้ อืมม คงจะเจอหรอกนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
คุณ : กุละเซ็ง เรื่องนี้พูดยากมากครับ
รู้จักฝรั่งมารับราชการฝรั่งในเมืองไทยคนหนึ่ง ลูกเมียอยู่อเมริกาใต้ มาถึงก็มีเมียไทยเลย มีจริงๆไม่ใช่ประเภทร่อนเร่ฉายฉวย ส่งรูปมาอวดผมด้วย สวยดี อยู่กันมาสี่ปีแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
Out of Sight, Out of Mind. ไกลตาก็ไกลใจ ที่อยู่ใกล้ๆยังดอดไปมีใหม่ออกถมเถ
น่ากลัวมากค่ะ ผู้ชายที่มีพันธะอยู่แล้ว แต่พอห่างไกลลูกเมียก็ไปมีใหม่ ทำคนอื่นเจ็บช้ำน้ำใจ
อิฉันเคยเจอกับตัว แบบมารู้ทีหลังทั้งนั้น คนแรกมีแฟนแล้ว คนที่สองมีลูกแล้วเมียก็คงอยู่ล่ะ
อยู่ดีๆเกือบกลายเป็น home wrecker แบบไม่รู้ตัว ส่วนผู้ชายแมร่งลอยตัวเหนือความผิด
ผู้หญิงเองที่ไม่เลิกราเมื่อรู้ว่าผู้ชายเขามีเมียมีลูกอยู่แล้ว ก็ผีเน่ากับโลงผุ เสมอกันด้วยความชั่ว
ไม่รักเขาแล้วก็ควรเลิกความสัมพันธ์เสียให้เรียบร้อย ไม่ใช่ไปทั้งๆที่ไม่สะสางอะไรให้เสร็จสิ้น



ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ฝรั่งที่มาราชการฝรั่งคงจะใกล้ย้ายกับแล้วกระมังคะคุณอิสวาสุ ต้องรอดูว่าภรรยาไทยจะกลับไปด้วยหรือเปล่า

คุณ จขกท. ตั้งสติดีแล้ว ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ ใจเย็นๆ หาข้อมูลให้รอบด้าน เพื่อนำมาคิดให้รอบคอบ คุรเองอาจไม่แคร์อะไร แต่สิทธิของลูกต้องครบนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
คุณ : แม่ขา (แม่ขา) อาจจะกลับมาด้วยครับ เพราะภรรยาเก่ากับลูกซึ่งร่ำรวยยังอยู่อเมริกาใต้ ผู้ชายค่อนข้างจะเป็นประเภทที่เปลืองมะนาว แต่รักลูกมาก เตรียมโรงเรียนที่เมืองไทยไว้เสร็จ
เฮ้อ มานั่งนินทาเด็กอยู่ได้ เขายังเด็กๆอยู่นะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
อ่านเรี่องที่คุณมีสามีเลวแบบนี้แล้ว ก็ไม่ต่างจากฉันหลอกค่ะ สามีเป็นคนอเมริกันเหมือนกันทำงานอยู่ในสถานทุตอเมริกา ในเมื่องไทยฝ่ายดูแลความปลอดภัยต่อสถานทูต อยู่ด้วยกันมา18ปี จดทะเบียนมา 9ปีมีลูกอายุ14ปีเขาทำชั่วเลวมาแล้ว4ปีกว่าเอาผู้หญิงไปทั้วทุกที่เขาไปทำงานล่าสุดจับได้เมื่อ มิถุนายน คริปวีดีโอเซ็กกับผู้หญิงที่แอบติดต่อกันมาตลอด 4ปี จะขอหย่ากับฉัน ฉันยอมไม่ได้มันง่ายเกินไปกับผู้ชายประเภทนี้ และยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่เข้ากำลังหาจับและหลอกเอาเงิน และเพื่อความไคร้ และก็ผู้หญิงอีกหลายคนที่คิดอยากจับเขาไปเป็นสามีเพราะคิดว่าทำงานในสถานทูตผู้ชายมีเงินเยอะ [คิดแล้วเสียใจแทนผู้หญิงที่โดนสามีฉันหลอกเอาเงินมาไช้ 5 แสนบาท รถมอไซร์1คัน ทองอีก 2บาทค่าโรงแรมๆๆอีกหลายอย่าง ] คงเป็นเพราะบดบาดเรื่องบนเตียงเขาดีมั่งผู้หญิงไทยที่มีเงินถึงยอมทุ้มได้ขนาดนี้เอาเงินที่หามาได้เลื้ยงพ่อแม่เราดีกว่าอย่าหลงผัวคนอื่นเขาเลยนะคุณผูัหญิงทั้งหลาย แต่ฉันจำยอมทนอีกหน่อย ให้ครบหนด 10ปีแล้วถีงจะยอมหย่าให้เพื่อทำให้ครึ่งหนึ่งของชีวิตมันที่หามาได้มันตอ้งเป็นผู้รับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำไว้ สู้สู้นะอย่าปล่อยไห้คนชั่วลอยนวนทั้งหญิงทั้งชาย ทำไห้เขารู้ว่าอย่าเล่นกับไฟไหม้แบบไม่รู้ตัว แค้นสุดๆๆ
ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
มีความรู้เรื่องกฎหมายของรัฐนี้ครับ ไม่แน่ใจว่ายังต้องการความช่วยเหลืออยู่ไหม ยังไงเมลล์มาแล้วกันครับ [email protected]
ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ สามีเป็นอเมริกันเหมือนกัน คิดอยากจะทิ้งออกไปจากบ้านเค้าก็ไปโดยไม่สนใจเรากะลูกเหมือนกัน ไปหลาย ๆเดือนก็กลับมา เป้นแบบนี้มา 3-4 ครั้ง แล้ว คิดว่าจะไม่ทนแล้วค่ะ แต่งงานมา 7 ปี มีลูก 3 ขวบ คนหนึ่ง ไม่เคยส่งเสียใด ๆ ทั้งสิ้น ออกไปจากบ้าน ก็ไปหาผู้หญิงใหม่ สงสารก็สงสารผู้หญิงใหม่ที่ไม่รู้เรื่องเพราะเค้าไม่เอาใครจริง ๆ เลย และไม่คิดจะเลี้ยงดู เพราะลูกมันยังไม่เลี้ยงเลย

เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะของเรายังไม่รู้จะไปต่อยังไงเหมือนกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 23