เจ้าถิ่นนำเที่ยว (แบ่งปันข้อมูลอัพเดท การชมจุดไฮไลท์ ๔๐ แห่ง แคลิฟอร์เนียเหนือ)



สวัสดีค่ะ ขอนำเสนอรายละเอียดจากประสบการณ์ใหม่สุด
ของการเดินทางท่องเที่ยว ในเขตอ่าวซานฟรานฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเดินทางนับล้านๆคนได้บันทึกทั้งภาพถ่ายทิวทัศน์สวยงามรอบอ่าวนี้ SFO Bay
และเรื่องเล่าสนุกสนานมากมาย ตลอดจนทำสไลด์ หรือเขียนรีวิวถ่ายทอดความทรงจำที่แสนประทับใจให้กับคนอื่นๆได้จินตนาการตามไปด้วย

ได้รวบรวมรายละเอียด สำหรับนักเดินทางหรือผู้สนใจที่มีคำถามว่า
หากมีเวลาสั้นๆ มาอยู่ถิ่นซานฟรานฯ สัก ๖ วัน ๕ คืนเท่านั้น
จะกำหนดทิศทาง ที่พัก และจุดท่องเที่ยวอย่างไร
ให้ได้รับทั้งความสะดวก ประหยัด ปลอดภัย อิ่ม อร่อย เพลิดเพลิน
ได้ความรู้ และได้ทำบุญสร้างกุศลานิสงส์เพิ่มไว้ค่ะ

ก่อนอื่น ควรค้นคว้าข้อมูล เริ่มที่ทำความเข้าใจสภาพภูมิทัศน์และอาณาเขตแวดล้อมของท้องถิ่นนี้ จัดจองที่พักในจุดที่ไปได้สะดวกในทุกทิศ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า ใกล้ๆกับสนามบินนานาชาติซานฟรานฯ เมืองที่เป็นแหล่งโรงแรมชั้นดี ได้แก่เบอร์ลิ่มเกม ซึ่งอยู่ติดชายน้ำ ริมอ่าวเขตใน
สภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนี้ เป็นอ่าวกว้าง มีเมืองต่างๆตั้งเรียงราย
ทั้งริมฝั่ง บนเขา โดยรอบมีสะพานหลัก ๕ สายเชื่อมแผ่นดินให้ประสานกัน

ในเขตพื้นที่ริมหน้าผามหาสมุทร มีถนนสายหลักวนโค้งไปในจุดทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียง ส่วนพื้นที่ในแผ่นดินมีทั้งภูเขา บึงน้ำ และสวนป่าธรรมชาติ
ทางหลวงสายหลัก ตัดผ่านเมืองใหญ่ๆในเขตเพนนินซูล่า
ซึ่งเป็นที่ตั้งเขตชุมชน ประกอบด้วยศูนย์การค้า ย่านธุรกิจ เทคโนโลยี่ แยกเขตที่พักอาศัย ผังเมืองมีระเบียบ เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และมีระบบการคมนาคมสะดวกสบาย ดังนั้นหากจัดแผนการเที่ยวอย่างถูกต้อง
ไม่วกวน จะชมได้กว่า ๔๐ จุด

ในกรณีนี้ ขอบรรยายฉากการท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่เดินทางมาเพื่อพบปะมิตรสหาย และจองที่พักอยู่ที่โรงแรมริมชายน้ำแห่งหนึ่ง
ของเมืองเบอร์ลิ่งเกม Burlingame, California

ในวันแรกที่มาถึงที่นี่ หลังจากถึงสนามบินซานฟรานฯในช่วงก่อน ๑๐ นาฬิกา เข้าที่พัก เตรียมตัวให้สดชื่น สำหรับเข้าไปเที่ยวเล่นในตัวนครซานฟรานฯ

ก่อนเที่ยง มุ่งหน้าไปสู่ถนน Embarcadero สายหลักของนักท่องเที่ย
วริมท่าเรือ ๓๙

ขอแนะนำให้จอดยานพาหนะในอาคารจอดรถ แล้วเดินข้ามสะพานคนเดิน

สู่ Pier 39 จะได้เห็นทัศนียภาพสิบทิศและบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวแบบเต็มๆตา ว่ามีอะไรบ้าง จากมุมสูง ภาพที่เห็นฉากหลังคืออาคารตึกระฟ้าและหอคอยยอดภู

ส่วนทิศทางตรงกันข้าม คือ ท่าเรือ มองไปกลางทะเลสีครามคือเกาะอัลคาทรัซ อันมีชื่อเสียงโด่งดังในภาพยนตร์ รอบๆบริเวณนี้ คือร้านรวง ริมฝั่งและท่าเรือ

มีเรือสำราญจอดอยู่จำนวนมาก และด้านปลายสุดของอาคารซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านขายของที่ระลึก คือท่าแพที่เป็นถิ่นสิงโตทะเล ขึ้นมานอนอาบแดดเป็นหมู่ใหญ่

ท่าเรือแห่งนี้อยู่กลางแจ้ง จึงมีทั้งแสงแดดและกระแสลมพัดมาเย็นๆ อาจรู้สึกหนาว สำหรับผู้มาเยือนที่ไม่คุ้นเคย จึงควรสวมหมวกและเสื้อแจ๊กเก็ตกันลมด้วยค่ะ

ตลอดระเบียงของห้างร้านต่างๆ ตกแต่งด้วยกระถางดอกไม้สีสันสวยงาม
มีเก้าอี้ให้นั่งพัก และบริการห้องน้ำสาธารณะ ท่ามกลางฝูงชนจำนวนนับพันๆคนหนาแน่น

เราจะพาเจาะเข้าไป รับประทานซุปหอยแสนอร่อย SF Clam Chowders เรียกว่า มาถึงถิ่น ต้องลิ้มรสให้รู้ว่าเป็นอย่างไร หรือสนใจอาหารทะเล ปลาปูกุ้งมีให้สั่งได้ทุกชนิด

คนที่ชอบแซนวิชไก่กับมันทอดกรอบ สามารถสั่งได้พร้อมเครื่องดื่ม ในราคานักท่องเที่ยว เตรียมไว้ประมาณ ยี่สิบห้าเหรียญดอลล่าร์ สำหรับมื้อกลางวันง่ายๆค่ะ

ในเขตนี้ มีร้านขนมหวาน เบเกอรี่ กาแฟ ช้อคโกแล้ต คุ้กกี่มิสซิสฟิลด์ และไอศครีมยี่ห้อดังเช่นไดรเยอร์ส ให้เรียกน้ำย่อย ระหว่างการเดินช้อปปิ้งของที่ระลึกต่างๆ

หรือจะนั่งโต๊ะสั่งปูปลากุ้งตัวใหญ่ๆมาทาน ชมบรรยากาศคนเดินก็แล้วแต่อัธยาศัย ไม่ไกลจากร้านอาหารทะเล มีซุ้มจำหน่ายผลไม้สตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่ๆ ให้จุ่มช้อคโกแล้ตหวานๆ

นักท่องเที่ยว จะได้รับความเพลิดเพลินทั้งสนุกกับการเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ทั้งซ้ายขวา สินค้าล้วนน่าสนใจ อาทิเช่น เครื่องแขวนห้อย รูปสัตว์ทะเล เต่า ปู ปลา ปลาหมึก สิงโตทะเล

แมวน้ำ และสินค้าสัญลักษณ์ซาน ฟรานฯ เช่นรถราง สะพานโกลเด้นเกท พวงกุญแจน่ารักที่สลักคำว่า San Francisco, California เป็นต้น ซึ่งเป็นถิ่นที่สินค้าราคานักเดินทางนะคะ

นอกจากนี้ จะมีร้านจำหน่ายเสื้อลายที่ระลึกเกาะอัลคาทรัซ และสรรพสินค้าต่างๆที่ล่อตาล่อใจ ให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักต้องควักจ่ายหลายร้อยดอลล่าร์ เพื่อความสุขเล็กๆน้อยๆ

ซึ่งหากไม่คำนึงถึงราคาสินค้า เน้นที่บรรยากาศของท่าเรือแห่งน้ สิ่งที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่าที่ได้มาเยือน ก็คือ มองไปรอบๆ จะพบแต่ภาพของคนที่มีความสุขใจ ใช้ชีวิตอย่างแสนสำราญ

ท่ามกลางอาณาจักรนักเดินทางแห่งนี้ เมื่อได้ไปบันทึกภาพของสิงโตทะเลเจ้าถิ่น ได้ยินเสียงรอบๆเป็นภาษาสากลและเห็นผู้คนนานาชาติ สูดลมเย็นๆ นี่แหละคือ ซานฟรานฯ ขนานแท้

ส่วนใครจะหิ้วของฝากมากน้อยเพียงไร กลับไปจากสถานที่นี้ ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ของปัจเจกบุคคล กล่าวกันว่า ถ้ามาถึงท่าเรือ ๓๙ แล้วกลับมือเปล่า ท่านจะเสียดายไม่หายเลยเชียว

อย่างน้อยก็ต้องมีขนมหรือช้อคโกแล้ต ในกล่องรถรางสักชิ้น สร้อยข้อมือรูปแมวน้ำ เข็มกลัดชิ้นเล็กๆที่เป็นรูปสิงโตทะเล นกนางนวล หรือหมวกสักใบ ที่จารึกว่า ไอ เลิฟ เอส เอฟ ก็ยังดีค่ะ

ก่อนออกจากบริเวณท่องเที่ยว ตรวจตราดูทรัพย์สินส่วนตน ว่าไม่ได้หลงลืมสิ่งใด ในระหว่างที่หมุนไปมาเพลินกับการชมสินค้าหรือการมองดูผู้คนจนลืมเวลาไปไม่น้อยกว่า ๒ ชั่วโมงเต็ม

อัตราค่าจอดรถ เรียกว่าสมเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อลือชา ยี่สิบห้าดอลล่าร์เตรียมไว้สำหรับช่วงเวลาที่ได้รับบริการครบสูตรในการท่องเที่ยว ณ ท่าเรือ ๓๙ แห่งอ่าวซานฟรานฯนะคะ




สถานที่ต่อมา ไม่ไกลจากท่าเรือ ๓๙ คือ Ghirardelli Square ถ้าโชคดีมีที่จอดริมถนน กรุณาคำนวณให้เหมาะว่าจะจอดนานเท่าไร ในระหว่างนั่งรับประทานไอศครีมชื่อดังแสนอร่อย

ประมาณว่า ๑ ชั่วโมง ไม่เร่งรีบ เพราะกว่าจะได้ของตามสั่ง ต้องถือป้ายรอหมายเลขสองร้อยห้าสิบกว่า ต่อไปถึงสามร้อยกว่าทีเดียว ในช่วงบ่ายต้นๆ ที่นี่เป็นโรงงานผลิตช้อคโกแล้ตเก่แก่

มีให้เลือกซื้ออย่างจุใจ ซึ่งช่วงโพรโมชั่นสินค้า ช้อคโกแล้ตบางรสที่ออกมาใหม่ ซื้อสามแถมหนึ่ง มีพนักงานแจกให้ชิมฟรีหนึ่งสแควร์เล็กๆ เป็นบรรณาการในการไปเยี่ยมชมร้านด้วยค่ะ

ขอกระซิบบอกว่า เครื่องดื่มช้อคโกแลตร้อนผสมนมที่นี่ อร่อยมากจริงๆ นักท่องเที่ยวมาซานฟรานฯเป็นครั้งแรก ควรจะได้ไปสัมผัสบรรยากาศและทานสตรอว์เบอรร์รี่หุ้มช้อคโกแล้ตที่นี่

ค่าขนมไอศครีมและของฝาก รวมๆแล้วก็อยู่ที่ห้าสิบดอลล่าร์ เป็นอย่างต่ำสุด แต่ได้รับความประทับใจแน่นอน อาเขตของอาคารช้อกโกแล้ต มีบ่อน้ำประดับรูปปั้นตั้งอยู่กลางลานด้านนอก

เป็นที่นั่งพัก ทานไอศครีม คู่รักเดินจูงมือกันมาไม่ขาดสาย ริมถนนมีรถแล่นผ่านอย่างน่าตืนตาตื่นใจตลอดเวลา เรียกได้ว่า เป็นศูนย์ช้อคโกแล้ตที่มีชีวิตชีวามากที่สุดแห่งหนึ่งของนครซานฟรานฯ



ออกจากย่านศูนย์การค้าทั้งสองแห่งข้างต้น มุ่งหน้าไปข้ามสะพานโกลเด้นเกทในยามบ่ายคล้อย ได้เห็นทิวทัศน์รอบๆและจุดหยุดชมสะพาน ซึ่งมีผู้เดินทางมาบันทึกภาพสะพานนี้ Golden Gate Bridge มากที่สุดในโลก

จะเลือกจอดฝั่งซานฟรานฯ หรือว่าจะข้ามสะพานไปจอดที่หน้าผาอีกฟากหนึ่ง ก็ถือว่ามาถึงโกลเด้นเกทค่ะ ในทริปนี้ เราข้ามสะพานไปที่จุดที่เห็นโค้งกระโดงสะพานทองเต็มภาพ งดงามกระจ่างตา

ลมหนาวเย็นยะเยือกพัดมา อาจทำให้หมวกใบเบาๆหลุดลอยหรือผ้าพันคอผืนบางๆปลิวไปกับกระแสลมได้ ควรระมัดระวังอ และในขณะถ่ายภาพ อย่าปีนขอบกำแพงออกนอกเขตรั้วที่กั้นไว้เด็ดขาด

ฝูงชนที่ไปเยือนจุดนี้ ช่วงสุดสัปดาห์มีวันละเป็นหมื่นเป็นแสนคนเลยทีเดียว ต้องรอจังหวะจอดรถ และผลัดเปลี่ยนให้นักเดินทางกลุ่มอื่นๆได้บันทึกภาพกับ Golden Gate Bridge เป็นที่ระลึกของทุกคน



สำหรับเจ้าถิ่น เมื่อมาถึงเขตนี้ ต้องวกออกไปที่เมือง Sausalito ขับรถวนเลาะชายน้ำ จอดชมทิวทัศน์หรือเดินเล่นตามร้านค้า สินค้ายี่ห้อและหรือรับประทานอาหารทะเล แล้วแต่เวลาที่เหลือของวัน

ถ้ามีเวลาไม่มาก ขับชมเมืองแล้ววกกลับขึ้นไปบนยอดเขาฝั่ง Marin เป็นจุดที่มองเห็นความงดงามอลังการของผืนฟ้า ภูผา มหาสมุทร ยอดเขา เหนือกระโดงแดงของสะพานโกลเด้นเกทและตัวเมือง

ซึ่งมองเห็นภาพรวม ของตึกอาคารทั้งหมด ที่เป็นเหมือนเกาะเมืองติดชายฝั่ง แผ่นน้ำสีครามเข้ม มีเรือสินค้าลำใหญ่แล่นผ่านเข้ามาในฉาก รวมทั้งเรือใบสีขาวประปราย คล้ายกับภาพวาดของศิลปินดังๆ

จากยอดเขาจุดที่สูงสุดฝั่งนี้ มองไปอีกทางก็จะเห็นโค้งฟ้าและเทือกเขาที่ล้อมกรอบเขตอ่าวซานฟรานฯ ในยามสายัณหกาล ตะวันยอแสงลงมา เป็นเกล็ดสีเงินระยิบระยับเหนือผืนน้ำสวยงามจับตาจริงๆ

ความประทับใจสำหรับนักเดินทางมาเยือนแผ่นดินอเมริกาเหนือ
ฝั่งแปซิค คงไม่ต้องบรรยาย ความสุขในช่วงเวลาที่ยืนชมแสงตะวันส่องสะพานโกลเด้นเกท ไม่อาจหาซื้อได้จากที่อื่นทั่วๆไปอย่างแน่นอน

แม้นว่ามองจากภาพในเน็ท หรือจากแผ่นโพสคาร์ด ก็ไม่เท่าสายตาที่ได้มามองเห็นเอง จะได้ทราบว่า โชคดีที่มีชีวิตอยู่ มีลมหายใจได้ชื่นชมมุมหนึ่งของโลก ที่สวยงาม เพิ่มกำลังใจให้กับตนเองต่อไป ค่ะ

เนื่องจากเข้าสู่ยามเย็นแล้ว หลังจากได้แฝงตัวไปกับกระแสมนุษย์นักเดินทาง เราจัดพาให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสอยู่กับโลกส่วนตัวสักเล็กน้อย ขับกลับข้ามโกลเด้นเกท มาสู่พาเลซออฟไฟน์อาร์ทส์
Palace of Fine Arts เป็นอาณาจักรสถาปัตยกรรมกรีกโบราณที่ขึ้นชื่อ มีบึงน้ำกว้าง ที่ครอบครัวหงส์ลงลอยเล่นน้ำอยู่ กับฝูงนกนางนวล และเป็ดน้ำที่อาศัยร่มเงาของพฤกษาใหญ่น้อยเป็นที่หล่อเลี้ยงชีวิต

ทริปนี้ โชคดีที่ได้เห็นหงส์พ่อแม่และลูกเล็กๆถึง ๖ ตัว ลอยเข้ามาเลนกับเด็กเล็กๆ เป็นภาพธรรมชาติที่น่ารักมาก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในเทพนิยายที่มีแต่ความรื่นรมย์ใจ
หากเป็นไปได้ อยากให้ได้หยุดมองฝูงนกบินร่อนอย่างเสรี เหนือธารน้ำ ซึ่งมีน้ำพุอยู่กลางสระ เวลายามเย็นประมาณ ๑๘ นาฬิกาเศษ ลมพัดกิ่งไม้ไกว เห็นหงส์ลอยในสระอย่างสงบ ผู้คนไม่ขวักไขว่

ทิวากาลใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว แม่หงส์พาลูกกินจอกแหน ริมขอบสระแล้วค่อยๆลอยตัวห่างออกไปในประกายแสงตะวันที่ส่องผ่านโค้งอาคารโรมันสถาน มายังผืนน้ำที่โอบล้อมด้วยต้นไม้แผ่เงาอันร่มครึ้ม

จุดนี้คือเสน่ห์กลางนครซานฟรานฯ เมืองท่องเที่ยวโอฬารตระการตา เหมือนกับว่าเป็นโลกอารยะแห่งวัตถุนิยม หากแต่มีสวนน้ำอันร่มเย็น เป็นสุนทรียภาพของธรรมชาติที่ไม่อาจหาวัตถุใดมาแลกได้เลย



Twin Peaks เป็นเป้าหมายสุดท้ายสำหรับวันอันยาวนาน ประมาณทุ่มเศษ ถึงเวลา ๒๐ นาฬิกา ช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก นั้นจะได้เห็นอาณาจักรตึกระฟ้าของมหานครซานฟรานฯในแสงตะวันสุดท้าย
มีผู้คนไม่น้อย ที่ชอบขึ้นไปที่จุดยอดเขาแฝด เพื่อจะมองดูทิวทัศน์โดยรอบ และเห็นไกลไปถึงยอดเขา Mt.Diablo ที่ขลิบฟ้าลิบๆตา จับเส้นทางถนนมาร์เก็ตจะเห็นอีกส่วนของเมืองที่เป็นรมณียสถานยามราตรี
บนยอดเขาทวินพีค ยังคงมีกระแสลมหนาวเย็นยะเยือก แม้จะเป็นช่วงต้นฤดูร้อนก็ตาม แต่ความงามของภาพเมืองที่ปรากฏให้เห็นทำให้ลืมความเย็นเฉียบนั้นไปได้ มองไปในเขตเมืองจะเห็นตึกสูงๆทั้งหมด

หากมีเวลาชื่นชม ณ ยอดเขานี้ สักประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็จะได้รับความรู้และทราบทิศทางที่ตั้งของอาคารต่างๆ กลางใจเมืองและมองไปได้ไกลเห็นสะพานข้ามฝั่งไปยังทิศทางรอบๆของซานฟรานฯซิตี้ครบ

ใกล้จบวันแรก เรานำผู้มาเยือน มาทานอาหารมื้อค่ำ ในบรรยากาศแบบไทยๆ ที่ร้านไทยนคร ซานบรูโน่ ทานข้าวหอมร้อนๆกับกุ้งทอดกระเทียม สะเต๊ะและแกงเขียวหวานไก่ รสชาติอร่อย เป็นที่พอใจ หายเหนื่อยได้

ราคาอาหารไทย หากสั่งมาประมาณสี่อย่าง ก็จะอยู่ประมาณ สี่สิบดอลล่าร์ ไม่แพงเกินไปสำหรับนักท่องเที่ยว และได้บรรยากาศของการเที่ยวแบบไทยๆในต่างแดน พูดคุยสนทนากันได้ทุกเรื่อง ในกลุ่มเพื่อนสนิทค่ะ

บังเอิญว่า คืนนั้นพระจันทร์เต็มดวง ตรงกับวันวิสาขบูชา จึงได้เลี้ยวเข้าไปกราบนมัสการพระพุทธชืนราชจำลอง และนมัสการพระครูวรสิทธิวิเทศ ณ วัดพุทธประทีป เป็นสิริมงคลในการเดินทางเที่ยวซานฟรานฯด้วย

กราบขอบพระคุณอาจารย์ท่านสิทธิพร ที่ได้กรุณามอบน้ำมนต์มาคนละขวด พร้อมด้วยซีดีธรรมะหลายแผ่น เป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับคนไทยที่เดินทางมากราบพระธรรมทูต ต่างบ้านต่างเมือง ได้เห็นวัดพุทธในท้องที่นี้

และกลับเข้าที่พักในเขตเมืองเบอร์ลิ่งเกม ไม่ดีกจนเกินไป เพื่อพักผ่อนและเตรียมเดินทางสำหรับวันรุ่งขึ้น นี่คือประโยชน์ของการพักในเมืองใจกลาง ของย่านท่องเที่ยวต่างๆ เป็นจุดบรรจบของการเดินทางที่สมบูรณ์ดี



ความคิดเห็นที่ 1
ต่อค่ะ



วันที่สอง ของการเดินทาง ตามแผนเดิมจะชมเมืองต่อ เพราะมีจุดอื่นๆที่ควรไปเยือน แต่เนื่องจากมีพายุฝนเข้ามาคลุมบริเวณชายฝั่ง เราจึงขับหนีฝนขึ้นไปทางเมืองเดวิส Davis และเที่ยวเมืองหลวง Sacramento

การเดินทางแบบสบายๆไม่เร่งรีบ จะเห็นทิวทัศน์ถิ่นเกษตรกรรม พื้นที่ปลูกผลผลิตพืชผักผลไม้ ขับข้ามแม่น้ำซาคราเมนโต้ ชมทัศนียภาพอีกฉากหนึ่ง และไปให้ถึงState Capitol อาคารโดมรัฐสภาใจกลางซาคราเมนโต้

นักประวัติศาสตร์การเมืองและนักวิชาการ หรือคนทั่วไปก็ดี ย่อมรู้สึกตะลึงกับจิตรกรรมและศิลปกรรมภายในอาคารสถานที่ พร้อมกับเอกสารที่ให้สาระความรู้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่า เป็นการเดินทางแบบแสวงสาระสุดยอด

ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมงแน่นอน ทั้งการเดินขั้นบันได หรือลิฟต์ชั้นใน ไปยังห้องประชุม (ห้ามใช้แสงแฟลช) และการบันทึกภาพจากด้านนอก บริเวณสนาม เห็นสถาปัตยกรรมอย่างชัดเจน ล้อมรอบด้วยสนแคลิฟอร์เนีย

นอกจากนี้ ยังมีเวลาได้แวะซุ้มผลไม้ ยกลังส้มสุกฉ่ำๆกลับมาด้วย เมืองมหาวิทยาลัย UC Davis มีอาณาเขตมหาศาล ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ตัวเมืองมีร้านค้ารูปทรงน่ารัก ให้พักผ่อนหย่อนใจ เดินเล่น และทานขนมหวาน

ที่ Ciocolat, Davis ร้านขนมเบเกอรี่และเครื่องดื่มกาแฟ
ช้อคโกแล้ตร้อนๆ ร้านตกแต่งแบบสไตล์กึ่งยุโรปคันทรี่ เรือนกระจก ประดับระเบียงริมสวน โต๊ะประดับแจกันดอกไม้ ที่นั่งสองหรือสามคน
แวะชิมขนมปิรามิดสีขาว

เป็นบรรยากาศการเดินทางที่ตรงกับศัพท์รีแล็กซิ่งทาม อร่อยผัดไทยกุ้ง ส้มตำและลาบไก่ที่ร้านไทยแคนทีน *ไม่ได้โฆษณา เป็นการเล่าถึงเท่านั้น

ช่วงเวลาของการผ่อนคลายความตึงเครียด ไม่มีอะไรให้เก็บมากังวล
เป็นการใช้ชีวิตอย่างเพลินๆ ตกบ่าย เดินย่อยในสวนป่า ชมดอกไม้นานาพันธุ์ เช่นซุ้มยี่โถสีขาวและชมพูอ่อน ริมธาร บรรยากาศสำหรับเดินออกกำลัง ถนนตัดวนผ่านธรรมชาติป่าเล็กๆ ชมนกชมไม้

นี่คือเสน่ห์ของแคลิฟอร์เนียเหนือ คือสภาพแวดล้อมร่มรื่น อยู่ติดกับเมืองใหญ่ๆ ผู้มาเยือนจะได้รับความสุขทางใจ และสาระประโยชน์มากน้อยเพียงใด ขึ้นกับว่าผู้นำทางจะเข้าใจการดำเนินชีวิตในท้องที อย่างให้เกิดสมดุลมากน้อยเพียงไหน ไม่หนักไปในเชิงเที่ยวย่านธุรกิจและไม่หน่วงจนลืมธรรมชาติ การเดินทางออกนอกเมือง ต้องคำนวณช่วงจราจรคับคั่ง ไปกลับเผื่อเวลาไว้ ราว ๔ ชั่วโมง ที่เหลือจากนี้เป็นเวลาอิสระ สามารถเลือกได้ว่าจะทำอะไร และกลับมาเข้าที่พักประมาณ ๒๑ นาฬิกา ไม่ให้เหนื่อยมากเกินควรค่ะ

มื้อค่ำ ยังกลับมาทันร้านอาหารของโรงแรมในละแวกที่พัก หรือจะเลือกเปลี่ยนเป็นอาหารอเมริกันสไตล์ตามด้วยผลไม้ต่างๆหรือขนมขบเคี้ยวอื่นๆ ซึ่งหาซื้อได้จากแหล่งจำหน่ายทั่วไปในตัวเมืองที่ทันสมัย





วันที่สาม ถ้าเป็นวันท้องฟ้ากระจ่างใส ขอแนะนำให้จัดรายการให้ไปชม สวนกุหลาบ San Jose Roses Garden ซึ่งเปิดตั้งแต่ ๘ นาฬิกา เพราะอาณาเขตหลายไร่ อุดมไปด้วยกุหลาบเจ็ดสี อันได้แก่

สีขาว สีม่วง สีส้ม สีเหลือง สีแดง สีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม และสีผสมต่างๆ หลากหลายชนิดนานาพันธุ์ ผลิบานตั้งแต่เดือนเมษายนเรื่อยมา และยังคงงดงามคลี่กลีบสดในในแสงสว่างเจิดจ้าของเดือนมิถุนายนนี้

โดยใช้เวลาช่วงสายๆของวัน ชื่นชมความหอมของหมู่มวลกุหลาบ ล้อมลานน้ำพุสีฟ้าใส ช่างภาพจะได้มุมมองของช่อกุหลาบตัดกับปุยเมฆขาวและผืนฟ้า ใสๆ อีกทั้งภาพแมลงผึ้งบินมาดูดดมเกสรอันหอมหวานด้วย

หากต้องการทราบชื่อพันธุ์ดอกไม้ ให้มองป้ายที่ปักบอกไว้เป็นหมวดหมู่ หรือจากแผนที่แผ่นพับริมซุ้มทางเข้า เพราะสวนกุหลาบแห่งนี้ได้รางวัลขึ้นชื่อว่าเป็นสวนกุหลาบที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐเมริกาทีเดียว

ยืนยันค่ะ ว่าเป็นเหมือนกับแดนสวรรค์ สำหรับคนที่รักดอกไม้หอมๆสวยๆ
คุณจะเพลิน เจริญตาเจริญใจ จนลืมไปว่าเวลาผ่านไปนับชั่วโมงในสวนนี้

สำหรับนักเที่ยวที่รักธรรมชาติ และมีความสุขกับสิ่งที่ซื้อด้วยเงินไม่ได้
หรือผู้ที่ออกแนวโรแมนติค อย่าพลาดชม ชื่อดอกไม้นานาชนิดที่มีเสน่ห์
ต่อจากนั้น มื้อกลางวันอาจนำอาหารไปปิคนิคในสวนกุหลาบ และไปดื่มกาแฟ ทานไอศครีมที่ The Great Mall เมือง Milpitas ใช้เวลาช่วงบ่าย เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง เช่นที่ห้าง Coach ซึ่งลดราคาอย่างสุดเหวี่ยง
(เพื่อนคนไทยที่มาด้วยกัน ได้ของถูกใจลดราคา คุณภาพดีกลับไปสมใจ)

รวมทั้งห้างสรรพสินค้า Outlet แบรนด์เนมยี่ห้อดังอื่นๆ รายการเที่ยวชมในเขต Silicon Valley สามารถเลือกได้หลายๆเมืองในพื้นที่นี้ เป็นเขตเทคโนโลยี่ที่โด่งดัง เป็นที่ตั้งสำนักงาน Google และ Facebook เป็นต้น

ถ้าจะให้ดี ลงไปยืนเกาะตัว G ที่คำว่า กูเกิ้ล เอาออกโชว์ออนไลน์ก็เก๋ค่ะ

เมืองที่แนะนำคือ Sunnyvale, Mt.View, Palo Alto บนทางหลวงสายหลัก วันโอวัน เลี้ยวขึ้น University Avenue เพื่อเข้าไปที่มหาวิทยาลัย Stanford ชมความสูงตระหง่านของหอ Hoover Tower และโบสถ์

บรรยากาศของสถาบันแห่งนี้เป็นถิ่นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ภูมิฐาน ทรงคุณค่าและน่าประทับใจ สำหรับผู้มีความสนใจทั้งประวัติศาสตร์และวิชาการไม่ควรพลาด ส่วนอาหารเย็น เราพาไปที่ร้านเจ้าพระยาเมือง Belmont
รับประทานหมูย่างน้ำผึ้ง ทอดมันปลา แกงคั่งกุ้งสับประรด และเต้าหู้ทอดกรอบ เพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ซึ่งได้เดินทางไปยังที่ต่างๆมาตลอดทั้งวัน กลับเข้าสู่โรงแรมที่พักเมืองเบอร์ลิ่งเกมได้ก่อน ๒๒ นาฬิกาค่ะ


การเดินทาง ตลอด ๓ วัน จะทำให้พักหลับได้อย่างยาวนาน เพื่อวันรุ่งขึ้น

ในฐานะเจ้าถิ่น เราได้เตรียมสิ่งต่างๆไว้ล่วงหน้า วางแผนไว้รอบคอบด้วย
เพราะผู้มาเยือน ต้อกงารจะเห็นทั้งจุดเที่ยวและวิถีคนไทยในท้องถิ่นสากล


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2


วันที่สี่ เดินทางลงไปยังเซ็นทรัลแคลิฟอร์เนีย ร้อยไมล์ ประมาณชั่วโมงครึ่ง ถึง Monterey เมืองหลวงเก่าของมลรัฐนี้ ช้อปปิ้งที่ร้านค้าท่าเรือประมงThe Old Fisherman's Wharf ท่ามกลางบรรยากาศมีชีวิตชีวา

แม้จะไม่ใหญ่โตอย่างท่าเรือ ๓๙ ซานฟรานฯ แต่วาร์ฟของมอนเทอเร่ย์
มีสัญลักษณ์อยู่หลายอย่าง อาทิเช่นนกกระทุง Pelicanเกาะเสาที่ท่าแพ
และมีเรือบริการนำล่องออกไปดูปลาวาฬแห่งแปซิฟิค อาหารทะเลของร้านอิตาเลี่ยนในเขตนี้ นับว่าเป็นมื้อกลางวันที่เหมาะสม หากอยากจะให้ได้บรรยากาศชมทิวทัศน์จากเรือนกระจก มีให้เลือกหลายร้าน มองดูนกนางนวลบินฉวัดเฉวียนไปมา เป็นภาพที่ไม่ได้หาได้บ่อยนักในเขตตัวเมืองใหญ่ด้านเหนือ

มีเวลาเหลือนิดหน่อย เดินย่อยหาซื้อของกระจุกกระจิกติดมือกลับไปฝากคนไกลได้ มอนเทอเร่ย์เป็นเมืองของนักศึกษานานาชาติ จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมิใช่น้อย และมีสินค้าสำหรับผู้คนหลายวัยให้เลือกซื้อได้ค่ะ

เรียกว่า ถ้าจะหาของที่ระลึกเป็นรูปสัตว์ทะเลที่นี่คือแหล่งใหญ่ทีเดียว เข้าร้านกิฟท์แห่งแรกได้ครบทุกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่หมวก แว่นตา ผ้าพันคอ กระเป๋า รองเท้า ตลอดจนเสื้อแจ็คเก็ตกันลมริมท่าประมง

ความสุขอยู่ที่ใจ แค่ได้เดินเลือกชม หยิบๆวางๆ แล้วแต่ว่าจะต้องการอะไร ของเล่น ถ้วยกาแฟ ถาดหรือป้ายที่ระลึกรูปแมวหรือสุนัขน่ารัก เป็นมุมเพลิดเพลินจนลืมเวลาสำหรับนักเดินทางที่ชอบสะสมสิ่งละอันพันละน้อย

สมใจแล้ว ทักทายนกนางนวล เดินทางไปที่ริมทะเล Lovers Point, Pacific Grove จอดรถบันทึกภาพคลืนลูกโตๆถาโถมเข้าสู่ชายฝั่ง ริมถนนสายนี้มีบ้านเรือนและโรงแรมทรงวิคตอเรี่ยนงดงามหรูหราตรึงตรามากค่ะ

ต่อจากปลายหาด Asilomar Beach ซึ่งเป็นเขตที่เห็นหัวหาดคลื่นฟองฟูในกระแสลมหนาวเย็น จะตัดเข้าสู่ประตูทางเข้า 17 Mile Drive อาณาจักรของ Pebble Beach เลาะชายฝั่งไปที่ต้นสนเดี่ยว Lone Cypress

สัญลักษณ์ของมอนเทอเร่ย์เพนนินซูล่า หยุดชมความงามของมหาสมุทรแปซิฟิค จากมุมที่สนเดี่ยวยืนหยัดอยู่มาช้านาน จากนั้นแวะที่ Lodge ชมรูปปั้น และป้ายรายชื่อนักกอล์ฟฝีมือก้องโลก ในเขตช้อปปิ้งกอล์ฟคอร์ส

ก่อนจะออกไปทางประตูเมือง Carmel ด้านซ้ายถนนตัดขึ้นCarmel Plaza ด้านขวาเป็นชายหาดทรายสีขาวแนวยาวผืนกว้างใหญ่ มีถนนสายเล็กๆเลาะเลียบฝั่งทะเลไปจนถึง Carmel River พักเหนือยชมอาทิตย์ก่อนอัสดง

ที่หัวแหลมของแม่น้ำคาร์เมล หากมีใครสักคนที่รักและเข้าใจ ได้อยู่ด้วยกัน จับมือกัน นั่งอยู่ในธรรมชาติที่งดงามนี้ คงยากที่จะบรรยายแก่ใครได้ ว่าความสุขที่ได้พบจากการเดินทางมาท่องเมืองทะเลครั้งนี้ สูงค่าเพียงไร
ยังไม่หมดวัน เพราะเป็นฤดูกาลที่กลางวันยาวนาน

แวะที่ Barn Yard เพื่อหาซื้อกาแฟและขนมเค้กอร่อยๆ เป็นอาหารว่าง
ชมสวนดอกไม้ประดับงดงามได้แก่ลิลลี่สีต่างๆ

จากนั้นเดินทางกลับขึ้นมาใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง ทานอาหารมื้อค่ำที่ ดาวน์ทาวน์ Burlingame ร้านอาหารไทยมีหลายแห่ง แต่บรรยากาศดีคือร้านนาริน ไม่ไกลจากสถานที่ทำการไปรษณีย์ เจ้าของถิ่นเก่าในเขตเมืองนี้จะรู้จักดี ราคาอาหารอยู่ในเรทปกติสำหรับนักท่องเที่ยวคือบริการข้าวน้ำสามที่ประมาณสี่สิบดอลล่าร์ หน้าร้านมีธงไทยปักไว้ เห็นได้แต่ไกล

เหตุที่เลือกทานอาหารค่ำในเมืองเบอร์ลิ่งเกม เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักเดินทาง ได้ชมแสงสีแบบเรียบง่ายตามถนนหนทางด้วย






วันที่ห้า เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ท่องเที่ยวกันเต็มวัน หลังจากได้ขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไปตรงกลางของอ่าวมาครบแล้ว วันนี้กลับเข้าไปในS.F.อีกครั้ง เพื่อบันทึกภาพดอกบัวสีแดงที่หน้า City Hall ไปวนขึ้นถนน Lombard St.

ถนนสายที่วกวนมีโค้งมากที่สุด การเดินทางมาให้ถึงซานฟรานฯ กล่าวกันว่า ต้องมาชมดอกไฮแดรนเยียบนถนนลอมบาร์ดสายนี้ให้จงได้ ดังเห็นได้ว่ากลุ่มทัวริสต์จะนั่งรถรางมาที่นี่ เป็นประจำ พื้นที่บันทึกภาพจึงไม่ค่อยว่าง
กลางวันทานอาหารจีนใน Chinatown ถนน Washington เดินเล่นในพื้นที่สักชั่วโมง ก่อนออกไปที่สวน Golden Gate Park และข้าม Bay Bridge ไปยังจุดชมทิวทัศน์ของ Treasures Island ก่อนเข้าสู่เมือง Berkeley

กราบนมัสการหลวงพ่อพระครูสิริรัตนธรรมวิเทศ ที่วัดมงคลรัตนาราม แล่นรถชม Oakland และเข้าไปกราบพระพุทธวโรสุโขทัยไตรโลกนาถ นมัสการเจ้าคุณพระวิเทศธรรมกวี ที่วัดพุทธานุสรณ์ เมือง Fremont
ทำบุญเป็นสิริมงคล สำหรับการมาเยือนอ่าวซานฟรานฯ ได้ก่ออานิสงส์ไว้ในแผ่นดินไกลบ้านเกิดเมืองนอนของเรา ชมฉากชีวิตบ้านเมืองฝรั่ง และวิถีชีวิตชุมชนไทยไปพร้อมๆกัน นี่คือการผสมสาระบันเทิงอย่างสมบูรณ์

เท่าที่เวลาและกำลังทรัพย์จะเอื้ออำนวย ก่อนปิดฉากการท่องเที่ยว เลี้ยวเข้าร้านครัวไทย Union City รับประทานสะเต๊ะกับผัดซีอิ๊วหมูดูสักชาม ดื่มชาเย็นๆ สนทนากันถึงความประทับใจในสถานที่ต่างๆที่ไปเยี่ยมเยือนมา

ตลอดทั้ง ๕ วัน รวมทั้งรายการแวะหาของฝากจากร้านต่างๆ เช่นร้านศิลปะที่จำหน่ายของลดราคา เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการประหยัด แต่ได้สินค้าคุณภาพตามที่ต้องการ ถามทางไปได้จากผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น

อนึ่ง การจัดเตรียมพาหนะและแผนการต่างๆ หากมีเจ้าของถิ่นนำพาไปได้ ย่อมสะดวกกว่ากลุ่มนักเดินทางที่เช่ารถมาลุยกันเอง อย่างน้อยก็ไม่เสียเวลาหลงออกนอกเส้นทาง ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำได้ตลอดเวลา

แต่ในทริปนี้ นักเดินทางพร้อมจะใช้เวลาอย่างเต็มที่ เพื่อการเจาะเข้าชมพื้นที่รอบๆนครซานฟรานฯ วันสุดท้ายจึงเป็นการขับรถอ้อมรอบทะเล ชมพระอาทิตย์ตกขอบฟ้า มองจากกลางสะพานซานมาเธียว San Mateo Bridge

กลับเข้าโรงแรมที่พัก Vagabond Inn บนถนน Bayshore ของ Burlingame ภายในห้องพักเตียงขนาดคิง มีโต๊ะทำงาน ห้องน้ำสะอาด ทันสมัย โทรทัศน์ ตู้เย็นบริการอาหารเช้าครบชุดทั้งมัฟฟิ่นเบคอนแยมผลไม้นมกาแฟ

การจัดที่พักให้นักเดินทางอยู่โรงแรม ช่วยให้มีเวลาพักผ่อนเป็นส่วนตัวในช่วงค่ำคืน แต่ในกรณีที่มีญาติพี่น้อง แหล่งพำนักเป็นบ้านคนรู้จัก ย่อมได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง ขึ้นกับปัจจัยการตัดสินใจและการเลือกส่วนบุคคล



คืนสุดท้ายพักผ่อนให้สำราญ เตรียมตัวนั่งเครื่องบินยาวนานเพื่อกลับมาตุภูมิ เช้าวันสุดท้าย หิ้วถุงเชอร์รี่สดๆลูกกลมๆรสหวานฉ่ำติดมือไปด้วย รับอาหารเช้าจากโรงแรมและเช็คอินกับสายการบินก่อนเวลาสัก ๒ ชั่วโมงครึ่ง

บริเวณหน้าเกท มีร้านขายของและร้านอาหารอยู่โดยรอบ ผู้ไปส่งสามารถเลือกที่นั่งสั่งลากัน ก่อนเวลาเข้าไปภายในเขตเฉพาะของผู้โดยสาร หรือจะเดินเล่นชมความกว้างโอฬารของอาคารผู้โดยสารขาออกก่อนก็ทำได้ค่ะ


การเดินทางถือเป็นสิ้นสุด เมื่อได้บินกลับสู่บ้านโดยสวัสดิภาพ ได้รับความประทับใจ ความทรงจำใหม่ๆ และความรื่นรมย์ของชีวิต แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ภาพของตึกรามอาคาร สถานที่มีชื่อเสียงต่างๆ

ผู้คน อาหาร บรรยากาศ สินค้าและหรือธรรมชาติที่ได้สัมผัส ทั้งหลายทั้งปวง คือฉากรวมที่ทำให้นักเดินทางพยักหน้ารับ ว่า จะกลับมาเยือนซาน ฟรานซิสโกอีก ในอนาคตแน่ เพราะเป็นบ้านเมืองที่สวยงามมีความสุขที่ได้มา

แล้วเราจะพบกันใหม่ จากกันด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น มิตรภาพที่แท้จริง ย่อมไม่มีคำว่าอำลาหรือการสิ้นสุด ไม่เคยหยุดหรือขาดสายใยแห่งไมตรี ไม่ว่าระยะทางห่างไกลแค่ไหน หรือกาลเวลาจะผันผ่านไปนานสักเท่าใดก็ตาม



สำหรับบทความนี้ ขอเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับผู้อ่านหรือผู้ที่สนใจ
ทุกคนที่อาศัยอยู่ในท้องที่ ย่อมมีมุมมองและพื้นที่ชำนาญของตน แต่โดยภาพรวมแล้ว การเข้ามาสัมผัสวัดไทยดังทั้ง ๓ แห่ง ท่ามกลางธรรมชาติ

อาณาจักรของผืนภูผามหาสมุทร ณ จุดนี้ ถือว่าเป็นกำไรชีวิต ทั้งผู้มาเยือนและทีมนำท่องเที่ยว เพราะในชีวิตประจำวัน การทำงาน มิใช่ว่าจะได้เห็นนกนางนวลบินเล่น หรือได้ชมความงามของดอกกุหลาบกันตลอดเวลา

จากการคำนวณโดยประมาณ ราคาค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าตั๋วจอดรถ ค่าเดินทางข้ามสะพานในท้องถิ่น รวมแล้วอยู่ที่ใกล้เคียง หกร้อยดอลล่าร์ ค่าที่ัพักห้าร้อยดอลล่าร์ นับรวมค่าตั๋วจากไทย ตกราวๆสองพันห้าร้อยดอลล่าร์

เพิ่มเติมไว้อีกนิดหน่อย สำหรับค่าซื้อของ คิดเป็นเงินไทยไม่ถึงแปดหมื่นบาท กับระยะเวลา ๕ คืน ๖ วัน เป็นทริปที่คุ้มค่า ราคาไม่เกินแสน หนึ่งสัปดาห์ แลกกับความสุข ความรู้ใหม่ และความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนจริงๆ

นครซานฟรานซิสโกมีมนตร์เสน่ห์ที่ทำให้ไม่อยากจากไปได้โดยง่าย แม้ว่าการท่องเที่ยวกับการอาศัยถาวร จะมีรายละเอียดไม่เหมือนกัน แต่ฉากที่งดงามอลังการของสะพานทอง ย่อมเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้ค่ะ

จากใจผู้บันทึก ขอให้นักเดินทางทุกคนที่เคยมาเยือนหรือหวังจะมาที่นี่
ได้รับทราบว่า กว่าที่คนไทยจำนวนหนึ่งจะสามารถสร้างบ้านสร้างถิ่นฐาน
ไว้รองรับความเติบโตของชุมชนไทย ต้องผ่านอุปสรรคกันมาอย่างหนัก

เราหวังเห็นสังคมมอบความเข้าใจให้แก่กัน และพยายามให้โอกาสคนอื่น
ได้สัมผัสกับความสุขอย่างที่ตนมี ชีวิตไม่ยั่งยืน ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งใดรออยู่
หรือภัยธรรมชาติจะมาเมื่อไร หากว่าสิ่งใดๆที่ทำให้มีความหวังใหม่ในชีวิต
หรือการยอมรับ การให้โอกาสแก่คนอื่นได้มอบความรัก ความเป็นมิตรให้

มองไปในทิศทางเดียวกัน จะยังประโยชน์ให้แก่ตนเองและชุมชนมหาศาล

ในทริปนี้ การทำบุญสร้างอานิสงส์ กราบนมัสการพระประธานของ ๓ เมือง
และการได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ ในระหว่างการเดินทางตลอดทั้ง ๕ วันเต็ม
ทำให้ผู้บันทึก ได้ทราบสิ่งที่เปลี่ยนไปของสังคมไทย จากคนที่บินมาหา

การพาใครสักคนที่รักและเข้าใจเราจริง เดินทางไปชมจุดต่างๆที่มีชื่อเสียง
พร้อมกับให้ความรู้ในเรื่องที่เรารู้จริง ทำให้คนๆนั้น เห็นชีวิตของเราชัดขึ้น
หวังว่าการแบ่งปันนี้ จะให้ประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดกับผู้อ่านของบอร์ด

และหากท่านใดอยากจะร่วมแชร์ก็จะยินดีมาก อยากจะอ่านข้อมูลอัพเดท
ของทุกๆคน จึงได้ตั้งชื่อกระทู้ว่า เจ้าถิ่นนำเที่ยว ท้ายนี้ขอเชิญคนไทยใน
เขตอ่าวซานฟรานฯ ทำบุญในงานวันเข้าพรรษา ที่วัดพุทธานุสรณ์ พรุ่งนี้

จะมีการตักบาตร และถวายสังฆทาน รับศีล สมาธิจิต อุทิศส่วนกุศล
ให้เจ้ากรรมนายเวร และน้อมนำใจของเรา ให้มุ่งหน้าแต่ประกอบกรรมดีค่ะ




ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
พิมพ์เก่งจัง แต่ไม่มีรูปสักรูปเลยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4


คุณ A|E เขียนให้จินตนาการค่ะ หลายๆคนยังไม่มาก็ฝันไว้มากมาย

จะตื่นตามากขึ้น หากว่าได้ไปเยือนแล้วเหมือนฝัน หรือยิ่งกว่าในมโนภาพ


รูป และตัวสไลด์ เป็นชุดเต็ม ดิฉันลงไว้ที่เอฟบีค่ะ บันทึกมา ๕๐๐ ภาพ
ที่มีตัวบุคคล และสถานที่ ถึงอย่างไรก็ไม่เหมาะจะนำลงพื้นที่นี้อยู่แล้วค่ะ

มีคนรู้จัก ที่เคยถามถึงความงดงามของท้องที่นี้ ดิฉันสัญญาไว้ว่าจะแชร์ให้
และคิดว่าน่าจะดีสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ยอมพลาดสถานที่โด่งดังมากๆ
เป็นกำไรชีวิตน่ะค่ะ ช่วงฤดูร้อน มีคนมาที่นี่หนาแน่น คนไทยนับหมื่นๆคน

ถ้าอย่างไร เวลามีคนถามถึงซานฟรานฯ ฝากลิงก์นี้ไว้ด้วย ขอไปวัดก่อน

ขอบคุณที่มาลงคอมเม้นท์นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่เล่น FB เสียด้วย พออ่านแล้วก็เหมือนอ่านหนังสือธรรมะ นะครับ มีแต่ตัวหนังสือ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
มาช่วย จขกท แปะภาพให้คะ อาจจะไม่ครบนะค่ะ พยายามหาภาพให้ตรงเท่าที่บรรยายให้ได้คะ pier 39 คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ภาพอาจจะไม่ค่อยสวยนะค่ะ เพราะถ่ายจากมือถือคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
clam chowder คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ร้านไอศกรีม dreyer's คะ

จะพยายามหาภาพให้ครบๆ นะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ไอศกรีม ghirardelli คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เห็นแมวน้ำ homeless มั้ยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
จอดรถและแวะทานไอติมกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ร้านขายของที่ระลึก


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
หาภาพชัดๆ ได้แล้วคะ คุณแมวน้ำอาบแดด


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ร้านขายขนมแถบ pier 39


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
อาจจะได้ภาพไม่เปะตามคำบรรยายนะค่ะ หาภาพไม่เจอคะ บางทีก็มาเจอตอนโพสรูปอื่นไปแล้วคะ ต้องขอโทษด้วย แต่อยากช่วยให้เห็นภาพ นิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
สะพาน gg bridge ฝั่ง marin ในวันไม่มีแดด


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
จะหารูปสะพานที่ถ่ายมาลงให้เยอะที่สุดแล้วกันนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ถ่ายคนละวันคะ ภาพนี้ถ่ายช่วงใต้สะพานคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
อีกภาพแล้วกันคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
พอแล้วนะค่ะ สำหรับสะพาน ยังมีอีกเยอะเลยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
palace of fine arts ตอนกลางคืนคะ เดี๋ยวหาตอนกลางวันให้ด้วย รอนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
เดี๋ยวมาต่อให้คะ ขอติดไว้ก่อนน้าาาาาา


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ไม่เจอภาพหงส์ตามที่คุณ idealist บรรยายไว้ เอาคู่นี้ไปแทนก่อนละกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
palace of fine arts ตอนกลางวันคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ภาพเมืองซาน ฟรานฯ มุมไกลคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ภาพจาก twin peaks


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
เพิ่งมาเจอภาพสตรอเบอร์รี่ลูกโต เมื่อกำลังจะจบแผ่นที่ 1 พอดีกำลังจะหาภาพอาหารไทยที่ไปทานกันมา


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
เลือกภาพส้มตำแล้วกันคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
และข้าวเหนียวร้อนๆคะ

จบแล้วคะ สำหรับหน้าที่ 1 ตามคำบรรยายคุณ idealist. :-)


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31


ขอขอบคุณในน้ำใจและความกรุณาของคุณ jasdorn อย่างยิ่งค่ะ
ที่ช่วยอนุเคราะห์ภาพ ประกอบคำบรรยาย บางฉาก ให้กับเนื้อหากระทู้

ภาพอาหารทะเลสีสดดีจัง ส่วนภาพพาเลซฯยามราตรี มีมนต์ขลังมากค่ะ

ครอบครัวหงส์ ออกข่าวในโทรทัศน์ค่ะ ถ้าไปช่วงมิถุนา จะเห็น น่ารักมากๆ
มีนกน้ำหลากหลายชนิด อยู่กันเป็นฝูงๆ ดิฉันชอบสถานที่แห่งนั้นมากค่ะ

คุณเอคะ ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกได้อรรถรสทางธรรมะผสมอยู่
แปลว่ามาถูกทางแล้วนะคะ อาจไม่โดนใจคนในโลกเน็ทยุคโลกาภิวัตน์

แต่นี่คือรูปแบบที่ถนัด อาจไม่สมบูรณ์ด้วยเทคนิค เพราะข้อจำกัด
ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยค่ะ ชมภาพที่คุณจัสดอร์นกรุณาโพสต์นะคะ

ขอบคุณอีกครั้ง วันนี้นำข้าวไปถวายพระ อานิสงส์ทำให้ได้มิตรที่มีน้ำใจ
ขอให้มีความสุข พบกับความสมหวัง กลับมาเที่ยวโกลเด้นเกทอีกนะคะ

เวลาขึ้นไปบนยอดเขา แล้วมองดูบ้านเมือง มองไปสุดขอบฟ้ามหาสมุทร
เป็นจุดที่เราหยุดยืนคิดอะไรได้หลายอย่าง จิตนิ่ง มองเห็นความจริงในโลก
ดิฉันเพิ่มพลังใจได้เสมอ จากธรรมชาติและการทำบุญเท่าที่มีโอกาสค่ะ

ซานฟรานฯ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ผู้คนมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ สัตว์อพยพมาตลอด
เป็นแผ่นดินแผ่นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เราก็หวังว่าจะไม่มีแผ่นดินไหวใหญ่
แต่ไม่ทราบว่าโลกจะขยับเมื่อไร ได้มาเที่ยวชม เก็บภาพไว้ก่อนดีแล้วค่ะ




ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
ยินดีคะคุณ idealist :-)

ตอนอ่านคำบรรยายที่แรก ก็นึกภาพตามได้หมด มาคิดๆ ดู เรามีภาพเกือบหมดเลยนิน่า

เลยมาสมทบคะ เพราะคุณบรรยายภาพ จนสามารถจินตนาการตามได้หมด อยากให้คนอื่นเห็นเช่นกันคะ เดี๋ยวว่างๆ จะมาทำแผ่นที่ 2 กับ 3 ให้คะ แต่ภาพอาจไม่เปะเท่าแผ่นที่ 1

รอนะค่ะ

ขอให้พระคุ้มครองเช่นกันคะ _/|\_


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
สวัสดีอีกครั้งคะคุณ idealist

ขอบคุณคะที่ชมภาพสวย ถ่ายจากมือถือเกือบทุกใบเลยคะ เพราะด้วยความขี้เกียจพกกล้อง เลยคิดว่า นี่ก็สะดวกดี

เอาภาพท้องฟ้าใส ระหว่างขับไปเมือง ซาคาเมนโต้คะ

พอดี ไม่ได้แวะเที่ยวเยอะ เพราะเน้นพาลูกชายได้ดูพิพิธภัณฑ์เครื่องบินที่นี่คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
สะพานข้ามแม่น้ำที่เมืองซาคราเมนโต้


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
ภาพนี้ถ่ายแหว่งคะ ไม่รู้ว่ามาได้ไหง สงสัยลูกชายถ่ายให้อะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
แม่น้ำซาคราเมนโต้คะ ไม่ได้ไปยูซี เดวิสคะ เพราะเหตุที่เล่าให้ฟัง เอารูป uc berkeley ได้มั้ยค่ะ? 55555


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
ภาพนี้แถมให้คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
ถ่ายจากเกาะมหาสมบัติคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
ไปเมือง palo alto เหมือนกันคะ แต่มาแวะที่นี่แทน :-P


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
บทกวี แด่..เพื่อน ผู้มาไกล



๑.๏ พาเพื่อนแก้ว ผู้มาไกล...ไปท่องเที่ยว

ล่องเลาะเลี้ยว เกี่ยวก้อยเดิน เพลินบุปผา

บันทึกภาพ งามซาบซึ้ง สวยตรึงตรา

เมืองซาน ฟรานฯ ม่านหมอกฟ้า นภาพรรณราย ฯ



๒.๏ ชมท่าเรือ เมื่อฝูงชน ชุมล้นหลาม

สะพานข้าม สามสิบเก้า เข้าที่หมาย

ถิ่นสิงโตทะเล เสน่ห์กำจาย

ห้างร้านขาย ป้ายปูหอย อร่อยลิ้มลอง ฯ



๓.๏ ชิมไอศครีม ช้อคโก้ขาว คลุกบราวนี่

ณ จีราร์เดลลี่ ไม่มีสอง

จูงมือเพื่อน เยือนซาน ฟรานฯ สะพานทอง

ขึ้นเขามอง ส่องทัศน์ถิ่น มารินลาน ฯ



๔.๏ เสากระโดง โค้งเด่นแดง ส่องแสงแดด

ตะวันแสด แผดพร่างฉาย ผ่องผกายฉาน

เวียงวังศิลป์ หงส์บินพรู อยู่กลางธาร

อลังการ อาคารศักดิ์ สลักรอยโรม ฯ


๕.๏ ข้ามเขาแฝด เห็นแปดทิศ วิจิตรแจ้ง

เจริดแจรง แต่งแต้มตรู ภูพลอยโสม

เพ็ญวิสาข์ ประภาภัสสร์ จันทร์จรัสโคม

คลื่นถาโถม โหมซัดทราย พระพายเย็น ฯ


๖.๏ เยือนรัฐสภา ซาคราเมนโต้ โก้ ตระหง่าน

เอี่ยมโอฬาร อาคารหลัก ปักธงเห็น

ห้องประชุม กลุ่มบริหาร ฐานประเด็น

ผู้ชี้เป็นชี้ตายรัฐ บัญญัติสภา ฯ



๗.๏ สวนกุหลาบ ภาพตระการ ซาน โฮเซ่

มอนเทอเร่ย์ แหล่งประมง ดงปักษา

ถิ่นนางนวล ขบวนปากห่าง กระยางชลา

สแตนฟอร์ด ยอดหอสง่า สถาบันไกร ฯ



๘.๏ ณ อสิโลม่าร์ ท่าหาดหิน ถิ่นธารสมุทร

ยืนยอดจุด สุดสนเดี่ยว เปล่าเปลี่ยวไฉน

พระพายพัด ซัดธารา คาร์เมลวิไล

เที่ยวบาร์นยาร์ด บ้านญาติไทย สมใจจินตน์ ฯ



๙.๏ เกาะตัว จี ที่กูเกิ้ล ดับเบิ้ลคลิก

แปซิฟิค พลิกธรรมชาติ สร้างศาสตร์ศิลป์

เสริมเทคโน ฯ โชว์ซิลิค่อน กระฉ่อนธรณิน

โลกเลื่องลือ นี่คือถิ่น วิญญูชน ฯ



๑๐.๏ เพื่อนคือแก้ว พริบแพรวใส หัวใจสวย

งามน้ำคำ ร่ำรวย ด้วยกุศล

รู้หน้าที่ มีธรรมะ ประดับกมล

สมเป็นคนดีแท้จริง มิ่งมิตรนรี ฯ


๑๑. ๏ ฝันเป็นจริง วิ่งเล่นสนุก บุกละเมาะ

ย่านจีนเจาะ เกาะสมบัติ วัดศาสน์ศรี

กราบพระสงฆ์ องค์สง่างาม สามแก้วมณี

ไหว้เคารพ ครบทุกที่ ทวีวุฒิธรรม์ ฯ



๑๒. ๏ อาหารไทย ชวนไปชิม ลิ้มคั่วกุ้ง

ลาบหอมฟุ้ง ปรุงสะเต๊ะจิ้ม อิ่มหฤหรรษ์

ขนของฝาก จากอ่าวทิพย์ กะพริบพรรณ

โกลเด้นเกท เขตสวนขวัญ สวรรค์ภูพร ฯ



๑๓. ๏ ส่งเพื่อนแก้ว ผู้มาไกล... กลับไทยถิ่น

ยังหวนถวิล ยินดีสุด ดุจอนุสรณ์

อย่าลืมแดน แมนวิมาน ซานฟรานฯนคร

ภูหมอกวอน อ้อนกุหลาบ ตราบนิรันตร์ ฯ

Idealist USA

ถ้าจะมีใครสักคนหรือหลายคน ได้รับความสุขจากคำประพันธ์นี้
ขอแบ่งปันให้เป็นการตอบแทน สำหรับพื้นที่ในการเผยแพร่แก่สาธารณะ

ขอบคุณมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
ขอบคุณนะค่ะสำหรับกลอน ซาบซึ้งจริงๆคะ

ยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มิตรแดนไกลเช่นกัน

ขอบคุณนะค่ะ _/|\_


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
ใครชอบยี่ห้อนี้ เลือกตามชอบใจเลยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
ตามมาคะ จะพาไปมอนเทอเรย์กัน


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
55555 ตัวนี้ชัดกว่า เหมือนในคำบรรยายคุณ idealist เด๊ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
ระหว่างทางไปมอนเทอเรย์


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
มหาสมุทรแปซิฟิค


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
ตู้แมงกระพรุนที่มอนเทอเรย์ เบย์ อะควาเรี่ยม


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
ดาวน์ทาวน์เมืองมอนเทอเรย์คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
ค่อยมีชีวิตชีวาหน่อย
ขอบคุณครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
อีกมุมหนึ่งคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
เพิ่งมาเจอช๊อกโกแลตเคลือบสตอร์เบอร์รี่ มาอยู่นี่เอง ด้วยความที่ภาพมีเยอะจัด จำไม่ได้ว่าถ่ายอะไรไว้บ้าง ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถเรียงได้เป๊ะๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
ตามมาคะ จะพาไปถนนลำบาก (ในหลวงฯ ทรงตั้งชื่อไว้ ตอนท่านเสด็จมาที่ซาน ฟราน)


ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
ถนน Lombard มุมใกล้


ตอบกลับความเห็นที่ 53
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 54
อีกภาพกับมุมไกลคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 54
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 55
55555 หาทั่วเลยคะ ไม่มีภาพซิตี้ฮอลตอนกลางวัน เอาตอนกลางคืนไปแทนนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 55
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 56
แถมภาพ coit tower ให้ด้วยคะ เผอิญชอบฟังรายการ 96.5 k.o.i.t.


ตอบกลับความเห็นที่ 56
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 57
ตรงข้ามซิตี้ฮอลล์ ก็เป็นซิมโฟนี่ ฮอลล์


ตอบกลับความเห็นที่ 57
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 58
ยินดีคะ คุณ A/E


ตอบกลับความเห็นที่ 58
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 59
คุณ idealist พูดถึงช้อกโกแลตยี่ห้อนี้หลายรอบแล้ว เอาวิวกลางคืนมาให้ด้วยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 59
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 60
ghirardelli square


ตอบกลับความเห็นที่ 60
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 61
เหมือนได้ไปเที่ยวทริปเดียวกันเลยนะคะ ชอบทุกรูปค่ะ

เดือนที่แล้ว ทานเชอร์รี่กับสตรอว์เบอร์รี่ไปหลายร้อยลูกเลยนับไม่ถ้วน


เวลาไปเที่ยว เห็นคนอื่นยกกล้องกดแชะๆ เคยนึกว่ารูปเขาเป็นแบบไหน

ได้มุมมองออกมาอย่างเดียวกันหรือเปล่า เพิ่งสมใจก็กระทู้นี้ล่ะค่ะ จริงๆ


คนหนึ่งบรรยาย คนหนึ่งโพสต์ โดยความยินยอมแบบนี้ แอพพริชิแอทสุด

ดิฉันจะไม่ลืมเลยค่ะ ว่ามีคนสละเวลามาทำให้ ไม่ทอดทิ้งกระทู้ว้าเหว่


ตอนลงในเอฟ เพื่อนกดไลค์ แท็กกันกระจาย โดยเฉพาะหงส์แม่ลูกๆ

นำไปทำเป็นภาพศิลป์สีน้ำมัน อัดขยาย แฮ้ปปี้กับสิ่งที่ได้มาจากทริปนี้


แมงกะพรุน ดูประหลาดดีนะคะ ไม่ได้แวะเข้าอะควาเรี่ยม มีเวลาน้อยค่ะ

นกนางนวลของคุณ jasdorn ท่าทางจะยังเด็กอยู่ พวกเค้าเจ้าถิ่นทะเล


คุณAคะ ยังขาดเสียงประกอบ ต้องอิมเมจิ้นอยู่ดี ว่าได้ยินนกร้องก้องหาด

กับเสียงคลื่นซัดมาซ่าๆครืนครั่น สิ่งเหล่านี้ ต้องออกไปยืนตรงนั้นเท่านั้น


น้องๆที่เคยมาถามถึงสถานที่เที่ยว คงได้ชมภาพกันเต็มที่นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 61
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 62
แวะแจแปนทาวน์นิดส์นึงนะค่ะ ก่อนไปไชน่าทาวน์


ตอบกลับความเห็นที่ 62
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 63
มีคลิปเสียงตอนนั่งรถรางเอามั้ยค่ะ? มีแต่ conductor พูดกับ เสียงรถรางล้วนๆ เลยละคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 63
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 64
ส่งนกตัวนี้มากระชับมิตรแดนไกลคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 64
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 65
ขาดพวกเธอเหล่านี้ได้อย่างไร แม่บ้าน painted ladies


ตอบกลับความเห็นที่ 65
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 66
จะไปไชน่าทาวน์กันคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 66
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 67
เย้ ถึงไชน่าทาวน์แล้วววว


ตอบกลับความเห็นที่ 67
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 68
มาครั้งนี้ นึกว่าจะมาทาน ทาร์ตไข่ให้สาแกใจ ปรากฏว่าคนทำรุ่นแรกนั้นเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ลูก หลาน ทำอย่างไรก็ไม่เหมือน


ตอบกลับความเห็นที่ 68
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 69
ไปโกลเด้นเกท พาร์คกันดีกว่าคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 69
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 70
เป็นพาร์คที่ใหญ่มากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 70
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 71
ให้ชมหลายใบหน่อยแล้วกันเนอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 71
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 72
เด็กๆ อธิฐานแล้วโยนเหรียญ บอกว่า ขอกลับมาที่นี่อีก


ตอบกลับความเห็นที่ 72
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 73
ซาน ฟราน มีครบทุกรสจริงๆ คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 73
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 74
ก่อนลา gg park


ตอบกลับความเห็นที่ 74
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 75
ข้ามมาเกาะมหาสมบัติยามค่ำ


ตอบกลับความเห็นที่ 75
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 76
จบรูปสุดท้ายที่ ยูซี เบิร์คเล่ย์คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 76
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 77
สำหรับ จขกท ผู้มีน้ำใจดีประจำห้องนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 77
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 78
ขนมขบเคี้ยวสำหรับผู้ที่แวะมาอ่าน :-)


ตอบกลับความเห็นที่ 78
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 79
แวะมารับภาพดอกไม้ คืนนี้ดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าจะขอเก็บภาพไว้

หลายภาพ แสดงว่าเราคิดอะไรไม่ต่างกัน ถ้าเห็นสิ่งนั้น จะกดชัตเตอร์ปุ๊บ


ชีวิตของนักท่องเที่ยว ที่เลือกไปได้เองอย่างอิสระ ไม่ต้องขึ้นกับกฎกลุ่ม

ทำอะไรได้เสรีกว่า ถ้ามาทัวร์ใหญ่ ต้องเห็นอย่างที่มีคนจัดนำว่าจะต้องไป


แต่คนอยู่อาศัย ไปได้ในที่อื่นๆ จุดที่ไม่ขึ้นไฮไลท์ บางแห่งโรแมนติคกว่า

ดิฉันเป็นคนชอบธารน้ำ ชอบภูเขาสูง ในละแวกนี้จะไปปิคนิคพาร์คทุกจุด

ไปเดินเล่น ในที่แทบไม่มีคนก็ไปค่ะ สวนป่า และชายหาดของเมืองต่างๆ

ยังมีชายฝั่งถนนสายหนึ่ง อีกหลาย๑๐จุด ถ้าจะโพสต์กันคงเป็นพันคคห.แน่


เมื่อวันชาติอเมริกา ไปฟังดนตรีในสวนมีคพาร์ค คฤหาสน์ประวัติศาสตร์

ทั้งร่มรื่นและใหญ่กว้าง มีสวนแคคตัส แอบนึกถึงสัญลักษณ์แว่บนึง


จำไม่ได้เห็นที่ไหน ใครบางคนบอกว่า จะอยู่อย่างไรกลางทะเลทรายแห้ง

ต้องอดทนอุ้มน้ำ เหมือนการเล่นบอร์ด สาธารณะ ทนแดดทนลมกระหน่ำ

แต่ยังชุ่มฉ่ำ มีน้ำให้คนผ่านมาได้พักพิง เพื่อเดินทางต่อไปให้ถึงจุดหมาย

ดิฉันก็ว่าจริงค่ะ ถ้าคุณจัสดอร์นมารอบหน้า อย่าพลาดนะคะ สวน ๙ ไร่เศษ

คฤหาสน์ที่เยาวชนไปทัศนศึกษา และในวันชาติ ใช้เป็นลานฉลองเสรีภาพ


ขอขอบคุณที่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ดิฉันเขียน ผู้อ่านผู้ชมคงไม่เสียเวลาคลิก

ขนมในรูปข้างบน บ่งบอกสำหรับวัยเจริญเติบโตนะคะ จัดเต็มได้ใจจริงๆ







ตอบกลับความเห็นที่ 79
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 80
หลับฝันดีนะค่ะคุณ idealist ดึกมากแล้ว ยังมาตอบกระทู้ให้กำลังใจกันอีก

ยินดีและขอบคุณเช่นกันคะ :-) พออ่านคำบรรยายแล้ว ภาพต่างๆ มันผุดขึ้นมาเอง คันมือเลยต้องโพสคะ :-) เกรงใจคุณ idealist อยู่เหมือนกัน จึงพยายามไม่พานอกเรื่องมากนัก ทั้งที่มีภาพอีกมากมาย 55555

กุหลาบพันธ์ุที่ชื่นชอบที่สุดคือ mr. lincoln แต่ภาพมันไม่สวย เลยไม่กล้าโพสคะ เพราะดอกใหญ่ ก้านแข็ง คนรับน่าจะดีใจ ;-)

ปีหน้าแพลนพาเด็กเที่ยวนิวยอร์กสัก 1 สัปดาห์คะ แล้วดิ่งลง patagonia, argentina เลย ในใจอยากไปมาชู ปิกชูด้วย แต่คุณแฟนห้ามดิฉันไว้ว่าอย่าโลภมาก เน้นเที่ยวใจเย็นๆ ตามใจคุณสามีคะ

ปรกติจะเป็นผู้อ่านอย่างเดียว นานๆ จึงจะโพสถามซะที แต่จะแวะทักทายนะค่ะ

สวัสดีคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 80
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 81
พูดถึงขนมด้านบนนั้น ของลูกชายคะ เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนไปสัมภาษณ์ที่สถานทูต จนทก็ถามตามปรกติว่า จะไปทำอะไร ไปเที่ยวที่ไหน ไปพักกับใคร มีคนอยู่ที่โน้นรู้จักหรือไม่ ฯลฯเจ้าตัวเล็กไม่ตอบเลยคะ (แต่ดั้นไปเที่ยวพูดกับพวก จนท. คนไทย ตอน ขั้นตอนเตรียมเอกสาร เที่ยว โพทนาว่าจะไปอเมริกา ยังงี้ ยังงั้น) พอมาถึงตอนตอบจริง กลับกลมหน้า นิ่งเงียบไม่ตอบ คุณพ่อเลยหันไปบอกเจ้าตัวว่า ถ้าหนูไม่ตอบอะไรเลย เค้าจะไม่ให้หนูไปน่ะ เจ้าตัวเลยตอบว่า 2 ประโยคว่า จะไปกินไอติม กับซื้อของเล่น เล่นเอา จนท อดอมยิ้มไม่ได้ แล้วก็จริงอย่างที่ว่าคะ พาไปไหน เค้าไม่สนใจซักนิด ดิสนีย์ ยูนิเวอร์แซล เค้ากลับเฉยๆ เน้นกับดิฉันอย่างเดียวว่า ต้องกินโยเกิร์ติให้ครบทุกรส รวมทั้งไอศกรีมชนิดต่างๆ สรุปว่ากลับ กลม ทั้งแม่ ทั้งลูก ชุดนักเรียนใส่ไม่ได้เลยคะ :-)


ตอบกลับความเห็นที่ 81
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 82
มานั่งเช็คว่ามีภาพอะไรเหลืออีกบ้างที่ค้างในมือถือ บังเอิญไปเจอรูปนี้คะ แม่เป็ด กับ ลูกเป็ด เอามาช่วยแปะอีกใบคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 82
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 83
ลมหนาว เลยกอดกันกลมเลย แทบแยกไม่ออก


ตอบกลับความเห็นที่ 83
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 84
น่ารักมว้ากกก เลยนะคะนั่น คุณ jasdorn อ่อนโยนใจเย็นจริง


ดิฉันชอบพินิจภาพถ่ายค่ะ เป็นสิ่งที่บอกจิตใจและนิสัยคนได้อย่างลึกซึ้ง

ยิ่งประณีตละเอียดลออเท่าไร จะแสดงให้เห็น จากจุดซูมและมุมกล้อง

เป็นงานอดิเรกที่โลกสมัยใหม่ ต้องหันมาให้ความสำคัญและคิดทางพัฒนา


คุณมีความมุ่งมั่น อดทน ทำอะไรต่อเนื่อง แน่วแน่ ไม่หวังสิ่งตอบแทน

ดิฉันอยากจะชดเชยในเวลาและน้ำใจของคุณจริงๆ ถ้าจะสะดวกนะคะ

ติดต่อ ทางรหัสเมลอีเลคทรอนิค ได้ตลอดเวลา จะส่งภาพสวยงามให้ค่ะ

เลี่ยงไม่ลงนาม เกรงจะได้ไวรัส สะกดชื่อไอดีลลีสท์ยูเอสเอ ติดกันหมด

ภาษาอังกฤษนะคะ ต่อด้วยแอด จีเมล ดอท คอม จะส่งหงส์แม่ลูกให้ค่ะ



ตอบกลับความเห็นที่ 84
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 85
55555 ยิ้มแก้มปริเลยคะ

ดีใจจังที่คุณ idealist ชอบรูปที่โพสให้ เพราะการถ่ายภาพ ถ่ายแบบบ้านๆ มาก เห็นอะไรก็กดอย่างเดียวคะ อีกภาพคะ ตอนแม่ลูก หายหนาวแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 85
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 86
เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว สมัยแต่งงานใหม่ ดิฉันอยู่หมู่บ้านริมน้ำ

มีฝูงเป็ด นกน้ำมาบินในบึงตลอดเวลา น้องดั๊คกี้เค้าตามแม่มาเป็นพรวน

ตอนนั้น เป็นกล้องฟิล์ม อัดกันเป็นม้วนๆ คือ นั่ง นอน ยืน เดิน วิ่ง ลอยน้ำ

รักมากค่ะ โปรดสังเกต ไม่อยากเขียนชื่อสัตว์ชนิดนี้ หลังจากนั้นเลิกทาน

เนื้อที่ย่าง หรือถ้าเห็นแขวนไว้ ก็จะเศร้าค่ะ เพราะรู้จักกันเป็นครอบครัว


นั่งเขียนเรื่องราวรอบๆตัว ส่งจดหมายไปเมืองไทย จะมีภาพสัตว์ปีกชนิดนี้

ตลอดเวลา อย่างที่บอกเป็นคนชอบน้ำ และสัตว์ที่อยู่รอบๆสายน้ำลำธาร


แม่บางตัวมีลูกดก หลายสิบ เดินตามกันเป็นขบวนยาว ร้องก๊าบๆ สนั่น

คิดว่าน้องเล็กๆหายไปจากแถว เพราะมีแมวสีดำพ่วงพี พุงโตขึ้นทุกวันด้วย


ในธรรมชาติมีสิ่งที่สมดุลย์กัน มีเพิ่ม มีลด คุณจัสดอร์นคงต้องไปร้านที่

จำหน่ายพวกเครื่องเขียนศิลปะบ่อยแน่ๆ เพื่อหาอุปกรณ์ให้เจ้าตัวเล็ก

ปลูกฝังให้รักสัตว์ทุกชนิดแต่เล็กๆ แบบนี้ โตขึ้นจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่นค่ะ


พ่อบ้านของดิฉัน รักธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ แมลง แม้กระทั่งพวก

ที่เข้ามาสร้างปัญหาให้กับพืชผลที่ปลูกไว้ เขาจะแก้ไขอย่างอะลุ้มอล่วย


ถ้าใครมีชีวิตที่ลงตัวแล้ว พอใจในสิ่งที่เรามี ต้องรักษาความสุขไว้ให้นานๆ

ไม่บ่อยนัก ที่ดิฉันจะเขียนถึงสิ่งที่เป็นส่วนตัวมากๆ


ดิฉันมีหลานชาย สามหนุ่ม สามวัย คนโตเป็นศิลปินนักดนตรีรูปงามสง่า

สูง๑๘๗ ซม. คนรองเป็นนักเรียนเตรียมทหารอากาศ จะเป็นนักบินรบ

และอีกคน คาดหวังจะเป็นนักสร้างสรรค์หรือวิทยากร ชอบมอบความรู้


หลานสาวคนหนึ่ง ยังไม่ทราบทิศทาง แต่คิดว่าจะเก่งมากทางภาษาตปท.
เพราะเป็นเด็กรร.แม่ชี หลายปีมานี้ ดิฉันถ่ายภาพเยาวชนที่ไปวัดทุกรุ่น

หลายคนก็โตไปเป็นแพทย์ นักกฎหมาย เป็นนักเปียโนนานาชาติก็มี
ชอบฟังเรื่องราวของคนที่เล่าถึงลูกหลาน ดิฉันดูแลคุณแม่ที่จากไปแล้ว

เป็นคนที่รักความถูกต้อง เติบโตมากับกฎระเบียบ วินัย ความกล้าหาญ
ฉะนั้น ความคิด ของดิฉันจะไม่อ่อนโอน ถ้าพบสิ่งผิดพลาดไม่ตรงระบบ

หลายๆครั้งไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร แต่ให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์สากล
น้อยคนจะเข้าใจ ถ้าหากไม่รังเกียจที่จะแลกเปลี่ยนทัศนคติ ดิฉันยินดีค่ะ

ช่วงหลัง ๒ ปีที่ดิฉันหายไปจากที่นี่ ใช้ชีวิตอย่างสงบ ค้นหาคำตอบบางข้อ
และจากการเข้าถึงธรรมชาติ บางอย่างเราไม่อาจสื่อสารกับตัวปัญหาได้

แต่เราพบการแก้ไข จากการปรับเปลี่ยนสิ่งที่เราเคยคิดว่าเป็นสิ่งถูกต้อง
เพราะโลกเปลี่ยนไป ความผิดความถูก ในคนละที่ คนละกลุ่ม ไม่ตรงกัน
และที่สำคัญกว่านั้น ความรู้สึกของคน บางขณะ สำคัญกว่ากฎหรือกติกา

ดิฉันไม่นิยมสิ่งที่ออกนอกลู่ทาง และไม่ชอบการแสดงออกที่ไม่สำรวม
ในที่สาธารณะ แม้กระทั่งการเดินทางก็จะเลือกบุคคลและสถานที่แน่ชัด

ไม่ชอบเคลื่อนไปโดยไร้แผนหรือปราศจากทิศทาง ไม่ชอบสิ่งที่มาขัด
จะนำออกสิ่งที่ไม่ใช่ และจะไม่ให้เข้ามา สิ่งที่รู้ว่าเป็นปัญหาในอนาคต

กฎเกณฑ์บางอย่าง กลับต้องปรับและประยุกต์ เพื่อให้เรามีความสบายใจ

ถ้าคุณ จัสดอร์น ติดต่อมาทางเมล ดิฉันจะจัดทำภาพของคุณบางส่วน
ลงสไลด์และส่งกลับไปให้เป็นการตอบแทนนะคะ สำหรับภาพชุดนี้
ที่ทำให้กระทู้มีความหมายมาก ลากลงมาได้ถึงแปดสิบกว่าเลยทีเดียว

ไปเดินเล่นในห้างฟรายอีเลคประจำค่ะ หาสิ่งใหม่ๆทางเทคโนมาหัดสร้าง
ตอนนี้เก็บสไลด์เป็นร้อยชุด งานอดิเรกเป็นงานประจำ ถ้าสนใจในด้านนี้
ดิฉันก็จะแบ่งปันให้ คือมีความรู้ภาษา ก็จะอ่านและฝึกฝนเอง ต่อเติมเอง

อาจไม่ยิ่งใหญ่อลังการอะไรมาก แต่ตัวเราก็ไม่ได้ปล่อยเวลาไปเปล่าดาย

หวังว่าพ่อบ้านปลดเกษียณ จะกลับไปกอดหลานรักสามคน จะต้องมีวันนั้น
และมีสิ่งที่ยังต้องแก้ไขให้ได้ ไม่ใช่ด้วยคำพูด ก็ต้องเป็นการกระทำกุศล

ที่หมายของดิฉันเบื้องหน้า ยังอยากจะไปในทางที่เจริญด้วยธรรมอยู่เสมอ

ป.ล. นิวยอร์ค ดี.ซี. บอสตัน เคมบริดจ์ นิวอิงแลนด์ เป็นถิ่นที่เคยเที่ยว
และเรียนวืชามาในหนหลัง ถ้าคุณไปเที่ยวแล้วกลับมาเล่าให้ฟังบ้างค่ะ

ดิฉันชอบริมแม่น้ำชาร์ลส์ โปโตแมค และเกาะแมนฮัตตัน แต่ไม่อยากอยู่
เพราะถ้าปรับตัวเป็นคนเมืองเร่งรัด เราต้องแกร่ง กร้าว และแข่งขันสูงมาก

ความเรียบง่าย การแสวงหาความสุข จากสิ่งที่ธรรมชาติมีให้โดยเท่าเทียม
เป็นสิ่งที่ดิฉันพรีเฟอร์ ชอบมากกว่า อยากจะเล่นกับหงส์ นก ในสวนในน้ำ

มีพาร์คอนุรักษ์ชีวิตสัตว์อยู่ในเขตนี้ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เดินไปตามเทรล
นำอาหารไปปิคนิค และสังเกตว่าต้นไม้มีอะไรบ้าง แค่นี้ก็ทำไม่หมดแล้ว

มองไปรอบตัว อยู่มานานป่านนี้ ดิฉันยังไม่รู้จักต้นไม้ดอกไม้ได้ครบเลย
มีความรู้น้อยมาก จะยินดีมากๆ หากได้อ่านหรือเห็น แต่สิ่งที่ส่งเสริมกัน

เชื่อไหมล่ะคะ เข้าไปในสวนป่า ดิฉันรู้จักแค่ต้นสน โอ๊ค ยูคาลิปตัสเอง
บรรดานักล่องพนาทั้งหลาย เขาดูออกต้นอะไร และรู้วิถีชีวิตที่เรียบง่าย

แต่เราต้องกลับออกมาอยู่กับศิวิไลเซชั่น เพื่อจะยังชีพและบำรุงชีวิตต่อ

นี่เป็นเรื่องที่ส่วนตัวที่สุดแล้ว เท่าที่จะเล่าได้อย่างระมัดระวังในบอร์ดนี้ค่ะ


ดิฉันคบหาคนน้อยคนในชีวิต แต่รักใครรักจริง ไม่เคยทำลาย
สังคมอินเตอร์เน็ท บางครั้ง จำเป็นต้องระวัง เข้าใจกันผิดแล้วหมดทางแก้
นอกจากทำบุญและแผ่เมตตาเท่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 86
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 87
ไม่ผิดหวังเลยคะ ที่รออ่านข้อความของคุณ idealist อย่างใจจดจอ

ถึงแม้จะเป็นผู้เดียวก็ตาม ที่ตามชมภาพที่โพส และเป็นสิ่งเดียวเช่นกัน ที่ทำให้เกิดกำลังใจ เกิดความพยายามสรรหารูปที่ถ่ายเก็บรวบรวมไว้ในมือถือด้วยความยินดียิ่ง

ได้อ่านข้อความทุกข้อความที่เขียนถึง อ่านแล้วก็แอบยิ้ม แอบร้องไห้ (อินกับกลอนที่เขียนมาให้อย่างมาก) และทึ้ง กับความสามารถในการเขียนของคุณ idealist ที่ทำให้สามารถจินตนาการภาพออกมาได้

ตัวดิฉันเองเป็นคนง่ายๆ คะ คือ กินง่าย อยู่ง่าย รักและเคารพในสิทธิของผู้อื่นเสมอ อาจจะถูกเลี้ยงมาแบบตามใจตอนเล็ก แต่ตัวเองก็มีกฏเล็กๆ สำหรับเด็ก 2 คน (มีลูก 2 คนคะ คนโตยังไม่ได้พูดถึงเท่าไร)

ดิฉันเกิดมาในครอบครัวคนจีน ทำการค้า และก็ได้มาแต่งกับครอบครัวคนจีนเช่นกัน อาจด้วยบุญแต่งชาติปางก่อน ที่มาทำให้ประสพโชคในชีวิต ที่มีครอบครัวสมบูรณ์ อันเป็นที่รัก รวมไปถึงเหล่าบรรดาแม่ๆ ของตัวเองหรือแม่ของสามี (ฝ่ายพ่อทั้งสองฝ่าย เสียชีวิตแล้วคะ เหลือแต่แม่ๆ อันเป็นที่รักยิ่ง)

ยินดีซิคะที่ได้มิตรใหม่จากต่างแดน เพราะตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีมิตรที่ไหน นอกจากสมาชิกครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่ง

การพาเด็กๆ ท่องเที่ยว ดิฉันคิดว่า เป็นการให้โอกาสในการเปิดโลกทัศน์ให้กับลูกๆ คะ การที่ได้ไปเรียนรู้ ไปได้เห็น ไปสัมผัส สิ่งต่างๆที่ไม่เคยพบเห็น ไม่สามารถฟังได้จากครูหรือเพื่อนเล่า เป็นประสบการณ์น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ

ในความตั้งใจครั้งแรกที่จะพาเด็กผจญภัยทริปหน้าคือ นครเพทราคะ แต่ที่เลือกไปนิวยอร์ก มีสาเหตุคะ เนื่องจากไปได้ข่าวในห้องบลูฯว่า มีตั๋วลดราคา ในใจเคยสัญญากับลูกสาวว่า วันหนึ่งแม่จะพาหนูไปไนการ่าน่ะ เลยคิดว่าเป็นโอกาสอันดี ส่วนตัวเองนั้น เป็นคนชอบเที่ยวธรรมชาติ จึงบอกเด็กๆ ว่า ทริปหน้า ขอไปที่ๆ พ่อกับแม่ไม่เคยไปหน่อยซิ นั่นก็คือประเทศทางอเมริกาใต้ไงค่ะ ส่วนตัวแล้วกับคุณแฟน เคยเที่ยวสหรัฐฯเกือบทั่วแล้วคะ แล้วเด็กๆ มาเห็นภาพเก่าๆ ก็ร้องขอให้พาเที่ยวหน่อย ถึงสามารถจินตนาการตามทริปที่คุณ idealist เขียนไว้ รวมถึงวัดต่างๆ ในเบย์ แอเรียด้วย แต่บังเอิญคราวนี้ไม่ได้แวะ จึงไม่มีภาพมาประกอบ :-)

ได้ซิค่ะ แล้วจะเขียน พร้อมส่งภาพ ทุกสถานที่ ที่พวกเราไปเที่ยว รวมถึงเล่ารายละเอียดให้ฟังทุกที่เลยคะ

พูดถึงคุณแฟน แกเห็นดิฉันไปไหนมา ก็ถ่ายรูปตลอด ถึงกับเอ่ยปากจะซื้อกล้องที่เป็นเรื่อง เป็นราวให้ แต่ก็ปฏิเสธมาตลอด เพราะอย่างที่เล่าให้ฟังคะ ขี้เกียจพกและกลัวทำหาย คุณแฟนเลยอาสาเป็นโชว์เฟอร์ ตะเวนขับรถให้ แม้จะดึกหรือสว่าง

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับมิตรภาพจากเพื่อนแดนไกล

รูปที่แนบมานี้ คุณแฟนแอบถ่ายคะ :-)


ตอบกลับความเห็นที่ 87
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 88
ตอนแรกคิดว่า กระทู้ของคุณ Idealist USA ถูก hijack...




ตอบกลับความเห็นที่ 88
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 89
ส่งภาพหงส์ และคลิปของคุณจัสดอร์นไปแล้วเรียบร้อยค่ะ

Have a nice day everyone.


ตอบกลับความเห็นที่ 89
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 90
เพื่อนๆที่แวะมาดู SFo Trip Hi-Light ตอนนี้กระทู้หนักภาพพอสมควร

คุณ jasdorn ตั้งแตกไปที่ กระทู้ใหม่ข้างบน


H12420067 กระทู้ภาพหงส์แม่ลูก ที่พาเลซฯ ซานฟรานซิสโกค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12420067/H12420067.html

ตามไปแล้ว ใครอยากแบ่งปัน แลกเปลี่ยนภาพเที่ยวที่ไหนได้เลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 90
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 91
Ghirardelli ยังมีคนเล่นดนตรีฟรีๆไหมครับ


เชื่อว่าเข้าใจผิดแก้ได้ครับถ้าตั้งใจจริงและเข้าใจผิดจริงๆเหมือนที่ผมเคยทำให้บางคนเข้าใจผิด


ตอบกลับความเห็นที่ 91
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 92
ยังมีคะ มีทั้งที่ fisherman w. และที่ pier 39. วันที่ไปเที่ยวมีทั้ง 3 ที่ครบเลยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 92