"คนไทยจะอยู่รอดได้หรือไม่ หลังประตูประชาคมอาเซียนเปิด"

ผู้บริหารทั้งสองได้ถอดประสบการณ์การบริหารงานบริษัทแอปเปิลของสตีฟ
จ็อบส์ มาเปรียบเทียบกับแนวทางการทำธุรกิจของคนไทย
หลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
นายสุทธิชัย เล่าว่า เมื่อ 18 ปีก่อน นายบัณฑูรเป็นคนไทยอันดับต้นๆ ที่นำแนวคิด
กล้าที่จะทำอะไรนอกกรอบมาใช้ ขณะนั้นสตีฟ จ็อบส์ กำลังถูกไล่ออกจากบริษัท
ที่ตัวเองก่อตั้งขึ้น ทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสตีฟ จ็อบส์ กับนายบัณฑูร
ขณะที่อีก 3 ปีข้างหน้าไทยจะเข้าสู่สมาคมอาเซียน จึงคิดว่าแนวคิดของนาย
บัณฑูรน่าจะเป็นแนวทางให้นักธุรกิจไทยสามารถต่อสู้กับเพื่อนบ้านได้
หลังประตูประชาคมอาเซียนเปิดจึงกลายเป็นที่มาของการทอล์กโชว์ครั้งนี้
น่าสนใจในมุมมองของนายบัณฑูรว่า
"คนไทยจะอยู่รอดได้หรือไม่ หลังประตูประชาคมอาเซียนเปิด"
นายบัณฑูรให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
ข่าวสารกว้างไกล ที่ผ่านมาสถานการณ์โลกเกิดความเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ
ทั้งเรื่องโลกาภิวัตน์เมื่อ 20 ปีก่อน จีนเปิดประเทศเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อเหตุการณ์
ผ่านไปกลายเป็นเรื่องปกติของคนไทย แต่มาครั้งนี้เออีซีจะเปิด เท่าที่ติดตาม
พบว่า คนไทยให้ความสนใจมากขึ้น มีการจัดสัมมนา หรือการเตรียมความ
พร้อมไว้ค่อนข้างมาก แต่เชื่อว่าธรรมเนียมแบบไทยๆ จะเป็นอุปสรรคสำคัญ
ที่ทำให้ไทยไม่สามารถแข่งขันกับประเทศสมาชิกได้ เพราะคนไทยเรา
สบายกันจนเคยตัว

นายสุทธิชัยได้ชวนคุย โดยเปรียบเทียบแนวคิดการทำธุรกิจของสตีฟ จ็อบส์
ที่ผลิตสินค้าขึ้นตามจินตนาการโดยไม่ได้สนใจการสำรวจความต้องการของ
ตลาด ผลิตสินค้าขึ้นมาตามจินตนาการล่วงหน้า และแน่วแน่ที่จะทำความคิด
ของตนให้สำเร็จ ในแนวคิดข้อนี้ หากคนไทยยึดมาปฏิบัติจะสามารถต่อสู้
ทางธุรกิจในประชาคมอาเซียนได้หรือไม่

นายบัณฑูรให้ทัศนะว่า เท่าที่พูดคุยกับนักธุรกิจและคนไทย ไม่แน่ใจว่า
คนไทยเราจะกล้าทำเช่นนั้นหรือไม่
"เพราะทุกคนกลัวและระวัง เพราะหลังประชาคมอาเซียนเริ่มขึ้น ตลาดจะกว้าง
คู่แข่งจะมาก อยากให้คนไทยเราสู้ และให้คิดอย่างสตีฟ จ็อบส์
คือการผลิตสินค้าอะไรออกไปนั้นจะต้องคำนึงถึงความง่าย
มุ่งสินค้าที่เป็นตัวของตัวเอง คนเห็นแล้วอยากได้ อยากใช้"

นายบัณฑูรย้ำว่า ที่สำคัญคือ คุณภาพต้องเป็นที่ติดใจ ทุกอย่างที่ทำขึ้นสิ่ง
ที่สำคัญสุดคือต้องใช้ง่าย ขณะที่ธุรกิจธนาคารก็เหมือนกัน การจะแข่งขันกับ
คู่แข่งได้ คืองานบริการจะต้องเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็เข้าถึงได้

นายสุทธิชัยยกตัวอย่างไอโฟน และไอแพด ที่ไม่มีปุ่มเปิด-ปิด ตามหลักแนวคิด
ที่สตีฟ จ็อบส์ นึกได้จากคำถาม "ตายแล้วไปไหน"
เป็นที่มาของ "ความคิดเกิดง่าย ตายง่าย" ขณะปฏิบัติตนตามวิถีเซน
ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กับสินค้าของแอปเปิล ที่ปิดตัวทันทีที่วางไว้เฉย
และเปิดทันทีที่มีการสัมผัส
นายบัณฑูร กล่าวว่า หากจะถอดประสบการณ์จากการทำธุรกิจของสตีฟ จ็อบส์
จะเห็นได้ว่า หลักคิดคือความเรียบง่าย หัวใจของการทำธุรกิจคือ
การเอาใจใส่ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ และทุกอย่างต้องยึดกฎความสมดุล
และต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ต้องเพียรพยายาม ต้องจินตนาการในสิ่งที่ไม่มี
ทำขึ้นมาแล้วต้องโดนใจ

ที่สำคัญต้องสามารถต่อสู้แข่งขันกับคู่แข่งได้ ที่สำคัญคือการจะผลิตสินค้า
ออกมานั้น จะต้องเน้นเรื่องคุณภาพมาก่อนกำไร สิ่งที่คิดจะต้องตอบสนอง
ความต้องการของตลาดได้ การทำธุรกิจจะต้องไม่สุกเอาเผากิน
ต้องเน้นคุณภาพ เพราะชื่อเสียงสำคัญในระยะยาว

นายสุทธิชัยสอบถามความคิดเห็นของนายบัณฑูร ถึงความพร้อมของคนไทย
ที่จะเข้าสู่เวทีอาเซียน ซึ่งนายบัณฑูรแสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
โดยเปรียบเทียบ "คนไทย" กับ "ทฤษฎีกบต้ม" คือ คนไทยเคยชินกับ
ความสะดวกสบายไม่กระตือรือร้น จะปรับตัวก็ต่อเมื่อสายไปเสียแล้ว
เช่นเดียวกับกบโดนต้ม ที่ระยะแรกของการตั้งไฟน้ำจะอุ่น
กบจะรู้สึกสบาย ไม่กระโดดออก รู้ตัวอีกทีน้ำเดือดแล้วก็ตาย

ทั้งนี้นายบัณฑูรแสดงความเห็นว่า เมื่อถึงเวลาจริงๆ แล้วคนไทยก็ต้องต่อสู้
กับคู่แข่งได้ ขอเพียงในการทำธุรกิจนั้นต้องใส่ใจ ต้องรู้จักคิด สินค้าที่จะนำไป
แข่งต้องเป็นสินค้าที่สามารถสู้กับคนอื่นได้ โดยเราเก่งเรื่องการเกษตร
ซึ่งน่าจะใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ ขณะที่ในแวดวงการเงินการธนาคารก็สู้ได้
แต่มีคู่แข่งเยอะ หากจะแข่งขันจะต้องไปร่วมกับธนาคารท้องถิ่นของ
ต่างประเทศ เพราะเรายังไม่ใหญ่พอ ขณะที่สิงคโปร์และมาเลเซีย
อาจได้เปรียบเรา เพราะเขาเข้มแข็งกว่าเรามาก
นายสุทธิชัยได้สอบถามความคิดของนายบัณฑูร หากเปรียบเทียบหลัก
การทำงานของนายสตีฟ จ็อบส์ ในฐานะผู้บริหารแอปเปิล
แล้วสมมุติให้เป็นผู้นำประเทศ แล้วสมมุติให้มาเป็นผู้บริหารประเทศ
เราคิดว่าเป็นอย่างไร นายบัณฑูรแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ว่า
แนวคิดของสตีฟ จ็อบส์ แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถนำพาแอปเปิลไปได้
โดยยึดหลักคิดว่าทุกสิ่งต้องทำได้
"อย่าได้คิดว่า ทำไม่ได้ ผู้นำจะต้องคิดว่า จะทำอะไรให้ประเทศสามารถ
แข่งขันได้ ต้องมีแนวคิดจินตนาการล่วงหน้า และมุ่งมั่นทำความคิดนั้น
ให้เป็นจริง ต้องมีความมุ่งมั่นว่า สิ่งที่ตัวเองคิดถูกและสามารถทำได้
และที่สำคัญหากมองผ่านมุมของ จ็อบส์ หรือให้ จ็อบส์ เป็นผู้นำประเทศ
ลูกค้าเขาคือประชาชน ที่ต้องการให้เขาสร้างความอยู่ดีกินดีให้"
http://www.oknation.net/blog/Sp-Report/2012/07/27/entry-8
http://www.youtube.com/watch?v=Mk7M1hKbXFs

http://www.youtube.com/v/Mk7M1hKbXFs
ความคิดเห็นที่ 1
อย่าไปเครียด ใช้ชีวิตตามปรกติ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนเยอะๆ ไม่ใช้บอกว่าจะเข้าประชาคมอาเซียนแล้วน้าๆๆๆ แล้วยังไง ภาครัฐให้ความรู้ประชาชนเยอะๆหน่อย


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คนไทยอยู่รอดแน่ๆ ไม่ต้องกลัว

รอดที่จะกลายมาเป็นผู้เช่า ผู้ขายแรงงาน เพราะไม่มีอะไรเหลือแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ประตูยังไม่ได้เปิดเลย ต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดินไปไม่รู้เท่าไรแล้ว

อย่าคิดว่า ความคิดเห็นที่ 3 พูดเล่นๆนะ

คิดดูว่าธนาคารไทยสิงคโปร์เป็นเจ้าของเท่าไร การเคหะร่มเกล้าสิงคโปร์ก็มาจัดการ ที่อื่นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
"การทำธุรกิจจะต้องไม่สุกเอาเผากิน ต้องเน้นคุณภาพ เพราะชื่อเสียงสำคัญในระยะยาว"

ทำอะไรต้องนึกถึงคำนี้ ต้องนึกถึงคนรุ่นหลัง ที่เค้าจะลำบากกว่าเรา .....

ขอบคุณข้อมูลดีๆนะคะ จขกท.


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ว่ายุคไหน

คนไทย อยู่รอด ทั้งนั้น

ที่ไม่รอด คือพวกใจเสาะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ในอาเซียน คนไทยก็มีความสามารถ ความพร้อมในหลายๆด้าน เราเป็นรอง สิงคโปร์ มาเลเซีย

ไทยเราอยู่รอดได้อยู่เเล้ว เเต่ก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ อย่าหยุด หยุดทะเลาะกันเรื่องการเมืองน้ำเน่า เเล้วจะดีขึ้นเยอะ

ผมกลัวจริงๆ กลัวว่าไทยจะตามรอยฟิลิปปินส์ จากประเทศร่ำรวยที่สองในเอเชีย เป็นประเทศที่จนติดอันดับโลกไปเเล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คนนำของเราตอนนี้มองไม่ขาดมากกว่า ปัญหามากมายเยอะแยะ แต่แก้แบบขอไปที ให้ ปชช. เลิกบ่น
แต่เรื่องการเมืองนี่ โอ้โห สรรหาข้อมูลมาเจาะลึกทุกขั้นตอนมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เลิกเล่นกีฬาสี หันมาทำหน้าที่ของตนเองด้วยความมุ่งมั่น อย่ามีอคติต่อกัน ไม่เล่นพวกเล่นพ้อง เลิกคิดแต่จะช่วยพวกเดียวกัน "พวก" ในที่นี้ควรจะมีแต่ประเทศชาติคือ "ไทย" โดยรวมเท่านั้น

ส่วนตัวคิดว่า ประเทศไทยไปรอดปลอดภัยแน่นอน แม้นว่าถึงวิกฤติจริงแล้ว ต้องมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย ดังคำโบราณว่าไว้ว่า "กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี" (คงเพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น??)


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
หากทุกคนมุ่งไปที่การแข่งขันทางด้านบริการและสินค้า
ทุกคนจะหลงลืมความเป็นตัวตนของตัวเอง เพราะมุ่งไปทางด้านนั้นกันอย่างเดียว
อย่าลืมว่า สิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริงคือ ความเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของตัวเอง ที่มีความแตกต่างไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิงของเหล่าอารยประเทศ ที่ทุกคนต้องมี หากว่าสู้เค้าไม่ได้ ผมเชื่อว่าคนไทยเราไม่ไร้น้ำยา ในการงัดกระบวนการที่มีมาต่อสู้กับเค้าได้ ผมเชื่อว่าอย่างนั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาหรอกครับ

คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวนา ปลูกข้าวได้เท่าไหร่ก็เอาไปจำนำกับรัฐบาล เงินดี ทำงานหนักไม่กี่วันก็มีกินมีใช้สบายๆ จะดิ้นรนปรับตัวไปทำไมกัน

ทำไมต้องปรับตัว เกิดมาก็สบาย คลอดฟรี เรียนฟรี เจ็บป่วยปรี สวัสดิการฟรี ไฟฟ้า ประปาฟรี แก่แล้วก็ได้เงินใช้ฟรีๆ ทำนา นิดๆหน่อยๆก็มีเงินเหลือกินเหลือใช้ จำนำได้ราคาเหมือนแจกเงินฟรี

ไอ้พวกหน้าโง่ คิดจะไปแข่งขันกับต่างชาติ ทำงานกันหนักๆ ปล่อยให้โง่ไป ปล่อยใหเ้หนื่อยไป


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ปีนี้คนไทยไต่อันดับโลก กินเหล้ามากขึ้นมาสู่อันดับ 5 ของโลก

ปีนี้จำนำข้าวได้ราคาดี ต้องฉลองกันหน่อย

ปีหน้ากูจะไปเที่ยวยุโรป


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ปีนี้จำนำข้าวได้ราคาดี ต้องฉลองกันหน่อย ปีหน้ากูจะไปเที่ยวยุโรป จากคุณ : คนไทย
.
คิดว่าจะไปขายข้าว อย่าลืมนะว่าตอนนี้ไทยตกแชมป์ส่งข้าวออกไปแล้วนะ
.
ความคิดเห็นที่ 10
ถ้าได้อย่างคุณว่าก็เป็นวาสนาของคนไทย
แต่ในโลกปัจจุบันผมดูเหตุการณ์แล้วน่าจะลำบากเอาการ วิทยายุทธก็มีแปลกๆซับซ้อนมากขึ้น
คนสิงคโปร์ 100000 คน มีเงิน $100 ล้านยูเอสขึ้นไป ตั้ง 10 คน แล้วที่มีสัก $10 ล้านขึ้นไปสักเท่าไร คนพวกนี้สามารถที่จะไล่ชาวนาไทยไปอยู่คอนโดแล้วหลอกว่าดีกว่าเป็นเจ้าของที่นาได้ไม่น้อย สั้นๆก็คือซื้อไทยแลนด์ได้เลยแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ประเทศไทยส่งออกข้าวไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับชาวนา

รัฐบาลจะเอาข้าวไปทิ้งก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ชาวนาไม่เกีี่ยว

ชาวนาจำนำข้าวได้ราคาสูงกว่าตลาดโลกสองเท่า ชาวนาพอใจแล้ว วันนี้มีเงินกินเ้หล้า มีกับแกล้มดีๆด้วย ปลาแซลมอนผัด อย่าดูถูกชาวนาว่า โง่ ชาวนารู้จักกินของแพงๆเหมือนกัน

ต่างชาติมาซื้อที่นา ราคาดีก็ขายไป อย่างพวกมันไม่มาทำนาเองหรอก ให้กูเช่าทำนา ถ้าไม่ให้กูเช่า ขึ้นค่าเช่ากู เป็นเรื่อง ถิ่นกู ชุมนุมประท้วง กูถูกหลอก รัฐบาลก็ต้องมาช่วยพวกกู


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
รอดครับ รอดยาก


ตอบกลับความเห็นที่ 15