ความผูกโกรธ หรือ ความแค้น ของชาติต่างๆโดยเฉพาะของสตรี

ผมคิดอยู่หลายทีว่าจะตั้งกระทู้ดีไหม ตั้งแล้วได้อะไร เอาเถอะไหนๆก็ไหนๆคิดมานานแล้ว ลองตั้งกระทู้ดู

อ่านตรงนี้ก่อนนะครับ
ใครจะนอกเรื่องไปบ้าง ทักทายใครบ้างเชิญตามสบาย แต่ขออย่าพูดถึงคน ที่โกรธกัน และผมก็ไม่ได้มีสาระซ่อนเร้นอะไรที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้น

เริ่ม
ผมอยากทราบว่า ท่านที่อยู่ต่างประเทศนานๆหรือเคยพบเคยเห็นมา คนในประเทศที่ท่านอยู่โดยเฉพาะสตรีเป็นอย่างไรบ้างเมื่ิอโกรธกัน

ผมเองอยู่ต่างประเทศนานก็จริงแต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้เท่าใดนัก โดยเฉพาะกับผู้หญิงต่างชาติซึ่งไม่ได้รู้จักมาก ที่ไม่ค่อยสนใจความโกรธของผู้ชาย เพราะผู้ชายตามที่ผมเข้าใจ เวลาโกรธมักจะไม่โกรธกันเล่นๆ โกรธแล้วอาจะต้อง ขึ้นโรงขึ้นศาลหรือไม่ก็แตกหักกันไปเลย ผมคิดว่าบางทีผู้หญิงเขาโกรธกันเล่นๆได้

ขอเล่าเฉพาะที่บ้านก่อนก็แล้วกัน
นานโข ภรรยาผมเปิดร้านขายเครื่องประดับ รับมุกแท้มาร้อยเป็นสร้อยคอ เราเชื่อว่าเป็นของแท้และมีราคาประมาณ $500 จริง พอคืนให้เจ้าของไปเขาเอาไปให้ร้านประเมินราคา ทางร้่านบอกว่าเป็นของปลอม เจ้าของมุกมาเรียกเงินโดยเอาของมาด้วย เราก็รู้ทันทีว่าคนละเส้นกับที่เธอร้อย
สั้นๆ เราไม่ยอมให้เงินตามที่เรียก $500 ตกลงไปขึ้นศาลเราเสียเงินค่าทนายไปเกือบสองพัน ศาลยกฟ้อง ภรรยาผมโกรธมาก กลับมาถึงบ้านออกไปจุดธูปหลังบ้านสาปแช่ง เอาขนาดนั้นกันเลย ทีเดียว ราวสิบกว่าปีให้หลังไปเจอกันอีก เห็นเขาเดินแบบกระย่องกระแย่ง ถือไม้เท้าทั้งสองคนผัวเมีย ราวกับว่าจะอยู่ไม่นาน ประกอบกับภรรยาผมกลายเป็นคนวัด คนวาไป คุณเธอก็กลับมาจุดเทียนนอกบ้านอีก คราวนี้ขออโหสิกรรมให้เขาไป เป็นอันว่าจบนิทานส่วนตัว

ที่ผมเคยเจอรู้สึกว่าสตรีไทยเราจะผูกโกรธนานมาก และโกรธค่อนข้างง่ายด้วย (มีเรื่องขำจะเล่า) โกรธเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว โกรธแล้วโกรธเลย บางทีโกรธกันส่วนตัวแล้วยังไม่พอ ต้องชวนเพื่อนที่รู้จักมาให้ช่วยโกรธด้วย ถ้าเพื่อนไม่ช่วยโกรธ ก็อาจจะโกรธเพื่อนคนนั้นต่อ การไปชวนเพื่อนมาช่วยโกรธ นี่ฟังแล้วก็น่าขำ แต่จริงๆแล้วมีมาเป็นลูกสมุนกันเป็นพรวนโดยไม่มีเหตุมีผลของตัวเอง แต่ที่มีเหตุมีผลก็มาก เธอโกรธก็โกรธไปซิ ฉันไม่เกี่ยว ดีไม่ดีคนนั้นอาจจะแจ้ง ไปที่คนที่ถูกโกรธอีกต่างหาก ผมสังเกตว่าฝรั่งมักจะไม่โกรธกันนาน ทะเลาะกันวันนี้ พรุ่งนี้ก็คุยกันเหมือนไม่มีอะไรเมื่อวาน
เมินเสียเถอะสำหรับสตรีไทยโดยทั่วไป หรือว่าไม่จริง

ผมเองโกรธวูบวาบเป็นบางคราว แต่ไม่โกรธนานเหมือนกัน ยกโทษให้ได้ง่ายมาก และไม่ค่อยสนใจว่าเขาโกรธหรือเปล่าอีกด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ลืมเหมือนกัน คือยกโทษได้แต่ลืมไม่ได้

บางทีคนที่ดีเก่งฉลาดๆมีอะไรดีๆเยอะ แต่ด้วยความผูกโกรธอยู่ในสมองมากอาจจะทำให้เพี้ยน ไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ เพี้ยนจริงๆนะไม่ใช่เพี้ยนหลอก ยังมั่นใจตัวเองและไม่รู้ตัว อายุอาจจะช่วยอะไรไม่ได้

แต่คาถานี้อาจจะช่วยได้
อักโกเธนะชิเนโกธัง พึงชนะความโกรธด้วยการไม่โกรธ
จะให้ได้ผลดี ต้องเข้าวัดประกอบ

สรุปเนื้อหาของกระทู้ที่จะถาม
มีใครพอจะบอกได้ไหมครับว่า ผู้หญิงในประเทศที่ท่านอยู่นะ เขาโกรธกันนานๆไหม ถ้าโกรธแล้วเขาไปชวนให้คนอื่นมาช่วยโกรธไหม ถ้าชวนแล้วเขามาช่วยโกรธหรือเปล่า

หนืุง สอง สาม คลิก!

ความคิดเห็นที่ 1
... ความโกรธ คือเพลิงที่เผาใจตัวเองค่ะ .......
ทั้งๆที่รู้ แต่ก็เผาจนเกรียมไปหลายรอบแล้วค่ะ มาได้สติอีกที ตอนเหนื่อยค่ะ เหนื่อยมากๆเข้า ก็ถามตัวเองว่า นี่เรากำลังมีทุกข์ จุดไฟเผาตัวเองอยู่นะนั่น ...หลังๆเลยใช้วิธี อยู่ให้ห่างจากสิ่งที่ไม่ชอบค่ะ สามารถลดสิ่งกระทบภายนอกลงได้ค่ะ

.....สาวๆ หรือไม่สาว ในประเทศที่เราอยู่ จากมุมมองส่วนตัวนะคะ เขาไม่โกรธกันนานนะคะ และไม่ชวนเพื่อนโกรธด้วย อาจเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจ และเคารพในการตัดสินใจของผู้อื่นมังคะ เลยไม่คิดชวนคนอื่นร่วมเกาเหลาด้วยอ่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
คนที่โกรธง่ายน่าจะเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตมากพอดู และให้ความสำคัญกับตัวเองค่อนข้างจะสูง จะว่าไปคนรอบๆตัวไม่มีใครช่างคิดช่างแค้นหรือว่าโกรธง่ายเลยค่ะ มีแต่คนสมองกลวง คือนิสัยคล้ายๆกันหมดคือ คิดช้า คิดน้อย และออกจะด้านๆนิดนึง ใครด่าอะไรก็ไม่ค่อยจะเจ็บ เท่าที่สังเกตดูเพื่อนๆเป็นแบบนี้ทุกคน

มีบ้างเหมือนกันที่พูดจาไม่ถูกหูหรือเข้าใจผิด แต่เราจะคุยกันให้หายข้องใจ ว่าอย่าพูดแบบนั้นอีก หรือใครผิดก็ขอโทษกันไป จบ เสร็จแล้วลืม หันมาทำอาหารกินกันต่อ ไม่มีแบบแค้นข้ามชาติอะไรแบบนั้น ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ลืมอะไรง่ายมากๆและจะทนไม่ได้กับการที่ต้องนั่งหน้าตูม มันจะคันปากอยากคุย ให้โกรธใครนานๆนี่ทำไม่เป็น ขนาดเคยโดนผู้ชายหลอกจนย่ำแย่ เจอกันก็ยังทักทายกันดีเลยค่ะ ดันลืมซะแล้วว่าเขาทำอะไรกับเราไว้

เท่าที่คบๆมาหลายชาติต้องบอกว่าเห็นด้วยเรื่องสตรีไทยช่างโกรธง่าย บอบบาง อ่อนไหว ชาติอื่นๆไม่ค่อยเป็นจริงๆ เคยด่าเพื่อนอังกฤษแบบหยาบคายถึงพริกถึงขิง ด่าเสร็จอีกสองชั่วโมงก็กลับมานั่งกินขนมกันต่อได้ แต่กับคนไทยคิดว่าเขาคงจะโกรธเราไปจนวันตายแน่นอนเลย แบบไม่ต้องมาเผาผี ตายก็ไม่อโหสิ

ปกติจะคิดว่าตัวเองนั้นไม่ได้สลักสำคัญอะไรนักหนา ใครจะด่า จะว่า ก็ไม่ได้สนใจนัก ยิ่งคนไม่สนิทนี่จะเฉยๆเลย อยากจะคิดว่าตัวเองเป็นคนใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ค่ะ เลยจะไม่ค่อยยุ่งกับคนที่กระทบไม่ได้ หรือคนที่เราต้องระวังตัวเวลาอยู่ใกล้เขา ยิ่งแบบถ้าจะให้เราทำอะไรตามเขาหรือต้องมีพวกพ้องนี่ไม่เอาเลย เพราะว่าเป็นคนมีความคิดเป็นของตนเอง สามารถแยกแยะอะไรเองได้


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตัวเองเป็นคนที่โกรธใครไม่นาน เรียกว่าเป็นคนที่ไม่แค้นฝังหุ่นหรือผูกใจเจ็บกับคนที่ทำนิสัยแย่ๆกับเรา แต่บางครั้งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการที่เราไม่โต้ตอบคนพวกนั้นกลับไปเลยเราคือคนโง่หรือเปล่า


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่เคยสังเกต แต่คิดว่านิสัยเนี่ยไม่ได้ผูกติดที่ชาติกำเนิดคงเหมือนๆกัน แต่เนื่องจากวัฒนธรรมการเลี้ยงดูที่หล่อหลอมมาทำให้แสดงออกแตกต่างกันมากกว่าค่ะ

เหมือนถามว่าคนชาติไหนเลว หรือดีมันตอบไม่ได้ ตัวเองพยายามไม่ได้คนมาโกรธเรา หรือไปโกรธเค้า แต่เรื่องนี้อยู่ที่ประสบการณ์และวัย เมื่อตอนเด็กๆจะโกรธง่าย โตแล้วแก่แล้วก็โกรธยากขึ้น คือ จากประสบการณ์ดูว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจนะ เลยให้อภัยก่อนจะโกรธ ก็มีเหตุผลมากขึ้น แต่เรื่องผูกใจเจ็บพยาบาทนี้ อันนี้เหมือนยาพิษ คนที่พยาบาทคือคนก็กลืนยาพิษซะเอง ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เราเคยขับรถไปขูดรถข้างๆตอนจอดรถ แล้วรีบลงไปส่งลูกเข้าโรงเรียน
เลยไม่ได้ทิ้งโน๊ตไว้ให้เจ้าของรถ เจ้าของรถ(ผู้หญิง)มาเจอรถตัวเองสีถลอกโมโหมาก พอดีเราออกมาพอดี เค้าก็บ่นๆพร้อมต่อว่าๆรถเค้าเพิ่งถอยมาใหม่ ทำแบบนี้ได้ไง เราก็ขอโทษขอโพยวันนั้นฝนตก ลูกเพิ่งเข้าเรียนวันแรก เรารีบร้อนไปหน่อย
เจ้าของรถก็บอกว่าเค้ายกโทษให้ แล้วโทรหาประกันก็จบ ไม่มีกริยาอาการไม่ดี
อันนี้ฝรั่งอเมริกัน

ส่วนแม่เราโกรธมากที่เราหนีตามสามีมาอยู่อเมริกา ถึงขนาดขี้นเขาคิชกูฎไปสาป
แช่งเราให้เราชิปฉายเลยทีเดียว สาปแช่งเราคนเดียวไม่พอสาปแช่งไปถึงลูกเราด้วย (อันนี้พี่สาวเล่าให้ฟัง) งงเหมือนกันอะไรจะรุนแรงปานนั้น

แต่ทุกวันนี้เรายังอยู่ดีมีสุขไม่ได้ชิปฉายล้มตายเป็นโรคีร้ายแต่อย่างใด ตอนนี้ก็รอเวลาดูว่าเมื่อไหร่คำสาปจะมีผล


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เรื่องโกรธใครแล้วชวนคนอื่นมาช่วยโกรธด้วยนี้ เห็นแต่พวกเด็กวัยรุ่นทำกันค่ะ ส่วนผู้ใหญ่นั้น ส่วนมากจะไม่ทำกัน แต่ก็เคยเจอมาบ้างกับคนที่ทำตัวเป็นเจ้าแม่ Bully ชักชวนคนโน้นคนนี้มาร่วมกันกลั่นแกล้งคนที่ตัวเองเหม็นขี้หน้า

ดิฉันเคยปะฉะดะกับเพื่อนร่วมงานคนเดนมาร์กหลายครั้ง ขนาดตบโต๊ะแล้วชี้หน้าด่า จะว่าอีโก้สูงก็คงจะใช่ แต่ดิฉันไม่ชอบใครให้มาเสือใส่เกือก มาจุ้นจ้านกับงานของดิฉัน แบ่งงานกันแล้ว อย่ายื่นหน้ามาจุ้นมาทำรู้ดีทัั้งๆที่ไม่รู้อะไร หรือมากล่าวหาว่าดิฉันอู้งาน ทั้งๆที่ดิฉันวิ่งทำงานจนขาขวิด ขณะที่ตัวเองไปนั่งแตหลอคุยเรื่องส่วนตัวแย้กๆ แบบนี้มันฉุนและรับไม่ได้ค่ะ ต้องว่าและด่าทันที แต่ด่าแล้วก็แล้วไป พอหายโมโหแล้วก็คุยกันต่อได้ และทำงานร่วมกันได้ ไม่ได้ผูกใจเจ็บแบบแค้นฝังหุ่น (หรือคนอื่นทำดิฉันก็ไม่รู้และไม่สนใจล่ะค่ะ) ส่วนเรื่องชวนคนอื่นโกรธนั้นยังไม่เคยเจอ เจอแต่คนที่พยายามนินทาว่าร้ายคนอื่น แต่พอไม่มีใครร่วมนินทาด้วย เรื่องมันก็แป้กอยู่แค่นั้น

ส่วนตัวที่เคยเจอมาดิฉันว่าคนไทยโมโหร้ายและโกรธนานที่สุด บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็โกรธกันซะนานเป็นปีเป็นชาติ เรื่องชวนคนอื่นมาช่วยกันโกรธนี่เคยเจอแต่ตอนอยู่เมืองไทย แล้วเรื่องที่โกรธนี่ก็แปลกมาก คือเค้าเชื่อคำนินทาของคนอื่นแล้วก็มาชวนกันบอยคอต ไม่พูดไม่จากับเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
คุณอิสฯ

ช่วงนี้ปิดเทอมใหญ่ ไม่ค่อยมีอะไรทำก็ขอแจมนะครับ จะว่าไปก็เผอิญนะ ผมกำลังคิดที่จะตั้งกระทู้ว่าด้วยความสวยและเสน่ห์ของผู้หญิงไทยพอดี งั้นตอนนี้ผมขอแจมคุณอิสวาสุไปพลางๆ ล่ะกันนะครับ ตอนนี้ว่างหนัก คงจะว่างไปจนกว่าจะเปิดเทอมนู่นแหละ ถ้าเมียอยู่บ้านไม่ทำงานก็ไม่ค่อยว่างหรอก กระหนุงกระหนิงหยอกล้อกันตามประสาคนมีเมียสวยน่ะ อิ อิ


พูดตรงๆ เลยนะ ผมว่าเสน่ห์ของผู้หญิงไทยอย่างหนึ่งก็คืออาการโกรธนิดๆ (ความจริงน่าจะเรียกว่า "งอน" ซะมากกว่า) เวลาเห็นผู้หญิงคนไทยงอนหรือติดโกรธนิดต่อแฟนในชีวิตจริงหรือในละครแล้ว แหะ แหะ แหะ ผมนี่แทบจะละลายเลยล่ะ(อาจจะเป็นเพราะผมชอบง้อเพศตรงข้ามก็ได้) นี่ขนาดเห็นคนอื่นเขางอนกันนะ เผอิญว่าผมออกจะโชคร้ายอยู่สักหน่อยที่ไม่เคยเคยมีวาสนาได้ควงสาวไทยเป็นแฟนเลย จึงไม่ได้มีโอกาสสัมผัสอาการถูกงอนจริงๆ


เรื่องระดับอารมณ์ของความโกรธนี่ ผมว่าไม่น่าะจะหนีกันเท่าไหร่นะระหว่างหญิงไทยกับหญิงฝรั่ง แต่การหาที่ระบายหรือสมรรถะในการ "ควบคุม" แล้วผ่อนคลายนี่ผมว่าฝรั่งเขาจะทำได้ดีกว่าตามที่ผมสังเกตุดูเอานะ ภรรยาผม ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมายี่สิบสามปีแล้ว ผมเห็นเธอโกรธนับครั้งได้ เธอนิ่งและคอนโทรลดีมากๆ แต่ผมรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอโกรธแบบเป็นฟืนเป็นไฟไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรมเลยก็คือเรื่องความไม่ยุติธรรมหรือเรื่องถูกเอาเปรียบ พวกสินค้าที่เธอซื้อมาใช้นี่ถ้าไม่ได้คุณภาพตามโฆษณา เธอเขียนไปคอมเพลนที่บริษัทเลย ไม่นานมานี้ พึ่งจะซื้อของเล่นมาให้ลูกเป็นที่เป่าลูกโป่งวิทยาศาสตร์นะ เป่าลูกโป่งได้ลูกไม่ใหญ่ก็แตกๆๆ เธอโกรธมาก....เขียนจดหมายไปด่าบริษัทซะยืดยาว ทั้งๆ ที่ของนั้นราคาสองปอนด์กว่าๆ เอง.....จนบริษัทต้องเขียนจดหมายมาขอโทษหร้อมมีของสมนาคุณมาให้อีก


ย้อนกลับมาที่ผุ้หญิงไทย......ผมว่าผู้หญิงไทยหรือผุ้หญิงทั่วๆ ไปก็ได้
๑. ถ้าโกรธกับคนที่เป็นศรัตรูนี่ ผู้หญิงไทยน่ากลัวมากๆ นะ....
๒. ถ้าโกรธกับคนที่รู้จักเผินๆ...คนๆ นั้นจะกลายเป็นศรัตรูของเธอ และเพื่อนๆ ของเธอด้วย
๓. ถ้าโกรธกับคนรักเช่นญาติ พ่อ แม่ โกรธนี่จะนานไม่นาน ขึ้นอยู่กับการเยียวยา
๔. ถ้าโกรธกับแฟน ซึ่งมีหลายระดับ เช่น มาก กลาง เล็กน้อย
๔.๑ โกรธมาก ก็คงต้องเลิกเป็นแฟนกัน ไอ้หนุ่มคนนั้นอาจจะโชคร้ายโดนกลั่นแกล้งทีหลัง
๔.๒ โกรธกลาง อันนี้ฝ่ายๆ ต้องเป็นฝ่ายง้อสุดๆ
๔.๓ โกรธเล็กน้อย(งอน) อันนี้แหละคือเสน่ห์ของหญิงไทย ที่หายากในผู้หญิงจากชาติอื่นๆ ผมชอบๆๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
พึ่งนึกขึั้นมาได้ว่า ความโกรธของหญิงตะวันตกบางคนก็รุนแรงใช่เล่นนะ

ที่นึกขึ้นได้ก็ตอนที่ไอ้แบงค์เพื่อนผมมันเคยโดนแฟนอเมริกันสาวของมันเฉือนพวงสวรรค์เกือบขาดทั้งพวงที่เชียงใหม่ หลังจากที่ถูกจับได้ว่าไอ้แบงค์นอกจากจะเป็นไกด์แล้วยังทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่สับรางรถไฟด้วย มันควงแหม่มซ้อนสามซ้อนสี่ ย่ามใจว่าแฟนมันจะไม่ได้ไล่ไม่ทัน ที่ไหนได้กว่าจะรู้ตัวพวงสวรรค์ที่หวงแหนเกือบโดนเจี๊ยน

ไอ้แบงค์คนนี้เป็นคนเดียวกันกับแบงค์ในเรื่องราวกระทบไหล่คนดังของผมเรื่องนี้ไง http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/H3131184/H3131184.html


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เจออเมริกันค่ะ โกรธไม่ชอบยังไม่พอต้องคอยใส่ร้ายป้ายสี พอมีใครพูดถึงเราขึ้นมาล่ะก็ เธอจะต้องพูดๆๆให้เราเสียหายในสายตาคนอื่น จากคนที่เคยดีต่อกันจนคนคนนั้นไม่ยอมพูดกับเราอีกเลย เราอึ้งว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ตัวต้นเหตุว่าเป็นใคร เราปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยว จุดธูปแบบภรรยา จขกทแหละค่ะ แต่ไม่ได้แช่งค่ะ อธิษฐานว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน ขออย่าได้เจอกันอีกเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คุณวัชรานนท์พูดเรื่องผู้หญิงไทยชอบงอน เมื่อก่อนตอนแต่งงานใหม่ๆ
ก็จะมีอาการงอนบ้างตอนที่เราพูดอะไรแล้วเขาไม่รู้เรื่อง คือเขายังไม่ชิน
สำเนียงเราก็จะมีงอนบ้าง แต่อีตาสามีไม่รู้เรื่องหรอกนึกว่าเราเซ็งขี้เกียจพูด

ก็เลยปล่อยให้เราอยู่เงียบๆ ไอ้เราก็รอว่าเมื่อไรเขาจะมาง้อพูดด้วยนะ...ไม่มี..
จนเราเหงาปากต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดเอง ตอนหลังก็พยายามบอกเขาว่าถ้าฉันอยู่ๆ
ก็เงียบไปนั่นคือฉันอาจมีอะไรในใจหรือคุณทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ คุณต้องมาถาม
ฉันซิว่าเป็นอะไร สามีบอกว่าแล้วทำไมไม่บอกละ แล้วเขาจะรู้ได้ไง...เออจริง..

เข้าเรื่องตอนยังไม่แก่อารมณ์ร้อนมากแบบมาไวไปไว เพราะเวลาโมโหใครก็พูดกัน
ให้รู้เรื่องเลยแล้วจบ จนคนที่บ้านกับเพื่อนๆ รู้ว่าถ้ามันโมโหแล้วไม่พูดนี่แสดงว่า
คนๆ นั้นจะหายไปจากความทรงจำอิฉันทันที

เดี๋ยวนี้เริ่มแก่บางเรื่องก็ปล่อยๆ ไปเห็นเป็นเรื่องตลกซะไม่เก็บมาคิดมากเดี๋ยวนอนไม่หลับ
มาอยู่นี่เพื่อนก็ไม่เยอะมากมายที่คบๆ ก็น่ารัก เพื่อนที่ทำงานก็บ้าๆ กันไปจบงานก็จบ
วันใหม่ก็เริ่มกันใหม่

ไอ้เรื่องชวนคนอื่นโกรธด้วยนี่ไม่เคย เคยโดนคนมาชวนให้โกรธคนที่เราไม่รู้จักเหมือนกัน
ใครจะไปโกรธตามละไม่ใช่ควายนะใครมาสนตะพายก็ตามเขาไป...แปลก..


ตอบกลับความเห็นที่ 10