เริ่มพิจารณาคดีอดีตสงฆ์ ข่มขืนเด็กเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

จับอดีตพระวัดธัมมาราม ชิคาโก ได้ที่อลาสก้า หลังก่อคดีข่มขืนเด็กอายุ 14 จนตั้งครรภ์เมื่อกว่าสิบปีที่ผ่านมา ศาลชิคาโก ตั้งค่าประกันสูงถึงห้าล้านดอลลาร์

หนังสือพิมพ์ชิคาโก ทริบูน รายงานข่าวเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2012 ถึงการจับกุมตัวนายจำนงค์ บัวอุบล หรืออดีตพระจำนงค์ จตฺตมโล แห่งวัดธัมมาราม นครชิคาโก ในข้อหาทำร้ายทางเพศ ซึ่งเป็นคดีอาญาร้ายแรง โดยระบุว่านายจำนงค์ ได้ก่อเหตุเมื่อปี 1997 ขณะที่ “เหยื่อ” มีอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสองปี เป็นเหตุให้เด็กหญิงคนดังกล่าวตั้งครรภ์และคลอดบุตรสาว

โดยหนังสือพิมพ์ชิคาโก ทริบูน อ้างคำกล่าวต่อศาลของนางดอนน่า นอร์ตัน ผู้ช่วยอัยการรัฐอิลลินอยส์ ระหว่างการพิจารณาขอประกันตัวผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ศาลในเมืองบริดจ์วิว ว่า ผู้ต้องหา ซึ่งปัจจุบันอายุ 62 ปี ได้พบกับเด็กหญิงคนดังกล่าวที่สวนสาธารณะใกล้วัด จึงชวนให้มาช่วยทำความสะอาดบริเวณวัดโดยแลกกับค่าจ้างจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ขอให้เข้ามาทำความสะอาดในกุฏิที่พัก และลวนลามเธอ

“ผู้ต้องหาให้เงินจำนวนหนึ่งกับเหยื่อ โดยขู่จะฆ่าพ่อของเธอหากเธอบอกใคร หรือไม่กลับมาหาเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับเขาอีก” นางดอนน่า นอร์ตัน กล่าว

ผู้ช่วยอัยการกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ทำร้ายทางเพศเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปี 1999 ที่เหยื่อของนายจำนงค์ บัวอุบล ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรสาวเมื่อเดือนมกราคม ปี 2000 ขณะที่เธอมีอายุเพียง 15 ปี และว่าเด็กหญิงไม่ยินยอมบอกใครถึงสาเหตุที่ทำให้เธอตั้งครรภ์ จนกระทั่งอีกเก้าปีต่อมา คือเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2010 ขณะเธออายุ 25 ปี และลูกสาวมีอายุ 10 ขวบ เธอได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากวัดธัมมาราม หลังจากที่ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือทางการเงิน แต่ไม่ได้รับความสนใจจากทางวัด

ชิคาโก ทริบูน รายงานต่อไปว่า เหยื่อกามของอดีตพระสงฆ์วัดธัมมาราม ได้ปฏิเสธที่เอาผิดกับนายจำนงค์ บัวอุบล ในคดีอาญา เพราะเกรงว่าจะต้องเปิดเผยตัวลูกสาวระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล จนกระทั่งในปีต่อมา คือเดือนกรกฎาคม ปี 2011 เรื่องนี้ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ของหนังสือพิมพ์ชิคาโก ทรีบูน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกทำร้ายทางเพศ ชื่อ Survivors Network (SNAP) ได้พูดคุยกับเหยื่อ พยายามโน้มน้าวให้เอาผิดต่ออดีตพระสงฆ์ในคดีอาญา โดยองค์กร SNAP ใช้เวลานานหลายเดือนในการเกลี้ยกล่อมจนเหยื่อยินยอมเข้าพบและแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่เชอรีฟของคุ๊ก เคาน์ตี เมื่อเดือนตุลาคม 2011

อย่างไรก็ตาม ข่าวระบุว่า หลังจากเกิดเหตุฟ้องร้องในคดีแพ่งได้ไม่นาน อดีตพระจำนงค์ ได้เดินทางออกจากวัดธัมมาราม มาอยู่ที่วัดพุทธวิปัสสนา เมืองลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย และได้ประจำอยู่ที่วัดนี้หลายปี จนกระทั่งผลของการตรวจดีเอ็นเอ เมื่อต้นในปี 2010 พบว่าเด็กหญิงวัย 10 ขวบ เป็นทายาทของอดีตพระจำนงค์จริง เขาจึงได้หลบหนีไปอยู่ที่เมืองแอนเคอเรจ รัฐอลาสก้า

ข่าวบอกด้วยว่า เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานถึงเจ็ดเดือน กว่าจะทราบว่านายจำนงค์ บัวอุบล ได้ลาสิกขาแล้ว และทำงานเป็นคนล้างจานของร้านอาหารแห่งหนึ่งในสนามบินแอนเคอเรจ ในอลาสก้า โดยเขาถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และส่งตัวมาดำเนินคดีที่คุ๊ก เคาน์ตี เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2012

ทั้งนี้ ผลของการพิจารณาคำขอประกันตัวนั้น ศาลของคุ๊ก เคาน์ตี มีคำสั่งให้ตั้งวงเงินประกันตัวนายจำนงค์ บัวอุบล สูงถึง 5 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ข่าวเรื่องการที่มีผู้หญิงอุ้มลูกสาวมาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งกับวัดธัมมาราม นั้น เคยเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาแล้ว โดยขณะนั้น ข่าวไม่มีการเปิดเผยชื่อของพระสงฆ์ที่ถูกกล่าวหา และบอกว่า ในคำฟ้องเรียกค่าเสียหาย ณ ศาลแพ่ง (คุ๊ก เคาน์ตี เซอร์กิท คอร์ท) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2010 ระบุข้อกล่าวหาหลายประการ เช่นทางวัดไม่สนใจที่จะช่วยเหลือเธอและลูกสาว แต่ให้ตัวแทนมาเจรจาเพื่อขอรับลูกสาวของเธอไปเลี้ยงดู, ทางวัดไม่ดูแลควบคุมพระให้เหมาะสม ไม่มีการตรวจสอบประวัติ และทางวัดไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเพียงพอ เช่นไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณวัด เป็นต้น

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้สอบถามรายละเอียดของคดีนี้ไปยังพระมหาถนัด อตฺถุจารี เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2010 โดยพระมหาถนัด ชี้แจงว่าเหตุการณ์ผ่านมาสิบปีแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ส่วนพระธรรมทูตที่ถูกกล่าวหานั้น เท่าที่ทราบได้ออกจากวัดธัมมารามไปประมาณ 2-3 ปีแล้ว และบอกว่าวัดธัมมารามได้ปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมฟ้องกลับสตรีที่ยื่นฟ้องเพราะทำให้วัดได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ นายจำนงค์ บัวอุบล หรืออดีตพระจำนงค์ จตฺตมโล นั้น มีวิทยฐานะเป็น น.ธ.เอก B.A เคยสังกัดวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่หนึ่งเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ ณ วัดธัมมาราม เมืองชิคาโก เมื่อราวปี 1995 ขณะอายุ 45 ปี พรรษา 24.

ที่มา แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) http://www.siamtownus.com/New-1207000193-1.aspx

ความคิดเห็นที่ 1
พระมหาถนัด อตฺถุจารี เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2010 โดยพระมหาถนัด ชี้แจงว่าเหตุการณ์ผ่านมาสิบปีแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ส่วนพระธรรมทูตที่ถูกกล่าวหานั้น เท่าที่ทราบได้ออกจากวัดธัมมารามไปประมาณ 2-3 ปีแล้ว และบอกว่าวัดธัมมารามได้ปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมฟ้องกลับสตรีที่ยื่นฟ้องเพราะทำให้วัดได้รับความเสียหาย

ยังจะทำเก่ง จะพิศูจน์ในชั้นศาลบ้าอะไรอีก ในเมื่อเด็กดีเอ็นอี ตรงกับไอ้หัวโล้นนั่น แถม แม่เด็กเป็นผู้เยาว์ แทนที่จะเอาเงินจ้างทนายมาฟ้องเขา มาให้เงินเยียวยาและรับผิด ที่พระลูกวัดตัวทำเรื่องชั่ว ยังจะมาเก่งจะฟ้องเขา. ดีเหมือนกันจะได้โดนฟ้องทั้งแพ่ง ทั้งอาญา ขายวัดจ่ายค่าเสียหายแน่


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
วัดนี้มีข่าวลงหนังสือพิมพ์บ่อยมากเรื่องพระลวนลามหญิง... มีมานานแล้ว ไม่เฉพาะรายนี้ แต่เจ้าอาวาสทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่มาโดยตลอด

ค่าประกันตัวห้าล้านเหรียญนี่ กว่าจะรอดออกจากคุกมาได้ก็คงชาติหน้า...


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
พระธรรมทูตที่ถูกส่งไปประจำที่ต่างประเทศนี่ ไม่ใช่จะได้ไปง่ายๆ ต้องมีเส้นมีสายเหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ผมมาเมืองนอกนี่ ไม่เคยคิดจะเข้าวัดไทยเลยถ้าไม่จำเป็น แต่ไงก็แล้วแต่ กฎหมายที่เมืองนอกโหดกว่าเยอะครับ ไม่รอดแน่ แนะนำให้ดีฟ้องวัดด้วยครับ โดนปิดแถมได้เงินรายเดือนไว้เลี้ยงเด็กอีก คดีพรากผูเยาว์ยังไงเค้าก็ช่วยผูเสียหายเต็มที่


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
คล้ายๆคดีดังพระเมืองไทยเมื่อก่อนนะ ที่ตอนนี้พระนั้นไปอยู่อย่างสบายที่อเมริกาแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
นานๆจะมีเรื่องแบบนี้
จึงทำให้เชื่อว่า พระส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่ทำแบบนี้
เราจึงทำไปวัด ทำบุญได้อย่างสบายใจนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไทยหรือชาติอื่นอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
นานๆมีเรื่องแบบนี้ที??????

มีให้เห็นทุกวันจนชินอ่ะครับ วันก่อนยังมีพระพกปืนกะยิงคู่อริเลย ยังไม่นับที่ไม่เป็นข่าวอีกมาก เมืองนอกก็มีครับ แต่ไม่ออกข่าวเท่านั้นเอง!!


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
นี่เป็นอีกตัวอย่างค่ะ

http://www.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=337988&Mbrowse=8


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
สาวเล่นอินเตอร์เนต เป็นเหตุมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระ รู้ทีหลังขอเลิก โดนชกบาดเจ็บปรับแค่5ร้อย
ผู้เขียน: โล้นห่มเหลือง
ตำรวจชุมชนนำพระประสิทธิ์ สุทธิโก และ น.ส.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณเบ้าตาซ้ายเขียว หลังทะเลาะวิวาทกันบริเวณสวนหย่อมประชานิเวศน์ ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี มาให้ ร.ต.อ.สุชาติ จันทสิงห์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์ สอบสวน





น.ส.ไก่ กล่าวว่า รู้จักกับพระประสิทธิ์ หรือพระโจ้ ทางอินเตอร์เน็ตมาตั้งแต่ปี 2551 ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นพระ จนสนิทสนมและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จนปี 2552 มารู้ว่าเป็นพระบวชอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่รู้ว่าอยู่วัดไหนและบอกเลิก แต่พระประสิทธิ์ไม่ยอมและขู่ว่ามีคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ ถ้าเลิกจะเอาคลิปประจานให้ครอบครัวดู เกรงว่าแม่จะเสียใจจึงต้องยอมพระประสิทธิ์มาตลอด ล่าสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไปหลับนอนกับพระประสิทธิ์ ทุกครั้งจะเป็นคนเอาเสื้อผ้าไปให้เปลี่ยนตามปั๊มน้ำมันหลังจากนั้นพระ ประสิทธิ์จะพาไปเปิดห้องตามโรงแรมในกรุงเทพมหานคร





น.ส.ไก่ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันพระประสิทธิ์ โทรศัพท์มาหาบอกให้ออกไปพบแต่ไม่ยอม พระประสิทธิ์จึงขู่ว่าจะมาหาที่บ้านแต่ไม่คิดว่าพระประสิทธิ์จะมาจริง ระหว่างกำลังจะเข้าบ้านกับพี่สาวต้องตกใจเมื่อเห็นพระประสิทธิ์อยู่ที่หน้า บ้านแล้ว และตรงเข้าฉุดกระชากจนเกิดการโต้เถียง พระประสิทธิ์ชกเข้าที่เบ้าตา 1 ครั้งก่อนที่ญาติ ๆ จะวิ่งไปตามตำรวจชุมชนให้มาความคุมตัวและนำตัวมาที่โรงพัก





จากการสอบสวนพระประสิทธิ์ ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีอะไรกับน.ส.ไก่ แค่รู้จักกันเท่านั้น แต่ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.ไก่เนื่องจากโมโห ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 500 บาทในข้อหาทำร้ายร่างกาย จากนั้น พระประสิทธิ์ และน.ส.ไก่ ต่างแยกย้ายนั่งรถแท็กซี่กลับวัดและบ้านไป




เรื่องนี้เห็นอะไร แรงหึงของพระมากปุถุชน 555


ตอบกลับความเห็นที่ 10