ช่วยแชร์ประสบการณ์สัมภาษณ์ visa F1

วันนี้ไปสัมภาษณ์มาค่ะ ตอน 8 โมง เลยอยากมาช่วยแชร์คำถามที่เราเจอนะคะ เพราะตอนหาข้อมูล เราก็อาศัยห้องนี้แหละค่ะเป็นตัวช่วยของเรา

ขอข้ามเรื่องการกรอก DS160 การจองวันเลยนะคะ

เราไปถึงหน้าสถานทูตตั้งแต่ 7.10 ค่ะ วันนี้แถวยังไม่ยาว อยู่แค่ตรงบันได 3-4 ขั้นก่อนถึงประตูน่ะค่ะ วันนี้สาวเสื้อชมพูไม่ได้ยืนเรียกตามเวลานะคะ คงเพราะคนยังไม่มากเท่าไหร่ ขอดูใบ confirmation ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า แล้วก็พาสปอร์ตค่ะ เสร็จแล้วก็จะเอาไฮไลท์เขียนเวลากับประเภทวีซ่าที่เราจองสัมภาษณ์ไว้หน้าแรกของใบ confirmation ค่ะ พร้อมกับให้บัตรสีน้ำเงินเรามา 1 ใบ

ตอนฝากของก็ฝากมือถือ กุญแจรถ ของมีคม อุปกรณ์ electronics ต่างๆค่ะ
ฝากหูฟังด้วยนะคะ ตอนแรกเราไม่ได้ฝาก แต่พอสแกนกระเป๋าแล้ว พี่ยามให้เอาไปฝากใหม่ค่ะ
ตรงขั้นนี้พี่ยามจะเก็บบัตรสีน้ำเงินที่เพิ่งได้รับแจกมา พร้อมกับได้ใบสีฟ้าให้มากรอกด้วย 1 ใบค่ะ

ผ่านเข้าไปข้างในแล้ว ระหว่างยืนต่อแถวก็กรอกใบสีฟ้าไปค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะคัดแยกเอกสารค่ะ
มีใบ confirmation, I-20, transcript, หนังสือรับรองการทำงาน, ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า, ใบเสร็จ SEVIS fee ค่ะ

ขั้นต่อไป สัมภาษณ์กับคนไทยค่ะ ของเราโดนถามไม่เยอะนะคะ แค่ไปเรียนอะไร กี่ปี เคยได้วีซ่ามาก่อนมั้ย มีญาติอยู่ที่นั่นมั้ย พอดีเรามีพี่สาวอยู่ค่ะ ก็บอกไปว่ามีพี่สาวแท้ๆอยู่ เค้าก็ถามต่อว่าพี่สาวทำงานอะไร ก็ตอบเค้าไปตรงๆเลยค่ะ เค้าก็แค่พยักหน้าไม่ถามอะไรอีก --- ตอนสัมภาษณ์กับคนไทย พอดีก่อนหน้าเราเป็นครอบครัวมาขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ เท่าที่ได้ยินคือเค้ากรอกไปว่าไม่มีญาติอยู่ค่ะ แต่ จนท.ถามย้ำค่ะว่าไม่มีญาติอยู่ที่นั่นหรอ ตอนแรกเค้าก็ยังยืนยันว่าไม่มี แต่จนท.ถามย้ำใหม่แล้วสุดท้ายเค้าก็บอกค่ะว่ามีญาติอยู่ โดน จนท.ดุเลยค่ะว่ามีแล้วทำไมไม่กรอกล่ะคะ ยิ่งตอนหลัง เหมือนลูกสาวคนโตเรียนอยู่ที่นั่นด้วย จนท.ยิ่งเสียงดังเลยเข้าไปใหญ่เลย เพราะคุณแม่บอกว่าเข้าใจว่าอยู่ คือไปอยู่ที่นู่นเลยน่ะค่ะ แต่ลูกสาวไปเรียน จนท.เลยย้อนถามกลับมาว่าไปเรียน แล้วตอนนี้ิาศัยอยู่ที่นู่นรึเปล่่าล่ะคะ... อีกเรื่องคือ เค้าถามว่ามีไปประเทศไหนมาบ้างภายใน 5 ปี เค้าคงกรอกไปประเทศเดียว แต่จริงๆคือไปหลายประเทศค่ะ อันนี้ก็โดนดุเหมือนกันว่าทำไมไม่กรอกให้ครบล่ะคะ แค่เปิดดูพาสปอร์ตก็เช็คได้แล้วนะคะ --- เพราะฉะนั้น เราว่าขั้นนี้ จนท.คนไทยจะดุหรือใจดี ขึ้นกับข้อมูลที่เรากรอกไปนะคะ ถ้าปกปิดอะไร เค้าจับได้จริงๆค่ะ แต่ถ้าบอกตามความจริงไปเลย ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ

หลังจากนั้นก็นั่งรอค่ะ เป็นช่วงที่รอนานที่สุดเลย เราได้กงสุลผู้ชายช่อง 11 ค่ะ คุยเป็นอังกฤษล้วนๆ ทักทายกันนิดหน่อย แล้วเค้าก็เริ่มถามค่ะ ไปเรียนอะไร กี่ปี เรียนจบมหาลัยมากี่ปีแล้ว จบแล้วทำงานอะไร แล้วก็ดูใบรับรองการทำงานค่ะ ซึ่งมันระบุไว้ว่าเราลาออกตั้งแต่ June 2011 เค้าก็ถามต่อเลยค่ะว่า 1 ปีที่ผ่านมาทำอะไรมา ซึ่งเราคาดไว้แล้วค่ะว่าโดนถามแน่ๆ เพราะเป็นคนว่างงาน ก็ตอบไปค่ะว่าเตรียมตัวสอบ TOEFL, GRE แล้วก็เรียน academic writing (ตอนตอบเราสบตากงสุลเลยค่ะ ซึ่งเค้าก็มองเราอยู่เหมือนกันนะคะ)

เสร็จแล้วก็ดูเรื่องเงินค่ะ ว่าใคร sponsor... ของเราเป็นคุณแม่ค่ะ เค้าก็ขอดูเอกสาร (bank statement อยู่กับเรานะคะ จนท.ไม่ได้แยกใส่แฟ้มไว้) เห็นเลยว่าดูจำนวนเงินค่ะ แล้วเค้าก็ถามเราอีกทีว่าโปรแกรมนี้เรียนนานเท่าไหร่ เราก็ตอบไปค่ะ เค้าคงคิดคำนวณตัวเลขในใจ เสร็จแล้วก็เซ็นชื่อในใบ I-20 เราค่ะ แล้วก็เงยหน้ามาบอกว่าเดี๋ยวเอาใบสีฟ้าไปยื่นที่ไปรษณีย์ด้านนอกนะ อีก 2-3 วันเค้าจะส่งพาสปอร์ตกลับไปให้ ได้ฟังแค่นี้แล้วเราก็ยิ้มกว้างเลยค่ะ จบท้ายด้วยท่านอวยพรให้เราโชคดีค่ะ :)

ใครที่รอสัมภาษณ์อยู่ เตรียมซ้อมตอบไว้นิดหน่อยนะคะ อย่างเราคือรู้จุดอ่อนตัวเองว่าเป็นคนว่างงานอยู่ ก็เลยเตรียมคำตอบตรงนี้ไว้แล้วค่ะ เลยตอบได้อย่างมั่นใจ. เท่าที่เราหาข้อมูลมา ก็ถามหลักๆแค่นี้นะคะว่าไปเรียนอะไร กี่ปี ทำงานอะไร ใครสปอนเซอร์ กลับมาแล้วมาทำอะไร (ข้อนี้เราไม่โดนนะคะ แต่คนหน้าเราโดนถามค่ะ). สิ่งสำคัญคืออย่าโกหกค่ะ เค้ามีข้อมูลของเราอยู่แล้ว และเราว่าเค้าต้องเรียนรู้พวกจิตวิทยามาบ้างแน่ๆค่ะ ดูบุคลิก ท่าทางเราเวลาตอบด้วย

ขอให้ได้วีซ่ากันทุกคนนะคะ :)

ความคิดเห็นที่ 1
ตกลง จขกท จบสาขาอะไร แล้ว I-20 บอกว่าไปเรียนอะไร ระดับไหน นานกีปี
ถ้าได้ หนังสือเดินทางคืน ช่วยบอกหน่อยว่าได้วีซ่ากีปีนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ดีใจด้วยนะครับ และขอบคุณสำหรับคำอวยพร อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ผ่านตรงสบตามองหน้า เค้าตอบ ก็ มใีชัยไปกว่าครึ่งแหละครับ

เพราะคนโกหก มักจะพยายาม ไม่มองหน้า หรือ สีหน้าออก นั่ยยแหละครับ

ยินดีด้วยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณธนิตา...เราจบเภสัชค่ะ ไปต่อโท public health ค่ะ (สาขาไม่ฮิตเนอะ - -") 2 ปี ค่าเรียนแพงงงงเอาเรื่องเลยค่ะ...bank statement ของคุณแม่ x2 ของค่าใช้จ่ายของทั้งสองปี กงสุลยังพิจารณาเรื่องเงินซักพักเลยค่ะ

คุณอีกออินึนเดและคุณเข้ามาครองโลก...ขอบคุณมากค่ะ ตั้งแต่เรื่องสอบ TOEFL การสมัครเรียน การขอวีซ่า การจองตั๋ว...


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
แอบอยากรู้ว่า ถ้าเราไปเรียนภาษาก่อนแล้วค่อย extend ต่อไปเรื่อยๆ ได้หรือเปล่าคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
คุณปากหนัก...ไปเรียนภาษานานแค่ไหน แล้วจะต่ออะไรหรอคะ. ถ้าต่อโท ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะคนก่อนๆหน้าเราก็ผ่านค่ะ. แต่ถ้าเรียนภาษาต่ออีกนานๆ ท่านกงสุลก็อาจจะถามได้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณ คุณ :CNB จขกท
พอได้หนังสือเดินทางคืน ช่วยตั้งกระทู้ใหม่่ ช่วยบอกว่าได้นานกีปีด้วย
คงได้ ไม่ต่ำกว่า ๕ ปั นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7