อกหักจากรักทางไกลเจ็บปวดจัง

อยากระบายค่ะ
เพิ่งอกหักมาแผลยังใหม่อยู่

เข้าใจทุกอย่าง เพียงแต่ยังทำใจไม่ได้
เลยอยากมาขอกำลังใจจากทุกคน และที่เลือกมาตั้งห้องนี้
เพราะ อยากได้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวของเราค่ะ

ได้รู้จักกับ คนนึง เค้าทำงานที่ต่างประเทศ
เค้าเป็นคนไทย แต่ไปใช้ชีวิตที่อเมริกา ถือได้ว่ามีความคิดอ่านเป็นอเมริกันมากกว่าไทย แต่เค้าทำงานที่อินโดนีเซีย

เราบังเอิญได้รู้จักกันผ่านเว็บไซด์เกี่ยวกับไดอารี่เว็บนึง
เราเลยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ช่วงนึง
จนมาเริ่มติดต่อกันผ่านทาง email / skype (แบบไม่ได้เห็นหน้า)
แต่ก็เห็นหน้าตากันผ่านทางรูปภาพนะคะ

ก่อนที่จะเริ่มคุยกันแบบ looking เราถามเค้า เค้าบอกว่าโสด
((จริงๆเราควรเอะใจตั้งแต่เค้าบอกว่า เค้ากำลังอยู่ในสเตตัส process of looking for someone right ซึ่งเราควรจะเอะใจว่าเค้าไม่ได้ดูเราคนเดียว แต่เราลืมนึกไป))

ก็ติดต่อคุยกันทุกวันในแบบ looking 5 เดือน
ไม่ได้แบบ friend คือคุยกันเรื่องราวทำความรู้จักกันเหมือนจีบๆ น่ะค่ะ
เค้าเป้นยังไง เราเป็นยังไง ชอบไม่ชอบแบบไหน

ก็เป็นความผิดของเราเองที่ไป หลงหรือปลื้มกับข้อความที่เมล์หากัน
ทั้งที่เค้าก็ไม่ได้คุยในลักษณะเฟลิตใส่เรา / หลี
แต่เป็นการพูดคุยแลกเปลีย่นความคิด และ
ทำความรู้จักกันว่า ในอนาคตเราจะไปกันได้มั้ย
เค้าบอกว่าเค้าพร้อมแล้วที่จะมีครอบครัว อยากแต่งงานและกำลังมองหาผู้หญิงคนนั้น

คุยไปคุยมา ก็เริ่มมีการพูดคุยเรื่องอนาคตกันบ้าง
เราก็หลงไปกับคำพูดเค้า
เผลอใจชอบเค้าไปแล้ว ก่อนที่จะได้นัดเจอตัวจริงกันเสียอีก

แล้วเค้าก็นัด dinner นัดเจอตัวจริงกันกับเรา กลางเดือน กค ที่ผ่านมา
หลังจากที่เค้านัดดินเน่อร์เรา ใจเราก็เริ่มชอบเค้าไปแล้วล่ะ (ทั้งที่ยังไม่เจอตัวจริงนะ)
เพราะรู้สึกว่าความคิดทัศนคติ เราไปด้วยกันได้
เรียกว่าคุยกันแล้วสบายใจ

ความคิดเห็นที่ 1
พอวันนัดดินเน่อร์(เค้ามาจากประเทศที่ทำงานมาเจอเราที่ไทย)ก็มีเหตุให้ ฉุกละหุก
เราอยู่ ตจว เลยชวนเพื่อนเราที่ทำงานที่ กทม ให้ช่วยเลือกร้านและไปเป็นเพื่อนเรา

แต่เพื่อนเราดันติดประชุมด่วนเย็นวันนั้น
ทำให้เราที่ตอนแรกกะว่าจะ ไปอาบน้ำแต่งสวยก่อนไปดินเน่อร์กับเขาก็ไม่ได้ทำ
แล้วก็ไม่รู้เป็นอะไร วันนั้น จู่ๆภูมิแพ้เราก็กำเริบ ตาเราบวมมาก ผื่นแพ้ขึน้ที่หน้าอีก
แถมยังต้องรอเพื่อนประชุมเสร็จ เลทจากที่นัดเค้าไว้อีกครึ่ง ชม

สรุปว่าเราไปเลท แถมยังหน้าเกลี้ยงๆ โทรม และยังไม่สบายอีก
((หรือมัน ลิขิตไว้แล้วให้เป็นแบบนี้ ))
ทั้งที่เราจัดว่าเป็นคนหน้าตาดี / หน้าตาน่ารักคนนึง
แต่ยกเว้นวันนั้น เราไม่พร้อมจริงๆ

ตอนเจอกันที่เราเห็นตัวจริงเค้าครั้งแรก
เค้าก็ดูต่างจากในรูปที่เคยเห้นนิดหน่อย
คือ ในรูปดูดีกว่า ตัวจริงพอสมควร คือหน้าตาไม่ใช่สเป็คเราเลย
แต่ว่ามันก็มีอย่างอื่นที่ทำให้เราประทับใจมาทดแทน
คือเค้าเป็นคน nice มากๆ คุยสนุกและกันเองมากๆ
เหมือนเจอกันแล้วสนิทกันมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก

ต่างจากตัวเราที่อย่างที่บอกว่า
เราไม่มั่นใจแต่แรก ไม่พร้อม
และเราก็เริ่มชอบเค้าก่อนที่จะนัดเจอกันอีก ทำให้เราเขิน อาย
ไม่เป็นตัวเอง คือ เค้าถามคำตอบคำ
ไม่เป็นตัวเอง เกร็ง และ เค้าถามคำตอบคำ (ก็มันอายอ่ะเนอะ)

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เราก็ไม่รู้ยังไง แต่เรียกได้ว่า ดินเน่อร์ครั้งแรก
เราคงไม่ใช่อะไรที่ประทับใจเท่าไร
แต่ก็ไม่ไ้ดทำอะไรที่ดูแย่นะคะ แต่แค่ไม่ได้ทำให้ first impression เท่าไร
ก็ยอมรับค่ะ ว่าเราเกร็งไปเอง

แต่หลังจากนัดดินเนอร์กัน
เค้าก้ชมเราว่าน่ารัก เราก็ชมเค้ากลับว่าเค้าก็น่ารักเหมือนกัน
คุยด้วยแล้วสบายใจ

หลังจากที่เค้านัดดินเนอร์กับเรา
เค้าก็ไป on vacation ต่อที่เกาหลี
บอกว่าไปกับเพื่อน

จากที่ตอนแรกเราคุยกันกับเค้าทาง email แบบสบายใจ
ไม่มีความรู้สึกระแวงหรือคาดหวังว่า ชีวิตประจำวันเค้าจะเป็นยังไง
แค่ไ้ด้คุยกัน โทณศัพธ์ / เมล์ก็มีความสุขแล้ว

สรุปตอนเค้าไปเกาหลี
เรา แบบว่าไม่สบายใจอย่างมาก
มันมีความสงสัยในใจว่าเค้าไปกับใคร
แล้วทำไมไม่ติดต่อเรากลับมาเลย ช่วงที่ไปเกาหลี

เราเลยส่งเมล์ไปบอกเค้าว่า
เราอยากรู้จักเค้าเพิ่มนะ
เค้าอยากรู้จักเราเพิ่มหรือเปล่า
ถ้าเค้าอยากรู้จักเราเพิ่ม เราก็จะคุยกับเค้าต่อไป ถ้าไม่ใช่เราก็จะได้ไม่ waste life time และจะเปิดโอกาสให้ตัวเองได้คุยกับคนใหม่ๆ

ก็ยอมรับนะคะว่าเรามาอ่านเมล์นั้นดูอีกทีมันค่อนข้างดูแรง
แต่ก็เพราะเป็นช่วงที่เราเริ่มระแวง พฤติกรรมเค้าแล้ว
ก็เลยถามไปอย่างนั้น

เค้าหายไปไม่ติดต่อเรากลับมาเกือบอาทิตย์
หลังไปเกาหลี ก็ำไม่ติดต่อกลับมา
ช่วงนั้น เราก็เริ่มรับรู้แล้วว่า เราคงไม่ใช่สำหรับเค้านะแหล่ะ
ไม่งั้นคงไม่เงียบหายไปนานเป็นอาทิตย์ ทั้งที่ก่อนหน้าเค้าเมล์มาผิดเวลา เค้ายังขอโทษเราใหญ่ทั้งที่เราไม่ไ้ด้ว่าอะไรเค้าเลย

ในเมล์นั้นเค้าบอกว่า
หลังเจอกันครั้งแรก เค้ารู้สึกว่าเรา 2 คนน่าจะเป็น good friend
แต่เค้าไม่รู้สึกถึง chemistry in romantic way
แล้วก็ชวนเราให้ continue ความเป็น good friend ต่อไป


เราก็ ช็อคนิดหน่อย
ก็เสียใจ และ เสีย self ด้วยค่ะ เราไม่รู้ว่า คำว่า no chemistry ในความหมายของคนอเมริกันจะลักษณะไหน
แต่มันคงคล้ายๆว่า ไม่ปิ๊งเรา ไม่ใช่สเปคเค้าหรือเปล่า
ก็เค้าก็พูดถูกค่ะ กับเค้าก็ไม่ได้ ถูกใจเราตอนที่เราเจอแต่ว่าเราไม่ได้มองในจุดนั้น เราไปมองในจุดที่ว่า เร้ารู้สึกสบายใจที่จะคุยกับเค้า (ก็คงเป็นความหมาย good friend แบบเค้าว่าแหล่ะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอโทษนะคะ เราเป็นคนเล่าสั้นๆไม่เก่งเล่าแล้วมันยาว T__T

ก็ยอมรับค่ะว่าเสียใจ อาจไม่ได้มากมายอะไรเพราะยังไม่ได้ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วถูกบอกเลิก
แต่มันก็ทั้งเสียใจ ผิดหวังในสิ่งที่คาดหวัง (คือเหมือนเราคาดหวังว่าเค้าคือคนที่ใช่สำหรับเรา) และเสียความมั่นใจ (เพราะเราไม่ใช่สำหรับเค้า)
เราก็เลย ตอบเค้าไปสั้นๆว่า โอเคเข้าใจแล้ว good luck


แล้วเราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย 1 อาทิตย์ค่ะ
เราก็เสียใจนะก็เลยลบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา ลบไดอารี่เราทิ้งหมดเลย
ลบรูปในไดอารี่ทิ้ง ก็อย่างว่าเว็บนั้นเป็นสาเหตุให้เรามาเจอเค้า
เราก็เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเว็บนั้นอีก

หลังจากที่เราคิดว่าเราเริ่มทำใจได้แล้ว
เราก็เริ่มเข้าไปเว็บไดอารี่ใหม่ ตั้งใจว่ายังไงการเขียนไดอารี่มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว
พอเราเข้าไปเว็บ เราเห็นเค้าไปลบประวัติเค้าทิ้งหมด
ลบรูป ทุกอย่าง(เหมือนที่เราทำ)
เราก็เลยสงสัยว่าเค้าเป็นอะไรหรือเปล่า
((เริ่มคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเรามีอิทธิพลทำให้เค้ารู้สึกหรือเปล่าที่เราหายไป))

เราเลยส่งเมสเสจไปถามเค้าว่าทำไมเลิกเล่นแล้วล่ะ
เค้าตอบกลับเรามาเร็วมาก แล้วก็มีการพูดคุยโต้ตอบกับทางเมล์แบบว่าความถี่มากกว่าเดิมอีก
เราก็เลยเอ๊ะยังไง สับสนไหนบอกว่าเป็น friend แล้วทำไมดูกระตือรือล้นมากกว่าเดิม

คุยไปคุยมาอะไรดลใจเราไม่รู้ ถามเค้าไปว่า
เค้าเจอคนที่ใช่แล้วหรือยัง
เค้าตอบกลับมาว่า เจอแล้วกำลังดูๆ กับคนที่ใช่อยู่แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ได้สรุป
เราก็อึ้งอีกรอบกลับมาเสียใจอีกรอบ
สรุปที่คุยกับเรานี่คือแบบ friend จริงๆ
เราก็เลยพยายามห่างๆเค้าไม่คุยเมล์กับเค้ามากแล้ว เค้าชวนไรคุยมาเราก็พยายามให้มันเป็นจดหมายปลายปิด (ง่ายๆคือไม่อยากติดต่อกันต่อไปแล้วล่ะ เรื่องไรเราต้องมาเจ็บกับเค้าอีก)

แต่เค้าก็พยายามที่จะรักษาความเป็นเพื่อนเราไว้
เมล์มาชวนเราคุยนั่นนี่เล่าเรื่องตัวเอง
ชีวิตประจำวันของเค้าให้เรารู้
สุดท้ายเราก็ใจอ่อนกลับไปเมล์กับเค้าต่อเหมือนเดิม
และล่าสุดเราก็ถามเค้าว่าแล้วเป็นยังไงความสัมพันธ์ของเค้ากับผู้หญิงคนนั้น

ก็เค้าตอบกลับมาว่า ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วเรียบร้อย
และคงจะไม่สามารถพูดคุยกับเราต่อไปในแนวโรแมนติกได้อีกแล้ว

เจอแบบนี้เราก็ อึ้งและ เสียใจอีกเป็นครั้งที่ 3 ค่ะ
ก็นะ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแค่เพื่อน
แต่เราก็ไม่น่าไป continue ความเป็นเพื่อนบ้าๆที่เค้าต้องการ keep ไว้เลย
การพูดคุยของเรามันไม่ไ้ด้เริ่มจาก ความเป็นเพื่อนอยุ่แล้ว มันเริ่มมาจาก การคุยๆกันแบบดูๆ กัน
มันไม่มีทางลดความสัมพันธ์ลงได้หรอกใช่มั้ยคะ
อาจจะได้แต่ว่ามันต้องใช้เวลา(สำหรับเรา)

สรุป เราก็เจ็บอีกเป็นครั้งที่ 3
แล้วที่แย่กว่านั้นคือ เค้าดูๆ กันกับผู้หญิงอีกคนพร้อมๆไปกับเรา
แต่เค้าไม่เลือกเราไปเลือกผู้หญิงอีกคน

ไม่น่าเลยจริงๆค่ะ
เสียใจและ เสียความรู้สึก เสียความมั่นใจไปอีก

ขอบคุณที่รับฟังเราระบายค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เราก็ไม่รู้ยังไง มันเสียใจ ไม่น่าหาเรื่องเลยเรา
อยู่ดีๆ ก็มาทำความรู้จักกัน
อยู่ดีๆ ก็คุยๆกันในลักษณะดูๆกัน
แล้วก็นัดเดท


แต่ก็ยอมรับว่าเราไม่น่าไปเร่งรัดความสัมพันธ์หรือเอาคำตอบจากเค้า
แต่เพราะตอนนั้น เริ่มรู้สึกกับเค้ามากกว่าขึ้นแล้ว
เลยเริ่มที่จะระแวง ว่าเค้าไปกับใคร ก็เลยไปคาดคั้นกับเค้าว่าคิดยังไงกับเรา

ยอมรับค่ะ
แต่ก็อย่างน้อยทำให้ไม่คุยกันนานกว่านี้และจะยิ่งเจ็บกว่าถ้ามารู้ทีหลัง


ขอโทษนะคะที่ ใช้คำภาษาอังกฤษผสม
เพราะเราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ บางทีเราก็อยากให้คนอื่น
นึกภาพออกว่า คำพูดเค้าเป็นยังไงอ่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ให้กำลังใจครับ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีไม่ว่าจะสมหวังหรือไม่

แต่ถ้าจะให้บอกตามตรง คุณคงจะเป็นแค่ตัวเผื่อเลือกหรือสำรองนั่นเอง
The truth hurts but you cannot get away from it.


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ในเมื่อรู้ว่าเค้าไม่ได้รู้สึกพิเศษกับคุณ ก็ตัดใจค่ะ เลิกเสียใจ เดินหน้าใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป คนที่ใช่จะเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ความรักมันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ


มีครั้งนี้ก็ต้องมีครั้งหน้า เดี๋ยวเวลาจะช่วยเยียวยาหัวใจคุณเอง ถ้าเจอคนใหม่ ขี้กคร้านคุณจะมาคิดได้ว่า ชั้นไม่น่าไปเสียอกเสียใจอะไรขนาดนั้นเลย
มันเป็นประสบการณ์ชีวิตรักนะคะ มีรักดีกว่าไม่มี ถ้ารักแล้วใช่เลยก็โชคดีไป ถ้าเจอคนที่ใช่และเราใช่สำหรับเค้า เรื่องระหองระแหง คลางแคลงใจก็จะไม่มี

ผู้ชายคนนี้เค้าก็เป็นคนตรงดีนะ ไม่ได้เห็นคุณเป็นของตายหรือ เป็นตัวเลือก เค้าอยากเป็นแค่เพื่อนจริงๆ เค้าเจอคนของเค้าแล้วแหละ

คุณก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอคนใหม่ ช้าๆได้พร้าเล่มงามค่ะ อย่าไปอ่อนไหวกับคำคนมาก เป็นตัวของตัวเอง เตรียมรับความผิดหวังด้วย แต่ขอบอก ถ้าคุณเป็นคนมั่นใจในตัวเองนะ ถึงจะผิดหวังก็จะไม่เสียใจ ถือเป็นบทเรียน บางทีเราอาจจะหาได้ดีกว่านี้ไง


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ที่เค้าลบโปรไฟล์อะไรออกไป เพราะเค้าไม่อยากหาสาวแล้ว เจอแล้วไง ก็คนที่เค้าบอกนั่นแหละ อย่าไปคิดเข้าข้างตัวเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
จะบอกว่าอย่าเศร้า ก็คงไม่ได้เนอะ เพราะว่าเศร้าอยู่นี่นา ลองคิดมุมกลับดีมั้ยว่า ถ้าเราดีจริง ต่อให้ครั้งแรกที่เจอ โทรมแค่ไหน เค้าต้องรับได้ รับที่เราเป็นเรา (ใครจะสวยตลอดเวลา ต่อให้วันนี้สวยเป็นนางฟ้า แต่อีก 20 ปีหล่ะ??? สวยพลาสติกหรอ? หน้าสวย คอเหี่ยว!!) การไม่สบายเป็นเรื่องธรรมชาติ เราควบคุมมันไม่ได้

แล้วการที่เค้าคุยกับอีกคนไปด้วย โดยที่ไม่ได้บอกเรา (ต่อให้ status จะเขียนว่างั้นก็เหอะ) มันก็น่าจะแฟร์ที่จะบอกเราบ้าง แต่ก็นะ ชาย หญิง คิดไม่เหมือนกันนี่นา แล้วสมมติว่า คุณเกิดได้คบกับเค้าจริงๆ ถึงขั้นหมั้นและจะแต่งงาน แต่วันนึงเค้ามาบอกว่า เค้าเจอคนที่ใช่กว่า!!! (มันน่าตบนักฮึ่ม!!!) เราจะทำใจได้หรอ?? เค้าก็อาจบอกได้ว่า แค่หมั้น ยังไม่แต่ง คุณโชคดีนะค่ะ ที่ได้เพื่อนเพิ่มอีก 1 คน ได้รู้จักอีกด้านของมนุษย์ ^^

สู้ๆนะคะ หา positive thinking ของคุณให้เจอ ในแบบที่คุณรับได้แล้วโอเค ไปหาอย่างอื่นทำให้ลืมก็ได้ค่ะ

ปล.ขอให้เจอคนที่ใช่สำหรับเรา และเค้าก็คิดว่าเราใช่เร็วนะคะ^^ ของเรากำลังหาอยู่ แต่สงสัยยังไม่มาเกิดรึไง?? รอนานแล้วนะเนี่ย^^


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เข้าใจความรู้สึกค่ะ ตอนนี้อาจจะเสียใจให้พยายามหาสิ่งอย่างอื่นทำนะคะ
คนเราห้ามความเศร้าไม่ได้หรอก แต่้ถ้าเกิดว่าเศร้าเมื่อไหร่ อย่าเก็บไว้ค่ะ
หาเพื่อนคุย หรือไม่ก็เขียนความรู้สึกลงไปในกระดาษค่ะ
เขียนๆๆลงไปให้หมด ไม่ต้องสนว่าภาษาจะเป็นยังไง มันเหมือนเป็นการระบาย
สมองของเราจะได้จัดระเบียบได้ถูก ^^

เมื่อเราเจอคนใหม่ที่ใช่ เราจะนึกย้อนกลับมาก็จะเหลือแต่ความทรงจำดีดีค่ะ
แล้วทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นเองนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ผู้หญิงจะอ่อนไหว มาก เมื่อเห็น profile ฝ่ายตรงกันข้าม


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เคยเจอรักทางไกล ตอนแรกต่างฝ่ายต่างรู้สึกว่าใช่ แต่พอคุย ๆ กันไปแล้วมันไม่ใช่ เค้าอินกะเรา แต่เรายังไม่แน่ใจ อยากให้ศึกษากันให้มากกว่านี้ สุดท้าย เค้าไม่อยากรอ ไม่อยากให้เวลาศึกษา ดู ๆ กันไป เราก็เลยปลีกตัวออกมา อย่าได้เสียใจ คนที่ไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ ชีวิตเรายังต้องก้าวเดินต่อไป เข้มแข็งเข้าไว้ เป็นตัวของเราเองค่ะ แล้วสักวันสวรรค์จะต้องส่งคนที่จะเป็นคู่ชีวิตของเรามาให้ เชื่อมั่นแล้วก้าวเดินต่อไป อย่าได้เสียใจ รอฟ้าใหม่ หลังฝนตก สดใสเสมอค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
สู้ๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
สู้ๆนะคะเข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ
เพราะเคยเจอมาเหมือนกัน แต่ของหนูแย่กว่าตรง
หนูมาจับได้เอง ว่าเค้าคบหญิงบ้านเค้าไปด้วยพร้อมกับหนู
แล้วเค้าเลือกสาวฝรั่งผมทองบ้านเค้า ไม่เลือกหนู แทบกระอักเลือด
เจ็บจริงๆเลย ตอนนี้ทำใจยอมรับความจริงได้แล้ว แต่ความเจ็บน่ะ
จนป่านนี้ยังไม่หายเจ็บเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
เจอกันในเว็บใหนครับ
อยากทราบครับจะได้เข้าไปหาสาวๆตามบ้างครับ
สมัยใหม่นี้หาคู่ออนไลน์เป็นที่ยอมรับกันมากระดับหนึ่งแล้วนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ของเราคงเคยเจอคล้าย ๆ คุณ
ไม่ได้ทางไกล
แต่ว่าก็ดู ๆ กันไปสุดท้ายเค้าก็เลือกคนอื่นเหมือนกัน
ตอนเจ็บมันก็เจ็บค่ะ
แต่ว่าเวลาจะทำให้คุณดีขึ้นค่ะ
ตอนนี้ผ่านมาแล้วอีก5 ปี
พี่เค้ามีแฟนไปสี่คนแล้ว แต่เราสองคนยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม
คสพแบบนี้มัน long lasting กว่าค่ะ
จนตอนนี้ถ้าถามว่าเราอยากเป็นแฟนกับเค้ามั้ย ตอบได้เลยว่าไม่ อิอิ
สู้ๆ นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ

เราก็เคยมีอะไรคล้ายๆอย่างนี้เหมือนกัน แต่คนนั้นเป็นชาวต่างชาติเลย

สุดท้ายเค้าเลือกเื่ื่พื่อนเรา


*กอด*


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ เคยเจอคล้ายๆ กัน แต่ของเราเป็นหนุ่มอังกฤษ
เค้าบอกว่าชอบเรา อยากจะลองศึกษาเพื่อสานสัมพันธ์ พอเราเริ่มมีใจ
เค้าก็บอกว่าเค้าชอบคนอื่นมากกว่า แต่ยังอยากเป็นเพื่อนกับเรา
ตอนนั้นก็เฮิร์ทนะ แต่ไม่มากเท่าไหร่เพราะยังไม่ได้เจอตัวจริง

แต่สองวันถัดมาเราก็มาเจอหนุ่มคนใหม่เป็นอเมริกัน กับคนนี้เราไม่ต้องพยายามอะไรเลย
เค้าเป็นฝ่ายเริ่มทุกอย่าง ไม่เหมือนกับคนก่อนที่เราต้องเป็นฝ่ายทักก่อนซะส่วนมาก

ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเค้ามากที่เค้าไปชอบคนอื่น เราเลยได้เจอคนที่ใช่กว่า แต่ตอนนี้หนุ่มอังกฤษนั่นสุดท้ายก็ไปไม่รอดกับผู้หญิงที่เค้าชอบ กลับมาคุยกับเราอีก
พอเราบอกว่าเรามีคนที่ชอบแล้ว พี่แกหงอยไปเลย (แอบสะใจเล็กๆ)


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ขอเข้ามาให้กำลังใจกองโตๆ ครับ

คนที่ไม่ใช่ อาจเข้ามา..
แต่สักวัน เขาก็จะผ่านไป

ส่วนคนที่ใช่ วันนี้เขาไม่มา ไม่อยู่
แต่สักวันหนึ่งเมื่อถึงเวลา เขาจะมา
จะไม่ไปไหนอีก และจะหยุดอยู่ที่เราครับ.


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ศึกษากันทางตัวหนังสือจะสร้างมโนภาพให้รู้สึกยิ่งกว่าตัวจริงเยอะ ปกติผู้ชายที่คุยกันทางเน็ตลงข้อมูลแบบนั้นมักจะไม่คุยกับผู้หญิงคนเดียวหรอกค่ะ เค้าจะมองหาไปเรื่อยๆและมักอารมณ์ขี้เหงา ให้ถือว่าเค้าไม่ใช่สำหรับเราและเค้าไม่ใช่เทวดา เราก็ไม่ใช่ตัวเลือกของใครด้วย มาให้กำลังใจเดินหน้าต่อไปถือว่าเป็นประสบการณ์แล้วกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ถือว่าลงสนามภาคปฎิบัติค่ะ

ตอนนี้คุณได้รับวัคซีนความเข้มแข็งเรียบร้อยแล้วค่ะ

ถึงเวลาเนื้อคู่ตัวจริงของคุณมา

รับรองเลยว่าคุณจะไม่รู้ตัว

ถ้าคุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตแล้วล่ะก็

ลองอยู่นิ่งๆ ไม่สนใจ ไม่เรียกร้อง ไม่เดินทาง ไม่ตามหานะคะ

แล้วความรักจะมาเคาะประตูหัวใจคุณค่ะ

คนที่เกิดมาเพื่อที่จะอยู่กับเราทั้งชีวิต

ต่อให้ไกลสุดเส้นขอบฟ้า

เขาจะก็ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะมายืนอยู่ตรงหน้าคุณค่ะ

เขาจะไม่ทำให้คุณรู้สึกประหม่า

เขาจะทำให้คุณสามารถ "เป็นตัวคุณ" อย่างไม่ต้องเขินอาย

เขาจะรับฟังคุณทุกเรื่องราว

เขาจะยอมรับในความเป็นคุณได้อย่างไม่มีข้อแม้

เขาจะ "ชัดเจน" ในความสัมพันธ์ค่ะ

เสียใจได้ ผิดหวังได้ แต่อย่านานนะคะ

เป็นตัวของตัวเอง ดูแลตัวเองดีๆค่ะ ดูแลใจดีๆ

คุณมีค่าในตัวเองนะคะ

อย่าเป็นตัวเลือกของใครค่ะ

แต่จงเลือกใครคนนึงเพื่อที่จะใช้ชีวิตร่วมด้วยค่ะ

........................................................................

ถ้าคุณไม่สะดวกใจที่จะสานสัมพันธ์ฉันเพื่อนกับเขาคนนั้น

ก็ไม่ต้องค่ะ

ทำอย่างที่ใจคุณต้องการนะคะ

ทำอย่างที่ใจคุณว่าทำแล้วมันสบายใจ

ไม่นานฟ้าจะสดใสอีกครั้งนึงค่ะ


ปล ดิฉันมองว่าคนที่คบหลายๆคน พิจารณาหลายๆคน ไม่ผิดนะคะ

แต่ต้องเป็นคราวๆไปค่ะ คบคนนี้ พิจารณาแต่คนนี้ ถ้าไม่ใช่ค่อยบอกลา

แล้วพิจารณาคนต่อไปค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ทำใจค่ะ อย่างเดียว
ก็เขาไม่ชอบจะพยายามยังไงก็ไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก ยิ่งจะทำให้เขาอึดอัดเปล่า ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ส่งกำลังใจ ผ่านตัวหนังสือมาให้ค่ะ
เข้มแข็งและหายเศร้าไวๆ นะคะ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
เค้าก็เป็นคนแฟร์นะค่ะ และมี จุดยืนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น เค้าซีเรียสหาคู่จริงๆ ไม่ใช่ playboy ที่คุยไปเรื่อย เราชื่นชมเค้าอย่างนึงคือ ในเวลาที่เค้าหาคนนั้นเจอแล้วเค้าก็บอกกับคุณว่าไม่สามารถคุยกันแบบจีบกันได้อีก ถึงแม้ว่าเค้าจะทำได้ก็เถอะ
คุณโชคดีนะค่ะที่ได้เจอกับเค้าเพราะท่าทางเค้าเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้เอาเปรียบคุณแต่ให้เกียรติคุณ
เราว่าการที่จะลดมาเป็นเพื่อนกันก็อาจจะเป็นสัมพันธ์ที่ดีในเมื่อคุณคุยถูกคอกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็อย่างที่คุณบอกว่ามันคงหลังจากที่คุณได้รักษาแผลใจแล้ว แต่เราว่ามันจะเป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่ดีมากๆหากมันได้สานต่อไป


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
..


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
การ date ของฝรั่งนั้นเป็นการทำความรู้จักซึ่งกันและกัน เพื่อจะดูว่าเจอตัวเป็นๆ แล้วจะเข้ากันได้ไม๊? เขาไม่หลอกความรู้สึกของตัวเอง...ถ้าชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ...1st date เป็นการเจอกันครั้งแรกเพื่อทำความรู้จัก ถ้าถูกใจหรืออยากรู้จักมากกว่านี้ก็จะมี 2nd และ 3rd date ตามมา...

ส่วนใหญ่ที่อ่านๆ มาผู้หญิงมักจะเคลิ้มกับการคุย online (แบบยังไม่เคยเจอตัว) เลยทำให้เสียใจถ้าเกิด 1st date นั้นไม่ click...

การจีบของฝรั่งมักจะ...group date ก่อน แล้วก็ตามด้วย 1st, 2nd, 3rd... จนขอเป็นแฟน แล้วเมื่อถึงเวลาเขาก็ขอหมั้น (ไม่เกิน 3 เดือน) และแต่งงาน...


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
better love yourself ka...

hope you pass this soon...


ตอบกลับความเห็นที่ 27