คนที่อยู่อเมริกา มีความคิดเห็นอย่างไรกับการพกปีนครับ

ก็คงอยากที่หลายๆ คนทราบกันดีกว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่อเมริกามีการยิงกันบ่อย ล่าสุดก็มีการยิงกันที่ Texus A&M อีกด้วย
ผมเข้าใจนะว่า การอนุญาตให้ซื้อปืน หรือการพกปืนได้ มันมีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะเอาไว้ป้องกันตัวก็ได้ หรืออาจทำไปร้ายคนอื่นได้
ตอนนี้ผมอยู่อังกฤษ คล้ายกับเมืองไทยคือ การซื้อปืนยุ่งยากมากกกกกกก ต้องมีใบอนุญาต ต้องเช็คประวัติอาชญากรรม ฯลฯ


แต่อยากถามคนที่อยู่อเมริกาหน่อยครับว่า คุณรู้สึกอย่างไรกับการซื้อขาย และพกปืน
แล้วจริงมั้ย ที่บางรัฐ ถ้าอายุถึงเกณฑ์ สามารถเดินเข้าไปซื้อปืนได้เลย
สงสัยอีกอย่างว่าอัตราอาชญากรรม และความปลอดภัยในชีวิตเป็นอย่างไรครับ ทำไมถึงต้องซื้อปืนมาไว้ป้องกันตัว
อ่านข่าว ดูหนัง ก็เห็นตำรวจก็ออกตรวจตราบ่อยๆ 911 ก็ทำงานรวดเร็ว
ไม่น่าจะมีเหตุอาชญากรรมมากนัก ถ้าเทียบกับพวกบราซิล อัฟกานิสถาน อินเดีย

ความคิดเห็นที่ 1
The Second Amendment ใน Bill of Right อนุญาตให้ประชาชนสามารถมีอาวุธปืนได้ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง อันเป็นกฏหมายเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เปิดประเทศเมกา ซึ่งในตอนแรกนิยามว่า Right to have and bear arms เป็นการอนุญาตให้ผูคนมีและพกพาอาวุธปืนได้ในยุคสมัยคาวบอย ตอนหลังมากำจัดความ เป็นให้มีสิทธิ์มีอาวุธปืนได้ ส่วนการพกพาต้องขออนุญาต มี License to carry arms.

การก่ออาชญกรรมด้วยอาวุธปืนนี้ เป็นการกระทำของคนบ้าโรคจิต แต่จะให้เอาเป็นเหตุห้ามไม่ให้ประชาชนมีอาวุธปืนนั้นคงไม่ถูกต้องเป็นธรรมกับสุจริตชนที่เป็นจำนวนส่วนใหญ่ อย่าลืมว่า Gun does not commit crime, people do.


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าผมตีความไม่ผิด คุณ Rapier หมายถึงว่า
คนอเมริกามีสิทธิ์ครอบครองอาวุธได้ แต่ต้องเก็บเอาไว้ในบ้าน เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว ในกรณีมีโจรบุกรุกเข้ามา
แต่ถ้าจะพกพาออกไปนอกบ้าน ถือไปที่ไหนต่อไหน ต้องขอใบอนุญาตต่างหาก แบบนี้ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนนี้ผมอยู่ไทย
ไม่รู้ว่าการซื้ออาวุธปืน เพื่อการครอบครอง
สำหรับพลเมืองในอังกฤษ และอเมริกายุ่งยากขนาดไหน
แต่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ คนดีมีสิทธิ์ซื้อ และพกพาอาวุธปืน

ว่ากันตามความจริง สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยขณะนี้
กระบวนการและขั้นตอน ให้ได้ใบอนุญาตเพื่อไปซื้ออาวุธปืน
ที่รู้จักกันดี และเรียกว่า ป. 3 นั้น ไม่ใช่อุปสรรคและยุ่งยาก อย่างที่คุณว่า

หลังจากซื้อแล้ว ต้องนำอาวุธปืนนั้นไปขึ้นทะเบียนที่อำเภอ
เพื่อให้นายทะเบียนออกใบอนุญาต ให้มีและใช้อาวุธปืน หรือ ป.4
แต่พกพาติดตัวไม่ได้ ต้องขออนุญาตอีกใบ
แต่คนส่วนใหญ่ มีแต่ใบอนุญาตให้มีและใช้เท่านั้น พอแล้ว

ขณะนี้ ปัญหาใหญ่ ของการครอบครองอาวุธปืนในไทย คือ ราคาปืนที่สูง
ง่ายๆคือ เอาราคาปืนในอเมริกา คูณด้วยห้า
จะเป็นราคาปืน สำหรับสุจริตชนคนไทยครับ
แต่มีหรือคนไทย จะยอมใช้ของแพงกันง่ายๆ เขามีทางออกกันมากมาย
แต่เกินขอบเขตของกระทู้นี้ จึงไม่พูดถึง


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
มีที่บ้านแบบปืนพก เข้าใจนะ อาจจะไว้ยิงขโมย แต่พวกซื้ออาวุธสงครามได้เนี่ย ไม่เข้าใจว่าทำไมยังถูก กม.อยู่ ประสาทดี


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ตอบ คห 2

คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว การพกพาอาวูธนั้นต้องมีใบอนุญาตพกพา ก็เหมือนกับเมืองไทย แต่ก็มีข้อยกเว้นในกรณีที่มีเหตุจำเป็น เช่นการพกพาด้วยคุ้มครองทรัพย์ตนเอง คือนำเงินสดจำนวนมากไปเข้าแบงก์หรือทำธุรกรรมอื่นๆ
หรือในกรณีที่จะไปซ้อมยิงปืนในสนามยิงปืน ก็สามารถนำปืนที่แยกเครื่องกระสุนออกจากกัน (ไว้คนละที่กับปืน ที่ไม่สามารถหยิบฉวยได้ทันที) เก็บใส่ไว้ในกระเป๋าใส่ปืนที่มีรหัสล็อคไว้ แล้วเก็บไว้ท้ายรถ ก็สามารถนำไปได้


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
รู้แต่ว่าเรากลัว สามีบอกว่าคนส่วนใหญ่พกปืน (และคนบ้า ๆ ก็เยอะ)บางทีเราไม่ค่อยกล้าพาลูกออกไปข้างนอกเพราะกลัวกราดยิงแบบในข่าวอ่ะ)

แต่เคยมีเพื่อนบ้านกันตอนย้ายไปอยู่อเมริกาปีแรก เราเช่าห้องชั้นสอง (แค่ย้ายของเข้าไปยังไม่ได้ไปนอนเลย) เจอหน้ากันก็คุยกันปกติ ลุงคนนี้แกจะยืนสูบบุหรี่ที่หน้าห้องเกือบตลอดเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจ แต่แกก็ยิ้มทักทายดี วันนั้นจำได้ว่าก่อนไปทำงานขับรถออกจากบ้านแม่สามีเพื่อไปเอาของที่อพาร์ทเม้นท์ เจอแกด้านล่างก็ทักทายคุยกันประมาณ 2-3 นาที เราขึ้นห้องไปไม่ถึง 20 นาทีก็ลงมา เจอแกยิงตัวตายอยู่ข้าง ๆ รถเรา (เราจอดติดกับที่ทิ้งขยะ) หัวแกยังขยับอยู่เลยยังไม่ตายดี แต่เลือดเยอะมากกกก แล้วเราเดินไปเกือบจะเตะปืนอยู่แล้วไม่ได้สังเกตุ วันนั้นกลัวมากพยายามร้องให้คนช่วยแต่มีแต่พวกแมกซิกันที่ทำสวนอยู่ไม่ยอมมาดู เราต้องวิ่งไปที่ office ของอพาร์ทเม้นท์ แล้วโทรหาตำรวจ

สรุปเราต้องไปหานักจิตวิทยาเพื่อบำบัดอาการช็อคเพราะเกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ยังเคยนึกถ้าแกคงพกปืนตลอดเวลา ถ้าแกไม่สำนึกดียิงเฉพาะตัวเองนี่เราคงไม่รอดแน่ ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
จริงๆ แล้วแต่ละรัฐก็จะมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนต่างกันอีกนะคะ ปืนบางชนิดหรือกระสุนบางประเภทไม่สามารถซื้อได้ในทุกรัฐ อย่างแคลิฟอร์เนียกฎหมายควบคุมอาวุธปืนคุมเข้มมากกว่ารัฐอื่นๆ อีกนะคะ...คือ ปืนบางชนิดไม่สามารถซื้อหรือนำเข้าได้นะคะ แหม! ขนาด fireworks ยังหาซื้อไม่ได้เลยค่ะ...โดนจับเอาง่ายๆ นะคะ เพราะเขาห้าม...

เมื่อก่อนนี้ที่ Pleasant Hill, CA (เฉพาะเมืองนี้) คนทั่วไปสามารถพกปืนในที่สาธารณะได้ แต่ปืนกับลูกปืนต้องแยกกันแบบคุณ Rapier บอกคือ พกปืนได้แต่ต้องไม่มีกระสุนๆ พอมีเรื่องยิงกันบ่อยๆ คน Pleasant Hill เลย freaked out ลงมติโหวตห้ามพกปืนในที่สาธารณะ แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะค่ะ โจรย่ามใจมาก จากเมืองที่น่าอยู่เลยกลายเป็นเมืองที่โจรขโมยชุกชุมไปแล้ว

การครอบครองปืนบางชนิดบางรุ่นหากเดินทางและจะนำปืนไปด้วยจะต้องแจ้งให้ตำรวจทราบ แบบว่าต้องมีการรายงานตัวและรายงานปืนกันทีเดียว...รายละเอียดเรื่องปืนเยอะค่ะ ถ้าคนเล่นปืนจะเข้าใจมากกว่าคนทั่วไป...

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ทำให้ราคาปืนในอเมริกาถีบตัวสูงขึ้นนะคะ และยอดขายพุ่งถึง 40% ทีเดียว...


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
พวกที่พกปีน คือคนที่ขี้ขลาดตาขาว แต่ก็อยากที่จะมีพลังปลอบใจตนเองด้วยการมีปืนไว้ในครอบครอง

พวกที่พกปืน คือพวกที่มีจิตใจหยาบๆและกระด้าง ไม่ได้คิดว่าแต่ละชีวิตนั้นมีความหมาย แม้กระทั่งสัตว์ทั่วๆไปก็มีความหมายของตัวมันเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
บางรัฐคุณสามารถพกปืนไปไหนมาไหนได้ แต่บางรัฐอย่าง แคลิฟอร์เนียคุณจะพกปืนไม่ได้นะ นอกจากมีใบอนุญาตเท่านั้น แล้วส่วนใหญ่ใบอนุญาต มีออกให้ไม่เยอะหรอก

แคลิฟอร์เนีย จะมีกฎมากหน่อย เช่น ปืนบางรุ่นจะไม่อนุญาตให้ขายในรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ ถ้าคุณมีญาติที่อยู่รัฐอื่น แล้วเค้าจะยกให้คุณ คุณก็สามารถรับทอดได้นะ ถือว่าไม่ผิด กม เหมือนกับได้ปืนมาจาก พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เป็นมรดกตกทอด เค้าอลุ่มอล่วยให้ได้

แล้วตัวอย่างเช่น แมกกาซีน บางรัฐสามารถใช้ high capacity magazine ได้ แต่รัฐแคลิฟอร์เนีย จำกัดให้ได้มากสุดคือ 10 rounds เท่านั้น

คนที่บ้าอยากจะฆ่าคนอะนะคุณ อาวุธอะไรมันก็ใช้ได้ วันก่อนเพิ่งจะมีข่าว มีคนเอาดาบซามูไร มาฟันคนตายในที่สาธารณะอยู่เลย

อย่างที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ถ้าคุณไปซื้อปืน ที่เป็นปืนพก หรือฝรั่งเรียกว่า pistol คุณต้องสอบข้อเขียนก่อน แล้วหลังจากซื้อแล้ว จะมี waiting period คือ คุณต้องรอ 10 วัน ถึงจะไปรับปืนได้

นอกจากพวก Rifle อย่าง Short gun ถ้าจำไม่ผิด คุณสามารถไปซื้อได้เลยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณนะครับ ที่เข้ามาแชร์ข้อมูล
อันนี้บอกก่อนว่า ผมไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกผิดนะ
แต่เท่าที่อ่านๆ จากคนหลายๆ คนเขียนมา ผมรู้สึกว่า คนอเมริกา กับคนอังกฤษมีความคิดต่างกันพอสมควร


คนอังกฤษ คิดว่าปืนเป็นสิ่งของอันตราย เป็นอาวุธ ต้องควบคุม ห้ามไม่ใช้แพร่กระจาย
และไม่จำเป็นต้องมีปืน เพราะมีตำรวจคอยดูและความปลอดภัยอยู่แล้ว


คนอเมริกา คิดว่าปืนเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัว สามารถซื้อและนำติดตัวเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวจากโจรผู้ร้ายที่เข้ามาทำร้าย
โดยสามารถป้องกันตัวได้ โดยไม่จำเป็นรอตำรวจ เพราะอาจช้าเกินไป


ดูเป็นความคิดที่อยู่คนละฝั่งเลยนะ
และบอกไม่ได้ด้วยนะครับว่าใครถูกหรือผิด เพราะต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คนอังกฤษอาจจะเป็นผู้ดี ที่ยังคงอยู่ในระบบเจ้าขุนมูลนาย แต่เมกาเป็นประเทศเปิด โดยเฉพาะในยุคของ The Wild Wild West อย่าลืมว่าเมกาเป็นประเทศที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจากผู้คนระดับล่างรวมทั้งผู้ที่อพยพมาจากต่างถิ่น จึงจำเป็นต้องมีการปกป้องตนเองเพื่อความอยู่รอด

ส่วนที่บอกว่า ผู้ที่พกปืนนั้นเป็นผู้ที่ขี้ขลาดตาขาว งั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ICE ตม ศุลกากร เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่า CBP พวกเขาเหล่านนั้นก็ขี้ขลาดตาขาวหมดนะซี อ้อ ต้องรวมทั้ง Secret agent ที่อารักขา ปธน ด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
คุณ hollywop คะ...ขออนุญาตค้านความเห็นของคุณด้วยความเคารพนะคะ...

ที่คุณบอกว่า "คนที่พกปืนเป็นคนขึ้ขลาดตาขาว" หรือ "คนที่พกปืนนั้นมีจิตใจหยาบกระด้าง" นั้น...ไม่จริงหรอกค่ะ...คนที่จะพกปืนในอเมริกาได้นั้นต้องมีใบอนุญาตพกพานะคะ ขนาด security guard ทั้งหลายนั้นใครจะพกปืนได้ก็ต้องผ่านการอบรม ผ่านการตรวจสอบประวัติและอื่นๆ อีกมากมาย ถึงจะได้รับอนุญาตให้พกปืนได้...ไม่งั้นพวก security ก็ขี้ขลาดตาขาวทั้งหมดสิคะ...

ส่วนคนที่มีปืนในครอบครองอย่างถูกกม.ก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ นะคะ ต้องผ่านขั้นตอนและขบวนการต่างๆ ตามกม.ของ Federal, State, County, และ City นะคะ...คนที่เขานิยม hunting ก็ใช่ว่านึกอยากจะยิงก็ยิงได้ดั่งใจนะคะ ก็ต้องว่ากันไปตามกม.ของแต่ละรัฐด้วยว่าสัตว์อะไรยิงได้ยิงไม่ได้ ฤดูไหนยิงได้ ฤดูไหนห้ามยิง...

คนที่เขามีปืนในครอบครองที่ถูกกม.ก็เพราะเขามีเอาไว้ป้องกันตัวนะคะ ตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญและกม....ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็เพราะที่บ้านมีปืน 2 กระบอกค่ะ short gun กับ hand gun...เลยต้องอธิบายให้เข้าใจว่าไม่ใช่เป็นคนขี้ขลาดตาขาวหรือจิตใจหยาบกระด้างนะคะจึงมีปืนในครอบครอง...


Yee-Haw!!!!


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ปืนเถื่อนที่ไหนๆ ในโลก หาซื้อง่ายมาก ถ้ามีเงินและรู้แหล่ง
ไม่งั้นโจร ผู้ร้าย จะเอามาจากไหน พวกนี้ไม่มีใครมีปืนถูกกฎหมายหรอก

คนอเมริกันที่พกปืนถูกกฎหมายไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ ต้องไปเรียน ไปสอบใบอนุญาต
ถูกตรวจสอบประวัติ ต้องต่อใบอนุญาตเรื่อยๆ บางรัฐต้องเอาปืนทั้งหมดที่มีไปขึ้นทะเบียน
ถ้าเกิดไปยิงใครเข้า โอกาสถูกจับเข้าคุกมีมาก เพราะร่องรอยกระสุนของปืนแต่ละกระบอกไม่เหมือนกัน
ถ้าเอาปืนที่ถูกจดทะเบียน ไปยิงใคร ตำรวจจะตามไปถึงเจ้าของแน่ๆ

คนอเมริกันที่เห็นด้วยกับ Second Amendment มักจะไม่เห็นด้วยกับการมอบ Absolute Power ให้กับรัฐบาล
(ตำรวจ ทหารเท่านั้นที่สามารถมีอาวุธ ไว้ต่อสู้กับคนร้ายได้) พวกเค้าเรียนจากประวัติศาตร์ชาติตัวเอง
เมื่อรัฐบาล สมัยอเมริกันเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ ทำตัวเป็นผู้ร้ายเสียเอง กดขี่ ข่มเหง ลูกเมียใครไม่สน
จนคนธรรมดาต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ เรียกร้อง ปกป้องสิทธิของตนเอง

Don't allow yourself to be a victim.


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ขอเห็นด้วยกับคุณ BlackmagicW

ผมเองมี Shooting range แห่งนึงใน Semi Valley, La หลังจากการเกิด การจลาจลครั้งใหญ่ในแอลเอ เมื่อปี 1992ผู้คนแห่กันออกมาหาซื้อปืนกัน จนร้านปืนขายหมดเกลี้ยง ต้องสั่งจองกัน ส่วนที่สนามยิงปืน มีอดีตนายตำรวจ LAPD มาขอเช่าเพื่อฝึกการใช้อาวุธปืน เปิดก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สัก 5-6 เดือน ใคนมาเรียนแค่เดือนละไม่ถึง 4 คน แต่หลังเกิดเหตุการณ์มีคนมาสมัครกันแน่นขนัด ต้องจัดคลาสละ 12 คน วันละ 2 คลาส สอนกันจันทร์ถึงศุกร์ เสาร์อาทิตย์ก็มีคนมาซ้อมยิงปืนกันทุกช่องยิงเต็มไปหมด

ผมเองฝึกลูกชายให้ยิงปืนตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แต่เราฝึกให้เขารู้ถึงคุณถึงโทษของการใช้อาวุธปืน ผมฝึกลูกให้เล่นปืนเป็นการกีฬา โดยตอน 10 ขวบฝึกให้แกยิงปืนระบบ IPSC (International Practical Shooting Confederation)
12 ขวบผมพาแกเข้าร่วมการแข่งขันที่เมืองไทย ณ.ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ชนะเลิศที่ 1 ได้ถ้วยพระราชทานขององค์สมเด๊จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยรับพระราชทานถ้วยรางวัลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

จึงขอบอกว่า ผู้ที่มีอาวุธปืนและใช้อาวุธในทางที่ถูกต้องนั้นมีมากมายก่ายกอง เขามีกันก็เป็นไปตามสิทธิของพลเมืองที่ที่มีกำหนดไว้ในกฏหมาย ไม่ใช่เป็นผู้ขี้ขลาดแต่ประการใด

แก้ไขคำสะกดผิด

ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
การมีอาวุธปืนในครอบครอง นอกจากเพื่อไว้ป้องกันตนแล้ว

ยังมีอีกกรณีหนึ่งค่ะ คือ การสะสมปืน เป็นงานอดิเรกของทหารนะคะ


เห็นคำถามห้วกระทู้ กว้างๆน่ะค่ะ ว่าคนในอเมริการู้สึกอย่างไรกับพกปืน

คิดว่า เรื่องความปลอดภัยจากปืน ที่มีอยู่ในครอบครอง เป็นการเรียนรู้
ที่มีคนอบรมให้เข้าใจ มาตั้งแต่เยาว์วัยนะคะ ว่ามีสิทธิ์จะใช้ในกรณีไหนได้

ดิฉันโตมากับบ้านที่มีการสะสมของที่ระลึกเป็นรูปร่างปืน เป็นตู้ๆเลยค่ะ

แต่ ไม่เคยมีเหตุการณ์ใดๆที่ปืนทำให้ต้องเป็นทุกข์ หรือมีปัญหาทั้งสิ้น

คือคุณพ่อทำงานกระทรวงกลาโหม ดิฉันจะเห็นปืนมาตลอดตั้งแต่เล็กๆ
และเป็นคนคุ้นเคยกับปืนพก เพราะมีพี่ๆอีกหลายคนเป็นทหารหลายเหล่า
ท่านเดินทางมาปฏิบัติราชการกับกองทัพในกรุงวอชิงตัน สะสมของรบค่ะ

พอมาอยู่อเมริกา มีคนจากไทยขอให้ไปที่แหล่งขายปืน เพื่อซื้อเสื้อเกราะ
(ขอไม่บอกนะคะ ว่าเขาเอาไปเพื่ออะไร) แต่ทราบจากคนที่เขาพกปืนที่นี่
ว่าต้องผ่านขั้นตอนตรวจสอบ และมีระยะเวลาก่อนการได้ครอบครองด้วย
ทั้งเรื่องทะเบียน เอกสาร ทุกอย่างเป็นบันทึกผูกมัดผู้ครอบครองอัตโนมัติ

ตามที่น้องๆข้างบนเล่าน่ะค่ะ ใช่ ว่าการซื้อขายปืนนั้น มีระบบที่เข้มงวด
และขึ้นกับจิตสำนึก ซึ่งต้องเข้มแข็ง มีคนรู้จักกันที่นี่ ที่พกปืนอยู่ระยะหนึ่ง
แล้วเขานำไปใช้ไม่เหมาะสม ต่อมา เขารู้ตัว ก็ให้คนอื่นครอบครองไปค่ะ

ร้านขายปืนในแคลิฟอร์เนีย บางแห่ง เขาเซ็ทของรวมไว้หลายอย่างก็มีค่ะ
คือมีนาฬิกาเก่าๆ หรือของโบราณ เครื่องตกแต่ง เครื่องเพชรพลอย ฯลฯ
แยกให้ปืนอยู่ฟากหนึ่ง มีโชว์ไว้ ถ้าสอบถามเฉยๆ เขาก็ให้ความรู้เราค่ะ
ดิฉันสนใจเข้าไปดูอาวุธปืนยาว ที่ตอนเด็กๆเห็นแกรนม่าในหนังฝรั่งตลกๆ

จากเหตุที่โตมาจากบ้านทหารที่สะสมปืน ดิฉันเลยไม่กลัวอาวุธชนิดนี้
(เป็นที่ล้อกันในหมู่เพื่อนๆค่ะ คือถ้าจะขู่ดิฉัน อย่าใช้ปืน ให้โยนหนอนมา)

เพราะตอนเล็กๆ ดิฉันได้รับการอบรม ไม่ให้แตะต้องปืนที่คุณพ่อสะสมไว้
ต่อมาโต พี่ๆก็เอามาสาธิตให้ดู แต่ก็เก็บในที่มิดชิด สอนให้ยิงปืนลม ค่ะ
(เรียนรู้ไว้ป้องกันตัว เพราะเป็นผู้หญิงบอบบาง) ไปหัดยิงบ้านที่ริมทะเล

ของเล่นก็มีปืนกล แบบที่รูดไกแล้วดังแบ้งๆๆๆๆ พี่ชายมีแบบนี้คนละ ๑
ถ้าเขาเล่นกัน ดิฉันต้องเล่นเป็นตัวประกันค่ะ เป็นนางเอกที่พระเอกไปช่วย
ตอนหลัง เล่นเบื่อก็เก็บไปเป็นของสะสม ไม่มีอันตรายทางจิตหรอกค่ะ
ถ้าผู้ใหญ่ดูแลแนะนำใกล้ชิด คนที่มีปัญหาจากปืน คือคนมีจิตชอบทำลาย

การครอบครองปืน ไม่ได้หมายความว่า จิตใจโหดร้าย อันนี้ยืนยันได้จริง
โดยเฉพาะในการทำหน้าที่ แน่ใจว่า ลูกหลานทหาร แม่บ้านของกองทัพ
ต้องศึกษาเรื่องนี้ เพื่ออบรมเด็กๆ ให้มีวิจารณญาณ รวมทั้งครู และสื่อค่ะ

เหตุร้ายต่างๆ เกิดจากความไม่ยั้งคิด หรือการวางแผนสังหารกันนั่นเพราะ
คนนั้นๆไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ไม่เชื่อในผลกรรม หรือว่าอยากสนุกเล่น

ความคลั่ง ความขาดสติ กระหายเห็นเลือดหรือลัทธิบูชาความสยดสยอง
อันนั้นเราห้ามใครไม่ได้ ถ้าเขาจะมีปืนไว้แสดงอำนาจ ว่ามีความเหนือกว่า
สามารถปลิดชีวิตคนอื่นได้ แต่ก็ต้องแลกกับบทลงโทษและหมดอนาคต

ความเห็นของดิฉันคือ โลกทุกวันนี้ ไร้พรมแดน การติดต่อโดยตั้งใจหรือ
ไม่ตั้งใจเข้ามาสู่สายตาของเราได้ทุกๆวินาที ละคร และภาพยนตร์แอคชั่น
หรือการแพร่ภาพของหน่วยปฏิบัติการ ถ่ายทอดให้เด็กซึมซับความรุนแรง
ธีมของหนัง คือจะให้พระเอกชนะ อาจข้ามประเด็นถึงวิธีการต่อสู้เกินจริง
ถ้าฉายซ้ำๆว่าผู้ร้ายมีปืนประเภทไหน นักฆ่าท่าทางเท่มาก เด็กก็จะปลื้ม
อยากเหมือนตัวละคร ตรงนี้สื่อต้องเป็นผู้ยั้งคิดให้มาก ก่อนจะแพร่ออกมา

จะโดยไม่รู้เท่าทัน หรือว่า โดยความประมาท ทุกคนต้องช่วยรับผิดชอบ

คนปกติไม่แต่งกายทองระยิบระยับ ออกไปเดินตามถนนที่ล่อหูล่อตาผู้ร้าย
จะได้ไม่ต้องโดนจี้ปล้น หรือถ้าอยากจะตกลงทำความเข้าใจกับใครก็ตาม
ไม่ต้องเอาปืนมาเกี่ยวข้อง ระงับความแค้นชิงชัง หันมาสู่ความปรองดอง

คนที่สามารถจะมีปืนอยู่ในชีวิต และไม่คิดจะใช้เพื่อสนองโทสะหรือโมหะ
ต้องผ่านการฝึกฝนทางจิตเป็นคนที่มีเมตตาสูง และพร้อมจะให้อภัยคนได้

ไม่อย่างนั้น การฆ่ากันคงมากกว่านี้เยอะ อาวุธต่างๆ มีสิทธิ์ทั้งพกทั้งสะสม

ส่วนตัวแล้ว บางทีชอบสะสมพวกพวงกุญแจปืนเล็กๆ หรือหุ่นยนต์ถือปืนค่ะ

อาวุธคือเครื่องประดับของหน่วยสงคราม ดิฉันเข้าใจมาอย่างนี้ตลอดนะคะ

ว่า ปืนคือเครื่องมือในการใช้ปกป้องฐานทัพและประเทศชาติให้พ้นศัตรู
เหมือนกับอาวุธโบราณ เช่นดาบ หรือมีดพร้า ที่ใช้ในยามบ้านเมืองมีศึก

เพราะฉะนั้น เวลาที่อยู่บ้านสงบสบาย ต่อให้ปืนวางอยู่ที่ไหน ก็ไม่ไปเล่น
และไม่มีความคิดใดๆ ที่จะนำไปใช้ให้เกิดเลือดตกยางออก ไม่ว่ากับใคร

สรุปแล้ว แน่ใจว่า ความคิดเห็นของคนอเมริกันหรือชาติอื่นๆที่พกปืนนั้น
ส่วนมากต้องมีความแน่ใจระดับหนึ่งว่า ตนเองและคนในครัวเรือนเข้าใจดี

อย่าเอาไปปะปนกับหนัง ที่เขียนบทให้ต้องใช้ปืนในการห้ำหั่นพร่ำเพรื่อ
หรือว่าพูดให้กระจ่าง การแยกแยะ ระหว่าง คำว่าครอบครอง สะสม ต่างกัน
ไม่ใช่ความหมายเดียวกับ การพกปืนไว้เพื่อให้ดูมีพาวเวอร์กว่าบุคคลทั่วไป

สื่อต่างๆจะต้องช่วยกันแพร่จริยธรรมของผู้ครอบครองอาวุธให้เยาวชนรู้ค่ะ
นอกเหนือไปจากการอบรมของแต่ละครัวเรือน จะลดปัญหายิงลงไปได้

สำหรับข่าวการยิงที่มีแผน หรือการลอบสังหาร คิดเป็นร้อยละแล้วน้อยค่ะ
ไม่ทราบว่าเท่าไหร่กันแน่ แต่บ้านที่ทหารสะสมปืน แทบไม่มีที่เป็นข่าว

ความคิดเห็นเรื่องพกปืน ในอเมริกา หรือที่ไทย ต้องดูที่เจตนาครอบครอง
เจตนาของการสะสม ก็เหมือนการสะสมของอื่นๆ เป็นรสนิยมส่วนตัว
เป็นการระลึกถึงวีรกรรม หรือการผ่านสนามชัยสมรภูมิจนได้รับชัยชนะ
เป็นของสะสมคู่กับเหรียญชัย ที่ได้จากการผ่านศึก นี่สำหรับบ้านทหารค่ะ

ส่วนตัวระดับลึก ดิฉันมีความรู้สึกดีกับปืน อาวุธที่คุณพ่อใช้ปกป้องชาติ

อ้ะ เปิดเผยความลับให้ในกระทู้นี้ คุณก็เดาเอาเองละกัน ว่าดิฉันมีปืนไหม




ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
สามีดิฉันเคยเป็นทหารเก่า เพราะงั้นใช้ปืนเป็น แต่ไม่มีปีนในครอบครอง ลูกชายใหญ่ทำงานเป็น reserve policman มีปีนของหลวงครอบครองอยู่ ต้องเรียนรู้ถึงการเก็บ การใช้เพื่อความปลอดภัย

ที่บ้านตอนนี้ไม่มีปืน แต่คิดว่าใครสุ่มสี่สุ่มห้าแหลมเข้ามาในบ้านแล้วมาทำให้ตกใจ..

แม่จะเอาไม้ baseball ตีซะให้หน้าแหก


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ปืนกับ Crime ยังถกเถียงกัน เป็นวิทยานิพนธ์

สวิตเซอร์แลนด์ ก็มีปืนกันทุกบ้าน
แต่ อาชกรรม เจือกไม่มี

ทำไม?

---

แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์สะเทือนใจในอเมริกา ก็เป็นเพราะคนเอาปืนไปไล่ยิงชาวบ้าน...

เถียงกันได้ เป็นวิทยานิพนธ์

ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
คนบ้ามีปืนมันก็น่ากลัวจริงๆแหล่ะ แต่จะห้ามไม่ให้ซื้อขายปืนเลยน่าจะเป็นการแก้ไขที่ไม่ค่อยถูก

ดิฉันว่าคนอเมริกันเป็นพวกชอบคิดเผื่อ ป้องกันไว้ก่อน คนก็ต้องมีประกันสุขภาพ รถกับบ้านก็ต้องมีประกัน มีสัญญาณกันควันไฟ มีห้องหลบพายุ มีการซื้อของตุนไว้เผื่อพายุ มีบันไดหนีไฟ คนซื้อเครื่องปั่นไฟไว้เผื่อฉุกเฉินกันเยอะแยะ ในเมื่อภัยธรรมชาติคิดเผื่อแล้ว ภัยจากมนุษย์ด้วยกันก็ต้องคิดเผื่อด้วย การซื้อปืนไว้ป้องกันตัวก็ไม่แปลก

อีกกรณีคือ พวกตื่นตูม บ้าหนัง อย่างสามีอิฉันนี่เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะหลังจากดูหนังซอมบี้ หนังแบบมหันตภัยล้างอารยธรรม หนังโรคจิตออกล่าคน สามีอิฉันต้องบอกว่า เราต้องมีปืนเก็บไว้ที่บ้านนะ


ส่วนตัวแล้ว ถ้ามีเงินเหลือเมื่อไหร่คงจะได้ซื้อปืนแน่ เพราะต้องมีไว้ป้องกันตัวบ้าง ถึงแม้จะมีสถิติผู้ร้ายไม่มาก แต่บางทีคดีมันโหดร้ายนะ ฟังแล้วสยอง เหมือนพวกโรคจิตก่อคดีในหนัง แต่ตอนนี้รายจ่ายเยอะ ปืนรออยู่ในลิสต์ที่รอไปก่อน


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ถ้าในเมืองใหญ่ผู้คนพลุกพล่านตำรวจดูแลทั่วถึงก็ดีไปค่ะ

บ้านเก่าอยู่เท็กซัสในแถบที่ไม่มีคน พื้นที่กว้างใหญ่ นานๆจะเห็นบ้านซักหลังผู้คนเมืองนี้ไม่ทำรั้วนอกจากกั้นม้าหรือวัว "ปืน"จำเป็นมาก มันอุ่นใจถ้าเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมา ตำรวจคงมาช่วยไม่ทัน งง เหมือนกันตอนมาแรกๆดูคนที่่นี่ไม่ค่อยกลัวขโมย บางคนออกจากบ้านไม่ล็อคบ้านล็อครถอีกต่างหาก

ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ผมมีความเห็นว่า การพกปืนเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นครับ แม้การทำใบพกในอเมริกา จะไม่ได้ยากเย็นเท่าไรนัก

การไม่พาตัวเองไปในที่เสี่ยงๆ จะดีกว่า ไม่เดินถนนย่านที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่ไปไหนกลางคํ่ากลางคืนถ้าไม่จำเป็น จะดีกว่าที่จะพกปืนไปไหนมาไหน

เพราะข้อแรก ปืน มีนํ้าหนัก มันไม่สะดวกหรอกครับ ที่จะเอามันเหน็บเอวตลอดเวลา ไม่สนุกเลยครับ

และข้อสอง ถึงแม้ว่าคุณมีใบอณุญาติพกพา ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณพกปืนไปได้ทุกที่ มีหลายๆสถานที่มากมายที่พาปืนไปด้วยไม่ได้ เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ที่ชุมนุมชนต่างๆ. ถ้าคุณเอาปืนมาด้วย มีใบพก แต่คุณต้องเข้าทำธุระในสถานที่ข้างต้น คุณจะเอาปืนไปไว้ที่ไหน

จะเห็นได้ว่า ต่อให้พกถูก กม ก็ไม่ได้สะดวกเลย


แต่เห็นด้วยนะครับ ที่จะมีไว้เฝ้าบ้าน เพราะสมัยนี้ พวกบ้าๆเยอะครับ. แต่มีปืนต้องใช้ให้เป็นด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจมีอันตราย มากกว่ามีประโยชน์ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
ใบอนุญาตพกปืนไม่ใช่ขอกันง่ายๆนะครับ คนธรรมดาแทบไม่มีโอกาสจะได้ ซื้อ
ปืนสั้นที่ถือว่าเป็นอาวุธที่ Conceal ได้ก็ไม่ใช่ซื้อง่ายๆเหมือนกัน ต้องมีการเอาลาย
นิ้วมือไปสอบประวัติ waiting period 10กว่าวันนั่นก็คือรอการสอบประวัติ ถ้าเคยมี
คดีมากก่อนก็แทบหมดสิทธิ์ที่จะซื้อ

การที่ว่าพกปืนได้แต่ต้องแยกปืนและกระสุนไม้ให้อยู่รวมกัน จริงๆเขาระบุว่าสำหรับคน
ไม่มีใบอนุญาตพกปืน ในกรณีที่ต้อง Transport firearm ให้เอาใส่ไว้ใน trunk และกระสุน
ให้แยกออกไว้คนละที่ เช่นใน globe compartment

ปืน rifle ซื้อได้ไม่ต้องมี waiting period แต่พวก Assualt Rifle เช่น AR15 และ AK47 ถูกแบน
ไปนานแล้ว แต่ยังมีการใช้ช่องโหว่ของกฏหมายผลิต assault riflle รุ่นที่มีประสิทธิภาพไกล้เคียง
แต่เปลี่ยนชื่อเป็นอย่างอื่นที่ไม่ถูกแบน

แมกที่ว่าจำกัดให้ใสได้10 round ก็ทำให้แค่หลีกเลี่ยงกฏหมายปืนเท่านั้น พวก 20 round clip เอา
มาใส่ plate เข้าไปทำให้ใส่ได้ 5นัด คนซื้อไปก็แกะเอา plate นั่นออกใส่ได้ 20 round เต็มเหมือนเดิม


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่สะสมนิดหน่อย เพราะชอบความสวยงามของมัน การดีไซน์กลไกที่แทบจะไม่มีscrew ชอบของยุโรปมากกว่า การซื้อในเมกาเดี๋ยวนี้ก็มีสอบข้อเขียนในเรื่องSafety ถ้าสอบไม่ผ่านเค้าก็ไม่ขายให้ และต้องเป็นresident ของStateที่คุณอยู่ ส่วนใบอณุญาติพกนั้นยากส์ครับ ทุกคนสามารถซื้อปืนได้ แต่พกไม่ได้ ถ้าจะเอาไปใหนต้องใส่ท้ายรถเอาไว้และห้ามใส่กระสุนไว้ในปืน ส่วนในบ้านนั้นไม่มีปัญหา เท่าที่จำได้ Arizona พกได้แต่ห้ามConceal


ตอบกลับความเห็นที่ 22