อยากทราบประสบการณ์การเรียน ป.โท กฎหมาย และการทำงานกฎหมายที่ ญี่ปุ่น

ตอนนี้เรียนนิติศาสตร์อยู่ปี 3 แล้วค่ะ มีความสนใจอยากเรียนต่อโททางด้านกฎหมายที่ญี่ปุ่นค่ะ รวมทั้งทำงานทางด้านกฎหมายที่ญี่ปุ่นด้วย


อยากทราบว่าการเรียนโทกฎหมาย ที่ญี่ปุ่น เป็นอย่างไรบ้าง การเรียนการสอนคล้ายกับไทยมั้ยคะ แล้วนอกจากทุนมงแล้ว มีทุนอะไรสามารถไปเรียนโทต่อได้บ้างมั้ยคะ

และคนไทยมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะได้เข้าทำงานสายกฎหมายที่ญี่ปุ่นคะ

(มีเหตุผลส่วนตัวที่จะไปอยู่ญี่ปุ่นค่ะ)

ความคิดเห็นที่ 1
ดูเล่นๆ เอา Gaiben นะครับ

Qualification

Before becoming a gaiben, a lawyer must:
•be admitted to the bar in a foreign jurisdiction,
•have at least three years of experience practicing law in that jurisdiction (one year of which may be spent working in Japan), and
•show that reciprocity exists with their home jurisdiction—i.e., that a Japanese attorney could become similarly qualified to practice there (this condition is waived for lawyers admitted in WTO member states).

A 13-member screening committee of the Japan Federation of Bar Associations reviews each application, a process which usually takes several months. Upon approval, the lawyer's official title becomes "Attorney at Foreign Law for ," with their home jurisdiction filled in.

Gaiben ต้องบอกว่าน่าจะเป็นได้แค่ฝันครับสำหรับคนไทยแม้แต่คนต่างชาติเอง (ความรู้สึกคงเหมือนคนต่างชาติมาสอบเนไทยได้ แต่คาดว่ายากกว่านั้นอีกเยอะด้วย) 1999-2008 มีทนายไทยคนเดียวที่ได้รับการจ้างในปี 1999 คาดว่าเป็นพวกมีเส้นสายระดับประเทศด้วย

คือการจะเข้าเป็นนักกฎหมายเป็นทนายเขา คุณต้องมีภาษาที่ดีมากขั้นเทพ ทั้งภาษากฎหมายของเขาก็ต้องเข้าใจแจ่มแจ้ง มีความเข้าใจกฎหมายเขาดีมากเขาด้วยขั้นหนึ่งเพื่อที่จะสอบให้ผ่าน ที่ข้อสอบขนาดนักกฎหมายญี่ปุ่น โตในญี่ปุ่นเองยังไม่ไหว ถ้าบ้าคลั่งอาจจะมีโอกาสครับ แต่อายุคงต้องราว 50+ แน่นอน กว่าจะเข้าใจถ่องแท้ขนาดนั้น ที่แน่ๆตั้งใจได้ขนาดนั้นผมว่าสอบเป็นผู้พิพากษาได้ตั้งแต่ 25 แล้วล่ะครับ

แถม Qualification ดูข้อล่างสุดครับ น่าจะจบเลยไม่ต้องพูดอะไรแล้ว

แล้วไอ้คนที่ถูกจ้างเมื่อปี 1999 มันคงเป็นคนที่ทางประเทศส่งละมั้งครับ คือในความเป็นจริงมันคงมีไม่ได้

แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนถ้าคุณมีสัญชาติญี่ปุ่น แต่แน่นอนว่าถึงจะเป้นแบบนั้นคุณก็ต้องไปเรียนกฎหมายญี่ปุ่นใหม่อยู่ดี


ตอบกลับความเห็นที่ 1