หมอฟันจากเมกาอยากมาทำงานในไทย รบกวนแนะนำหน่อยค่ะ

คือ รู้จักกับหมอฟันเมกาค่ะ แชทคุยกันทางเว็บค่ะมาสามปีแล้ว ปีนี้เค้าแพลนว่าเค้าอยากมาทำงานที่เมืองไทย เพราะเค้าอายุเยอะแล้ว อยากถามว่าเค้าจะต้องเริ่มต้นยังไงดีค่ะ แล้วจะหากจะเปิดคลีนิคเอง ยุ่งยากไหมค่ะ

เราเองก็ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อนเป็นหมอฟัน หรือแวดวงทางนี้เลย เค้ากังวลเรื่องภาษา เพราะพูดไทยก็ไม่ได้เลย เราเลยอาสาจะมาถามเพื่อน/พี่ให้ ยังไงรบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
แน่ใจเหรอ ว่าหมอฟันจริง เป็นหมอก็น่าจะรู้สิว่า มันต้องมีใบประกอบโรค ต้องสอบผ่าน อ่านภาษ่าไทยได้เหรอ เป็นหมอฟันอยู่เมกา จะมาทำงงานเมืองไทย ฟังดูแปลกๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เดาว่าต้องเป็นหมอฟันผู้ชาย


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เขาก็ต้องติดต่อเอง ต้องลองหางานกับโรงพยาบาลเอกชนอินเตอร์ในประเทศไทยซึ่งมีอยู่มากมายนะ

ที่เมืองไทยมีคลินิคแพทย์ต่างชาติ แต่คุณหมอท่านพูดไทยได้

หรือเราเคยเจอทันตแพทย์ต่างชาติ (ฝรั่ง) ท่านหนึ่ง ท่านมีคลินิคเป็นของตัวเองในต่างประเทศ
เป็นประเทศฝรั่งด้วยกันที่ไม่พูดภาษาอังกฤษเลย และท่านสื่อสารกับผู้มาทำฟันเป็นภาษาอังกฤษ
ทำอยู่ในคลินิคระดับหรู ย่านแพง และคนที่มาทำฟันเป็นคนระดับประธานาธิบดี คนชั้นสูง นักการเมือง
ของประเทศนั้น (ประเทศหนึ่งในยุโรป)

หรือไม่ก็ทันตแพทย์ท่านนี้ต้องหางานในประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือสิงคโปร์ หรือ พม่า ต้องลองดู

เขาอยู่ในแวดวงนี้ ซึ่งน่าจะมีเว็บไซท์ หรือมีโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คเฉพาะกลุ่มให้เข้าไปค้นหา หรือแลกเปลี่ยน
ข้อมูลกันได้นะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
อ้อ นึกได้อีกอย่างค่ะ คือ ในหน้าโฆษนาหน้าประกาศรับสมัครงานของหนังสือพิมพ์มติชน จะมีประกาศ
รับสมัครงานในแวดวงการแพทย์เสมอค่ะ ลองไปดูเป็นไอเดียนะคะ แต่โดยปกติแล้วก็เป็นประกาศ
รับสมัครงานสำหรับคนไทยหน่ะค่ะ ไม่ใช่ของต่างชาติ หรือลองเข้าไปดูในเว็บไซท์ของโรงพยาบาล
เอกชนในระดับสากลของเมืองไทย เช่น บำรุงราษฎร์, บีเอ็นเอช หรือ สมิติเวช นะคะ

//ช่วยแสดงความคิดเห็นได้แค่นี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ดูแปลกๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นหมอฟันอยู่อเมริกาน่าจะทำเงินได้มากกว่าที่ไทยนะคะ... เขาเป็น dental hygiene หรือเปล่า? ลองถามเขาสิคะว่าเขาเป็น DDS หรือเปล่า?


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ลืมเสนอแนะไปว่า ต้องลองดูตามโรงพยาบาลหรือคลินิคในพัทยา หรือ ภูเก็ตด้วยนะคะ

//เราเข้าใจนะว่าเขาเป็นหมอฟันที่อายุมากแล้ว ตามที่คุณ จขกท.เล่ามา คาดว่าเขาคงอยากมาอยู่เมืองไทย
อยู่ใกล้คุณหรือไง? และอยากมาเกษียนกลายๆ แต่ยังอยากทำงานอยู่ โดยที่มีเงินสำรองอยู่แล้ว
แต่แค่อยากมาอยู่เมืองไทย และไม่ต้องการอยู่เฉยๆ เท่่านั้นเอง

หรือถ้าเขาไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ก็ควรจะดูงานประเภทสังคมสงเคาระห์ เป็นแพทย์อาสา ทำนองนี้นะคะ

//แค่ช่วยออกไอเดียค่ะ จาก คห. 3, 4 ข้างบนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
น่าจะเป็นหมอ ฟัน ผู้หญิง.......?

คำแนะนำจากข้างบน ดี ๆ ทั้งนั้น

แต่มีข้อแนะนำเบื้องต้นเพิ่มเติมให้ว่า........ก่อนอื่น

ต้องมีใบอนุญาตทำงานในเมืองไทย และต้องได้รับวีซ่าประเภท non immigrant สำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานในเมืองไทยได้....หากในอเมริกาให้ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สถานทูตไทยใน Wash. D.C. หรือที่สถานกงสุลใหญ่ไทย ที่ใกล้ที่สุด เช่น ที่นิวยอร์ค ชิคาโก ลอสแอนเจลีส


หากอยู่ในเมืองไทย ให้ต่อต่อสอบถามที่กระทรวงแรงงาน ดินแดง กทม. และที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู กทม. หรือที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม.


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอเพิ่มเติมจากคุณ Detente ว่า แพทย์ต่างชาติจะเข้ามาเป็นทำงานป็นแพทย์ในไทยได้ ต้องทำการสอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์เฉพาะทางและภาษาไทย ตามที่ทางแพทยสภากำหนด หากสอบผ่านก็จะได้รับใบอนุญาตมีกำหนดหนึ่งปี ส่วนการเดินทางเข้าประเทศไทยนั้น ทางที่ดีต้องถือวีซ่า Non immigrant Cetagory O เข้ามา เพื่อที่จะสามารถยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work permit) กับกรมการจัดหางานได้

ตอนนี้ ทางแพทยสภากำลังตื่นเตรียมตัวกับการรับมือกับ จำนวนแพทย์และพยาบาลที่จะแห่เข้ามาทำงานในเมืองไทบ หลังจากจากประชาคมอาเชี่ยน AEC เปิดอย่างเป็นทางการ โดยที่สมาชิกอาเชี่ยนสามารถเข้ามาทำงานในประเทศสมาชิกด้วยกันได้


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
หรือแก กำลังคิดจะ มา ฟัน


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เข้าไปศึกษาในเวปทันตแพทยสภา ตามลิ้งคืข้างล่างนี้เลยนะคับ
http://www.dentalcouncil.or.th/license/relicense.php

ปล.การสอบภาคทฤษฎีต่างๆๆ นั้น ใช้เป็นภาษาไทยทั้งหมดนะครับ

มีไรถามเพิ่มเติมก็ ตามชื่อ ครับ เผื่อจะให้คำตอบไรได้ครับผม


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ระวังถูกหลอกนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ตอนแรกๆอ่านก็ขำๆ แต่นึกถึงว่าเกิดเราเป็นคนตั้งกระทู้เอง คงขำไม่ออก และรู้สึกไม่ดี ทั้งคำว่า "หมอฟันผู้ชาย" และ"หมอฟัน ผู้หญิง"

ความจริงเราก็เคยตั้งกระทู้คล้ายแบบนี้เหมือนกัน แต่เผอิญไม่ใช่หมอฟัน เข้าใจว่าหลายๆคนหวังดีกลัวคนตั้งกระทู้จะถูกหลอก แต่น่าจะเขียนแบบ คคห 12 ไปเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
Assuming he is the real dentist and all credentials. The other thing which could be helpful is military status, if he was or is associated with military contact the related offices when seeking advices.


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
คห 9,11

ตามนั้นเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 15