ดอนเมืองมีข้อบกพร่องตรงไหน ทำไมโลว์คอสต์แอร์ไลน์จึงยอมย้ายมาน้อยจัง

ตอนเปิดอย่างเป็นทางการ 1 ตุลาคมที่ผ่านออกข่าวกันใหญ่ แต่มีเพียงแอร์เอเชียเจ้าเดียวที่ย้ายมา รวมกับที่มีอยู่เดิมก็ไม่กี่สาย โลว์คอสต์แอร์ไลน์อีกหลายสายยังสมัครใจอยู่ที่สุวรรณภูมิต่อไป

ผิดเจตนารมย์ของกระทรวงคมนาคมเลยที่หมายมั่นจะปั้นในดอนเมืองเป็นสนามบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ เพื่อลดความแออัดของสุวรรณภูมิ

หรือนโยบายลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้สายการบินที่ย้ายมายังน้อยเกินไป

ความคิดเห็นที่ 1
โลว์คอสต์ที่ยังบินสุวรรณภูมิ ไม่มี จนท.ภาคพื้นของตัวเองครับ จ้างทำทั้งหมด แล้วก็มีเรื่องต่อเครื่องด้วยส่วนนึง

อย่างแอร์เอเซีย นกแอร์ โอเรียนท์ไทย ทำเองทุกอย่างเลยไม่ใช่ปัญหาครับ แต่อนาคตก็รอดูกันไป

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับตัวเอง คิดว่าเป็นเพราะการเดินทางเป็นหลักครับ
โลคอร์สสายอื่นๆ ไม่ได้มีเส้นทางบินในประเทศเยอะเหมือนกับแอร์เอเชีย
ที่มีคนไทยเดินทางกันเยอะ และคุ้นชินกับสภาพรถติดนรกบนถนนพหลโยธิน
แถมเรื่องการต่อเครื่องไปโน่นไปนี่อีก

สำหรับตัวเอง ตั้งแต่แอร์เอเชียย้ายไปดอนเมือง ก็ไม่ได้บุ้คตั๋วใหม่จากเจ้านี้อีกเลย
เพราะไปลำบากลำบน



ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
สำหรับแง่สายการบินนี่ผมไม่มีความเห็นนะครับ แต่ในแง่ผู้โดยสาร ผมพบว่าการคมนาคมที่ดอนเมืองยังไม่ดีพอ ผมขึ้นเครื่องแอร์เอเซียกลับจากออสเตรเลีย ต่อเครื่องมาเลย์
เหนื่อยมาก เดินทางกว่า 11 ชม. มาถึงดอนเมือง 3 ทุ่ม ต้องมารอเรียกแท็กซี่คิวยาวเป็นร้อยคนเลยครับ แท็กซี่ก็มีเยอะมาก แต่ติดตรงที่เจ้าหน้าที่คนประสานงานเขียนคิวแท็กซี่
มีน้อยเกิน หรือจัดระบบไม่ดีพอ ทำให้ต้องเสียเวลาที่จุดนี้ไปร่วมๆชั่วโมงหน่ะครับ สงสารพวกคนต่างชาติมากที่เข้ามาก็มาเจอแบบนี้เป็นด่านแรก ซึ่งมันไม่น่าประทับใจซะเลยครับ
ไม่อยากคิดว่าถ้าเจ้าอื่นมาด้วยจะยิ่งแน่นขนาดไหน แต่จะย้ายมาก็คงไม่มากนักนะครับ
เพราะแอร์เอเซียนี่ขาใหญ่สุดแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
สร้างแอร์พอร์ทลิงค์สื


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
การเดินทางต่อคือสิ่งสำคัญครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เราว่าการคมนาคม และการต่อเครื่องค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ที่หางแดงกล้าย้ายฐานมาที่ดอนเมือง เพราะการท่าฯ waive ค่าธรรมเนียมนั่นนู่นนี่ให้ตั้งเยอะแยะนี่ครับ หักลบกลบค่าใช้จ่ายการย้ายฐานแล้ว ได้กำไรมาอื้อเลย

แต่ในทางกลับกันสายการบินที่ปักหลักอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่เห็นว่าการท่าฯจะมีข้อเสนอแบบเดียวกับที่หางแดงได้รับเลย

พอหางแดงย้ายมาได้สักพัก สายการบินกลุ่มก้อนเหล่านั้นก็ทำหนังสือทวงถามไปยังการท่าฯว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรหรือส่วนลดอะไรบ้าง...

แต่เรื่องก็เงียบหาย?

เอ๊ะ! หรือว่าผมตกข่าว ว่าการท่าฯให้ข้อเสนอดีๆอะไรกับสายการบินเหล่านั้นแล้ว.....


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ตั้งแต่ย้ายสนามบิน ก็ไม่ได้จองตั๋วแอร์เอเชียเลยเหมือนกัน ใช้เวลาเดินทางเยอะมาก

ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ต้องรอ ARL ที่จะสร้างมาหน้าดอนเมือง ถึงตอนนั้น คงมาเยอะขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
Low cost ไม่มา แต่ สายการบินใหม่ กำลังจะมาครับ

"R Airlines" มีกำลังจะบินย่างกุ้ง , พาราณสี (เช่าเหมาลำ)
และบิน แฟรงเฟิร์ต อีกตะหาก


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เผื่อเวลาเดินทางขึ้นเครื่อง 2 ชม.
ยังเกือบไม่ทัน วิ่งแทบตาย
อยู่สุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทาง ครึ่งชม.
ยังมีเวลาเหลือ นั่งกินก๋วยเตี๋ยว


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
คาดว่าเพราะ Low cost เจ้าอื่นๆ อาจพิจารณาแล้วยังไม่คุ้มที่จะย้ายมาดอนเมืองครับ ถึงแม้ว่าอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่ประโยชน์เรื่องอื่นๆอาจยังไม่คุ้มค่า เช่น Ground service , การได้ผู้โดยสาร connect flight ครับ ซึ่งต่างจากแอร์เอเชียที่มีเที่ยวบินมาก ผลประโยชน์จากการย้านค่อนข้างมากกว่าจึงย้ายไปครับ แต่ทางการท่าฯเองก็ได้ให้ข่าวว่าสายการบินโลว์คอสของจีนหลายสายสนใจมาบินดอนเมืองครับ

โดยส่วนตัวผมเห็นว่าควรย้าย Low cost ทั้งหมดมาบินที่ดอนเมืองครับ และเร่งการสร้างระบบเชื่อมต่อสองสนามบินให้แล้วเสร็จโดยเร็วครับ (แบบว่าทุกวันนี้ช่าง...) ถ้าเป็นไปได้ในช่วงที่ยังสร้างไม่เสร็จอยากให้มีการประสานกับทางด่วนเพื่อลดค่าบริการทางด่วนสำหรับผู้โดยสารบ้างครับ TT

to คคห. 2 ดอนเมืองอยู่วิภาวดีอ่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ล่าสุดที่ผมนั่งค่ายเหลืองแห่งเกาะฟิลิปปินส์มา

ผมรู้สึกว่า ถ้าผมเป็นเค้า ผมเลือกที่จะอยู่สุวรรณภูมิครับ

ผู้โดยสารชาวฟิลิปปินส์แต่ละคน
เมื่อเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร ของสุวรรณภูมิ แล้วดูตื่นตาตื่นใจมากๆ
ถ่ายรูปกันแทบจะตลอดทาง ดูเค้าตื่นเต้นจริงๆ เพราะบรรยากาศคนละเรื่องกับสนามบินบ้านเขาเลย

เช่นเดียวกันกับสายการบินอื่นๆ ผมว่าเค้าก็คงเลือกที่จะอยู่สุวรรณภูมิต่อ
แต่จริงๆ แล้ว แค่เจ้าแดงบิ๊กเบิ้มย้ายไป ดอนเมืองก็คึกคักพอสมควรแล้วครับ

แถมผมยังรู้สึกไม่ได้คิดไปเองว่า สุวรรณภูมิดูหงอยๆ ไปนะ สีแดงๆ หายไป


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
Low cost อีกหลายๆ เจ้า ที่ยังอยู่สุวรรณภูมิ เกือบทั้งหมดเป็นสายการบินต่างชาติ
ซึ่ง Low cost บางเจ้าก็มีสายการบินแม่ของตัวเองอยู่สุวรรณภูมิอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น
เรื่องการจัดการต่างๆ เขาลงตัวที่สุวรรณภูมิ และสายการบิน Low cost เองเขาก็หวัง
ลูกค้าต่อเครื่อง ถึงแม้การไม่มีการส่งต่อผู้โดยสารหรือกระเป๋ากับสายการบินอื่นโดยตรง
แต่ผู้โดยสารก็จัดการตัวเองได้


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
รอแท๊กซี่หน้าสนามบินดอนเมือง ใช้เวลานานกว่าอยู่บนเครื่องบินอีก

ระดับบริหารไม่มีใครเห็นปัญหาเหรอ หรือว่าเห็นแล้วไม่มีปัญญาที่จะแก้ไข หรือว่ามีปัญญาแต่ขี้เกี่ยจจะแก้ไข

ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ผมไม่รอหรอกครับ แท็กซึ่ในสนามบิน นอกจากต้องจ่ายเพิ่ม 50 บาทแล้ว ยังรอนานมาก ยอมเดินออกมาเรียกที่ถนนวิภาวดีฯ ดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
สนามบินดอนเมือง เรื่องเรียกรถแท็กซี่ เราขึ้นบันไดเลื่อนไปข้างบนชั้น departure (ขาออก)

ออกไปเดินเรียกแท็กซี่ที่เพิ่งมาส่งผู้โดยสาร รอเขาลงและเราก็เรียกต่อเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
แท็กซี่ รอนานนนนนนน....มาก

คิวยาวมากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ภายในลานจอดก็เก่า สภาพน่ากลัวมาก สะพานเทียบเครื่องเสียบ่อยมากเช่นกัน
แถมถ้าวันไหนฝนตก น้ำถ่วมลาดจอดเลยล่ะครับ ถ่วมมิดรองเท้าเลยน่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 19