[กระทู้ชวนคุย] บางทีเสน่ห์ของการเดินทางด้วยตัวเอง ก็คือการที่หลงบ้าง มั่วบ้าง ไปเรียนรู้เอาดาบหน้าบ้

วันนี้ว่าง ตั้งแต่เครียดเรื่องงานมาหลายวัน นั่งอ่านกระทู้บ้าง ตอบบ้าง ตามประสา อ่านกระทู้ที่ให้ช่วยตรวจการบ้าน ช่วยจัดทริป สอบถามเส้นทาง ที่กิน ที่เที่ยว สอบถามทริคหรือรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆนานา แล้วผมมีความรู้สึกว่า บางท่าน panic เกิน กังวลเกิน สอบถามทุกระยะ ตั้งแต่ก้าวออกจากที่พัก fix ทั้งเวลา fix ร้านอาหาร สอบถามเส้นทางแบบละเอียดยิบ แทบจะนับก้าวเดินกันทีเดียว จนบางทีคุณลืมไปหรือเปล่าว่าการท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือ backpack จริงๆแก่นมันคืออะไร ในความรู้สึกผม การที่เรารู้ข้อมูลไปบ้างครึ่งๆกลางๆ ไม่ได้ละเอียดมาก แล้วค่อยไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าบ้าง ก็เป็นอารมณ์ที่ตื่นเต้นดี เป็นความทรงจำดีๆ แม้จะหลงทาง อาหารจะอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ก็เป็นอะไรที่สนุกดี review ก็ดูบ้างพอเป็น idea ไม่ต้องไปเดินตามทุกฝีก้าว ก็เป็นอะไรที่ท้าทาย เราอาจจะได้พบอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใครก็ได้

ที่เขียนมายืดยาว มิใช่อะไร อย่างที่จ่าหัวไว้ ชวนคุยเฉยๆ ไม่ได้ชวนทะเลาะก็สร้างความแตกแยกอะไร แค่อยากจะเสนอความเห็นให้ทุกท่านที่กำลังเดินทางด้วยตัวเองว่า อย่าไปเครียดมาก อย่าไปกังวลมาก อย่าไปคิดว่าตัวเองหรือผู้ร่วมเดินทางที่เงื่อนไขมากมายงั้นงี้ (เช่นมีผู้สูงอายุ มีเด็ก) จริงๆการเดินทางด้วยตัวเองมันมีสีสรร เพราะเราคิดเอง เรา create plan ของเราเอง ข้อมูลการท่องเที่ยวก็หาไปบ้าง พอให้ได้ idea คร่าวๆ แต่ไม่ถึงกลับต้องละเอียดยิบ แต่ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลยรอป้อนอย่างเดียวก็ไม่ไหวจะเคลียร์ ผมอยากให้ทุกคนสนุกกับการท่องเที่ยว อะไรก็ unplan ก็ไม่ต้องไปวิตก plan เยอะพอทำไม่ได้ก็ปวดใจเปล่าๆ ช่วงนี้ก็เป็น high season เกือบทุกที่ ไงก็ มีความสุขในการเดินทางนะครับ เพื่อนๆทุกคน ;)

ความคิดเห็นที่ 1
ครับ
แพลนไปคร่าว ๆ ไม่ได้ซีเรียสมาก

บางอย่างที่คาดหวังก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง

บางอย่างไม่ได้คาดหวังกลับได้มาก็มี

นี่แหละคือเสน่ห์ของการเดินทาง


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เราคนนึงค่ะ บางทริปดูรีวิวแล้วตามจริงๆ เพราะรู้สึกว่าล็อกอินนั้นรีวิวมีคุณภาพ เห็นผลงานอย่างต่อเนื่อง ^^
บางทีลืมไปว่าเค๊าชำนาญแล้ว แต่เราไม่ 55555 ไอ้ที่เห็นเค๊ารีวิวง่ายๆ บางทีเราไปก็หลง แต่สนุกดีค่ะ

ส่วนมากจะจดข้อมูลรวมๆไว้ค่ะ เวลาจะไปที่ไหนก็เอาข้อมูลมาดูทีนึง แล้วจัดเป็นทริปของเราเอง
ช่วงทำการบ้านก่อนเที่ยวนี่ เป็นอะไรที่สนุกกว่าตอนไปเที่ยวอีกค่ะ

ก่อนตั้งคำถาม อยากให้ลองหารีวิวที่เพื่อนๆทำไว้ดูก่อนค่ะ แล้วเอาข้อมูลมาสร้างทริป ตรงไหนขาดหายไม่สมบูรณ์
ค่อยตั้งกระทู้ถาม ให้เพื่อนๆช่วยแสดงความคิดเห็น หรือแก้ไขให้จะดีกว่าจริงๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
จริงครับ
backpack ครั้งแรกลองทำตามแพลน แบบว่าเหนื่อยมาก
หาร้านอาหารไม่เจอ หิวโซ
บางทีฝนตก ทำให้วันนั้นไม่สามารถไปตามแพลนได้
เลยนั่งหาข้อมูลใหม่วันนั้น
หากว้างๆไว้ แล้วปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ
เรื่องอาหารเห็นร้านไหนน่ากินก็กิน
เพราะบางร้านไปตามรีวิวก็ไม่เห็นอร่อยเล้ย เซ็งเปล่าๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ของผมเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก+ไปคนเดียว คนรู้จักแถวบ้านงงกันหมด
พูดญี่ปุ่นไม่เป็น Eng ก้อไม่ได้ มันไปยังไงของมัน
ทำการบ้านคิดว่าไม่หลงแล้ว หึหึ
วันแรกหลงตั้งแต่ในสถานียันหาทางไปโรงแรม เดินแค่ 5 นาที จากสถานี
เดินวนหลงทาง+แบกเป้นนน. 9 กก. เกือบๆ 2 ชม.
พอบทว่าจะเจอโคตรง่ายเลย
มือใหม่หัดเที่ยวเตรียมตัวดียังไงก้อต้องมีหลงกันบ้างล่ะ
แต่พอหาเจอแล้วนี่ รู้สึกภูมิใจเล็กๆ มืใช่น้อย
ยิ่งตอนมีคนมาถามทางเราด้วยแล้วยิ่งสนุก พูดอย่างภูมิใจ
"ผมหลงทางมาเมื่อกี้นี้เอง ไปทาง......"
สนุกครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เอาจริงๆนะ ผมชอบเที่ยวแบบไม่มีแพลนมากกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เราก็เป็นคนนึงที่เข้ามาปรึกษาในนี้พอสมควร ตอนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว
เราไป"คนเดียว" ญี่ปุ่นไม่ค่อยได้ อังกฤษไม่ค่อยรอด 555+
พ่อแม่ก็เป็นห่วง เลยหาข้อมูลแน่นมากกกกกกกกก แพลนละเอียดมากกกกก
กูเกิ้ลสตรีทวิวจนชำนาญ
พอไปถึงจริงๆ แถบจะไม่ตรงแพลนที่ทำมา 55555+
หลงบ้าง งงบ้าง ไหลไปกลับซารารี่มังบ้าง สนุกดีค่ะ
คนไม่เคยไปก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา แต่ถ้าไปแล้วทำตามแพลนเป๊ะๆก็ไม่สนุกอยู่่ดี ,,ปล่อยไปตามหัวใจดีที่สุดค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ส่วนใหญ่เกือบทุกทริปต้องมีหลงเสมอซักครั้งตลอดๆครับ

เพราะเวลาดูจากแผนที่เวลาเดินขึ้นไปจากรถใต้ดิน เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ผิด ก็เสียเวลาไปบ้างครับ

แต่ทุกๆครั้งที่หลง....จะทำให้เราได้พบเส้นทางใหม่เสมอครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ชอบแบบแพลนไปเบาๆแล้วไปลุ้นเอาดาบหน้าค่ะ55
จริงๆบางครั้งเวลาเจอแบบสาหัสท้อใจมากๆก็ชอบแบบแพลนละเอียดเหมือนกัน
แต่สุดท้ายเเล้วไม่มีอะไรสนุกเท่า เที่ยวไปมั่วไป ดูไร้ทิศทางแต่ก็เสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง
^.^ ยึดสโลแกน เที่ยวทั้งที่จะเครียดทำไม


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
มีหลงบ้างพอให้สนุก ๆ ก็กำลังดีครับ บางทีออกนอกเส้นทางแค่นิดเดียวแต่ทำให้ได้พบเห็นอะไรที่แปลกใหม่ พอเจอที่ ๆ เราประทับใจได้เอามาแบ่งปันคนอื่น ๆ ให้ไปตามรอย ก็ทำให้เรามีความสุขเล็ก ๆได้เหมือนกันเนาะ

ปล.แต่ยังไงก็ต้องมีแผนการหลักคร่าว ๆ ไว้ เพราะหลงมากไปจะเริ่มไม่สนุกแล้ว ฮ่า ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เราจำๆเส้นทางไปสถานที่ต่างๆ ร้านอาหาร จากรีวิวของคนอื่นๆ แล้วปรินท์ A4 เป็นฉากๆเลยค่ะ
ขนาดมีสคริปอยู่ในมือแท้ๆยังหลงได้ทุกครั้ง 555 ฮาดีค่ะ ทำแผนไปไม่ตรงตามที่วางไว้สักอย่าง
ไปถึงที่เที่ยวจริงๆอยากไปไหนก็ไป


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เห็นด้วยกับ จขกท
บางทีดูรีวิวเยอะไป พอเจอกับสถานที่ของจริง มันไม่ตื่นเต้นแล้วครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้าแผนเป๊ะสุด ๆ แทบนับก้าวได้เนี่ย จะขาดรสชาติเรื่องเที่ยวเองที่สำคัญอย่างหนึ่งคือทักษะการถามและสนทนากับคนท้องถิ่นนะคะ ต้องได้คุยมั่ง จะมือไม้ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ก็สนุกไปอีกแบบ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ถูกใจมากกับกระทู้นี้เคยอ่านรีวิวของคนที่วางแผนเที่ยวแล้วรู้สึกว่าคัวเองช่างเป็นนักเที่ยวที่ไม่ได้เรื่องจริงๆเพราะข้อมูลก็ไม่เม่นคิดว่ารู้พอประมาณไปหาเอาข้างหน้าไปเที่ยวญี่ปุ่นเจอคนไทยน้อยมากพอกลับมาอ่านรีวิวถึงได้รู้ว่าเราหลงไปที่เขาไม่นิยมกันเพราะข้อมูลไม่เม่นแต่ก็ได้แต่ปลอบตัวเองว่าต้องหาทางไปใหม่แต่ในความรู้สึกมันสนุกที่สุดวันแรกก็หลงอยู่ครึ่งวันกว่าจะตั้งตัวได้ โรงแรมที่พักอยู่ถึง4วันตั้งอยู่ระหว่างสองสถานีแต่ละสถานีมีทางออกมากกว่าสามทางไม่เคยออกทางซ้ำกันเลยสรุปหลงทุกวันแต่ก็เจอชาวญี่ปุ่นใจดีบอกทางให้ทุกวันเดินหาร้านดองกี้ที่หลงไปเจอในชินจูกุแต่อีกวันไปหาที่ชิบูยาเกือบสามชั่วโมงเพิ่งนึกได้ว่าผิดที่ดีว่าไปคนเดียวไม่ต้องรับผิดชอบกับความรู้สึกใครไป10วันแล้วไปเที่ยวได้น้อยถ้าเทียบกับคนอื่นแต่สิ่งที่ได้มามากคือการซึมซับบรรยากาศของญี่ปุ่นผู้คน ใจดีต้องไปอีกแต่วิธีเที่ยวคงเหมือนเดิมไม่มีแผนเยอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ใช่เลย ...นะ แต่ถ้าไปอยู่คนเดียวแล้วหลง นี่ จะแอบกลัวนิด ๆ ...
แต่พอผ่านมันมาได้ .. เอ๊ะ สนุกอ่ะ แล้วมันก็ไปอีกกกก คนเดียว

แต่ทั้งนี้แล้ว เราควรทำแผนเองค่ะ ละเอียดมากน้อย ก็แล้วแต่ชอบ ...
เราว่ามันเหมือนเราได้เที่ยวสองครั้ง ครั้งแรกเที่ยวกะคอมที่บ้าน
แล้วก็ออกเที่ยวจริง

ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ.
เราเกิด กทม โตใน กทม ขนาดอยู่ กทม เรายังหลง ตอนไปเที่ยวแรกๆ เราไม่กลัวอะไรเลย เพราะหลงจนชิน เที่ยวคนเดียวก็ดีอย่างเพราะหลงก็หลงไม่ต้องกดดัน เพราะหลงทางนี่ละค่ะ ทำให้ได้อะไรดีๆเก็บไว้เป็นความทรงจำมากมายเลย

และทำให้เราได้รู้จักกับสามีด้วย 555


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เคยไปแบบไม่มีแพลนไรไว้เลย
(เพราะปั่นงานให้ทันไปออกอีเวนท์ที่ตั้งใจจะไปก็จวนตัวแล้ว T^T)
วันอื่นนอกจากวันอีเวนท์ก็ เดินเล่นแถวบ้านเพื่อน
ไปตามสถานที่ที่เคยอ่านเคยได้ยิน ถึงขนาดลงสถานีชื่อที่ถูกชะตา
ฮ่าๆ มั่วได้อีก แต่แฮบปี้มากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เห็นด้วยค่ะ เราก็ชอบโดยเฉพาะเวลาที่ไปคนเดียว เผื่อเวลาหลงทางนิดนึง แต่ทำให้ได้สัมผัสสังคมของคนประเทศนั้นๆจริงๆเพราะต้องอ่านแผนที่ ถามทางเค้าประกอบกันไป

ไม่ต้องจำกัดเรื่องเวลามาก อีกอย่าง เราชอบซึมซับบรรยากาศมากกว่าเที่ยวชมตามแหล่งมีชื่อเสียงที่คนแห่กันไป ชอบเดินๆนั่งๆดูผู้คนของเค้าคุยกัน เดินตามซุปเปอร์มาเก็ตเล่น


ก่อนไปก็จะหาข้อมูลไว้เอง ไม่ค่อยตามเส้นทางย้อนรอยอะไรหรอก อาหารก็กินตามที่เจอ เห็นแล้วอยากกิน ไม่เคยไปหาร้านตามที่ไกด์บุ๊คลงไว้หรอก เพราะไม่ตื่นเต้น แต่กว่าจะได้กินแต่ละมื้อก็จะงงกับเมนูอยู่นานเหมือนกัน อิอิ

สรุปว่า เราว่ามันได้ใช้ทักษะเฉพาะตัวในการเอาตัวรอดดีค่ะ สนุกดี


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
สนุกที่สุดของการเดินทาง คือ การหลงทาง

มีเรื่องโม้เวลาไปเที่ยวมากที่สุด คือ การหลงทาง และ ได้เจออะไรแปลกๆ ที่คนเค้าไม่เจอกัน ไม่ไปกัน

เสน่ห์ของการเดินทาง คือ ไปไม่ได้ตามแผน แต่สนุกกว่าแผนที่วางไว้

การเดินทาง คือ การหยุดมอง นั่งมอง ความรู้สึกที่ได้รับรอบๆตัว ที่ไม่ใช่ที่ๆเราคุ้นเคย เพื่อรับสิ่งแปลกใหม่

ของให้สนุกกับการเดินทางกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
เห็นด้วยกับ จขกท ครับ ปกติชอบอ่านรีวิวแบบเอาข้อมูลใส่ลงไปในสมองบ้าง แล้วเวลาแพลน ก็แพลนตามใจตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยยึดติดว่าต้องตามรีวิวเป๊ะๆ มีในใจอยู่แล้วว่าอยากไปเที่ยวตรงไหน กินตรงไหนบ้าง หลายๆเมืองก็ไม่ได้จองโรงแรม ใช้วิธี walk in ไป รู้สึกเหมือนกันว่าการวางแพลนแบบแน่นมากไป มันจะทำให้เครียด เลยเป็นคนวางแพลนการเที่ยวแบบหลวมๆไว้เสมอครับ ทริปแรกๆอาจจะนอยด์ว่าข้อมูลไม่เป๊ะ แต่จริงๆแล้ว ถ้ามีข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นก็เพียงพอแล้ว หลายๆครั้งชอบมีคนหลังไมค์มาช่วยขอให้จัดทริปแบบลงตารางเป๊ะๆนี่ก็แอบเครียดเหมือนกัน เพราะทริปตัวเองยังทำไม่เคยได้เลย 555+


ผมถือคติว่าไปเที่ยว ไม่ได้ไปสอบ ไม่ต้องทำคะแนนครบ 100 เต็ม หรอกครับ วางไว้หลวมๆสบายใจกว่ากันเยอะเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
หลงตลอดค่ะ

เดินทางกะลูกชาย 2 คน เราไม่รีบค่ะ เดินวนไปวนมาเดี๋ยวก็ถึง สนุกดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
ยกมือเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่าาา... :)
อ่านรีวิว เพราะชอบอ่านหนังสือประเภทท่องเที่ยวอยู่แล้ว รีวิวบางท่าน รูปประกอบสวยมากอีกต่างหาก เลยชอบอ่านมาก ๆ ค่ะ แล้วหลังจากนั้น... รีวิวก็จะทำให้เราเจอสถานที่เที่ยวที่อยากลองไปดู
แต่เราไม่ตามเค้านะคะ เพราะการท่องเที่ยวของเราเปรียบเหมือนการสร้างเรื่องราวสนุก ๆ ให้กับชีวิตที่จำเจ ก็เลยอยากมีเรื่องราวเป็นของตัวเองที่เขียนด้วยตัวเองบ้างค่ะ (แต่บางทีก็ตาม และถึงตามก็ยังหลง เป็นพรสวรรค์พิเศษจริง ๆ... -*-)

แต่ทุกครั้งที่หลงเราไม่ตกใจนะคะ (เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้วว่าไปเที่ยวคนเดียว ก็จะระวังตัวระดับหนึ่ง)
แต่กลับเป็นว่า... ทุกครั้งที่หลงจะรู้สึกตื่นเต้นดีใจตัวสั่น กำลังจะมีเรื่องสนุกกลับไปเล่าให้น้องให้เพื่อนฟังอีกแล้วสิ... คุคุ... (o^^o)


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ถูกต้องมากๆครับ ผมด้นสด ตาบเอาดาบหน้าและหลงทางประจำเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ชอบมาก เสน่ห์อยู่ตรงนั้นเลยแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ผมคิดว่า...ส่วนใหญ่ที่เข้ามาถามชนิดที่ว่า...ทุกฝีก้าว ! ผมคิดว่า คนถามก็ไม่ได้มาอะไรมาก...หรอกครับ

มันเพียงแค่ว่า.....สื่อสมัยนี้ มันมีหลายช่องทาง !

และคิดว่า...เค้าจะไม่ถามเพื่อนมิตรสหายที่ไหนๆ ของเค้า..บ้างหรอ ? เป็นไปไม่ได้ ที่เค้าจะไม่ถามกับคนที่รู้จัก

มีบอร์ดแบบนี้ ! มันก็เป็นแค่การสอบถาม - อยากรู้ - และจะเอายังไงต่อไปดี

บางที...คนที่มาตอบให้ ! ก็อย่าไปคิดแทนเค้าซิครับ ว่า...เค้าจะต้องทำตามเราทุกอย่าง

ถ้ามีคนไปแนะนำว่า......" ไป จ.นั้นๆ ก็ควรแวะสถานที่...A นะ ,ตามด้วย..B ,ปิดท้ายด้วย C "

เผลอๆ พอเค้าไปจริงๆ เค้าอาจจะตัด B ไปก็ได้ !!!

พอมีกระทู้เกี่ยวกับการถามขึ้นมา ! และก็มีคน...ตอบ คนแนะนำ

จากนั้น...ผ่านพ้นไปซักระยะ ! เคยเห็นคนนั้นๆ ย้อนกลับมาเขียนกระทู้อีกมั้ย ว่า....ได้ทำตามขั้นตอนของ คุณ...... หรือ ทำรีวิวย้อนกลับมาให้ชม

แทบไม่ค่อยจะเห็นใครทำแบบนี้กันบ้างเลย

เพราะคนที่อยากจะให้มีคนอื่นๆ มาคอยแนะนำต่างๆ นาๆ และอยากจะทำตามคนแนะนำจริงๆ โอกาสที่เค้าจะย้อนกลับมาเล่า กลับมาบอก...มันควรต้องมีปรากฏ

ความนึกคิดของคน...แนะนำ !

มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก นอกซะจาก อยากรออ่านคำขอบคุณจาก จขกท. นั้นๆ

และแน่ๆ ละ...ใครเคยออก คคห. ของกระทู้ไหนไป มีหรอที่จะไม่คิดย้อนกลับไปดูอีก ว่า...จะมีใครมั้ย ที่สนใจกับสิ่งที่เราได้แนะนำออกไปมั้ย

กระทู้นี้ ! เป็นกระทู้ที่ถือว่า...ดี นะครับ กับตรงที่ จขกท. นี้ ได้คิดเจาะลึกในอีกมุมหนึ่งที่เกี่ยวกับการ...ถามๆ ของคนอื่นๆ

ผมแทบจะไม่ค่อยไปมี คคห. ให้ใครเลย ถ้าเจอคำถามประเภท...แนะจุดแวะเที่ยวให้หน่อย - แนะร้านอร่อยๆ ให้ด้วย

เพราะผมคิดว่า....คนถามแบบนี้ ! มักจะถามแบบคร่าวๆ กันมากกว่า ถึงเวลานั้นจริงๆ เผลอๆ สิ่งที่แนะนำไป เค้าก็ไม่ทำตาม..ก็ได้ (ผมคิดว่า..มีเยอะแน่ๆ)

ถ้างั้น ! เราก็อย่าไปคิดแทนเค้าเลยครับ เพียงแต่บอกคร่าวๆ ไปก็พอ เพราะเราก็ไม่รู้หรอก ว่า..สิ่งที่เราแนะนำไปนั้น...เค้าจะถูกโฉลก รึปล่าวนะซิ

หากถ้าไม่เห็นด้วย หรือไม่พึงพอใจกับที่เราได้แนะนำไป....เค้าจะกล้าตอบกลับมามั้ย ว่า....." คคห. ที่.....ชั้นไม่เอาหรอก "

และ..มักจะเป็นกันเป็นประจำ กับคำว่า " ขอบคุณทุกๆ คคห. "

มันก็เป็นมารยาทของทางสื่อ..อย่างหนึ่งละครับ ที่เค้าต้องมาขอบคุณ

และไอ้สิ่งที่เค้ามาขอบคุณ.......เราจะไปรู้หรอ ว่าเค้าจะเลือกทำตามอันไหน

ถ้างั้น....ถ้าเราเป็นผู้ตอบ - ผู้แนะนำ ! งั้น...ก็อย่าไปใส่ใจแบบเต็มเปี่ยมเลยครับ ว่า..เค้าจะต้องทำตาม..เรา


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
คน 10 คนไปเที่ยวที่เดียวกัน ผมเชื่อแน่ว่าเที่ยวไม่เหมือนกันสักคนครับ
ถึงจะมีโปรแกรมมาตรฐานสำหรับสถานที่แห่งนั้น แต่ในรายละเอียดก็จะต่างๆ กัน
บางทีแม้ว่าเราจะจัดแผนมาอย่างดีแล้ว แต่เหตุไม่คาดฝันมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างมากมาย
เราก็อาจต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ากันบ่อยๆ
หรือบางทีระหว่างเที่ยว อาจจะมีสิ่งที่น่าสนใจหรือที่ที่น่าสนใจที่อยู่นอกแผนการเที่ยวของเราโผล่เข้ามา
เราก็อาจจะแว่บออกไปดูตามนั้นบ้าง ก็เป็นไปได้
และสิ่งนี้แหละครับคือเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในแบบฉบับของแต่ละคน


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
เข้ามาอ่าน กดโหวตให้ค่า

เรายังไม่เคยมีประสบการณ์หลงทางที่ต่างประเทศ
แต่ถ้าให้บอกจริงๆ อยากไปตะลุยลอนดอน แบบแบกเป้มั่วๆดูสักครั้ง
อยากรู้ว่าจะเป็นไง อยากรู้ว่าจะรอดไหม ภาษาอังกฤษก็ไม่รู้เรื่อง
ชีวิตที่ไม่ตามแพลน บางทีมันก็สนุกดีนะคะ

ปล. นึกออกละ เคยหลงทาง เดาทางมั่วๆ ที่สนามบินอินชอน
ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
หลงรักการเดินทางคนเดียวค่ะ เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมา 7 ประเทศ หลายๆเมือง ในระยะเวลา 2 ปี มันครบทุกรสชาดจริงๆค่ะ

ที่ชอบการเดินทางคนเดียวเพราะมันอิสระดีค่ะ ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ต้องมีแผนมาก เมื่อยไหน นั่งตรงนั้น อยากทานอะไร ก็หยุดได้เลย อยากเปลี่ยนแผนเที่ยวกระทันหันตอนเช้าก่อนออกจากโรงแรมก็ทำได้ค่ะ ถ้าไปกันหลายคน คงต้องมานั่งลงคะแนนเสียงก่อนค่ะ กว่าจะตกลงกันได้ ก็คงเข้าเวลาบ่ายพอดี

เรื่องหลงทาง ก็ประจำค่ะ แต่อารมณ์มันบอกว่า น่า...ไม่ต้องไปใส่ใจแผนที่มากนักหรอก หลงๆหลุดๆไปเจอมุมแปลกๆบ้างก็ได้ บางครั้งรู้ตัวว่ากำลังเดินหลงจากจุดที่จะไปนะคะ แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย เพราะเชื่อมั่นเสมอว่าถนนทุกสายมุ่งไปสู่โรมค่ะ

เวลาเดินหลงก็สนุกดีค่ะ ได้อารมณ์ตื่นเต้นไปอีกแบบ ได้ถ่ายรูปในมุมที่โปสการ์ดไม่มีขาย ได้ฝึกภาษาถามทางคนท้องถิ่นบ้าง เคยเจอคนใจดี เดินไปส่งถึงที่พักเลยค่ะ ก็ได้อารมณ์ยิ้มๆปลื้มๆ ความทรงจำดีๆไปอีกแบบ

ได้เห็นอะไรใหม่ๆเสมอๆทุกๆทริปค่ะ ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ดิฉันว่ามันท้าทายดีค่ะ เหมือนได้ไปผจญภัยในอีกโลกใบนึง

ยิ่งถ้าไปเที่ยวประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการด้วยแล้ว อันนี้ยิ่งตื่นเต้นค่ะ ว่าจะติดต่อสื่อสารกันรู้เรื่องไหม

ทริปเดี่ยวที่ 8 กลางเดือนมีนาปีหน้าค่ะ ทริปนี้จะยาวหน่อยเกือบๆ 2 อาทิตย์ค่ะ จะไปโปรตุเกสกับสเปน แอบตื่นเต้นนิดนึงค่ะเพราะยังไม่เคยเดินทางคนเดียวนานเกิน 5 วันเลย ถือว่าเป็นทริปชิมลางค่ะ เพราะฝันไว้ว่า ทำงานเก็บเงินไปสักปีสองปี จะไปอเมริกาใต้คนเดียวค่ะ อาจจะนานเป็นเดือนหรือสองเดือน

ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ภาพที่เราเห็นในพวก Guidebook หรือรีวิว มักกระตุ้นให้รู้สึกอยากออกเดินทางได้เสมอ แต่พอได้เห็นของจริงๆตรงหน้าที่มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเราก็อดอมยิ้มไม่ได้ครับ ว่าคนเขียนนี้ได้มาเที่ยวที่เดียวกับรึเปล่านะ ยกตัวอย่างปั่นจักรยานไปแก่งคุดคู้ที่เชียงคาน เพื่อนเราบอกว่าพอไปถึงนี้อารมณ์คุดคู้เลย 555


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ถูกใจมาก กระทู้นี้ เพราะหลงเป็นกิจวัตร เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เมืองไทยก็หลง 555 ขนาดมี GPS
คนเรานะเวลาหลง เหมือนกับคนตกน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น ต้องหาทางกระ:-)กระสนให้มีชีวิตรอด
เวลาหลงก็เหมือนกันต้องหาทางกลับให้ได้แหละ สนุกดี เหมือนเล่นเกม


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
เราชอบเดินทางไปเทีี่ยวคนเดียวมากกเลยค่ะ สมัยอยู่อังกฤษนี่ไปมาทั่วเกาะ คนเดียวเนี่ยแหละ
แต่ก่อนเวลาอ่านห้องนี้แล้วรู้สึกว่าจะไปเที่ยวนี่ชั้นต้องแพลนทุกอย่าง ต้องเป๊ะ หาข้อมูลครบ (เลยเครียดสุดๆตอนก่อนไป) แต่ทำไปทำมา รู้สึกไม่ใช่ตัวเองเลยค่ะ
หลังๆเลยไม่คิด ไม่แพลนอะไรทั้งสั้น บางทีอยากเที่ยวจัดก็นั่งเช็คราคาตั๋วรถไฟ จิ้มๆเมืองที่น่าสน แล้วก็ไปสถานีเลย ถึุงเมืองก็แวะ tourist info สักแป๊ป หยิบแผนที่ฟรี แล้วก็เดินเืัที่ยวสบายๆ

หลักๆที่เราอยากไปเที่ยว คือสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นั่น มากกว่าไปดู ไปถ่ายรูป attraction ดังๆอีกค่ะ
เลยไม่เครียด ไม่ซีเรียสว่าจะต้องเก็บให้ครบ ต้องไม่หลง อยากแวะร้านทานไหนก็แวะ ไม่ต้องไปร้านดังๆ
ยิ่งเวลาไปเที่ยวที่ๆ นทท.เอเชียน้อยๆ ยิ่งชอบเลย คุยกับคน local ก็สนุก ได้อะไรเยอะแยะ บางทีก็ต้องวิ่งกระหืดกระหอบให้ทัีนรถไฟ ฯลฯ

เรื่องแบบนี้่ก็คงแล้วแต่สไตล์เที่ยวของแต่ละคนนะคะ
แต่ถ้าต้องรับผิดชอบพากันอื่นไปด้วยก็คงต้องแพลนไว้เยอะหน่อย (เป็นเหตุผลให้ชอบเที่ยวคนเดียว)


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
มีใครเคยหลงแบบ ต้องพเนจรเลยหรือป่าวง่ะ
แบบว่าต้องเร่ร่อนไปมาเป็นแรมอาทิตย์


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
พอใกล้ถึงวันหยุด เรามักเสนอทริปไปซ้ำรอยที่เดิมประจำ
เพราะมีเด็กหลายคน ทำให้การเดินทางล่าช้าและไม่สะดวก
ถ้าไปสถานที่ทีี่เคยไปมาแล้ว เราจะจัดตารางเวลาได้ถูกค่ะ

แต่แฟนเรามักจะเชียร์ให้ไปที่ใหม่ๆอยู่เสมอ ในรถจึงต้องติดขนมปังแถว ของทานเล่นไว้เผื่อฉุกเฉิน
เพราะบ่อยครั้งที่ถึงเวลาอาหารแล้ว ไม่เจอร้านอาหารเลย

เคยขับรถหลงไปเส้นทางที่คนทั่วไปไม่นิยมใช้กัน
ขับไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ มีแต่ป่าเขา ไม่เจอบ้านเลยสักหลัง นานๆจะเจอรถสวนมาให้อุ่นใจสักที
แต่วิวสวยมากกกก เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
เมื่อต.ค.ที่ผ่านมาเราก็ไปปีนังคนเดียวค่ะ เดินจากที่พักแถว Chulia street ไป Chowrasta market ขาไปเดินแบบมั่นใจไม่หลงทางเลยเพราะทางไปไม่ยากมาก แต่ขากลับนี่สิฝนตกหนักมากเราเดินใส่เสื้อกันฝนกลับ อิิอิ แอบเหมือนในมิวสิคเลยค่ะ ยิ่งเดินยิ่งไกลทั้งที่เป็นทางเดียวกันกับตอนที่เดินมา อุตส่าห์มองเห็นตึกคอมตาร์ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ได้ดี แต่ยิ่งเดินเหมือนไม่ใช่แล้วเลยหยุดแล้วตั้งสติว่างานนี้เราหลงทางหรือเดินผิดแน่เลย

พอคิดได้เลยเดินย้อนขึ้นไปอีกเลนนึงปรากฏว่าไอ้ที่เดินมานี่ผิดค่ะ เราเดินเลยไปอีกเลนนึงค่ะ ดีนะที่หยุดทันไม่นั้นอาจเดินไกลกว่านี้ นี่ล่ะค่ะเสน่ห์ของการเดินทางคนเดียวทำให้เราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองโดยที่ตอนนั้นมองไปที่ไหนก็ไม่มีใครช่วยได้ไม่รู้จะถามใครเพราะฝนตกหนักจนมองถนนแทบไม่เห็น พอถึงที่พักได้ก็ดีใจมากๆ จากนั้นก็พักประมาณ 1 ช.ม.เย็นๆ ก็เดินลงไปหาของทานอร่อยๆ แถวที่พัก สุดยอดค่ะอิสระแบบนี้หาไม่ได้นะคะถ้าเราไปกับเพื่อน ยิ่งเพื่อนไม่รู้ใจยิ่งเกิดปัญหาใหญ่ดิฉันเคยเจอมาแล้วค่ะ บอกได้เลยว่าเข็ดและไม่อยากชวนเพื่อนไปเที่ยวอีกแล้วเพราะไม่อิสระ วุ่นวายเรื่องมากค่ะ

เที่ยวคนเดียวมันได้ตามใจตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมานั่งถามความรู้สึก คอยบงการว่าไม่ไปที่นั่นนี่นะอะไรสารพัด จะต้องไปที่นี่ให้ได้นะชั้นจะต้องทานนั่นนี่นะไรประมาณนี้ ดูแล้วมันเหมือนมีไรมาบังคับเราในการเที่ยวค่ะ สมัยนี้คนเริ่มหันมาเที่ยวคนเดียวมากขึ้นเนื่องจากเจอปัญหาแบบดิฉันก็เยอะค่ะเท่าที่ถามหลายๆ คน ปีหน้าก็จะไปโซลคนเดียวช่วงมี.ค.ตอนนี้กำลังรอโปรดีๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
การหลงทาง..เป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ข้อควรระวังคือควรหลงคนเดียว..หรือหลงกับคนที่รู้ใจ.. ไม่งั้นอาจไม่สนุก เพราะโดนนินทาเช็ดเม็ด..

ถ้าไปเที่ยวคนเดียวผมก็ชอบหลงครับ หรือไม่ก็ทำให้หลง นั่งรถเรื่อยเปื่อยหรือไม่ก็เดินเรื่อยเปื่อย มีแผนที่อันเดียว..

... เวลาทำการบ้านก่อนเที่ยว จะมีโปรแกรมคร่าวๆ.. ว่าที่ๆเราอยากไปมีอะไรบ้าง.. ไปยังไง.. แต่พอถึงเวลาก็มั่วทุกที คืออยา่กไปไหนก็ไป เปลี่ยนแผนได้ตลอด การเที่ยวคนเดียวทำให้เราอยากไปไหนก้ไป อยากหยุดก็หยุด.. อยากนั่งเล่นมองคนเรื่อยๆก็ได้... บางทีขี้เกียจเดินก็นั่งรถเรื่อยๆเปื่อย ..เห็นที่ไหนน่าสนใจก็ลงเดินแบบไม่มีแผน ......


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
ของเราแค่planจุดที่จะไป ทำการบ้านคร่าวๆ ไปถึงสนามบินปลายทางหาแผนที่แล้วก็ถามไปเรื่อยๆ เจอใครทอดสะพานมาให้เสร็จเราหมด แต่ต้องเลือกคนคุยนะคะดูว่าเขาเป็นมิตร ไม่เป็นพิษเป็นภัย


ระวังตัวมากไปก็ไม่ดี ไม่ระวังเลยก็ไม่ดี ต้องปรับตัวทุกtripทุกประเทศที่ไป บางtripก็เครียด บางtripก็สนุกดี


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
เรืองหลงทางกับเราเป็นเพื่อนกันเลยค่ะ เพราะเราดูแผนที่ไม่เป็น

คือดูรู้ว่าต้องไปทางนี้นะ ตึกอยู่ทางนี้แต่พอมองลงไปในแผนที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่จุดไหน

สรุปเดินมั่ว หลงตลอด 5555555!!!! ชินและ


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
บางทีวางแผนไปเป๊ะๆ พอไปจริง มันจะกังวลเรื่องเที่ยวให้ทันตามเวลา จะไม่ค่อยสนุกค่ะ
ครั้งแรกที่ไปคนเดียว เราก็แผนแน่นเปรี้ยะเลย พอไปจริง เริ่มเจอประสบการณ์หลายอย่าง เริ่มปล่อยวาง เที่ยวสนุกขึ้นมากค่ะ
พอไปเที่ยวที่ไหน เมืองไหน ไปถาม information center จนท จะอธิบายให้ มีแผนที่ ตารางรถบัส และข้อมูลupdate แน่นอน หลายครั้ง ก็แนะนำที่เที่ยวใหม่ๆให้ สนุกดี


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
เราวางแผนนะ พร้อมวิธีการเดินทางไว้ด้วยเลย ขึ้นรถไฟสายอะไร ไปต่อสถานีไหน แต่ก็ไม่ได้วางซะขนาดทุกย่างก้าว อาศัยว่าไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง 555+
แล้วก็ไม่เคยซีเรียสกับแผนของตัวเองเลย ตัดอะไรได้ก็ตัด ไม่ไหวก็ไม่ไป ช่างมัน

อ้อ เราไม่เคยตั้งกระทู้ถามด้วย อาศัยอ่านๆรีวิวของคนโน้นคนนี้เอา ติดใจตรงไหนก็จดๆไว้ เอามาใส่แผนตัวเอง ข้องใจตรงไหนก็หลังไมค์เจ้าของรีวิวเลย ง่ายดี แต่ก็ไม่ค่อยถามเยอะหรอก ชอบไปผจญภัยเอง ลุ้นดีค่ะ

เรื่องหลงนี่ หลงแน่ค่ะ ถ้าไปเอง ไม่ว่าจะวางแผนดีขนาดไหน เพราะเราไม่เคยไปนี่นา หลงก็ขำๆดี เจอผู้คนใจดีเยอะแยะ ช่วยเราเต็มที่ ประทับใจมาก ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
เราว่า"หลงทางเป็นเสน่ห์ของการเดินทาง"ค่ะ

เราไปหลายเมือง หลายประเทศก็หลงมันทุกที่

เราว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทาง

แต่อยู่ที่สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางต่างหาก


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
ของผมจะทำการบ้านไว้ส่วนนึงครับ ... พอให้รู้คร่าวๆ ว่าจะไปอะไรยังไงจะได้ไม่พลาด

แต่จะไม่กดดันตัวเองเรื่องเวลาเด็ดขาดครับ ....

บางทีก็เคยพลาด ในสิ่งที่ไม่น่าพลาด ต้องกลับมาซ่อมอีกก็มี

เรื่องร้านอาหาร ร้านนั้นร้านนี่ นี่ผมไม่เคยทำตามรีวิวเลยครับ
ผมเน้นว่า ร้านไหนคนเยอะ มีแนวโน้มว่าร้านนั้นจะโอเค ใช้ดุลยพินิจส่วนตัวตัดสินใจหน้างานแล้วเข้าไปเลย !!
เว้นแต่ว่า เป็นมื้อพิเศษจริงๆ ร้านนี้แนะนำนะ recommended กันเยอะ
ก็ค่อยว่ากันอีกอย่างนึง


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
เสน่ห์ของการbackpack สำหรับเราคือการหลงค่ะ หลงได้ทุกที่
ส่วนมากจะทำแผนไว้ค่อนข้างละเอียดค่ะ และจะแพลนสถานที่ที่อยากไป แต่ไม่กดดันเรื่องเวลา ไปครบไม่ครบไม่เป็นไร
ยิ่งทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมาแค่สถานีชินจูกุไปต่อรถไฟ 4 ครั้ง หลงมันได้ทุกรอบ เดินงงเหลือเกิน
บางที่ตอนทำแพลนหมายมั้นปั้นมือคาดหวังกับที่นี้มาก แต่ไปถึงแล้วไม่เหมือนที่คาดไว้
บางที่ใส่ไว้ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ไปแล้วกลับชอบมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
เราจะวางแผนไว้ในแต่ละวันว่าจะไปที่ไหน ที่ที่สำคัญที่อยากไปจริงๆ ถ้าทำตามได้ก็ถือว่าบรรลุ แล้วเวลาที่เหลือก็ตามสบายเลยอยากไปไหนแวะไหนก็ได้ ขอแค่หาทางกลับมาที่พักได้ถูกและปลอดภัยก็พอ


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
ผมวางแผนแค่เรื่องการเดินทางว่าไปยังไง นอกนั้นแล้วแต่สถานการณ์จะพาไปครับ ร้านอาหารก็หาิกินตามสะดวก


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
เห็นด้วยกับ จขกท ที่สุดคะ

เสน่ห์ของการเที่ยวเองอย่างแรกคือ การทำการบ้าน วางแผน เตรียมตัว
อย่างต่อไปคือหลงทาง ถามทาง หาทิศไม่ถูก :)
แต่ที่เราชอบที่สุดคือการโชว์โง่ของตัวเองคะ เช่น
ตอนไปเกาหลีกัยเพื่อน ทุกคนไปเที่ยวต่าวประเทศครั้งแรก พักกันที่นัมซานเกสต์เฮาส์ ไปเที่ยวโน้นนี่สนุกสนาน ตกเย็นก็จะต้องมาแวะช็อปกันที่"เมียงดง" ทุกวัน วิธีการไปเมียวดงของเราก็คือ นั่งรถไฟใต้ดินคร้าาา ทั้งขาไป-ขากลับ
เพราะติดกับแผนที่วางมาว่าจากที่พักจะไปเมียงดงต้องนั่งสายนี้ ไปต่อสายนั้น พวกเราก็ก้มหน้าก้มตาแบกถุงช้อปปิ้งนั่งรถไฟกันอยู่ 4-5 วัน
พอใกล้วันจะกลับ คุยกันว่าถนนฝั่งตรงข้ามเกสต์เฮ้าส์ก็ก็น่าเดินเนอะ ไปลองกันเหอะ (แอบนอกแผน) ปรากฏว่าเดินไปเดินมา ก็จำได้ไอ้ย่านนั้นมันก็คือเมียงดงนั่นเอง!!
นาทีที่รู้ เรากับเพื่อนอีกคนแอบหัวเราะกันจนน้ำตาไหลเลย แถมไปแกล้งอำเพื่อนๆที่เหบืออีกต่างหาก
แหมๆ หลงโง่ต่อรถไฟอยู่หลายวัน

กลายเป็นเรื่องที่ประทับใจที่สุดในทริปเลยคะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ประสบการณ์นอกเส้นทางคือเสน่ห์ของการแบ๊คแพ๊ค ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
ไปใหนไม่เคยแพลนอะไรมากไปกว่าซื้อตั๋ว ทำวีซ่าและรู้เมืองที่จะไป บางทีโรงแรมก็ไปเดินหาเอา
ไม่ได้ร่ำรวย แบกเป้เที่ยวเองตลอด เคยไปทัวร์ฮ่องกงครั้งแรกตอนเด็กๆไม่ชอบเลบ ปัจจุบันไปแบกเป้มาแล้ว 50 ประเทศ
ตอนนี้วางแผนขับรถเที่ยวไทยมีเงิน1 แสน จะไปภาคตะวันตก เหนือวนมาตะวันออกเฉียงเหนือแล้วกลับบ้าน
ทริปที่ยากและสนุกสุดในชีวิตเรานะคือ 4 เดือนแบกเป้ท่องอเมริกาใต้ พูดสเปนก็ไม่เป็นเงินน้อย เป็นผู้ญด้วย ไปกับแม่2 คน โคตรมันเลย ไว้ว่างๆจะตั้งกระทู้เขียนเล่าเรื่อง มีผู้คนมากมายที่เสพติดการท่องเที่ยวรู้ใหมว่าทำไม เราเที่ยวไปก็คิดนะ สุดท้ายสรุปได้ว่า คนเราใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันกว่าจะประสบความสำเร็จอะไรอย่างหนึ่งมันใช้เวลานานมาก แต่การท่องเทึ่ยวนอกขึ้นรถเมล์ถูกคันก็สุดแล้ว และวันๆหนึ่งเรามีความรู้สึกสำเร็จเป็นสิบๆเรี่อง ส่วนความเป็นอิสระคือเนื่้อแท้แห่งการรักตัวเองละยกย่ งตัวเอง ไมีแปลกเลยที่คนเราชอบท่องเที่ยว.

เตรียมตัวเป็นความชอบของแต่ละคนนะและมันคือสีสัน


ตอบกลับความเห็นที่ 46