เตือนภัยบ.จัดหางานไปตปท. พร้อมขอความช่วยเหลือเรื่องญาติที่ไปค่ะ

เนื่องจากญาติดิฉัน 2 ท่าน นายประเทือง นายวิคิต พร้อมด้วยเพื่อนแรงงานไทยได้เดินทางไปประเทศการ์ตา (ไม่ทราบชื่อเมือง) โดยบริษัทจัดหางานไทยโกลบอลเมริท จำกัด จ. ปทุมธานี (ขึ้นทะเบียนถูกต้องกับสำนักงานจัดหางาน) เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคม และไม่ได้รับการดูแลในการจัดหาอาหาร การเดินทางไปทำงาน และอื่นๆ ต้องดูแลกันเอง จนกระทั่งญาติดิฉันท่านหนึ่งมีอาการเจ็บป่วย ไม่สบาย แต่ไม่มีใครจากบ.จัดหางานดูแลพาไปรักษา ไม่มีหัวหน้างานที่นั่น จึงต้องการเดินทางกลับ ทั้งนี้ได้พยายามติดต่อนายธงชัย มะลิลา ผจก. บ.ไทยโกลบอลนี้ ได้รับทราบว่าจะเดินทางไปดูแลแรงงานไทยที่บ.ส่งไปตั้งแต่ต้นเดือนสิงหา แต่ทราบว่าจนกระทั่งบัดนี้ไม่เคยเดินทางไปหรือส่งใครไปดูแลเลย ทางเราได้ติดต่อกระทรวงแรงงานจังหวัดและได้เข้าไปให้ปากคำแล้ว และล่าสุดได้รับแจ้งจากคุณน้าภรรยาของญาติว่าทางกงสุลไทยที่การ์ต้า ได้รับเรื่องโทรมาแจ้งยกเลิกสัญญาให้แก่แรงงานไทยกับนายจ้างต่างชาติที่นั่นและบริษัทไทยโกลบอลแล้ว

จึงต้องการทราบว่า

1. ทางกงสุลมีการแจ้งยกเลิกสัญญาให้แล้วกับทั้งสองฝ่ายคือนายจ้างชาวต่างชาติและบ.ไทยโกลบอลได้จริงหรือไม่ หากกลับมาโดยพลการ กลัวจะมีปัญหาเรื่องสัญญาค่ะ

2. ทางครอบครัวที่เมืองไทยสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินในนามญาติและให้ทั้งสองท่านนำพาสปอร์ตมาเช็คอินที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับได้เลยหรือไม่

3. สืบเนื่องจากข้อ 2 หากไม่ได้ ทางญาติที่เมืองไทยต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อที่จะให้กลับบ้านที่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

4. ภรรยาแรงงานไทยท่านนึงที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน จ. นครสวรรค์แจ้งว่าตนได้ส่งเิงินค่าตั๋วผ่านกงสุลไทยในประเทศไทยไปยังกงสุลไทยในการ์ต้าเพื่อฝากเงินให้สามีของตนเป็นค่าซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาประเทศไทย กรณีนี้สามารถทำได้หรือไม่ กลัวโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีกค่ะ สงสารญาติมาก


กรุณาให้ความช่วยเหลือด่วนนะคะ เนื่องจากญาติมีอาการเจ็บป่วยทางครอบครัวที่เมืองไทยต้องการให้กลับมารักษาตัวเนื่องจากความเป็นไปได้ในการใช้ชีวิตและทำงานอยู่ที่นั่นดูแล้วลำบากมาก และไม่มีหัวหน้าคนงานคอบดูแลหรือให้ความช่วยเหลือเลย ทราบว่าแรงงานจากประเทศอื่นๆที่ถูกส่งมาให้ทำงานในไซต์งานนี้ทยอยเดินทางกลับแล้วเช่นกัน

นี่ขนาดเป็นบ.ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงแรงงานนะคะ ยังมีปัญหา สรุปเสียตังค์ค่านายหน้าไป แล้วยังไม่ได้ทำงาน ไม่มีโฟร์แมนที่โน่นแนะนำความเป็นอยู่ อาหาร หรือช่วยเหลือในกรณีไม่สบายหรือฉุกเฉินอื่นๆ บ.ที่นี่ก็ไม่รับผิดชอบ บอกว่านายธงชัย ผจก. จะเดินทางไปดู ไปช่วยเหลือ จนกระป่านนี้ไม่ญาติที่โน่นก็บอกว่าไม่เห็นใครไปเลย เมื่อซักครู่ก็โทรไปบริษัทฯประมาณ 3 ครั้งก็ไม่มีคนรับ เลยร้อนใจนิดหน่อยค่ะ

รบกวนให้คำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
.ให้ติดต่อไปยังกรมการจัดหางาน ด่วนเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ติดต่อแล้วค่ะ ไม่ได้ความคืบหน้าเท่าไหร่ เค้ารับเรื่องไว้แล้วเข้าไปให้ปากคำแล้วด้วย เค้าให้รอติดต่อกงศุลไทยที่การ์ตา เราก็อีเมล์ไปแล้ว ก็รอแต่ให้เค้าติดต่อมา วันจันทร์นี้กะจะติดต่อไปที่กระทรวงการต่างประเทศดูค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบเรื่องตั๋วเครื่องบินให้นะคะ

วิธีที่เร็วที่สุดคือ ให้คนทางเมืองไทยซื้อตั๋วสำหรับสองท่านที่การ์ต้าผ่านเอเจนท์ออนไลน์ค่ะ เช่น orbitz ซื้อเป็นชื่อของคนที่เดินทางนะคะ จำเป็นต้องทราบรายละเอียดในพาสปอร์ต แต่เวลาจ่ายเงินก็ใช้บัตรเครดิตคนที่เมืองไทยนี่แหละค่ะ แล้วส่งตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (e-ticket) ผ่านทางอีเมลไปให้ญาติที่การ์ต้า CC: อีเมลท่านกงสุลที่นั่น แล้วสองท่านค่อยพริ้นต์ออกมา หรือจะจดแค่เลขตั๋วไปก็ได้

ที่แนะนำแบบนี้เพราะหากคุณซื้อออนไลน์โดยตรงกับเวบสายการบิน มักมีกฎว่าเจ้าของบัตรเครดิตต้องร่วมเดินทางด้วย หรือไม่ก็ผู้ที่เดินทางต้องมีสำเนาบัตรเครดิตของผู้ที่จ่ายเงินด้วย (พร้อมสำเนาบัตรประชาชน) ซึ่งมันจะยุ่งยากกับคุณมากไปที่จะต้องเตรียมหลักฐานในส่วนนี้ ส่งเมล และให้ปลายทางพริ๊นต์ออกมา

ในกรณีไม่มีบัตรเครดิต ต้องการจ่ายเงินสดกับสายการบิน ให้โทรปรึกษาสายการบินที่คุณจะบินน่าจะดีที่สุดค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
..อืม..
น่าเห็นใจ มาก ๆเลยนะค่ะ
ชีวิตแรงงานต่างประเทศ
คนงานอย่างเราเอง.... ก็มีความหวัง.... ว่ามันจะดี
สามารถทำงานส่งเงินให้ ที่บ้าน ให้ครอบครัว
ให้พ่อ ให้แม่ ให้ลูก ให้เมีย สบาย
อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เป็น มีความหวัง
เพราะ เราทุกคนมี "ฝัน"

แต่!!! บางครั้งชีวิต ต้องมาเจอกับ กลเกมส์ของมนุษย์ที่มักได้
อยากรวยแค่ ทำนา บนหลังคน โฆษณาเกินจริงถึงรายได้
เพียงแค่เห็นว่า เป็นแรงงานไทยราคาถูก ชาวไร่ชาวนา ตาสีตาสา

...ยังไงป้าแนะนำ ว่า ถ้าเราติดต่อเรื่องไปที่หน่วยงานแล้ว
ก็คงต้องคอยนะคะ
ทั้งสถานฑูต และกงสุล ท่านก็คงจะรีบดำเนินการถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ

ยังไงก็ทำใจเย็นๆไว้นะคะ
ยังไงก็ได้ไปแล้ว บางคนไปอยู่แล้วกว่าเค้าจะให้ลงงาน ก็กินเวลาเป็นเดือน
ทั้งเป็นโรค Homesick ทั้งภาษา ทั้งสิ่งแวดล้อม
บางครั้งคนงานเองก็ใช้เวลาปรับตัวนะค่ะ

ยังไงก็เอาใจช่วยนะค่ะ



ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณค่ะคุณ Sunshine Sonata ที่แนะนำ เราก็ว่าจะืำทำอย่างนั้นค่ะ แต่ได้ยินว่าเข้าก็เข้ายากเพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ตอนออกมานี่จะง่ายไม๊แบบซื้อตั๋วขึ้นเครื่องกลับมาได้เลยไม๊ หรือต้องมีเอกสารจากนายจ้างหรืออื่นๆอนุญาตให้กลับมาก่ิอน เลยอยากรอเช็คดูก่อนค่ะ ดันมาติดเสาร์อาทิตย์ด้วย ร้อนใจอยากช่วนญาตินิดหน่อยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ป้าแหม่ม มณี ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจ รู้สึกเสียใจแทนญาติเหมือนกันค่ะ แกอุตส่าห์ไปกับบ.ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องกับกรมแรงงาน กลับการันตีไม่ได้ีอีกว่าไปแล้วไม่ถูกหลอกลวง จะว่าไปก็ไม่ได้หลอกลวงโดยตรงหรอกนะคะ แต่เหมือนว่าพอถูกส่งไปแล้วไม่มีใครที่โน่นดูแล ให้หากินกันเอง แล้วไปแรกๆไม่มีใครทราบหรอกค่ะว่าจะหาซื้ออะไรที่ไหน พร้อมทั้งแรงงานชาติอื่นๆก็ทยอยกลับไม่มีใครอยู่เหมือนกันเพราะงานที่บ.บอกว่าให้ไปทำ พอไปถึงกลับเป็นอีกงานซึ่งลำบากมากและด้วยอากาศที่ร้อนแห้ง ทำให้แรงงานไทยบางคนมีอาการพุพองที่ผิวหนังทำงานไม่ได้่เช่นกัน

แล้วพอเราถามว่าสัญญาที่ทำกับบริษัทอยู่ไหน ว่าอย่างไรบ้าง ทางครอบครัวที่ไทยก็ไม่มีใีครทราบ บอกตามตรงว่าตาสีตาสาบ้านเราดูสัญญาไม่เป็น และ/หรือไม่อ่าน เพราะไม่มีความรู้เพียงพอ เค้าบอกอะไรปากเปล่าก็เอาตามนั้น นี่คงเป็นอุทาหรณ์ให้ใครได้บ้างนะคะ

จุดประสงค์ตอนนี้แค่อยากนำญาติกลับมาแค่นั้นค่ะ แล้วจะมาเล่าความคืบหน้าให้ฟังค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอตอบในเรื่องของวีซ่านะครับ ถ้าต้องการกลับมาไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไปใหม่ต้องดูละ วีซ่าแรงงานจะเป็นแบบ single เข้าออกได้ครั้งเดียว กลับเข้าไปใหม่ไม่ได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คุณ pukkhom ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล

เมื่อซักครู่โทรทางไกลไปสถานทูตไทยที่โดฮาแล้วค่ะ ไม่ได้ความกระจ่างซักเท่าไหร่เพราะเราไม่ทราบชื่อบริษัทนายจ้างของญาติที่โน่น แต่ได้ทราบว่าสามารถโอนเงินผ่านประทรวงการต่างประเทศของเราผ่านไปยังสถานทูตโดฮาได้โดยระบุชื่อญาติที่โน่นค่ะ เลยคิดว่าจะทำพรุ่งนี้ และส่งการออกจากประเทศ จนท.สถานทูตแจ้งว่าประเทศการ์ต้าไม่ได้เข้าออกงานเหมือนประเทศเปิดทั่วไป จะกลับมาได้ก็ต้องมีการเซ็นรับรองเอกสารจากนายจ้างก่อนค่ะ ไม่ได้ง่ายที่อยากจะกลับก็กลับมาได้เลยซะทีเดียว

เดี๋ยวมาดูกันต่อค่ะว่าโอนเงินไปแล้วญาติจะได้รับเมื่อไหร่ แล้วจะกลับมาเมืองไทยได้เลยไม๊ ขอบคุณมากๆคุ่ะทุกความเห็น


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
สัญญาจ้างที่ทำจากเืมืองไทยพอทราบมั้ยคะ ว่านายจ้างชื่ออะไร

ญาติของคุณอยู่ที่โน้นไม่ได้มีไว้ติดตัวเหรอคะ

ให้เค้าอ่านให้ฟังดูนะคะ

หรือไม่ก็ถามทางบริษัทจัดส่งที่เมืองไทย ว่าไปของนายจ้างอะไร?

หรือไม่ก็ขอเบอร์โทรของญาติมาก็ได้ค่ะ

เดี๋ยวจะลองโทรสอบถามดูให้ได้ีค่ะ

พอมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้างน่ะค่ะ

ยังไงก็หลังไมค์มาก็ได้ค่ะ

เผื่ออาจจะช่วยเหลือกันได้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เรื่องกลับบ้านไม่ยากหรอกค่ะ แต่อยากรู้ว่า Site งานกับตัวเมืองห่างกันมากมั้ย

เพราะมีหลาย site งาน บาง site งานใกล้, ไกล ไม่เหมือนกัน

นึกภาพไม่ออกค่ะ

และอยากรู้ว่าเค้าไป Project อะไร นายจ้างชื่ออะไร จะเช็คได้ง่ายขึ้นค่ะ

การ์ต้าตอนนี้มีหลายนายจ้างค่ะ หนึ่งนายจ้างมีหลาย site งานด้วยกัน

บางรายมี 7-8 site งานค่ะ

ตอนนี้คืออยากรู้ชื่อนายจ้าง แล้วก็โครงการสร้างอะไร

ชื่อจริง นามสกลุจริง ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ขอบคุณมากค่ะคุณ nAHMLemon สำหรับคำแนะนำ เรียนตามตรงเลยว่าเราก็ไม่ได้ทราบเรื่องราวมากนัก ญาติที่เมืองไทยเราก็พูดตรงๆก็ไม่ได้มีการศึกษาเยอะ เราถามถึงสัญญาก็ไม่รู้เรื่อง ถามว่าไปเมืองไหนก็ตอบไม่ได้ เลยไม่ทราบว่าบ.นายจ้างที่โน่นคือใคร วันนี้เพิ่งโอนเงินผ่านสถานทูตไปให้เป็นค่าเครื่องกลับค่ะ
ทางครอบครัวที่นี่ไม่อยากเรียกร้องอะไร แค่อยากให้ญาติที่ไปกลับมาได้เท่านั้น ขอรอฟังข่าวพรุ่งนี้ก่อนนะคะ หากไม่ได้เรื่องเราจะขอเบอร์ญาติมาเพื่อโทรไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณถามค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


ปล. ขอบ่นน้อยใจสถานทูตไทยในการ์ต้านิดนึง ถ้าเราไม่โทรไปตามสอบถามก็คงจะไม่ทราบอะไรเลย เมื่อวันเสาร์ส่งอีเมล์สอบถามคล้ายๆกับที่ตั้งกระทู้ไปแล้ว คนที่รับโทรศัพท์ยังบอกเลยค่ะว่า อ้อ คุณส่งอีเมล์มาแล้วใช่ไม๊ แสดงว่าได้อ่านแล้วสิคะ แต่ไม่ตอบทั้งๆที่เราขอความช่วยเหลือเพราะเดือดร้อนน่ะนะ อืม แต่พวกท่านทูตเค้าอาจจะงานเยอะกันก็ได้เนอะ และก็ยอมรับว่าไม่ข้อมูลเรื่องบ.ที่ญาติทำให้ที่โน่น แต่เรื่องอื่นก็น่าจะตอบให้เราได้ก่อน น้อยใจๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เอ่อ คือ ถ้าจะให้ญาติกลับบ้านไ่ม่จำเป็นต้องโอนเงินให้ทางสถานฑูตก็ได้นะคะ

เพียงแค่เรา จองไฟท์ให้เค้ากลับเองก็ได้ค่ะ แล้วเราส่งเมล์ไฟท์การเดินทางไปให้ทางสถานฑูตเท่านั้นเอง

ถ้าทราบชื่อ-นามสกุลจริง ของคนหางาน เราสามารถเช็คกับทางกรมการจัดหางาน(กระทรวงแรงงาน) บ้านเราได้เลยว่า

ว่าเดินทางไปทำงานต่างประเทศกับบริษัทอะไร นายจ้างชื่ออะไร อยู่ site งานไหน ไงคะ

ง่ายกว่าเยอะค่ะ ถ้าเรารู้ว่าไปนายจ้างไหนแล้ว ก็จะมีเบอร์โทร ให้โทรหานายจ้างได้โดยตรงไงคะ

งานนี้ทางสถานฑูตช่วยอะไรไมไ่ด้มากหรอกค่ะ เชื่อสิ เค้าแทบจะไม่สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ ยังไงก็จะรอฟังข่าวดีจากทางสถานฑูตนะคะ

หากไม่มีความคืบหน้ายังไง หลังไมค์มาค่ะ จะเช็คให้ได้

หรือ ถ้าคุณสะดวกคุณสารมารถไปเช็คกับทางกรมการจัดหางาน ที่สำนักงานบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศได้เลยค่ะ

http://www.overseas.doe.go.th/

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
คุณ nAHMLeMoN คะ เราเพิ่งได้คุยกับบ.จัดหางานไทยโกลบอลโดยมีพนักงานของบริษัท ชื่อคุณโรมรับสาย ทราบว่าบ.ที่ว่าจ้างที่โน่นชื่อ Qatar Island Training and Contracting เมืองโดฮาร์ โดยเค้าจะเป็นไซต์ก่อสร้างฮออล์ของศูนย์การใช้ที่จะใช้รองรับการแข่งขันกีฬาในอนาคตน่ะนะคะ แต่ทราบมาจากญาติว่างานที่แจ้งไว้ก่อนไปไม่ตรงกับงานที่ไปทำ ร้อนจนทำไม่ได้ แต่คุณโรมคนนี้บอกว่า ก็แจ้งไว้แล้วว่าอากาศร้อน ก็มีการเลี่ยนกะทำงานจากตอนกลางวันเป็น บ่าย 3 โมงถึง ตี 3 ซึ่งอันนี้ไม่้ตรงกัน แต่โดยรวมก็พูดจาดีนะคะอธิบายว่าผู้จัดการเค้าที่ยังไม่ได้ไปดูแลเพราะมีเหตุจำเป็นเรื่องขอวีซ่า ขอไปตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. เริ่มแรกให้บ.ที่การ์ต้าจัดการให้ ก็โทษว่าเป็นแขกก็เลื่อนไปเลื่อนมาไม่ทำให้ซักที จนในที่สุดเค้าในสถานทูตการ์ต้าในไทยจัดการให้ เมื่อวานทางสถานทูตก็โทรมาบอกว่าวีซ่าจะได้แล้ว ฉะนั้น ผจก. เค้า ชื่อ คธา มะลิลา จะเดินทางไปประมาณสิ้นเดือน ไม่เกินวันที่ 5 ก.ย. ให้ญาติเราทนรออีกนิด อันนี้ก็ไม่ทราบหรอกค่ะว่าญาติจะรอได้ไม๊เพราะไม่สบายอยู่ คงกลับมาก่อน แต่ถ้ากลับมากลัวจะมีผลต่อสัญญา เพราะเซ็นสัญญาสองปีกับบริษัท เราขอดูสัญญา คุณโรมเค้าบ่ายเบี่ยงบอกว่าให้กลับมาคุยกันก่อน ถ้ามันสุดวิสัยทำไม่ได้จริงๆ ก็ไม่มีการฟ้องร้องหรือเรียกเงินอะไรกัน แต่ไม่แน่ใจว่าถ้ากลับมาจริงๆ จะเป็นอย่างนั้นไม๊ เท่าที่ทราบทางกลุ่มแรงงานไทยที่ไป (ไม่ใช่ญาตินะคะ) บอกจะเอาเรื่อง อาจจะฟ้องบ. แต่นั่นแหละค่ะ เราถึงอยากดูสัญญาว่าข้อตกลงเป็นยังไง เฮ้อ...รอฟังข่าวจากญาติก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ช่วงนี้ท่าการ์ต้าอากาศร้อนมากค่ะ บางวัน 50 องศากันเลยทีเดียว

เลยต้องให้ทำงานกลางคืนแทน

ญาติของคุณไปทำงานได้กี่เดือนแล้วค่ะ ได้ค่าจ้างอัตราที่เท่าไหร่

จะพูดกันตามจริงนะคะ

ต้องมาดูว่าเสียค่าเดินทางไปทำงานเท่าไหร่ เงินเดือนเท่าไหร่

ในสัญญาจ้างตะวันออกลางโดยทั่วไปจะระบุด้วยว่า "นายจ้างจะจัดหาที่พัก อาหารให้โดยไม่คิดมูลค่า"

และจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับให้

ยัง งง อยู่ว่า ทำไมทางสถานฑูตให้โอนเงินค่าตั๋วไปให้

จริงๆแล้วทางบริษัทนายจ้างต้องรับผิดชอบค่ะ หรือไม่ก็ต้องเป็นบริษัทที่เมืองไทยค่ะ

เพราะบริษัทเค้าคิดว่าบริการคุณไปแล้วนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ไปประมาณปลายเดือนกรกฎาค่ะ เราเพิ่งมาทราบรายละเอียดตอนปลายเดือนสิงหาแล้ว

เพราะเราปต่างประเทศประมาณสองเดือน พอทราบจึงตามเรื่องต่อให้เพราะห่วงญาติที่เหมือนกัน

ส่วนเรื่องค่าจ้างนี่ไม่ทราบค่ะ แต่ตั๋วเครื่องบินเท่าที่คุยกับบ.ไทยโกลบอลเหมือนว่า

ถ้าเราอยากกลับก่อนต้องรับผิดชอบค่าตั๋วเองเพราะเหมือนเราอยากกลับมาเอง

จริงๆตัวเราเสนอน้าว่าควรซื้อตั๋วให้ที่นี่ แต่ด้วยความที่น้าเขยไปกับแรงงานไทยท่านอื่นเป็นกลุ่ม

และจะกลับมาเป็นกลุ่ม ครอบครัวแรงงานไทยท่านอื่นก็รวมเงินกันโอนไปครั้งเดียวเลย

น้า(ภรรยาของญาติที่ไป คือน้าเขยนะคะ) ได้ติดต่อกันกับน้าเขยแล้วเล่าให้ฟังว่า

ทางบ.นายจ้างที่โน่นอยากเห็นตั๋วเครื่องบินทุกคนในกลุ่มที่จะกลับก่อนถึงจะทำเรื่องเอกสาร

อนุญาตให้กลับมาได้ ทั้งนี้เพราะเค้าไม่อยากรับผิดชอบค่าตั๋วให้ เนื่องจากน้าเขยอยาก

กลับมาเอง ไม่แน่ใจว่าเท็จจริงแค่ไหน แต่สรุปทำเรื่องโอนเงินผ่านสถานทูตไปให้แล้ว

และเห็นน้าเขยบอกว่าเมื่อได้เงินที่โิอนแล้วสถานทูตเค้าจะพาไปซื้อตั๋วให้ทุกคนในกลุ่มค่ะ

คุณ nAHMLeMoN อยู่ที่การ์ต้าหรอคะ ทราบรายละเิีอียดดีจังเลย และขอบคุณมาก

ที่คอยเข้ามาแนะนำนะคะ ขอบคุณจริงๆ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ คุณสมหวัง จากสถานทูตโดฮาได้ตอบอีเมล์กลับมาแล้วพร้อมให้เหตุผลว่าช่วงสองสามวันนี้มีปัญหาการเข้าอีเมล์ของสถานทูตค่ะ อันนี้เป็นที่เข้าใจได้และหากได้เข้ามาเห็นก็ฝากกราบขอบคุณอย่างมากที่ไม่ทิ้งคนไทยและพยายามให้ความช่วยเหลือในขณะนี้นะคะ และขออนุญาตเอามาแชร์เพื่อเป็นความรู้ค่ะ



ต้องขอโทษที่ตอบ e mail ฉบับนี้ช้าไปหน่อยครับ
เนื่องจาก 2-3 วันมานี้ e mail [email protected] ของสถานทูตกำลังประสบปัญหาเปิดม่ได้
ผมขอตอบข้อซักถาม ของคุณพรนิภาฯ ดังนี้ ครับ

1. คุณประเทือง และ คุณวิคิด ที่คุณพรนิภากล่าวถึง เป็น 2 แรงงานไทย ของ บ.Qatar Ireland อยู่ในจำนวน 8 คนที่ ฝ่ายกงสุลของสถานเอกกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา กำลัง
ตรวจสอบและให้การดูแลช่วยเหลืออยู่ครับ

2. แรงงานกลุ่มนี้เดินทางมาทำงานที่กาตาร์ โดย บ.จัดหางานโกลบอลเมริต จำกัดฯ ส่งมาทำงานในโครงการก่อสร้างกับ บ.Qatar Ireland มีประมาณ 30 คน โดยเดินทางมากาตาร์ ต้นเดือนกรกฎาคม
ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง 40-50 องศาเซ็นติเกรด แรงงานไทยหลายคนไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพได้ ประกอบกับการจัดอาหารการกินยากลำบาก ไม่ถูกกับรสชาตของ
คนไทย บ.จัดหางาน ไม่ได้ส่ง Foreman ไทย หรือพ่อครัวไทยไปให้ด้วย

3. ฝ่ายกงสุลฯ ได้รับคำร้องเรียนของกลุ่มแรงงานไทย จำนวน 8 คนข้างต้น ซึ่งร้องขอเลิกสัญญาจ้างงานกับ บ.Qatar Ireland และขอเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากทนความลำบากไม่ไหว
โดยในขั้นต้น จนท.กงสุลได้เจรจาต่อรองกับฝ่ายบุคคล Qatar Ireland ขอให้ให้บริษัทสับเปลี่ยนเวลาทำงานของแรงงานไทยดังกล่าว ไปอยู่ช่วงกลางคืน shift 18 น.ถึง 02 น.ซึ่งอุณหภูมิจะลดลงประมาณ 10 องศา และให้บริษัทจัดเงินค่าอาหารให้แรงงานไปหาทำกินกันเอง ซึ่งฝ่ายบริหารของ
บริษัท รับพิจารณาด้วยดี

4. แรงงานไทยบางส่วนยังทำงานต่อไป แต่บางส่วนยืนยันร้องขอเลิกสัญญา และขอให้ส่งกลับไทย ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมต้องขอชี้แจง คุณพรนิภาว่า ฝ่ายกงสุลฯ มิใช่เป็นผู้แจ้งยกเลิกสัญญาจ้างงานฯ ของแรงงานไทย เพียงแต่ประสานขอให้ฝ่าย บ.จัดหางานฯ ดำเนินการให้แรงงานที่ไม่ประสงค์ทำงาน กลับประเทศไทย แต่เนื่องจาก บ.จัดหางาน ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ และแรงงานไทยก็หยุดทำงานกัน ไม่ยอมทำงานต่อ ฝ่ายกงสุลฯ จึงเสนอให้แรงงานไทยกลุ่มดังกล่าวยื่นลาออก เนื่องจากว่า กฎหมายแรงงานของกาตาร์ไม่อนุญาตให้แรงงาน Strike หรือนัดหยุดงานโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร และที่ยิ่งร้ายกว่านั้น แรงงานต่างชาติที่มาทำงานในกาตาร์ ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศ (กาตาร์) ได้ โดยไม่มี exit visa หรือใบอนุญาตจากนายจ้าง (Sponsor) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบนำแรงงานเข้ามาทำงานในกาตาร์

5. ผมต้องขอเรียนว่า ฝ่ายแรงงานไทยอยู่ในฐานะที่ลำบาก เนื่องจากอยู่ในฐานะเป็นผู้ขอเลิกสัญญาและโดยที่ ไม่สามารถเรียกร้องเอาความผิดทางฝ่ายนายจ้าง ค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญาฯ หรือการเลิกสัญญาฯ จึงตกอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายแรงงานไทยเอง เนื่องจาก
แรงงานไทยกลุ่มนี้หยุดงานกันไปตั้งแต่แรก เกือบไม่ได้ทำงานเลย จึงไม่ได้รับค่าแรงหรือเงินเดือนไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทย และไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันใด ต้องรอจนกว่า ทางบ.จัดหางานโกลบอลเมริต ที่ประเทศไทยรับผิดชอบ รับแรงงานกลับไป เนื่องจากแรงงานยังอยู่ในช่วงของการทดรองงาน หากว่างานที่มาทำ ยังไมเป็นที่พอใจของแรงงาน ฝ่าย บ.จัดหางานก็น่าจะต้องรับผิดชอบจัดหาให้ใหม่

6.เนื่องจาก บ.จัดหางานโกลบอลเมริต แจ้งผลัดเลื่อนการเดินทางมาแก้ไขปัญหาออกไปเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้ แรงงานไทยไม่สามารถรอต่อไปได้อีก และหากไม่ประสงค์รอจนกว่า บ.จัดหางานเดินทางมาเจรจาแก้ไขปัญหากับ Qatar Ireland ฝ่ายแรงงานไทย อาจขอให้ทางบ้านที่ประเทศไทยส่งเงินมาเป็นค่าซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน เพื่อบินกลับประเทศไทยก่อนได้ โดยระหว่างนี้ ทางจนท.กงสุลของสถานเอกอัครราชทูต จะช่วยประสานและดูแลแรงงานไทยไปก่อน และรับประสานในการส่งเงินค่าตั๋วเครื่องบินดังกล่าวผ่านกระทรวงต่างประเทส มาให้แรงงานที่นี่ด้วย

ขอชี้แจงในเบื้องต้นแค่นี้ก่อนนะครับ

สมหวังเครือสุวรรณ์
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา

ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
จะว่ากันตามจริงก็คือ ทางบริษัทจัดหางานฯต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายนะคะ

เอาเป็นว่า ตอนนี้ทางบ้านของแรงงานไทยเอง โอนเงินไปค่าตั๋วเครื่องบินให้แล้วก็แล้วไป ไม่เป็นไรค่ะ

แต่หากมาถึงเมืองไทยแล้ว ต้องการร้องทุกข์เรื่องงาน เรื่องสัญญาการจ้างงานไม่เป็นธรรม ฯลฯ

ก็สามารถเขียนเรื่องร้องทุกข์ได้ที่กรมการจัดหางาน(กระทรวงแรงงาน) หรือจัดหางานจังหวัด ได้ค่ะ

อย่าลืมถือสัญญาจ้างด้วยนะคะ แล้วทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอีกครั้งค่ะ


ปล.พอมีความรู้เรื่องแรงงานไทยในต่างประเทศอยู่บ้างค่ะ ไม่ได้อยู่การ์ต้า แต่ไปๆ มาๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17