Toggle navigation
หน้าหลัก
ตั้งกระทู้ใหม่
ติดต่อเรา
Login
Register
ศึกษาต่อต่างประเทศ
จะฮาหรือโฮดี
จะฮาหรือโฮดี
นิทานต่อไปนี้ เพิ่งเล่ากันในหมู่นักเรียนไทยที่เพิ่งกลับไทยมาเร็วๆนี้
เรื่องแรก ในการปฐมนิเทศก์อาจารย์ใหม่ของมหาวิทยาลัยชื่อดังมากแห่งหนึ่ง ท่านอธิการที่เป็นนายแพทย์ ขอให้อาจารย์ใหม่ไฟแรงในที่ประชุม บูม 7 ครั้งแล้วร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัย 7 รอบก่อนเริ่มให้โอวาท
หากท่านเป็นอาจารย์ใหม่ที่ทุกคนจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกไม่ว่า MIT, STANDFORD, BERKELEY. etc ควร.....
เรื่องที่สอง อดีตประธานนักเรียนไทยจาก STANDFORD ได้รับคำสั่งจากที่ทำงานใช้ทุนให้ไปเข้ารับการอบรมที่เขาชะโงกเพื่อจะได้มีวินัย รู้จักรับฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ต้องใช้ปัญญา สาวน้อยควร.....
เพื่อนถามว่าทำไมไม่ลาออก เธอบอกว่าไม่มีปัญญาจ่ายคืน 24 ล้านน่ะ
เรื่องที่สาม วิศวกรหนุ่มที่เกือบได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่rank อันดับหนึ่งมากว่า 20 ปีในสาขา ....physics ได้รับคำแนะนำด้วยความปรารถนาดีจากหัวหน้าว่าจะไม่มีทางรุ่งอย่างแน่นอน จนกว่าจะไปลงเรียน physics ก่อน เพราะจบมาได้อย่างไร ไม่เคยเรียนวิชานี้ เขาควรจะ .....
ควรจะบอกอย่างไรว่า วิชาบังคับเบื้องต้นวิชานี้ มหาวิทยาลัยเขาให้ข้ามไปเลย เพราะเคยได้เหรียญทองโอลิมปิควิชา physics มาก่อน
เป็นเรื่องเล่าในวงข้าวเมื่อเร็วๆนี้
มีคำแนะนำดีๆช่วยบอกด้วย หรือ มีเรื่องแบบนี้ของประเทศสารขัณฑ์มาเล่าสู่กันฟัง
แล้วจะ ฮา หรือ โฮ ดีเนี่ย
เล่าต่อให้ฟัง
ความคิดเห็นที่ 1
ฮา ให้กับชะตากรรมของ นร ทุนทั้งหลาย
ตอบกลับความเห็นที่ 1
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 2
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ภาษาเขียนของคุณ จขกท. อ่านเข้าใจยากค่ะ แต่ก็พยายามอ่านจนจบ เราสรุปให้ง่ายๆ เลยนะคะ
ว่าสำหรับทุกเคสที่คุณเล่ามา ทางแก้หลักๆ เลย คือถ้าหากว่ายังเป็นลูกจ้างเขาอยู่ ไม่ว่าจะทำงานกับมหาวิทยาลัย
ของรัฐบาล หรือของเอกชน ถ้าไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ก็คงต้องยอมทนนะคะ ถ้าทนไม่ได้ก็ต้องหาเงินมาใช้คืน หรือ
ต้องลาออกไปทำอย่างอื่นค่ะ
_________________________________________
ส่วนทางแก้ตามแต่ละเคส เป็นเคสๆ ไป คือ
เคสแรก ถ้าไม่ได้มีทางเลือกมาก ถ้าต้องยอมทน ก็ต้องลดอีโก้ ลดอัตตาลงบ้าง แล้วคิดในทางบวกว่า ได้กลับไปบูม
และร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยเหมือนตอนที่ยังเป็นวัยละอ่อนอีก ก็สนุกดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเครียด เพราะคนที่
จบปริญญาเอกไม่จำเป็นต้องทำตัวหรือมีอิมเมจแบบคนที่จบปริญญาเอกตามที่สังคมไทยคาดหวังไม่ใช่เหรอคะ
ส่วนตัวแล้ว ดิฉันเคยพบทั้งคนไทย และ คนต่างชาติ (บางท่านเป็นเพื่อนของดิฉันเอง) ที่เรียนสูงระดับปริญญาเอก
จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก แต่ทำตัวเหมือนคนทั่วๆ ไปที่สามารถจับต้องได้ และ ไม่ต้องทำตัวแบบคนจบปริญญาเอก
ในภาพพจน์แบบที่คนไทยคาดหวังค่ะ และ หลายๆ ท่านทั้งไทยทั้งฝรั่งสามารถขึ้นรถเมล์ไทยไปไหนมาไหนได้ และ สามารถ
ให้ความเอ็นดูแก่ดิฉันซึ่งมิได้มีความรู้ทางวิชาการเทียบเท่าท่านเหล่านั้นเลยสักนิดได้ค่ะ
_______________________________________
เคสที่สอง สาวน้อยคนเก่งท่านนั้นมีทางเลือกอย่างน้อยๆ 2 ทางค่ะ คือ
1. ทำตามที่เขาบอก ไม่ต้องหา 24 ล้านมาใช้คืน และ มีงานทำต่อไป
2. หาเงินมาใช้คืน แล้วลาออก ไปหางานใหม่
_____________________________________
เคสที่ 3 ก็ให้ตอบเขาไปตามตรง แล้วเอาหลักฐานมาโชว์ว่าได้รับการยกเว้นไม่ต้องเรียน เพราะถ้าไม่เล่าให้หัวหน้าฟัง
หัวหน้าท่านก็ไม่ทราบนะคะ
____________________________________
ส่วนความคิดเห็นในตอนท้ายทั่วๆ ไป คือ ทุกๆ ท่านทั้งใน 3 เคส ควรจะทราบก่อนที่จะมาทำงานตรงนี้แล้วค่ะ
ว่าระบบ หรือ วัฒนธรรมย่อยๆ ของบางวงการบางสาขาอาชีพมีว่าอย่างไรบ้าง ถ้าจะไม่ทราบเลย เราคิดว่าคงเป็นไป
ไม่ได้ค่ะ เพราะทุกๆ ท่านเกิดในประเทศนี้ โตในประเทศนี้ ได้รับการศึกษาเบื้องต้นตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปถึงระดับ
ปริญญาตรี (และ โทด้วย) ในประเทศนี้ เป็นผลผลิตของประเทศนี้ การที่จะไม่ทราบเราเห็นว่าคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ
ระบบก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว หรือถ้าบางเคสอยากหนี ก็คงอาจจะต้องหาทุนไปเรียนต่อ หรือไปทำวิจัยต่ออีกนะคะ
ก็ลาเพื่อไปเรียนต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ขอทุนอื่นๆ ของต่างประเทศไป (ถ้าสามารถทำได้นะคะ_เพราะมีคนที่ดิฉันรู้จักบางท่าน
ทำแบบนี้ค่ะ)
ในกรณีของเคสที่ 2 หน่ะค่ะ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามีข้อผูกมัดเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ 24 ล้านบาท ก็ต้องทำใจให้ได้นะคะ
ต้องหาวิิธีอื่นๆ ที่ทำให้คิดบวกได้ค่ะ
ที่เขียนมานี้ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจนะคะ เข้าใจความอึดอัดของคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่อยากนำความรู้มาพัฒนาประเทศ และ พัฒนา
เยาวชนของชาติรุ่นใหม่ค่ะ_คือยังไงก็ต้องรอให้หมดยุคจูราสสิคก่อนนะคะ โลกยุคใหม่ถึงจะกำเนิดได้ค่ะ เหมือนการปฏิวัติ
อุตสาหกรรม หรือ เหมือนการเปลี่ยนแปลงของสิ่งอื่นๆ ทั้งหลายในโลกนี้ค่ะ ต้องรอให้ถึงเวลาค่ะ
จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ยังหมดอำนาจได้เลย, ฮอสนี่ มูบารัค ยังหมดอำนาจได้เลย, กัดดาฟี่ ยังหมดอำนาจได้เลย
"ไดโนเสาร์พันธ์สารขัณฑ์" ก็ต้องมีเวลาสูญพันธ์ได้เช่นกันค่ะ
ที่สามารถจับต้องได้ค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 3
บรรทัดสุดท้ายท้ายสุดของ คห. 2 ไม่ต้องสนใจนะคะ เกินมาค่ะ ไม่ได้ลบออกก่อนกดส่ง_ขออภัยค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 3
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 4
ผมไม่ได้จบมาแบบนั้นหรอกครับ แต่ขออกความเห็น ย่อๆว่า
1.ในชีวิตการทำงานจริงๆกับชีวิตนักเรียนนั้นต่างกันมากมาย
2.ถ้าไม่ได้มีทางเลือกมาก ถ้าต้องยอมทน ก็ต้องลดอีโก้ ลดอัตตาลงบ้าง (จากความเห็นแรก)
ผมเชื่อว่าคนที่จบมาในระดับนั้นคงสามารถปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ไม่ยากหากทำในข้อ 2 ได้ แต่ผมก็เคยอ่านมาบ้างว่า บางคนเรียนหนังสือดีมากเป็นที่หนึ่งมาตลอด พอเข้าทำงานสู้เขาไม่ได้ เลยปรับตัว(โดยไม่ได้ตั้งใจ)ด้วยการป่วย ป่วยจนทำงานไม่ได้
ผมก็มีนิทาน เล่าแล้วเล่าอีก นายแกรี่จบเอกทางฟิสิคส์และเคมีจากจอห์นฮอพกินส์ เพื่อนร่วมงานน้อยคนที่จะรู้ว่าเขาจบอะไรมามาจากไหน รู้แต่ว่างานติดขัดทีไรไปถามแกรี่ตำแหน่ง "Technician" แล้วมักจะมีคำตอบเสมอ และนอกจากนั้นน้อยคนที่จะรู้ว่าเขาถือหุ้นใหญ่สุดในบริษัทที่มีพนักงานส่วนใหญ่จบโทและเอก
ตอบกลับความเห็นที่ 4
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 5
ต้องกลับมาอีกครั้ง เพราะลืมตอบคำถามสำคัญที่คุณ จขกท. ถามมา
สำคัญถึงขนาดที่ว่าได้ขึ้นเป็นหัวเรื่องกระทู้เลยว่า "จะฮาหรือโฮดี"
ถ้าตามที่คุณเล่ามาทั้งหมดก็ต้องตอบว่า "ฮาสิคะ" ไม่โฮค่ะ เพราะเรื่องทั้งสามเคสในกระทู้นี้
เป็น "สาระขัน" ที่ปกติธรรมดามากๆ ของ "สารขัณฑ์" ค่ะ
แต่ถ้า "ไดโนเสาร์พันธ์สารขัณฑ์" สูญพันธ์ไปเมื่อไหร่แล้วค่อย "โฮ" ค่ะ
ปล่อยโฮร้อง(ให้) พร้อมกับ "โห่ร้อง" ดีใจค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 5
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 6
เล่าเรื่องได้เละเทะ ลำดับความคิดขาดๆเกินๆมากค่ะ
ที่สำคัญแต่ละเรื่องเต็มไปด้วยอคติและนัยแห่งการเหยียดหยามผู้อื่น สุดยอดเนื้อหากระทู้ "ugly" แห่งปี
ตอบกลับความเห็นที่ 6
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่เชื่อสิ่งที่คุณเล่า
มันเป็นนิทาน อย่างที่คุณว่า
ขออภัยครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 7
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 8
จบ MIT STANFORD แล้วยังไงเหรอคะ นักเรียนทุนก่อนจะรับทุนก็ต้องเข้าใจและยอมรับเงื่อนไข ถ้าคิดตั้งแต่แรกว่ารับกับระบบไม่ได้ แล้วไปรับทุนทำไมล่ะคะ
คนที่จะเก่งนั้นเก่งแต่วิชาการนั้นไปไม่ได้ไกลหรอกค่ะ ต้องรู้จักเข้าสังคมและปรับตัวด้วย ถึงจะอยู่สังคมได้อย่างมีความสุข บางคนกลับมารับไม่ได้กับระบบ แต่ก็ฝืนทำงานไปเพราะไม่มีเงินจ่ายทุนคืน พวกนี้น่าสงสารมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 8
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 9
อ่านไม่รู้เรื่อง งงมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 9
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 10
อ่านแล้วคิดว่าคุณ จขกท. คงจะประชดในเรื่องของ "ระบบที่กลืนคน" ไม่ว่าคุณจะเก่ง หรือมีแนวคิดที่แตกต่าง ดีเลิศเลอมาจากไหน จบมาจากมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของโลกแค่ไหน แต่ถ้าคุณกลับไทย คุณก็ต้องกลับไปอยู่ในระบบ(เดิม ๆ)ที่คุณเลี่ยงไม่ได้ แถมมีเรื่อง "ทุน" ค้ำคออยู่ ยังไงก็ต้องทนและปล่อยให้ระบบมันค่อย ๆ กลืนไป ส่วนเรื่องความรู้ที่เรียนมามากมายด้วยเงินภาษีของประเทศชาติก็ช่างมัน ไม่ต้องเอามาใช้หรอก เอาแค่ดีกรีมาไว้ประดับหน่วยงานและเพิ่มเครดิตให้กับ "เจ้านาย" ให้ได้พอใจว่ามีลูกน้องเป็น "ด็อกเตอร์จากนอก หรือ จบตรี จบโทจากมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของโลก" ก็พอแล้ว อย่าได้มาสะเออะแหวกแนว คิดแตกแถว เสนอแนวคิดใหม่ ๆ นะ ต้องอยู่ในแถวที่เค้าเตรียมไว้ให้
ปล. อันนี้ดิฉันตีความจากที่อ่านในเนื้อกระทู้เท่านั้นนะคะ คิดว่าคุณ จขกท. คงจะมาแบบประชดกลาย ๆ น่ะ (ถ้าตีความผิดก็ต้องขออภัยด้วย)
ตอบกลับความเห็นที่ 10
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 11
เคยมีอาจารย์หนุ่มคนหนึ่ง ได้ทุนพัฒนาอาจารย์ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ต่างประเทศ
พอกลับมาใช้ทุนเวลาคืนมหาวิทยาลัยที่ได้ทุน
เกินอาการร้อนวูบวาบอยากไปสอนที่อื่น ด้วยหลายๆสาเหตุด้วยกัน(ตามที่ท่านอ้าง)
มหาวิทยาลัยที่ตัวเองได้รับทุนพัฒนาอาจารย์เป็นเอกชนไม่มีชื่อเสียงมากมายนักในขณะนั้น
แถมคุณภาพของนักศึกษาค่อนข้างเรียนอ่อนไม่ได้เรียนพื้นฐานมา
เพราะโดยส่วนมากจะเป็นนักเรียนเรียนจบพาณิชย์หรืออาชีวะ ไม่ได้จบสายสามัญมา
ไม่ก็มาจากต่างจังหวัดซ่ะโดยส่วนมาก เลยปีนกระไดฟังอาจารย์สอนไม่ถึงแก่นวิชาเอาซ่ะเลย
ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ไม่มีส่วนร่วมไม่ทำงานส่ง ลอกรายงาน ฯลฯ
อาจารย์หนุ่มสะสมความร้อนรนหงุดหงิดร้อนใจร้อนที่ ร่ำๆอยากจะลาออกเอาทุกวัน
แต่ความที่ถ้าออกต้องใช้ทุนคืนเป็นเงินคูณที่ใช้ไปเป็นสี่เท่าของค่าใช้จ่าย
ซึ่งอาจารย์ไม่มีเงินมาจ่ายคืนแน่นอน
ผ่านมาไม่นานได้ข่าวอาจารย์ออกจากมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องชดใช้เงินทุนใดๆคืนมหาวิทยาลัย
อันเนื่องจากถูกให้ออกเนื่องจากปัญหาชู้สาวกับนักศึกษาสาวที่สอนอยู่
อาจารย์ท่านนั้นตอนนี้ยังทำงานอยู่ในวงการวิชาการ สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย
และเป็นที่ปรึกษาให้กับอีกหลายๆหน่วยงานเอกชน
โดยเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ ผู้คนลืมเลือนเรื่องที่เคยเกิดขึ้น
เรายังสงสัยว่าจะเป็นแค่แผนของอาจารย์หรือเรื่องจริง ที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้
ส่วนนักศึกษาสาวคนนั้นก็เรียนจบรับปริญญาไปเรียบร้อย แค่ถูกทัณฑ์บนแค่นั้นค่ะ
ไม่แนะนำให้เลียบแบบ แค่อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 11
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 12
ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้กรุณาแสดงความเห็นและ/หรือแวะเข้ามาอ่าน
ต้องขอประทานโทษอย่างยิ่ง หากภาษาที่ใช้ขาดๆเกินๆเข้าใจยาก โดยที่มีเจตนาจะเล่าเรื่องโดยมิให้มีผลกระทบต่อเจ้าตัว เพราะไม่ได้ขออนุญาตว่าจะนำเรื่องในวงข้าวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ
ขอคารวะอย่างจริงใจต่อคุณ Been there, done that ในการแสดงความเห็นของผู้มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง จริงใจและเปิดเผย แถมมีอารมณ์ขันต่างหาก
ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นทุกครั้งที่ได้อ่านพบความเห็นของท่านผู้นี้
เยี่ยมที่สุด เห็นจะได้แก่คุณ JC 2002 ที่เข้าใจกระทู้นี้
ผมไม่อยากจะเกินเลยท่านอธิการว่าท่านคงติดใจการรับน้องใหม่สมัย 40-50ปีนี่แล้ว จึงนำมารับน้อง "อาจารย์น้องใหม่"
ผมไม่อยากจะเกินเลยกับผู้บังคับบัญชาที่ต้องการผู้ใต้บังคับบัญชาที่แข็งแรงและไม่ต้องเอาสมองมาทำงาน
ผมไม่อยากจะเกินเลยกับหัวหน้างานที่ไม่รู้จักกำพืดของลูกน้องดีพอ
ขอคารวะต่อคุณpano ที่ชี้ทางสวรรค์ แต่หวาดเสียวคาบเส้นมาก
และผมไม่แปลกใจที่ประเทศไทยไม่ได้ไปไกลอย่างที่ควรจะเป็น เด็กระดับมันสมองที่องค์กรต่างชาติอยากจ้างเหล่านี้ อีกไม่นานนัก หากไม่สามารถทนทานทู่ซี้กับระบบที่
กลืนกินหล่อหลอมจะลลายเป็นพวกเดียวกัน บุคคลากรที่ทรงคุณค่าเหล่านี้ก็คงต้องลาออกก่อนที่ไฟจะมอด น่าเสียดายนัก
ตอบกลับความเห็นที่ 12
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 13
ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ เอาจริงๆ เราว่าประเทศไทยเรายังไม่มีอะไร ที่ต้องใช้ความสามารถขนาดจบ มหาลัยดังๆ หรอกคะ หรือถึงมี ด้วยระบบที่ยังเป็นการเกื้อหนุนกันอยู่ ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวประเทศเราเอง ก็ยังไม่สามารถทําได้หรอกคะ
ความเป็นจริงคือ ตราบใดที่เป็นลูกจ้าง เราก็ต้องทําคะ ไม่พอใจก็หาทางลาออกคะ อย่างไรก็ตามการได้เรียนในมหาลัยดัง ทําให้ผู้ที่ไปเรียนนั้น มีสมองที่พัฒนา และฉลาดมากนะคะ ซึ่งสามารถนํามาต่อยอดอะไรได้อีกมาก
อยากให้คิดบวกไว้คะ อย่างน้อยชีวิตก็เกิดมาชีวิตเดียวคะ ได้ไปเรียน หรือได้ไปเจอกับประสบการณ์ในต่างประเทศก็นับว่าคุ้มแล้วคะ เอาเวลาที่นั่งคิดมาก และมีอัตตา หันกลับไปมองดูความเป็นจริง และก็ใช้ชีวิตให้สนุกก็พอแล้วคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 13
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 14
ผมว่ามันผิดที่ระบบ ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการให้ทุนนานๆ จนถึงปริญญาเอก เพื่อให้นักเรียนต้องกลับมาใช้ทุนในเวลานานมากๆ ภายในระบบที่คนส่วนมากไม่มีแรงจูงใจในการทำงานและพร้อมที่จะออกตลอดเวลาถ้ามีโอกาส อย่างที่คห 13 บอก หลายๆ ตำแหน่งไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องใช้ PhD เลยแต่ทุนก็ส่งไปเรียนถึง PhD
สิ่งที่มันค่อนข้างขัดแย้งกันมากๆ คือระดับของคนที่เรียน PhD โดยเฉพาะในกลุ่มนี้ สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือ motivation มีทฤษฎีที่บอกว่างานที่ใช้ความคิดหรือ cognitive skills มากๆ สิ่งหนึ่งที่คนต้องการจริงๆ คือ autonomy หรืออิสระในการคิดและการทำงาน ไม่ใช่เงินหรืออำนาจ การมีระบบที่ใช้การจัดการคนแบบนี้สิ่งที่ได้ก็จะมีแต่ compliance หรือการยอมจำนนทำตามและทำลาย motivation ไปซะหมด
ผมเชื่อว่าเกือบทุกคนตอนที่เซ็นต์สัญญาก็เซ็นต์ด้วยความรู้สึกตั้งใจเต็มที่ที่จะกลับมาทำอะไรเพื่อพัฒนาประเทศ บางคนตอนเรียน PhD เป็นระดับ Golden boy ที่โดดเด่นมากๆ ในระดับโลกและสามารถทำอะไรให้ประเทศได้อีกมากแน่นอน การจำกัดความคิดและอิสระมากเกินไปมีแต่จะทำให้คนหนีไปรับงานนอกแล้วทำงานให้จบไปวันๆ แบบนี้ไม่มีใครได้อะไรเลยทั้งคนให้ทุนและคนรับทุน
ผมไม่ได้บอกว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่หัวหน้าหรือผู้ร่วมงานแตะต้องไม่ได้ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าประเทศเสียเงินภาษีมากมายเป็นสิบๆ ล้านต่อคนเพื่อสร้าง PhD แล้วไม่สามารถใช้คนเหล่านี้ได้อย่างคุ้มค่าในตอนท้าย
ตอบกลับความเห็นที่ 14
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
โปรดใส่ความคิดเห็น
ความคิดเห็นสั้นไป
ส่งข้อความ
Copyright 2024 by pai-nok.com