มีใครใด้ลองนั่ง เครื่องโบอิ้ง 747-400 (ชั้นบน )มาบ้างแล้วยัง?

อยากทราบว่าชั้นบน (upper deck ) ดูแล้ว คับแคบหรืออึดอัดไหม
พอดีจอง Eva กลับไทย ต้นเดือน พย. เป็นของรุ่นนี้
แต่ไม่เคยนั่งเหมือนกัน (คงยังใหม่อยู่)
เค้าบอกว่ามี 48 ที่นั่ง จำนวนเรียงแถวยาว(จากด้านหน้า ไปหลัง) ๒แถว ๆละ ๖ ที่นั่ง แบบติดหน้าต่าง(ไม่มีที่นั่ง แบบ๔ที่นั่งตรงแถวกลาง เหมือนชั้นล่าง)
ข้างละ๓ที่นั่ง อธิบายมายาว คงดูจากผังดีกว่า สำหรับบางท่านที่อาจจะยังไม่เคย นั่ง
ถ้าชั้นบนไม่แคบมาก ว่าจะขอเลือกอยู่

ความคิดเห็นที่ 1
ผังที่นั่งชั้นบน ตามนี้ครับ
http://www.seatguru.com/airlines/Eva_Airways/Eva_Airways_Boeing_747-400_380.php


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เคยนั่งชั้นบนกับ JAL ไม่คับแคบเลย ปกติเหมือนกับชั้นล่างค่ะ

คนละรุ่นกัน แต่มีสองชั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ปกติแล้วถ้าเป็นโบอิ้งรุ่น 747-400 แบบมีชั้นบน ไม่ว่าจะซีรี่ส์ไหน ดิฉันจะเลี่ยงการนั่งชั้นบนค่ะ ด้วยลักษณะทาง
โครงสร้างของเครื่องบินชั้นบนของรุ่นนี้ที่แคบกว่าด้านล่าง ทำให้

1. ที่ว่างตรงกลาง ตรงทางเดิน Isle แคบกว่าด้านล่าง

2. เพดานเตี้ยกว่าด้านล่าง

3. ที่เก็บของเหนือศีรษะเล็กกว่าแคบกว่าด้านล่าง

เวลาที่เจอเครื่องบินรุ่นนี้ ดิฉันจะนั่งข้างบนก็ต่อเมื่อ ที่นั่งชั้นล่างเต็ม หรือ ได้อัพเกรดขึ้นไปนั่งชั้นบิสซิเนส เพราะบางสาย
การบินจัดส่วนนี้ไว้สำหรับชั้นบิสซิเนสเท่านั้น แต่ชั้นบิสซิเนสที่ชั้นบนของเครื่องรุ่นนี้ดืฉันเห็นว่าแออัดกว่าชั้นล่างค่ะ

และไม่ชอบขึ้นลงบันไดบนเครื่องบินด้วยค่ะ

ถ้าคุณ ctanta จะนั่งระยะใกล้ๆ ก็นั่งไปเถอะค่ะ แต่ถ้านั่งยาวนั่งข้างล่างดีกว่าค่ะ หรือถ้าไม่มีของถือขึ้นเครื่องมาก
ก็นั่งชั้นบนค่ะ

คุณ ctanta บอกว่าอาจจะยังใหม่อยู่ _เครื่องรุ่น 747-400 แบบมีชั้นบนของโบอิ้ง ไม่ใหม่แล้วนะคะ เก่ามากแล้วค่ะ
อย่างน้อยๆ 20 ปีขึ้นไป และ หลายสายการบินเลิกใช้รุ่นนี้แล้ว หรือไม่ได้ใช้เป็นเครื่องหลักสำหรับระยะททงไกลๆ ข้ามทวีป
ของสายการบินของตัวเองอีกต่อไปค่ะ

โบอิ้งในปัจจุบันนี้ระยะทางไกลต้องรุ่นดรีมไลน์เน่อร์ค่ะ แต่สายการบินสมัยนี้มากมายนิยมใช้แอร์บัสสำหรับทางไกลๆ ค่ะ
เช่นรุ่นตอง 7 รุ่นซีรี่ส์ 3 รุ่นใหม่ๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ฮ่าๆๆ กดแป้นผิดค่ะ done ค่ะ ไม่ dome


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
หรือ แอร์บัส A380 สำหรับระยะไกลๆ ค่ะ โบอิ้ง 747-400 หลายสายโละแล้วค่ะ หรือ นำไปเป็นเครื่องคาร์โก้แทน
หรือ นำมาบินภายในประเทศค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ความเห็นบน รุ่นตอง 7 เป็น ของโบอิ้งค่ะ ไม่ใช่แอร์บัส


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ก๊าก ขอบคุณ คุณจูยูรินมากๆ ค่ะ พิมพ์ผิดจริงๆ ด้วย เผอิญพิมพ์ตอบกระทู้ไป แล้วต้องทำอย่างอื่นไปด้วยจึงพิมพ์พลาดไป
ค่ะ ขออภัย

แต่ข้อมูลอื่นๆ โอเคนะคะ เราเขียนตอบจากประสบการณ์ตรงค่ะ เผอิญมีความจำเป็นต้องเดินทางโดยเครืื่องบินเดือนละ
หลายหน ขึ้นเครื่องบินเหมือนขึ้นรถเมล์ มีโอกาสได้ใช้เครื่องบินรุ่นต่างๆ ของหลายสายการบิน และ ได้เดินทางผ่านหลาย
สนามบินได้เห็นเครื่องบินของสายการบินต่างๆ อยู่เสมอค่ะ ว่าเดี๋ยวนี้เขาใช้รุ่นไหนกันบ้าง และ รุ่นไหนไม่พบแล้ว
หรือรุ่นไหนที่แทบจะไม่พบอีกเลย

เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น นั่งเครื่องไปลงที่สนามบินชางงี ที่สิงคโปร์ ดืฉันแอบเห็นเครื่องบินรุ่น MD11 ของสิงคโปร์แอร์ไลน์
จอดอยู่ในแฮ้งค์เกอร์ 2 ลำดีใจแทบตาย เพราะไม่ได้เห็นเครื่องบินรุ่นนี้มานานมากแล้ว ไม่เห็นมาอย่างน้อยๆ 10 ปี
เห็นจะได้แล้วค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
boeing 747-8 กำลังออกมาประชันกับ airbus 380 แล้วครับ
lufhansa ประเดิมก่อนใครๆ


http://747-8.lufthansa.com/#/b747/experience/


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
สายการบินEvaเครื่องบิน 747รุ่น 400 มันเก่ามากแล้วนะครับ
ที่นั่งชั้นบนมันแน่นและแคบมากนะดูรูป
ที่นั่งยักกะปลากระป๋อง

ต้องนั่งชั่นล่างbusiness classถึงจะสดวกสบาย

http://www.seatguru.com/airlines/Eva_Airways/Eva_Airways_Boeing_747-400_380.php


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
อยากนั่ง First Class ของ แอร์บัส รุ่น A 380


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
กราบเรียนท่าน คห. 10 ท่านพูดถึงที่นั่งชั้นหนึ่ง ชั้นเฟิสท์คลาสบนแอร์บัสรุ่น เอ380 ข้าพเจ้ากำลังเล็งๆ อยู่พอดีเลย
ว่าจะลองนั่งไปกลับระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ยุโรปดูสักครั้ง _ที่เล่ามานี่จะใช้ไมล์สะสมแลกมาหน่ะค่ะ
และ เสียแต่ค่าภาษีน้ำมันอย่างเดียว อย่างมากก็แค่หมื่นกว่าบาท หรือ ราวๆ สามร้อยกว่ายูโร
หรือ ราวๆ สองร้อยกว่าปอนด์หรือราวๆ สามร้อยกว่ายูเอสดอลล่าร์เท่่านั้น แล้วให้เขาหักไมล์สะสมแค่ 50% เท่านั้น อิอิ

(เผอิญได้สิทธิแลกไมล์สะสมโดยใช้ไมล์แลกตั๋ว ใช้แค่ 50% เท่านั้น มีสิทธิแลกได้ 2 ครั้งในปีนี้ ยังไม่ได้ใช้เลย
และ ต้องรีบแลกก่อนสิ้นปีนี้ แต่สามารถเก็บตั๋วเอาไว้ใช้ได้ภายในระยะเวลา 1 ปีเลยทีเดียว แลกแล้วยังไม่ต้องรีบใช้
บินเมื่อไหร่ก็ได้ ภายในอายุตั๋ว)


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
แหะ แหะ ผมอยากจะนั่ง first class ของ lufhansa747-8 มากกว่าคัฟฟฟฟฟฟ

คุณ joe (aircraftdesigner) มี seat map ไหมเนี่ย เผื่อว่าผมโชคดี ได้ไปนั่ง

อย่างไรก็ตามผมชนะแน่ๆกัฟ ผมได้ไปแตะล้อของเครื่อง space craft enterprise ที่ นิวยอร์ก แล้วกัฟฟฟฟฟฟฟ

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
มาขอบคุณ ทุก ๆท่านที่ให้ข้อมูล และการแนะนำ
โดยเฉพาะคุณ Been there, done that! ที่ให้รายละเอียดใด้มาก ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ดูรูปที่นั่งเครื่องบินยูในเต็ดเครื่องรุ่น787-800
http://www.seatguru.com/airlines/United_Airlines/United_Airlines_Boeing_787-800.php


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
TG 923 Boeing 747-400 จาก Frankfurt - Bangkok


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
.


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
แถวที่ 18 A


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
บินในประเทศ BKK-CNX


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
บางครั้งก็เป็นเครื่อง Boeing 747-400 ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ยินดีค่ะ คุณ ctanta

ส่วนคุณ joe (aircraftdesigner) คงได้นั่งแทบจะทุกรุ่น โดยเฉพาะชั้นธุรกิจ หรือ ชั้นหนึ่งบ่อยๆ แล้ว (แอบเห็นคุณเขา
โพสท์ภาพบ่อยๆ เช่นภาพอาหารบนเครื่อง และ มี Priority Tag สีส้ม ของกลุ่มสตาร์ฯ ติดกระเป๋าด้วย)

ภาพที่คุณ Komi นำมาแปะทุกภาพนั้น ก็ตามนั้นเลยค่ะ หวังว่าจะทำให้คุณ ctanta จขกท. ได้เห็นภาพมากขึ้น
จากที่ดิฉันได้อธิบายให้ฟังใน คห. 3 แล้วว่า ชั้นบนนั้นแคบอย่างไรบ้าง เช่นให้สังเกตตรงหน้าต่่าง เรื่อยมาถึง
หลังคานะคะ จะโค้งค่ะ ทำให้เพดานเตี้ยและแคบ และเมื่อด้านข้างแคบแล้วทางเดินตรงกลางคือ isle ก็จะแคบตามไปด้วย

และให้สังเกตภาพที่คุณ Komi นำมาแปะให้คุณชม ให้สังเกตที่เก็บของเหนือศีรษะค่ะ แล้วคุณจะเห็นเองว่า ทั้งตื้น
ทั้งเล็ก ทั้งแคบค่ะ เพราะความที่มีเนื้อที่จำกัด และ อยู่ตรงมุมโค้งพอดี

ส่วนที่คุณ Komi บอกว่า ภาพที่นั่งใน คห. 19 คือ ที่ยังไม่ได้รับปรุง จะเรียนให้ทราบว่า เฉพาะใน คห. 19 นั้น
เป็นเครื่อง 747-400 ของการบินไทย ที่เป็น 747-400 คนละซีรี่ส์กับในภาพใน คห. 15, 16, 17, 18 ค่ะ
การบินไทยมีเครื่องรุ่นนี้ถึง 2 ซีรี่ส์ด้วยกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
คุณBeen there, done that! ขอบคุณค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ยินดีค่ะคุณ komi_to

ดิฉันพาลิ้งค์จาก seatguru มาฝากคุณ Komi และ คุณ ctanta จขกท. ด้วยนะคะ
เอามาให้ดูถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องรุ่นโบอิ้ง 747-400 ทั้งสองเวอร์ชั่น
ของการบินไทยค่ะ ดูเผินๆ จะเหมือนกันมากค่ะ ทั้งภายนอกและภายใน
แต่รายละเอียดไม่เหมือนกันค่ะ

_______________________________________________

อันนี้เป็นซีทเม็พของเวอร์ชั่นสอง ตามภาพปลากรอบของคุณ komi_to ใน คห.
15-18

http://www.seatguru.com/airlines/Thai_Airways/Thai_Airways_Boeing_747-400_7443.php

_______________________________________________

ส่วนอันนี้เป็นซีทเม็พของเวอร์ชั่นแรก ตามภาพปลากรอบของคุณ komi_to ใน คห.
19 ค่ะ

http://www.seatguru.com/airlines/Thai_Airways/Thai_Airways_Boeing_747-400_7442.php

______________________________________________

//เคยอ่านพบจากกระทู้ว่า มีการปรับปรุงอัพเกรดที่นั่งชั้นธุรกิจ
บนโบอิ้ง 747-400 ของการบินไทยแล้ว เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง แต่เราลืมนะคะ
ว่าเวอร์ชั่นไหน เพราะเราไม่ได้บินกับสายนี้สายเดียว และ พักหลังๆ ถ้าบินกับสายนี้
ก็มักเจอแต่เครื่องของแอร์บัสรุ่นต่างๆ กันค่ะ ไม่ค่อยเจอโบอิ้งของการบินไทยเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
Boing 747-8I (Intercontinental) ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารมีลูกค้าใหญ่สุดขณะนี้คือ Lufhansa ซึ่งสั่งซื้อเครื่องบินไว้ 20 ลำ เท่าที่ตรวจสอบดูในรายชื่อลูกค้า สายการบิน UA ยังไม่ได้สั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ก็เลยงงกับผังที่นั่งผู้โดยสารของ UA ที่ปรากฏอยู่ในลิงค์ สำหรับผังที่นั่งโดยสารของ LH นั้นมีกำหนดที่นั่งสำหรับ First Class ไว้เพียง 8 ที่นั่งเท่านั้นอยู่บริเวณส่วนหัวเครื่องบินทั้งหมด มี Business Class อีก 92 ที่นั่ง โดยจำนวน 32 ที่นั่่งอยู่บน upper deck และที่เหลืออีก 60 ที่นั่งอยู่ที่ main deck อีก 262 ที่นั่งของ Economy class อยู่ที่ main deck ทั้งหมด

http://www.seatguru.com/airlines/Lufthansa/Lufthansa_Boeing_747_8.php

เครื่องบินรุ่น 747-8 ของ Boeing นี้ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากนักด้วยเหตุผลที่ยังเป็น innovation จากเทคนิครุ่นซิรีส์ 747 ซึ่งผลิตมาแล้วถึง 42 ปี เฉพาะรุ่น 747-400 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้กันอยู่ก็เริ่มมาตั้ง 23 ปีมาแล้ว นั่นหมายถึงเทคนิคของเครื่องนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงสูง ทั้งๆ ที่รุ่น 747-8 ได้รับการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันน้อยลงแล้วจากรุ่น 747-400 ถึง 20% แล้วก็ตาม แต่ถ้าเปรียบเทียบต้นทุนค่ำน้ำมันเชื้อเพลิงต่อหัวผู้โดยสารแล้ว Airbus A380 กับ Boeing 777-300ERs, มีต้นทุนต่ำกว่ามาก จึงกลายเป็นว่าทุกสายการบินหันไปสั่งชื้อเครื่องบินโดยสารทั้ง 2 รุ่นนี้แทนกันหมดเพื่อรับสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นทุกขณะ

Lufhansa เป็นสายการบินเดียวในโลกที่ยังคงอยู่มั่นคงกับ Boeing 747 อยู่ต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นสายการบินยุโรปที่น่าจะสนับสนุนผู้ผลิตจากยุโรปคือ Airbus ด้วยกัน Lufthansa สั่งซื้อ A380 จำนวน 15 ลำด้วยเช่นกันและรุ่น A340 อีกจำนวนหนึ่งด้วย แต่ Lufthansa มีเหตุผลทางด้านนโยบายและกลยุทธ์ทางการตลาดของตนที่ต่างจากสายการบินอื่นๆ โดยมี segment ของผู้โดยสาร Business Class ที่ใหญ่ที่สุดในสายการบินทั้งหมดในโลก นอกจากนั้นแล้ว Lufthansa ยังเป็นสายการบินที่ลงทุนซื้อเครื่องบินเป็นของตนเองทั้งหมดไม่ได้ซื้อแบบระบบ leasing เหมือนสายการบินอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดนั้น Lufthansa มีส่วนร่วมในการพัฒนาทางด้านเทคนิค ดีไซน์สำหรับรุุ่น 747 ทั้งเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินขนส่งสินค้ามาตั้งแต่เริ่มแรก




ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
## ความเห็นนี้ถูกลบ ##
ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
โพสต์รูปไม่ขึ้นครับ ลองดูใหม่

ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
First Class


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
Business Class


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
Business Class อีกรูป


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
ทางขึ้น upper deck


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
ที่วางของวางแขนระหว่างที่นั่งของ Business Class


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
อีกรูป


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
รูปสุดท้ายของ Boeing 747-8 ของ Lufthansa


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
กลับมาขอบคุณ คุณ Been there, done that! อีกครั้ง เรียกว่า เป็นแฟนพันแท้ของโบอิ้งเลยก้อว่าใด้ เพราะใด้ให้รายละเอียด เจาะลึก แบบหาตัวจับยาก ทีเดียว ครับ
รวมทั้งขอบคุณ คุณ Bagheera ที่มาช่วยเสริม จากบ.ผู้ผลิตเตรื่องบิน โดยตรงของแท้แบบ หาข้อมูลเหล่านี้ใด้ยาก ไม่คิดว่า จะมีผู้รอบรู้มาให้ข้อมูลใด้ละเอียด มากมายใด้ขนาดนี้ เป็นประโยชน์ ให้กับผู้ที่สนใจเจาะลึกในเรื่องนี้ใด้เป็นอย่างดี
ขอบคุณจากใจจริง อีกครั้ง ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
ผมออกแบบเครื่องบินทั้งแอร์บัสและโบอิ้ง
โดยส่วนตัวแล้วจะเลือกบินแต่เครื่องโบอิ้งตลอดสาย
ด้วยเหตุผลทางเท็กนิกของการออกแบบเครื่องบิน
สรุปเป็นภาษาชาวบ้าน

แอร์บัสคอมพิวเตอร์ขับเครื่องบิน กับตันเป็นลูกน้องคอมพิวเตอร์ (กับตันเป็นลูกเมียน้อย)

ยกตัวอย่างเมือประมาณ๓ปีแล้วที่สนามบินดีซี
เครื่องบินแอร์บัสเพิ่งจะขึ้นจากสนามบิน เครื่องยนต์ชนฝูงนกเป็ดนำ

คอมพิวเตอร์สั่งดับเครื่องหมดทั้งสองเครื่อง
กับตันลูกเมียน้อยหมดปัญญา ต้องลงแบบฉุกเฉินในแม่นำ

ถ้าเป็นเครื่องบินโบอิ้งจะไม่ตก จะสามารถบินกลับมาลงได้ที่ดีซี

พูดถึงผู้โดยสารนั่งเครืองบินทั่วๆ
ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องบินตก
เพราะเครื่องบินปลอดภัยมากว่าการดินทางแบบอื่นๆ

ที่นั่งก็ไม่เหมือนกันแต่ละสายการบินสั่งได้ว่าจะเอาแบบไหนและกว้างแค่ไหน
จะบอกว่านั่งบินเครื่องบิน 747-400 เหมือนกัน แต่ที่นั่งไม่เหมือนกันแล้วแต่สายการบินครับ
เช่นยูในเต็ด ซื้อสายการบินcontinental
ก็เลยได้เครื่องบินเก่าๆมา ทำให้ที่นั่งไม่เหมือนกับเครื่องบินของเก่าที่เขามีอยู่
ที่นั่งในรูปข้างบนของ 747-400 มันพับได้ไม่เรียบนะ นอนไม่สบายเท่าเครื่อง๗๗๗

เหตุผลที่เลือกนั่งแต่เครือง ๗๗๗ เพราะว่าสดวกสบายและปลอดภัยมากกว่า
เวลาเครื่องขึ้นและลง หูจะไม่อื้อ เพราะระบบ cabin controlดีกว่า๗๔๗มาก

ช่วงบิน๑๐ชั่วโมงจากซีแอลเติลถึงนาริตะผมมักจะบินแต่ business
เพราะที่นั่งพับได้ราบ นอนหลับสบายมากๆ พอถึงนาริตะก็ได้อาบนำในคลับเฮ้าของยูในเต็ด
ถึงจะไม่ได้แช่ นำร้อนแบบในออนเซ็น
แต่ฝักบัวก็มีนำอุ่น มีแม่บ้านทำความสอาดเรียบร้อยดี

ถ้ามีโอกาสบิน บิซีเนส สายยูในเต็ด พอลงเครื่องแล้วมาผ่านตรวจเอ็กเรย์ลงกระได้เลื่อนมาเลี้ยวขวาเข้าไปเลย ลองเข้าไปอาบนำดู

ลองขึ้นเครื่อง ๓๘๐ชั้นหนึ่ง แล้วอาบนำดู
มันสดวกสบายสู้ อาบในคลับเฮ้าของยูในเต็ดไม่ได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
โฮ....ที่แท้ คุณ joe เป็นเจ้าของโบอิ้ง เองหรือ ครับเนี่ย..เพราะใด้ออกแบบ(เอง)มากะมือ นับว่าโชคดี ที่ใด้ทราบข้อมูล ที่มิมีใครรู้มาก่อน นะครับ
เห็นคุณ joe โพท ตอบทู้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่ทราบว่า ทำงานในด้านนี้ (มิทำดา เลยระครับ)
แต่ก็ขอบคุณ คุณ joeอีกครั้ง แล้วอย่าลืม มาให้ค.รู้ เรื่องเหล่านี้ ให้คนข้างนอก(วงการ) ใด้รู้เรื่องบ้างระ ครับ จะใด้ นำไปคุยกะคนอื่นๆใด้ต่อ ครับ อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
ฮิๆ คุณ ctanta ชื่อคุณเขาก็บอกอยู่แล้วค่ะ ว่ามีอาชีพเป็น aircraftdesigner อิฉันแอบสังเกตมานานแล้ว
และ ชื่อ joe อาจจะมีความหมายอย่างอื่นได้ด้วย อาจจะไม่ใช่ชื่อเล่นจริงๆ ของคุณเขาก็ได้ หรืออาจจะเป็นทั้งชื่อเล่นจริงๆ
และ เป็นชื่อที่มีความหมายอื่นด้วย (คือเขาอาจจะใช้แบบมี Double Meaning _เดาๆ เอาค่ะ)

ที่นั่งในภาพที่คุณ Komi ถ่ายมาเองจากประสบการณ์ในการนั่งเป็น ผดส. เองจริง (นั่งเองจริงเช่นเดียวกับดิฉัน
โดยที่คุณ komi_to ไม่ได้เอารูปจากที่อื่นมาแปะ ให้คนอ่านเข้าใจผิดว่าไปถ่ายมาเองจากการนั่งจริง โดยไม่ได้ให้
เครดิต) ภาพที่คุณ komi_to นำมาแปะใน คห. 15-18 เป็นที่นั่งแบบที่คุณ joe (aircraftdesigner) เขียนเอาไว้ว่า
พับได้ไม่เรียบ _ค่ะ คอนเฟิร์มเลยว่าไม่เรียบจริง และ เอนได้ 170 องศาเท่านั้น เวลานอนจะไหลลงมาตลอด
และ ต้องนอนแบบเอาเท้ายันไว้กับที่วางเท้าปลายที่นั่ง(ที่นอน)

แต่ถัาเป็นที่นั่งชั้นเฟิสท์คลาส ของการบินไทยรุ่นนี้ ขอบอกได้เลยว่านั่งและนอนสบายมากๆ ค่ะ

และ เช่นเดียวกับคุณ joe (aircraftdesigner) ดิฉันชอบนั่งแอร์บัสรุ่นตองเจ็ด 777 ค่ะ ไม่ว่าจะซีรี่ส์ไหน
หรือไม่ว่าจะของสายการบินไหน รู้สึกได้เลยว่านั่งสบายมากๆ แต่ดิฉันไม่ชอบที่นั่งบิสซิเนสคลาสของรุ่นตอง 7
ที่หลายๆ สายการบินใช้เป็นแบบที่นั่งก้างปลาแฮร์ริ่งโบนค่ะ ถึงจะนอนราบได้จริง แต่ดิฉันว่าแคบมาก
และ ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเลย ส่วนคนที่ได้ที่นั่งริมหน้าต่างที่นั่งก็จะหันหน้าเข้าข้างในซะงั้น ไม่ได้หันออกทางหน้าต่าง

เลาน์จบิสซิเนสของยูไนเต็ดที่สนามบินนาริตะเคยมีโอกาสได้ไปแวะใช้เช่นกันค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปอาบน้ำ แวะไปกินซูชิ
และชาเขียวร้อน

กระทู้นีัมีประโยชน์มากๆ รบกวนคุณ ctanta จขกท. หรือ ท่านอื่นๆ ที่สามารถกดเก็บเข้าคลังกระทู้ได้ช่วยเก็บเข้าคลังแสง
ด้วยนะคะ เพื่อคนข้างหลังที่จะเข้ามาหาข้อมูลค่ะ ขอบคุณค่ะ

อ้อ คุณ ctanta คะ ดิฉันไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ของเครื่องบินรุ่นไหนเลยนะคะ และดิฉันไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวกับ
การบินใดๆ ทั้งสิ้น แต่ดิฉันตอบจากประสบการณ์ในการที่มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นประจำมาเป็นเวลานับสิบๆ ปีค่ะ
เห็นบ่อยๆ ขึ้นบ่อยๆ หรือมองออกไปนอกหน้าต่างเวลาที่อยู่ตามสนามบินต่างๆ หรือมองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบิน
ที่ตัวเองนั่งอยู่ก่อนเครื่องขึ้น และ หลังเครื่องลง ก็ได้เห็นเครื่องบินอื่นๆ ของหลายๆ สายการบินที่จอดอยู่ตามสนามบินต่างๆ
เห็นบ่อยๆ ก็จำได้เอง ได้ใช้เอง ได้สัมผัสเองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
คุณ โจ ครับ เรื่องระบบขับเครื่องบินที่แตกต่างกันระหว่าง Airbus ที่ใช้ระบบอิเลคทรอนิคส์ Fly by wire ซึ่งควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ กับ Boeing ที่ใช้ระบบ conventional control column and yoke นั้นมีข้อถกเถียงถึงความแตกต่างอยู่มากมายหลายแหล่ง แต่ผลสรุปแล้วโดยความเห็นของนักบินส่วนใหญ่เห็นว่า ระบบขับ Fly by wire ของ Airbus นั้นสะดวกสบายและง่ายดายกว่าระบบ control column ของ Boeing ถ้าใครอยากอ่านความเห็นของนักบินมืออาชีพต่างๆ ที่ถกเถียงกันในเรื่องนี้แล้่ว ผมมี links ให้หาอ่านได้ครับ

ที่คุณระบุถึงอุบัติเหตุเครื่องบินลงฉุกเฉินในแม่น้ำที่แมนฮัตตันและบอกว่าเป็นเพราะระบบขับเครื่องบินของ Airbus ผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี่มาก่อน ถ้าเป็นด้วยเหตุผลนี้จริงๆ ย่อมต้องก่อให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือแก่ผู้ผลิต Airbus และต้องปรากฏเป็นข่าวใหญ่โตต่อสาธารณะแล้ว แม้แต่เครื่อง A380 ก็ยังเป็นระบบขับแบบ Fly by wire ก็ไม่มีผลกระทบต่อจำนวนการขายเครื่องแต่อย่างใด ถ้าจะมีปัญหาก็จะเป็นเรื่องการล่าช้าในการส่งเครื่องบินตามกำหนดเสียมากกว่า เรื่องความปลอดภัยนั้นจึงสรุปได้ว่า ทั้งสองระบบมีความปลอดภัยเท่าเทียมกัน แต่เหตุผลที่ได้เปรียบที่สุดของระบบ Fly by wire นั้นคืออุปกรณ์ติดตั้งน้อยกว่าทำให้น้ำหนักของเครื่องบินเบาลงซึ่งส่งผลเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงของเครื่องบิน ส่วนความรู้สึกของนักบินที่บอกว่าระบบของ Boeing ให้ความรู้สึกเหมือนได้ขับเครื่องบินจริงๆ อันนี้คงเป็นความจริง แต่เอาเข้าจริงเมื่อต้องทำงานเป็นนักบินที่ต้องบินเป็นประจำแล้ว สุดท้ายความสะดวกสบายเป็นสิ่งที่พึงประสงค์มากกว่า

ผมตัดเอาบทความที่สรุปความได้เปรียบของระบบ Fly by wire ที่ลงอยู่ใน Blog on Civil Aviation มาให้อ่านด้งนี้ครับ

"In an industry where we see more and more standardization and airplanes looking the same, system architecture similarities, it is remarkable to see that when it comes to fly by wire flight controls of the primary systems, how the two manufacturers have such different philosophies.

After reading all the great information, I must say that the Airbus system has more advantages with less disadvantages than the Boeing system. Here is why:

* Easier to program handling characteristics of vastly different family types with the sidestick concept versus the force feel concept
* Lower overall components and parts weight with the sidestick, while the column also requires a few more inches of cockpit length for column displacement.
*Less parts, and less wear and tear with the sidestick concept
* Flying a flight path trajectory with auto trim reduces pilot workload more than the 777 philosophy
* The Airbus system can deliver all it can out of the airplane in emergency situations by more automation with less workload to the pilots: emergency descent, traffic collision avoidance, windshear escape, etc.
* The 777 philosophy on the other hand seems to make the pilot more connected to the flying automation
* The 777 controls give a better idea to both crews on what the other guy is doing

* I am not sure that having the pilot the capability to override has any benefit in the 777. For example, if the pilot want maximum lift, he gets maximum attainable lift on the Airbus, if the pilot wants to avoid a potential collision, the Airbus system still provides huge bank and g limits.

IMO the Airbus system is better and that Boeing is stuck with a control column and yoke to mimic old way of flying that is good, but could be much better. I would say this is the only drawback of the B787 as they seem like they got the rest of this plane and th 777 right. Imagine if the Space Shuttle kept a column and yoke.

สำหรับเรื่องความชอบของผู้โดยสารต่อเครื่องบินแต่ละแบบ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องรสนิยมความชอบส่วนตัวของแต่ละคน คงจะเอามาเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าค่ายไหนดีกว่ากันไม่ได้ สิ่งบ่งชี้ที่ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนอยู่ที่ว่า เครื่องรุ่นใดของค่ายไหนได้รับการสั่งซื้อมากกว่ากันเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจสายการบินต่างหาก

ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
คห 37 ถ้าคุณเบิกเนตรดูเสียบ้างก่อนที่จะเที่ยวปากเปราะเราะรานชาวบ้าน ก็จะเห็นอยู่ว่าบนรูปภาพที่โพสต์นั้นมีแหล่งของรูปถ่ายเขียนอยู่ว่า AirlineReporter.Com ไอ้การที่คุณเป็นแค่นักท่องเที่ยวเดินทางได้แค่นั้นถึงได้ผิดแล้วผิดเล่าเรื่องเครื่อง Boeing 777-300er ไม่ใช่อย่างที่อ้างว่าคุณพิมพ์ผิดว่าเป็นเครื่อง Airbus

แล้วก็หัดเป็นคนกล้าหาญ ถ้าจะตำหนิใครก็ขอให้ระบุชื่อและอ้างถึงอย่างตรงไปตรงมา อย่าเที่ยวได้แอบกัดเล็กเห่าน้อย เสียชื่อคนที่ไปอาศัยในประเทศสิงคโปร์ที่ได้เที่ยวอ้างอยู่เสมอว่า เป็นประเทศพัฒนาแล้วและซื่อสัตย์ติดอันดับโลก


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
คิดว่า ยังไงก็ค่อยๆ คุยกันนะครับอาจเกิดการผิดพลาด หรือเข้าใจผิดใด้
ผมอ่านและเห็นบ่อยเกี่ยวกะการโพท ตอบกันหลายๆห้อง แล้ว ทำให้บางท่าน
ตอบกลับแล้ว ค่อนข้างจะรุนแรง ซึ่งจริงๆแล้ว ข้อความหรือ ความคิดเห็น อาจเกิดความผิดพลาด ขึ้นใด้ ตามตัวอักษร ครับ อะไรที่ข้ามใด้ ก็น่าจะดีด้วยกันทั้ง๒ฝ่าย นะครับ
ยังไงมาถึงขั้นจุดนี้ ก็ขอให้ คุณ Bagheera ใจเย็น ไว้ก่อน ครับ
คนไทยด้วยกัน น่าจะเข้าใจกันดีกว่า ชาติอื่นๆ นะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
ขอบคุณครับคุณ chanta ที่แสดงความเจตนาดี ผมตระหนักถึงข้อคิดที่คุณกล่าวถึงมาอย่างดี แต่ถ้าผมจะกระแทกใครกลับแล้วหมายถึงผมพิจารณาแล้วอย่างรอบคอบว่าสมควรทำกับใคร และแบบไหน? ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าปฏิบัติการกับคนส่วนใหญ่ในบอร์ดที่แสดงความคิดเห็นกันอย่างปกติ

ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
เสียดายไม่ใช่ตัวยิ้ม เลยให้ Gift คุณ Bagheera ไม่ได้
ได้ความรู้มากขึ้นโขเลย ขอบคุณ จขกท ด้วยที่ทำให้ได้อ่านอะไรมีสาระดีๆแบบนี้ด้วย
แต่ขอฝาก จขกท ซักนิดว่า ไม่รู้อะไรซะแว้วว เลยเข้าใจผิดแบบคนมองโลกในแง่ดี อิๆ ^^
ลิสท์โจทก์ คห 37 น่ะนะยาวเฟื้อย ก่อเรื่องไว้แยะสุดๆ
แต่คนอื่นขี้เกียจจะขุดคุ้ยมาประจาน (เยอะจัดเกินบรรยาย -''-)
สั้นๆว่า ชอบแว้งแอบกัดเล็กกัดน้อยไม่(กล้า)ระบุชื่อหลายคน
แต่กัดแต่คนเดิมๆเลยรู้กัน ถ้าสุดท้ายเถียงอะไรไม่ได้ ก็เนียนหายเงียบ
แต่ทำเป็นไปชิ่งกัดกระทู้อื่น (ลองสังเกตไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นเอง
เดี๋ยวนี้ชีไปตอบกระทู้ไหน คนออกมาขัด+อัดไม่เคยซ้ำไอดีกันเล้ย ^^
แนวว่า สร้างศัตรูไว้เต๊ม แต่ไม่กล้าชนใครตรงๆ ดีแต่เป็นอีแอ๊บเอา หนีไปกัดที่อื่นต่อไปเรื่อยๆ :p)


ตอบกลับความเห็นที่ 42