Invitation Letter สำหรับยื่นขอวีซ่า ถ้าคนออกจดหมายอยู่ประเทศไทย เขาเชิญเราได้ไหมคะ

ก็ให้เขาออกให้เหมือนเดิมคะ.....เวลายื่นเขาดู Invitation letter ที่แฟนคุณส่งให้ เขาไม่ได้ขอดู GPS ว่าแฟนคุณอยู่ที่ไหนตอนนี้

สำหรับคุณความคิดเห็นด้านบน
เขาไม่ได้ขอดู GPS
แต่แค่ทางสถานทูตตรวจสอบประวัติ โดยมีแค่ชื่อ ก็ทราบได้แล้วค่ะ ว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ประเทศบ้านเกิด แต่อยู่ประเทศไทย
แล้วในกรณีที่ไม่บอกความจริงทั้งหมด เราว่ามีสิทธิ์ถูกปฏิเสธวีซ่า

เราไม่แน่ใจว่าควรบอกไปตามตรงว่าแฟนอยู่ที่เมืองไทย และกำลังจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดด้วยกัน (โดยให้แฟนของคุณเขียนหนังสืออธิบาย)ดีหรือเปล่า

ทางที่ดี ควรโทรไปถามสถานทูตประเทศนั้น ๆ โดยตรงน่าจะชัวร์สุดค่ะ เพราะคิดว่าเคสแบบนี้น่าจะเคยมีมากแล้วบ้าง

"เอกสารอื่นๆของเราทั้งหมด เราสปอนเซอร์ตัวเอง100%"

ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ไม่เห็นจะต้องอ้างแฟน หรือถ้าจะอ้างแฟน ก็ไม่จำเป็นต้องส่งหลักฐานการเงินของแฟน (หรือจำเป็นต้องส่งทั้งหมด / หรือส่งแค่พวก หลักฐาน identity ที่อยู่ ไม่รู้ว่าขอไปประเทศอะไร) ก็ไปเที่ยวด้วยกัน ไปเยี่ยมบ้านแฟน ณ ประเทศนั้น ๆ ด้วยกัน ถ้าตัวคุณมีหลักฐานการเงิน การงาน มั่นคงแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

ก่อนอื่น ขอ'นุยาดขำ คห. 1 เรื่อง GPS ก่อนค่ะ

_______________________

ส่วนตรงนี้ มาช่วยตอบกระทู้นะคะ คือ ทุกๆ อย่างให้ตอบตามจริงค่ะ ให้แฟนของคุณ จขกท. เขียนจดหมายเชิญตามปกติค่ะ
แต่ให้ระบุว่า ในตอนนี้เขามาอยู่เมืองไทยแล้ว โดยมาทำงาน และ จะกลับไปเยี่ยมบ้าน และ จะพาคุณ จขกท. ไปเที่ยว
เหมือนที่คุณ จขกท. เคยไปมาแล้วหลายครั้งค่ะ

ในกรณีนี้ คุณ จขกท. ไม่ได้สปอนเซ่อร์ตัวเอง 100% นะคะ เพราะถ้าจะสปอนเซ่อร์เอง 100% แฟนของคึณไม่เกี่ยวค่ะ

แต่ถ้าจะไปพักที่บ้านของแฟนที่ ตปท. หรือ บ้านพ่อ-แม่ของแฟนที่ตปท. หรือ บ้านเพื่อนบ้านญาติพี่น้องของแฟนที่ ตปท.
ก็ถือว่าแฟนของคุณหรือคนโลค่อลในประเทศนั้นๆ มีส่วนร่วมในการสปอนเซ่อร์สนับสนุนทริปนี้ของคุณค่ะ

พี่ขอสรุปให้ฟังสั้นๆ เลยนะคะว่า ให้ขอเหมือนเดิมตามปกติ ตามที่เคยทำในทุกๆ ปีที่ผ่านมา เพียงแต่ในเนื่อความของ
จดหมายเชิญให้ระบุว่าแฟนของคุณมาอยู่เมืองไทยแล้ว โดยมีสัญญาจ้างงานถูกกฏหมาย ไม่ได้มาอยู่แบบนักท่องเที่ยว
และให้ถ่ายสำเนาเวิร์คเพอร์มิท แนบส่งไปด้วย พร้อมสำเนาพาสปอร์ต และ ถ้าขอได้ให้แฟนของคุณขอใบรับรอง
จากเจ้านายฝรั่ง หรือ จากฝ่าย HR ของที่ทำงานของเขาด้วยค่ะ รับรองตำแหน่ง เงินเดือน วันเร่ิมทำงาน และ วันลาหยุด
ในทริปนี้

และในจดหมายเชิญของแฟนของคุณ ให้ระบุด้วยว่า พวกคุณสองคนจะไปพร้อมกัน และ กลับพร้อมกันค่ะ (หรือต่างคนต่าง
บินกันคนละไฟล์ทก็ได้ แล้วไปนัดเจอกันที่ ตปท. ค่ะ)

ทำ Itinerary ส่ง, แนบใบจองตั๋วเครื่องบินในไฟล์ทเดียวกัน หรือ คนละไฟล์ทก็ได้ หรือ ถ้าออกตั๋วแล้วทั้งสองคนก็ให้แนบ
สำเนาตั๋วอีทิคเก็ตค่ะ

ไม่ยากค่ะ ไม่ต้องคิดซับซ้อน แต่ให้แจ้งสถานทูตตามความจริงทุกประการ และ ยื่นเอกสารตามจริงค่ะ
นี่คือหัวใจสำคัญของการขอวีซ่าค่ะ

เห็นด้วยกับคห สอง ควรบอกความจริงค่ะ ถ้าคุณเป็นแฟนกัน ในกรณีคบกันจริงจัง ในระหว่างที่อยู่เมืองไทย เอกสารต่างๆ เช่น รูปถ่ายที่ไปเที่ยวด้วยกัน สมควรมีวันที่และปี เอกสารการเงินเช่น เปิดบัญชีที่ไทยร่วมกัน มีบัญชีเข้าออก ในเรื่องค่าใช้จ่าย หรือถ้าอยู่ด้วยกัน เอกสารในการเช่าบ้านร่วมกัน เป็นต้น ทั้งหมดแปลเป็นภาษาอังกฤษ จดหมายของแฟนรับรองว่า คบกันในฐานะแฟน แล้วต้องการสปอนเซอร์ไปเยี่ยมบ้านเขาค่ะ จดหมายรับรองจากเพื่อนๆว่าเราคบกันจริง ลองเข้าไปดูเว็ปไซค์ในการขอวีซ่าในประเทศของเขาซิค่ะ ฐานะแฟน หลักฐานก็คล้ายๆกับคนที่แต่งงานแล้วน่ะค่ะ เพราะต่างชาติ เขาก็ไม่ได้จำเป็นว่าคุณต้องจดทะเบียนสมรส แต่ถ้าอยู่ด้วยกัน คบกันแบบ PARTNER น่ะค่ะ

ขอโทษจริงๆ ตัวเองตั้งกระทู้ไว้ แต่ลืมสนิท เลยไม่ได้กลับมาดู
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแนะนำนะคะ
เรื่องการสปอนเซอร์ตัวเอง 100% นั้น เราแจกแจงเพื่อแสดงว่า มันเหมือนกรณีที่เราเดินทางไปท่องเที่ยวธรรมดาน่ะค่ะ
แต่ทีนี้ตามปกติ เวลาขอ tourist visaเราต้องแสดง route การเดินทาง ต้องแสดง itinerary
ต้องแสดงหลักฐานการจองที่พัก จองพาหนะเดินทางต่างๆ (ยกเว้นตั๋วเครื่องบิน) ใช่ไหมคะ

แต่ที่ผ่านมา Invitation letter มันตอบโจทย์ทั้งหมด คือเราไม่ต้องยื่นเอกสารเหล่านี้เลย
ตามที่คิด การยื่นหลักฐาน financial ของตัวเอง ช่วยได้มากกับการที่สถานฑูตจะพิจารณาออกวีซ่าให้
เพราะมันแสดงว่า เรามีภาระผูกพันต้องกลับประเทศเราและและมีรายได้มีสม่ำเสมอจากการทำงานเอง แสดงถึงการสามารถรับผิดชอบตนเองตลอดการเดินทาง
และในความเป็นจริง เราไปพักที่บ้านแฟน จริงๆ และเดินทางไปประเทศต่างๆภายใต้ shengen visa
ซึ่งทำมาตลอด แบบนี้ ได้โดยไม่เคยมีปัญหา

ตอนนี้ยังไม่เดินทาง เพียงแต่วางแผนไว้ล่วงหน้า คำแนะนำของพวกคุณช่วยเราได้เลยค่ะ
ถ้าไม่มานี่ เรานึกไปไม่ถึงเลยนะ ว่า ควรใช้หลักฐานของแฟนมา submit ด้วย
เห็นด้วยเรื่องพูดความจริง และเราคิดว่า คงให้แฟนออก invitation letter เหมือนเดิม แต่เขียนรับรองเพิ่มอย่างที่คุณ pinnylovely แนะนำ
แต่คงเอา work permit ของเขาแนบไปด้วย (ยังไงก็ไม่ยอมเขียน itinerary อยู่ดี ขี้เกียจไง..)
เรื่องการเปิดบัญชีร่วมคงไม่มี เพราะเราขี้เกียจวุ่นวายเรื่องเอกสาร ยังไงการเดินทางครั้งต่อไป ก็ยัง support ตัวเอง 100%ตามปกติ
คงไม่มีหลักฐานความสัมพันธ์ใดๆนอกจากรูปถ่ายมั้งนะคะ เรื่องนี้คงปรึกษาสถานฑูต
ไม่รู้ว่า profile เก่าจะช่วยได้ไหม เพราะตลอดมา ถ้าสถานฑูตเช็คดู จะเห็นว่า invitation letter เราออกโดยแฟนมาตลอด

เรื่องจะไปสอบถามสถานฑูต ก็คิดว่า จะทำเมื่อถึงเวลา
แต่พูดตรงๆ ค่อนข้างจะเอือม service ของสถานฑูตที่กว่าจะเข้าถึง เจ้าหน้าที่ มันแสนจะยากเย็นเสียจริง
กว่าจะต่อสาย....โอ้ยยย...
เลยมาสอบถามคนมีประสบการณ์ที่นี่น่ะค่ะ ขอบคุณจริงๆเลยค่ะ

กด gift ขอบคุณให้ทุกคน
ยกเว้นคุณ been there, done that อ่ะนะคะ
ของคุณกดให้ไม่ได้ เลยมาขอบคุณคุณด้วยวาจาอีกทีค่ะ

ขอให้ จขกท โชคดีน่ะค่ะ