เรียนโท ที่ ต่างประเทศ เรียนยังไงครับ

อยู่ในขั้นหาข้อมูลนะครับ คือสงสัยว่า เรียนโท ที่ต่างประเทศ แบบในอังกฤษ ระยะเวลา 1 ปี กับในยุโรปบางที่ ระยะเวลา 2 ปี

มันแตกต่างกันไหม แล้ว ถ้ามีเวลามากถึง 2 ปี อย่างนี้จะเรียกว่าถือว่าผ่อนคลาย และปรับตัวได้ง่าย กว่าที่ อังกฤษ ไหม

คือ กลัวว่าจะเรียนไม่ได้ (ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเตรียมตัวเลย) คือเรายังไม่ได้สอบภาษา และก็ภาษาอังกฤษเราก็ถือว่าอยู่ในขั้นปานกลาง (รึเปล่า) กลุ้ม ๆ อยู่ (กลัวจะเรียนไม่จบแย่เลย)

ส่วนตัว เราสนใจที่ยุโรป แถบสแกนดิเนเวีย สก๊อตแลนด์ อังกฤษ เทือกนี้ครับ เห็นว่าบางที่มี 2 ปี แล้วก็อยากจะอยู่แบบนานๆ ภาษามันน่าจะพัฒนามากกว่า 1 ปี

ปล. โทด้านกฎหมายนะ (ไม่ได้เอามาเรียนเพื่อสอบผู้ช่วย ฯ สนามจิ๋วนะ) คือทำงานในหน่วยงานราชการเลยอยากจะไปเรียนเพิ่มเติมความรู้และภาษา

ความคิดเห็นที่ 1
ต้องดูที่ หลักส๖รค่ะว่า เค้ามีตารางการเรียนอย่างไร 1 ปี อาจเรียน แบบไม่ต้องทำ thesis แต่ในทุกรายวิชาต้องทำรายงานส่ง อาจจะรายงาน 5000 คำ or assignment 3,500 or more ในเชิงการวิเคราะห์ด้านกฎหมายที่เรียนนั่นแหละค่ะ ส่วน 2 ปี คงต้องทำ thesis ค่ะ

เพราะ หาก จะมาเรียน เพื่อภาษาและเพิ่มเติมความรู้กฌเรียนแบบ certificate or diploma ก็ ได้ค่ะ

เพราะหากจะเรียน โทเรียน เรียน 2 ปี ค่ะ ไปเลย เพราะว่า หาก ทำ thesis แล้ว จะต่อเอกได้ บาง มหาลัย ที่ นอก บางครั้ง ไม่รับ โทที่เรียน 1 ปี ค่ะ เพราะ ว่า ไม่ได้เรียนการทำวิจัยมาก อันนี้ ประสบการณ์ส่วนน่ะค่ะ บางทีอาจรับ ด้วย profiles ที่ ทำวิจัยมาบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
หลักสูตร 1ปีเคยดูมาจะเป็นทำ IS มังครับ
ที่ไทยก็มีที่ AIT ครับ เรียนเทอมหนึ่งประมาณ 3-4วิชา 3เทอม เทอมละ 3-4เดือน
เรียนวันธรรมดาและอาจมีเสาร์อาทิตย์บ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ปกติในสาขากฎหมาย ... ทางฝั่งอเมริกา ยุโรป อังกฤษ ล้วนใช้หลักสูตร 1 ปี ในการศึกษาจบปริญญาโท

น้อยมากที่จะมีหลักสูตร 2 ปี ส่วนมากหลักสูตร 2 ปี มักจะเป็นพวก Part-time LLM มีแค่ไม่กี่หลักสูตรที่ full-time แล้วยังเป็น 2 ปี

ดังนั้น คุณควรเปรียบเทียบหลักสูตรทั้งแบบ 1 ปี และ 2 ปี Full-time ว่ามันต่างกันอย่างไร วิชาที่จะต้องลงเรียนบังคับกี่วิชา หลักสูตร 2 ปีบังคับเรียนกี่วิชา

การเรียนหลักสูตร 1 ปี สามารถใช้สมัครเรียนต่อป.เอกได้ เพราะที่ไหนๆก็เรียนโท 1 ปี ทั้งนั้น ที่ฝรั่งเค้ากำหนดหลักสูตรมาแค่ 1 ปี ก็เพราะมันเพียงพอต่อการต่อยอดนำไปทำงานแล้ว และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะค่าเทอมค่ากินอยู่ในต่างประเทศแพง ส่วนใหญ่เค้าก็ทำงานหาเงินมาเรียนกันเองเพราะพ่อแม่ไม่ได้ส่งเรียนเหมือนคนไทย ดังนั้น มาเรียนต่อก็เสียเวลาำทำมาหากิน ต้องใช้เงินเก็บมากินอยู่ระหว่างเรียน หลักสูตร 1 ปี จึงไม่เป็นภาระมากเกินไป

ใน USA เรียนหลักสูตร Coursework เพียวๆ ไม่มี IS หรือ Thesis ก็สามารถเรียนต่อป.เอกได้ เพราะ USA ส่วนใหญ่ไม่บังคับทำ IS หรือ Thesis ส่วนในยุโรป หลักสูตรส่วนใหญ่บังคับเขียน paper จบหรือ Thesis อยู่แล้ว ยังไงเรียนไปก็มี paper ไปใช้ต่อป.เอกอยู่ดี ไม่ว่าจะอยากเขียนหรือไม่ก็ตาม

จะเรียนต่อได้หรือไม่ แนะนำให้ลองสอบ IELTS หรือ TOEFL ดูก่อน จะสามารถประเมินตัวเองได้มากพอควรว่าจะเรียนต่อไหวหรือไม่ มาถามตอนนี้ก็คงไม่มีใครตอบได้ว่าคุณจะเรียนไหวหรือไม่ ถ้าบอกว่าสอบโทเฟลได้ 250 PBT แบบนี้ คงบอกได้ว่า อย่าเพิ่งไปเรียนเลย ไปเรียนภาษาก่อนจะดีกว่า ถ้าสอบได้ 500+ ก็อาจบอกได้ว่า คุณพอไปไหวแล้วนะ

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น หน่วยงานจ่ายให้้หรือได้ทุน จะหาหลักสูตรเรียน 2 ปี ก็ไม่มีปัญหา ไม่มีใครขัดข้องอยู่แล้ว

เรื่องภาษา...คุณจะได้ภาษาคล่องหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่หลักสูตรเรียน 1 ปี หรือ 2 ปี แต่อยู่ที่คุณไป hangout กับฝรั่งบ่อยหรือไม่ ถ้าคุณเอาแต่อ่านหนังสือ (ซึ่งส่วนใหญ่เด็กกฎหมายจะเป็นแนวนั้น เพราะเจอปัญหาไม่ชินภาษาและ assignment ให้อ่านเยอะ ทำให้ไม่มีเวลาออกไปไหน (ฝรั่งจะไม่มาเข้าคลาสสอนทฤษฎีกฎหมายคุณว่ามาตรา 1 ว่างี้ มาตรา 2 ว่างี้ แต่จะ assign งานให้อ่านว่า อาทิตย์นี้ให้อ่านตำราหน้าไหนถึงหน้าไหน แล้วไป discuss กันในคลาส ดังนั้น คุณต้องรู้มาตราต่างๆและทฤษฎีต่างๆไปเอง แล้วไปถกปัญหาในคลาส) พอคุณได้ assignment มามากๆ (หลายวิชาก็เป็นร้อยๆหน้า) ช่วงแรกๆที่คุณยังปรับตัวไม่ได้กับทั้งภาษาและกฎหมายที่ต้องเรียนรู้ใหม่ คุณจะจมอยู่กับตำราทั้งวันทั้งคืน เพื่อที่จะได้ไปเรียนในคลาสรู้เรื่อง แล้วก็จะเครียด จนไม่มีอารมณ์ออกไป hangout กับใคร

แต่ถ้าภาษาคุณดี คุณอ่านปรื๊ดๆๆๆๆก็เข้าใจ คุณก็มีเวลาไป hangout ได้เยอะ ไปงานปาร์ตี้ ไปผับกับฝรั่ง ซึ่งนี่คือตัวช่วยให้คุณได้ภาษา ตำราจะให้คุณแค่การอ่านกับการเขียน แต่ภาษาพูดคุณจะได้จากการเที่ยวกับเพื่อน และต้องไม่หมกอยู่กับคนไทยด้วยกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ลืมบอกไป ปกติตปท.จะไม่อนุญาตให้ Student Visa ลงเีรียนหลักสูตร Part-time ต้องเีรียน Full-time เท่านั้น

ดังนั้น คุณควรตรวจสอบให้ชัดแจ้งว่า หลักสูตร 2 ปี ที่คุณสนใจเป็นหลักสูตร Part-time หรือ Full-time ถ้าเป็น Full-time ก็เรียนได้


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณทุกความเห็นครับ

ผมก็ว่าจะเตรียมตัวเรียนต่อมานานแล้วครับ จริง ๆ แล้วน่ะ แต่ด้วยความลังเลใจมากช่วงนึงว่าจะสอบทำงาน หรือจะเรียนต่อ สุดท้ายก็สอบทำงานติด (ตอนนั้นก็ทำงานอยู่ที่เดิมจนถึงปัจจุบันนี้) ติดที่ศาลปกครอง เป็นพนักงานคดีปกครองปฎิบัติการ

ตอนนี้รอเรียกจะไปบรรจุเป็นข้าราชการอยู่ เลยเลิกล้มความคิดเรียนต่อไปช่วงนึง แต่ด้วยความอยากไปเรียนอ่ะ ขอครั้งหนึ่งในชีวิตเถอะ ก็คิดว่าจะเรียนหลังจากบรรจุเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้อีกว่าจะลาศึกษาได้รึเปล่า แต่ก็แอบลุ้น ๆ อยู่

ที่เห็นว่า มีโปรแกรม 2 ปี แบบ Full time ก็ที่ฟินแลนด์ อ่ะครับ สนใจครับ และก็เรียนฟรีด้วย (จะไปต่อทางด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม) ซึ่งอาจจะนำความรู้ หรือ ภาษาไปใช้ทำงานในองค์กรได้

เรื่องทุนที่ศาล ก็จะเป็น ทางด้านกฎหมายมหาชน ต่อที่ฝรั่งเศส เยอรมัน อะไรอย่างนี้ ใช้ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ซึ่งผมอยากเรียน แบบ English Program น่ะ มันก็เลยขัดแย้งในใจ

ยังไงก็จะลองดูสักครั้งครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ผมไม่แคร์ ว่าจะต่อป.เอก รึเปล่า คือมันนานเกินไปนะครับ คงจะไม่ไหว คิดถึงบ้านแล้วเรื่องลาศึกษาด้วยน่าจะลำบาก


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เรียนเมืองไทย สิ จะได้ไม่ต้องคิดถึงบ้าน


ตอบกลับความเห็นที่ 7