อยากทราบเว็บไซส์หาโรงเรียน (Public school) ให้ลูก ที่อเมริกา

จขกท ถือกรีนการ์ดสองปีค่ะ ตอนนี้กำลังขอวีซ่า CR2 เอาลูกชายมาอยู่ แล้วก็มาเรียนต่อที่นี่ จะให้เขามาต่อมัธยมปีที่ 1 ปีหน้าที่อเมริกาค่ะ กำลังรอวีซ่าอยู่
ตอนนี้กำลังมองหาโรงเรียนที่เป็น public school ให้ลูกอยู่ มีคำถามดังนี้ค่ะ
1) อยากทราบเว็บไซส์หาโรงเรียน (Public school) ให้ลูกที่อเมริกาค่ะ
ดิฉันอยู่รัฐฟีนิกซ์ อริโซน่า ได้ยินว่าถ้าเป็น Public school เราต้องให้ลูกเรียนโรงเรียนในเขตที่ใกล้บ้านเราเท่านั้น
2) มีเว็บไซส์ที่เราจะสามารถเช็ค rating ของโรงเรียนไหมคะว่าเป็นอย่างไรน่ะค่ะ
3) ถ้าจะมาต่อมัธยมหนึ่งที่อเมริกาปีหน้า ไม่ทราบว่าโรงเรียนเปิดเทอมเมื่อไหร่ค่ะ ลูกจะจบปอหก ปีหน้าเดือน มีนา เมษายน จะทันไหมคะ
4) ถ้าลูกมาถึงที่อเมริกาแล้ว เราจำเป็นจะต้องให้เขาเรียนปรับภาษาก่อนเข้าโรงเรียนที่อเมริกาไหมคะ
เอกสารที่ใช้ในการสมัครเข้าเรียนต่อโรงเรียนที่อเมริกา ต้องใช้ใบทรานสคริปที่จบมอหก แล้วต้องมีเอกสารอะไรอีกไหมคะ อย่างเช่น ใบเกิด ใบฉีดวัคซีน จะได้เตรียมมาจากไทยน่ะค่ะ
หลายคำถามหน่อย ขอบคุณที่ช่วยตอบนะคะ

ความคิดเห็นที่ 1
http://www.greatschools.org/


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณค่ะ ลองไปเสริชดูแล้ว ขึ้นเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ แล้วเราจะรู้ได้ยังคะว่า เราต้องเลือกโรงเรียนไหน คือได้ยินว่าต้องเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตที่เราอาศัยอยู่เท่านั้นใช่ไหมคะ หรือว่าเราสามารถเลือกโรงเรียนไหนก็ได้ในลิสที่มีอยู่นะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ก่อนอื่น ดูก่อนว่า บ้านของคุณอยู่ในเขตที่ไป รร.ใด ลูกคุณต้องไป มิดเดิลสคูล
http://phoenix.gov/residents/education/schools/schooldistricts/index.html

พอได้ชื่อ รร. ในเขตที่ลูกจะไป เอาชื่อ ไปหาเรทติ้ง จาก เวบที่ คคห 1 ให้มา รร. เปิดเทอมกลางสิงหา บางรัฐเปิด พย. แล้วแต่ รร. จะจัดคลาส เรียนภาษาให้ลูกคุณเอง แต่ถ้าจะพามาตั้งแต่ จบป หก ซึ่งเมืองไทยก็จะประมาณ มีนา ก็เอามาพาไปเรียนภาษาก่อนเลย จะได้ไม่ลำบากนักเมื่อเปิดเทอม ใบฉีดวัคซีนต้องเป็นใบที่ ออกเป็นภาษาอังกฤษและมีตรารับรองจาก รพ. เรื่องใข้อะไรบ้างมาจากไทย ใบเกรดต่างๆ ไม่มีความรู้ รอ คคห ต่อไป


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ช่วยเสริมจากความคิดเห็นด้านบนนะคะ
ปกติต้องเรียนในเขตอย่างที่คุณเข้าใจค่ะ เพราะรถ รร.รับส่งเด็กในพื้นที่ คงมีเรียนข้ามเขตได้ แต่เราไม่ทราบข้อมูลค่ะ
ส่วนเรื่องเรียนภาษาอังกฤษ ที่ รร.จะมีสอนพิเศษเด็กที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังฤษเป็นภาษาหลัก บางที่อาจจะให้เรียนช่วงซัมเมอร์ ก่อนเปิดเรียนจริง บางที่อาจจะให้เรียนเสริมหลังเลิกเรียน
บางที่อาจจะให้ไปเรียนร่วมกับเด็กชั้นคินเดอร์ หรือ เกรด1 อาจจะเรียนทุกวัน วันละหนึ่งชั่วโมง (อันนี้สำหรับประถม ลูกคุณคงไม่อยู่ในข้อนี้ เพราะเข้ามิดเดิ้ลสคูลแล้ว) แล้วแต่พื้นภาษาอังกฤษของเด็กและชั้นเรียนที่เด็กจะเข้าเรียนนะค่ะ
ดูว่าต้องใช้เอกสารอะไรจากไทย พอได้ชื่อ รร. ก็เข้าดูหัวข้อ เอกสารที่ต้องใช้ประกอบได้เลยค่ะ ทั่วๆไปก็พวกใบฉีดวัคซีน ทรานสคริปจาก รร.เดิม
ถ้าคุณไม่ชอบ รร.ที่ลูกคุณต้องเข้า อีกตัวเลือกนึงก็คือ รร.เอกชนค่ะ มีทั้ง แคทอลิค คริสเตียน หรือที่เป็นเอกชนไม่อิงศาสนาก็มีค่ะ แต่ค่าเทอมจะแพงมากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
สามรัฐที่เคยอยู่มามีกฏเกณฑ์เหมือนกันหมดดังนี้

Public schooler จะต้องเข้าโรงเรียนที่เรียกว่าZone school หรือ Home schoolโดยใช้เกณฑ์ตามที่อยู่อาศัย(แบ่งตามzip code)

เข้าไปที่ school district ,ใส่ที่อยู่หรือ zip code เข้าไปจะได้ข้อมูล Zone schoolนั่นคือโรงเรียนที่ลูกคุณจะได้เรียน
มีข้อยกเว้นคือพ่อแม่หรือทั้งคู่สามารถร้องขอให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนใกล้ที่ทำงานหลักของพ่อแม่ได้ การขอต้องไปทำเรื่องที่โรงเรียนและ School district

เอกสารที่ถูกเรียกหาคือวีซ่า/SSN และใบฉีดวัคซีนใบเกิดไม่ต้องใช้ ถ้าฉีดไม่ครบทางโรงเรียนจะส่งไปฉีดเพิ่มที่School Health และออกHealth record ใบใหม่ให้ ใบนี้ให้เก็บรักษาให้ดี แทบจะไม่เชื่อเมื่อก่อนมาได้พาลูกไปรับวัคซีนมากมายจากรพ.ที่กงศุงกำหนดแต่พอมาถึงลูกๆทั้งสองต้องไปรับวัคซีนเพิ่มอีกเป็นกระบุง

Hight school โดยมากจะปิดภาคจบประมาณเดือนMay และเปิดอีกที August

ทุกโรงเรียนจะมีโปรแกรม ESL หรือ ESOL แล้วแต่รัฐจะเรียกว่าอย่างไรแต่โปรแกรมเดียวกันคือเป็นการปรับฐานให้นักเรียนที่มาใหม่ ในขณะที่เรียนโปรแกรมนี้เด็กสามารถเรียนวิชาอื่นๆไปได้พร้อมๆกัน

**แก้คำผิด**

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เพิ่มเติม

ทรานสคริบบ์ที่เอามาจากไทยไม่ได้ใช้ก็ว่าได้ มีการขอดูเพื่อเทียบเกรดแต่ลูกก็ได้เรียนตามเกณฑ์อายุ
เด็ก High school มีflexibilities ที่จะสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนอะไร เช่นถ้าลูกเคยเรียนPre-Cal.มาแล้วก็ไม่ต้องเรียนซ้ำอีกแต่ไปเริ่มที่ Cal.ได้เลย เป็นต้น มีการสอบวัดระดับและหรือถ้าผู้ปกครองเห็นว่าเกณฑ์อายุไม่เหมาะกับลูกตัวเองสามารถร้องขอ Challenging testเพื่อขอให้ลูกไม่ต้องเรียนซ้ำ ถ้าผ่านก็ได้เรียนชั้นสูงขึ้นไป อีกนัยหนึ่งถ้าไม่ผ่านก็ต้องเรียนตามเกณฑ์อายุ ทั้งนี้ทั้งนั้นลูกคุณต้องมีSelective และElective credits ให้ครบตามที่กำหนดจึงจะสามารถจบHighฯได้ตามกำหนดเวลา ถ้าไม่ครบไม่ได้หมายความว่าจะไม่จบแต่Summer นั้นๆเขาต้องmake up credits ที่ขาดหายไป

มีเด็กHighฯ จำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถจบหรือจบได้ทันเพื่อนรุ่นเดียวกันเพราะสาเหตุนี้ การลงทั้งSelective and Elective ตามที่โรงเรียนกำหนด per semester จึงเป็นทางเลือกที่ดีและง่ายต่อตัวผู้เรียนเอง

อีกนิดหนึ่งถ้าลูกคุณมีความสามารถและสะสมcreditsในระดับhighฯมามากเขาสามารถเรียนคอร์สที่เป็นCollege creditsได้ นี่คือที่มาของคนที่จบcollege ได้ในระยะเวลา3 หรือ3.5ปีแบบไม่กดดัน


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ เดี๋ยวจะลองไปหาดูค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ขออนุญาตถามแจมนิดนึงนะคะ อยากทราบว่าที่เมกานี่ โรงเรียนของรัฐบาลที่ดีๆ จะขึ้นอยู่กับถิ่นด้วยหรือเปล่าคะ?

คือของออสเตรเลีย ถ้าถิ่นดี โรงเรียนจะดีตาม แต่ถ้าถิ่นแย่ๆ โรงเรียนจะแย่ไปด้วย เรามีเพื่อนฝรั่งอยู่คน ลูกเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับลูกเรา แต่เพราะถิ่นนี้บ้านแพง เขาซื้อไม่ไหว เลยย้ายไปอยู่ถิ่นที่บ้านราคาถูก และย้ายลูกไปอยู่โรงเรียนใกล้บ้าน แต่ย้ายไปได้อาทิตย์เดียวก็ย้ายกลับมา โดยแม่ยอมขับรถรับส่งลูกทุกวัน เธอบอกเหตุผลว่า โรงเรียนที่โน่นแย่มาก ถิ่นใหม่ที่เธออยู่ เธอใช้คำว่า pretty rough

พอคุยกับเพื่อนฮ่องกงที่อยู่มายี่สิบกว่าปี เขาก็บอกว่าโรงเรียนรัฐบาลที่นี่จะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับแอเรียน่ะ เลยสงสัยว่าที่เมกาเป็นแบบนี้หรือเปล่า


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ตรงนะคะ
พาลูกย้ายจากรร.interที่กทม.มาอยู่NY เรียนpublic schoolค่ะ ลูกเป็นเมกัน citizen มาเรียนเกรด3ค่ะ
1.ลูกต้องเรียนในโซนที่เราอาศัยอยู่ค่ะ หลักฐานที่โชว์รร.คือ ใบเสร็จ จำพวกค่าน้ำ ค่าไฟค่ะ
2.มีการ สัมภาษณ์นิดหน่อย บังเอิญภาษาได้ ให้transcriptจากรร.เก่าด้วย ก็ได้เข้าชั้นต่อจากที่จบมาได้เลย
3.ใบฉีดวัคซีนของลูกจากไทย บางตัวทางนี้ไม่approve ลูกเลยต้องฉีดวัคซีนอีกประมาณ7เข็มได้ค่ะ น่าสงสารมาก (ทางรร.จะให้สถานที่ฉีดมาค่ะ)
4 ให้ใบเกิด ทางรร.ด้วยค่ะ
รู้สึกเอกสารต้องใช้เท่าที่บอกมานะคะ
รรชั้นประถมที่NY เปิดต้นเดือนก.ย ดิฉันมาอยู่เตรียมการตั้งแต่เดือนก.คค่ะ
ปอลิง ตอนนี้ลูกกำลังเรียนเกรด6ค่ะ รร.ปิดมา5วัน จากผลของHerricane Sandy(ชื่อฝรั่งดิฉันเลย อิ..อิ) ลูกดี๊ด้าน่าดู
เปิดเรียนวันจันทร์ วันอังคารปิดอีก Election Dayค่ะ
คุณจขกทเตรียมการแต่เนิ่นๆ เป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ
ขอให้มีความสุขกับที่อยู่ใหม่นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เอาชื่อเมืองที่อยู่ ไปเสิร์ชวิกิ อะค่ะ
ท้ายๆบทความของวิกิจะมีรายชื่อสถาบันการศึกษาของเมืองให้ + มีลิงค์ให้ เราก็ตามเข้าไปอ่านดู

สนใจที่ไหนก็ เสิร์ชรีวิวของที่นั่นอ่านอะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ตอบคห.ที่ 8
ดิฉันไม่ทราบว่าที่ออส จะเหมือนที่นี่ไหมนะคะ แต่ว่าที่นี่เรื่อง area ที่โรงเรียนนี้ดิฉันได้ถามเพื่อนฝรั่งแล้วค่ะ เขาบอกว่า ถ้าบ้านเราอาศัยอยู่ในโซนที่ดี ปลอดภัย โรงเรียนที่อยู่ในเขตที่เราอยู่ก็จะดีไปด้วย แต่ถ้าไปอยู่ในโซนที่แย่ โรงเรียนก็จะมีแต่เด็กติดยา ตีกัน อะไรพวกเนี้ยค่ะ เพื่อนฝรั่งบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาย้ายบ้านไปอยู่ในโซนที่ดีๆ ดีกว่า ลูกจะได้เรียนโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมดีๆด้วยน่ะค่ะ ดิฉันถามแฟนแล้ว แฟนบอกว่าโซนที่เราอยู่กันเป็นโซนที่ดี ปลอดภัย ก็เลยโล่งใจไปหน่อยค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่มาแชร์ และขอบคุณทุกคำตอบค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เรื่องเอกสารประวัติใบฉีดยาหากมีก็เก็บให้ดี จำเป็นต้องใช้ รวมทั้งของที่ได้จาก รพ ตอนทำเรื่องใบเขียว เก็บไว้ด้วย ตอนเอามาสมัครเรียน ของผมเป็นของอนามัย (ศูนย์บริการสาธารณะสุขมีบุรี ) ไม่ได้แปลอะไร มาที่นี่ทาง รร จะใน Yellow Card มีสองหน้าระบุประวัติการฉีดยา (นี่ก็ต้องเก็บใช้ตลอดการเรียนของเด็กครับ)ต้องมาไปให้ รพ หรือ หมอเจ้าของไข้เด็กกรอก ตอนมาที่ NY ลูกสาวทั้งสองก็ต้องฉีดเพิ่ม ผมเองลืมเก็บในส่วนที่ฉีดจาก รพ เพิ่มหมอที่ดู ถามผมว่าฉีดอะไรมาบ้างเทียบกับประวัติที่มีอยู่(ภาษาไทย) บางตัวเราไม่ในใจชื่อของมัน หมอก็เปิดเวปแปลภาษาให้ เช่น ฉีดกันคางทูม บาดทะยัก หรือยัง ตอนพาไปฉีดยาลูกสาวคนเล็กต้องฉีด 4 ข็ม คุณเธอร้องไห้กรีดเสียงจนหมอกลัว เอกสารที่ใช้ในตอนนั้น ผมเอา passport ที่มีระบุเป็นresident visa เพราะใบเขียวยังไม่ได้ แต่ได้เลข ssn จากการไปขอเลขมาก่อน เอกสารเรื่องที่อยู่ปัจจุบัน เพื่อใช้ยืนยันเป็นคนในพื้นที่ กับทรานสคริปต์ของ รร เดิม ลูกสาวคนโตจบ ป3 และคนที่สองจบอนุบาล 2 พอมาคุยที่ ps 20 ทาง school co-odinator เทียบอายุ แล้วบอกให้เรียน 3 th grade กับ kindergarten เลย ตอนนั้นเรามาที่นี่ตอนมีนา เป็นช่วงเทอมที่สองแล้วมั้งถ้าจำไม่ผิด ตอนแรกกลัว พวกเขาปรับตัวไม่ได้ เพราะภาษาไม่เป็นกันเลย แต่ครูบอกเด็กปรับตัวไวมาก ลูกสาวคนโตครูจะให้นั่งที่หน้าคอมดูภาษาอังกฤษพื้นฐาน การออกเสียง ยังไม่มีการบ้านหรือร่วมนั่งเรียนในตอนแรก มีงานบางอย่างเท่านนั้นที่ครูให้มาเป็นกระดาษ เช่น เลขมาทำที่บ้านบ้าง
ที่ รร มี เด็กชายไทยอีกคน ที่เป็น citizen ตอนแรกครูบอกให้เป็นเพื่อนช่วยลูกสาว แต่ปรากฎว่า พอเทอมสามที่ลูกสาวผมเริ่มปรับตัวได้แล้ว โดนขอลอกการบ้าน และขอลูกอมประจำ หากกลูกชายของ จขกท มา คงเข้า 6 -7 th grade น่าจะเป็น middle school เรื่องภาษาลูกอาจไม่เก่งเหมือนเด็กฝรั่งที่นี่ แต่ก็มีเด็กที่เป็น hispanic ที่พูดอังกฤษไม่เป็น และผมอยากบอกว่าเด็กไทยก็เก่งปรับตัวได้ดีกว่า แถมเรื่องเลข ทางบ้านเราสอนเร็วกว่า เก่งกว่าเด็กที่นี่ในระดับเดียวกัน
สุดท้ายตอนลูกสาวคนโตจบเกรด 5 ที่ PS20 ครูใหญ่ของ รร ตอนพูดก่อนมอบใบประกาศ ยังได้เอ่ยชื่อลูกสาวผมออกในห้องประชุม บอกแปลกใจ และภูมิใจในตัวเด็กที่เพิ่งมาและเริ่มจากศูนย์ก็ว่าได้ แต่พัฒนาได้อย่างเร็วและดี ขอให้พ่อแม่มีส่วน ส่งเสริมเด็กที่จะอ่านหนังสือให้มาก เด็กปรับตัวเรียนรู้ และเข้าหาเพื่อนได้ครับ เดี๋ยวก็เก่งกว่าพ่อแมเสียอีก ลูกผมตอนนี้ ดูทีวี ไม่ง้อซับไตเติ้ล แถมหัวเราะชอบใจที่ตลกกับมุกอเมริกัน ผมเองยังโง่ ฟังไม่รู้เรื่องสักทีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขออนุญาต จขกท. ขอถามด้วยนะค่ะ

อยากทราบว่า โรงเรียนของรัฐจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างค่ะ

โดยทั่วไป เงื่อนไขต่างๆจะเหมือนกันไหมค่ะ หรือแล้วแต่รัฐ แล้วแต่เมือง

แล้ว วีซ่าต้องเป็นประเภทไหนค่ะ ถ้าเป็น j2สามารถเข้าเรียนได้ไหมค่ะ

ต้องขอขอบคุณ จขกท. และทุกๆ คห.ที่ให้ข้อมูลเลยนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เรื่องโรงเรียนดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับ area เป็นแบบนั้นจริงๆ สมัยที่เป็นนายหน้าขายบ้าน เวลาเราเขียน description ให้กับบ้าน เราจะโฆษณาโดยบอกไปว่า excellent school district หรืออะไรประมาณนั้น เพราะคนที่จะซื้อบ้าน เค้าก็ต้องการให้ลูกไปเรียนใน รร. ดีๆ เค้าก็จะเลือกบ้านที่อยู่ใน area ดีๆ ซึ่งก็แพงกว่าที่อื่นๆไปโดยปริยาย อย่างเช่น southside of Chicago เนี่ย แบบว่าเป็นเขตจนๆซะ 90% นักเรียนตาม public school ก็เป็นแกงค์ เป็นนักเลง ไม่ค่อยใส่ใจในการเรียน ผมเคยมี roommate ที่เป็น high school teacher ตอนเค้าเป็นครูใหม่ๆ เค้าต้องไปสอนตามโรงเรียนพวกนี้ เค้าเล่าให้ฟังว่า มีวันนึง แม่ของเด็กคนนึงมาบอกเค้าว่า วันนี้ลูกสาวเค้ามาเรียนไม่ได้นะ ขอลาหยุดวันนึง เพราะเค้าต้องพาเด็กไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล นี่เค้าพูดถึงเด็กผู้หญิงอายุ 13-14 นะ เด็กบางคนก็เป็น homeless ไม่มีบ้านอยู่ก็มี (เค้าเป็นฝรั่งผิวขาวคนเดียวในโรงเรียน นอกนั้นผิวดำทุกคน ทั้งครูทั้งนักเรียน) ส่วนเรื่องภาษา โรงเรียนที่เค้าสอนอยู่ปัจจุบัน อยู่ใน northside (of Chicago) เป็นโรงเรียนที่ mixed area เอามากๆ คือมีหลายเชื้อชาติ มีทั้งผิวขาว ผิวดำ เอเซีย ยุโรปตะวันออก (อย่างพวกโปแลนด์) บางคนเข้ามาเรียนวันแรก พูดอังกฤษไม่ได้เลย แต่พออยู่ไปซักสองสามเดือน อังกฤษปร๋อเลย แล้วก็เรียนเก่ง เพราะเด็กพวกนี้รู้ดีว่า ตอนอยู่ประเทศเค้า ไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว เค้าก็ทำเต็มที่ ส่วนเด็กอเมริกันจะไม่ค่อยรู้ค่าของสิ่งที่ตัวเองได้รับ เป็น sense of entitlement ของสังคมอเมริกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตอบคุณ murdoch ค่ะ
ถ้าเป็น ร.ร. รัฐแบบของเทศบาลเมืองนั้นๆ เสียค่าบำรุงนิดหน่อยเองค่ะ
เป็นค่ะลงทะเบียน จำไม่ได้แล้วว่า เท่าไหร่แน่ ไม่ถึงปีละ $150 ด้วยซ้ำนะคะถ้าจำไม่ผิด

แต่ถ้าเป็นโรงเรียนรัฐอย่างเช่น Illinois Mathematics and Science Academy
ซึ่งเป็น ร.ร. ประจำ จะเสียค่ากิจกรรม ปีละ ประมาณ $1500
และจะลดลงตามฐานะของผู้ปกครองค่ะ

ขอเสริมคุณ LeePablo773 ในชิคาโกระบบ ร.ร. เทศบาล จะมีกลุ่มโรงเรียนที่คัดเลือกเด็กนักเรียนด้วยค่ะ
เด็กๆต้องสอบแข่งขัน คัดเลือกแต่เด็กที่เรียนเก่งเท่านั้น โรงเรียนเหล่านี้มีอยู่กระจัดกระจายไปทั่ว
แต่ส่วนใหญ่ จะอยู่ในเขตดีๆ จริงๆด้วย
ร.ร.ชั้นประถม 8 ใน 10 ทีีดีที่สุดในรัฐอิลลินอยส์ อยู่ในชิคาโก แต่ที่ไม่ดีที่สุด ก็อยู่ในชิคาโก
เช่นกัน
ร.ร. มัธยมที่ดีที่สุดของอิลลินอยส์ ก็อยู่ในชิคาโก


ตอบกลับความเห็นที่ 15