สอบถามคอร์ส TOEFL ของ อ.ดวงใจ ครับ

พอดีสนใจจะลงเรียน part writing กับ listening ของ อ.ดวงใจ อยู่ครับ เห็นว่าค่าเรียนไม่แพง และหลายๆคนในนี้โพสมาว่าสอนดี

เท่าที่ดูตารางการสอนของ writing คือ จะเรียนเป็น cycle สามารถเข้าเรื่องไหนก่อนหลังก็ได้ แต่สงสัยว่าบางเรื่องที่แบ่งเนื้อหาเป็น 2 ครั้ง เช่น Graph-Chart1 กับ 2
ถ้าเราเข้าเรียน อันที่ 2 ก่อนแล้วค่อยมาเก็บ 1 ทีหลัง จะเรียนรู้เรื่องมั้ยครับ จำเป็นไหนที่เราจะต้องเก็บจากเบอร์ 1 ก่อน

ส่วนคอร์ส listening ของที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ ดีรึเปล่าเพราะไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงเท่าไหร่ แต่คิดว่าถ้าลงเรียนที่เดียวกันน่าจะสะดวกดี

ความคิดเห็นที่ 1
เรียน writing อาจารย์จะสอนเป็นครั้ง ๆ ไปครับ ไม่ต่อเนื่องกันซะทีเดียว พอจะแยกได้โดยอาจารย์จะมีสรุปแนวการเขียนสั้น ๆ ให้ฟังทุกครั้งไปครับ ผมว่าผมได้จากที่นี่เยอะนะ ตอนแรกผมเขียนไม่ออก พอได้แนวก็งอกขึ้นมาได้หน่อย พอดีผมอ่อนจริง ๆ แล้วพอมาเรียนอังกฤษนี่ ผมนึกขอบคุณอาจารย์มากเลยครับ เพราะใช้แนวทางใกล้เคียงกัน
ส่วน listening ผมเคยไปเรียน แต่เรียนได้ไม่นาน มาเรียนต่อเสียก่อน แนวการสอนของอาจารย์จะเป็นแบบให้ดูแนวดูศัพท์ก่อนพอฟังจะได้คุ้น ๆ แล้วก็หัดฟังกับทำข้อสอบในห้องครับ อาจารย์จะขอสัญญาใจให้พยายามดูหนังภาษาอังกฤษอาทิตย์ละเรื่อง เผื่อที่จะช่วยให้คุ้น ๆ กับการฟังครับ เพราะภาษาอังกฤษมันมาจากการสั่งสม สรุปผมก็ได้จากที่นี่พอสมควรเหมือนกัน แต่ด้วยความสัตย์ ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ทำตามคำแนะนำของอาจารย์เท่าไหร่ (เสียใจจริง ๆ ) แต่ก็กระปลกกระเปลี้ยมาที่อังกฤษจนได้ครับ ซึ่ง ซึ่ง ซึ่ง ตอนนี้ คุ้นแต่กับสำเนียงจีน..เฮ้อ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณครับผม พอดีผมก็เริ่มจากอ่อนภาษาอังกฤษมากเหมือนกัน อยากเริ่มต้นฟังออก เขียนได้ซักที


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตอบเฉพาะ Writing นะคะ

บางเรื่องที่อาจารย์แบ่งเป็น 2 parts นั้น เพราะว่าเรื่องมันใหญ่ค่ะ แต่ไม่ต้องกลัว สามารถเข้า 1 ก่อน 2 หรือ 2 ก่อน 1 ก็ได้ค่ะ
เพราะจะมีการทวน หรือ อธิบายส่วนที่คาบเกี่ยวกันซ้ำอีกรอบอยู่แล้ว

เช่น Agree/Disagree มันจะมีเนื้อหาแบ่งคร่าวๆได้เป็น 1)ส่วนที่เป็น pattern การเขียน 2)การตีโจทย์ 3)อาจารย์เขียนให้ดู 1-2 ข้อ 4)เนื่อหาความรู้ทั่วไป
ทีนี้พอเริ่มเรียนเรื่องนี้ ทั้ง part 1 และ 2 อาจารย์จะเริ่มสอนได้ 2 แบบ
1. สอน pattern ก่อน ก็จะเหมือนกันทั้ง part 1และ2 หรือ
2. อาจารย์อาจจะเอาข้อ 4)เนื้อหาความรู้ทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับ agree/disagree มาก่อน ซึ่งเนื้อหาจะแตกต่างกันใน part 1 และ 2 แต่ไม่เกี่ยวเนื่องกัน

จากนั้นอาจารย์ก็จะสอนวิเคราะห์โจทย์ โดยที่ part 1 และ 2 จะวิเคราะห์โจทย์คนละข้อ ไม่ซ้ำกัน และเลือกมาเขียนให้ดูเป็นตัวอย่างไม่ซ้ำข้อกันค่ะ

งงมั้ยอ่า หวังว่าจะช่วยได้นะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ขอบคุณมากๆครับผม


ตอบกลับความเห็นที่ 4