ท่องศัพท์ cu-tep อย่างไรให้เก่งได้ภายใน 1 เดือน ทำอย่างไร !!

ท่องศัพท์ cu-tep อย่างไรให้เก่งได้ภายใน 1 เดือน ทำอย่างไร !!


วันนี้กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะคะ หลังจากที่พี่ห่างหายไปนานมาก ๆ เลย มีหลายคนถามพี่กันมามาก ๆ ว่า จะเริ่มท่อง ศัพท์ cu-tep จากตรงไหนดี ทำอย่างไรถึงจะเก่งภาษาอังกฤษกับเขาบ้าง ทำไมคนนั้นแปลเก่งจังเลยทั้ง ๆ ที่รู้ศัพท์ไม่หมด จากคำถามมากมายถามกันเข้ามาเยอะ วันนี้พี่ก็เลยจะมาแนะนำวิธีการท่อง ศัพท์ cu-tep ให้น้อง ๆ เห็นกันเลยนะคะ ว่าถ้าจะเริ่มท่อง ศัพท์ cu-tep เนี้ย ควรเริ่มจากอะไรก่อนเป็นสิ่งแรก !!


ก่อนอื่นนะคะ พี่จะมีประโยคหนึ่งให้น้องลองวิเคราะห์ดูนะคะว่า ถ้าหากแปลตัวไหนไม่ได้ในนี้จะไม่มีทางเข้าใจเนื้อเรื่องได้เลย !!!


ศัพท์ cu-tep


เอาละค่ะ พี่ให้เวลาน้องนั่งคิดนะว่า ถ้าน้องมีปัญหาการท่อง ศัพท์ cu-tep จริง ๆ แล้วคำไหนที่แปลไม่ออก น้องจะไม่มีทางเข้าใจเนื้อเรื่องได้เลยยยยยยยยยยยยยยยย ???


คำตอบก็คือ VERB นะคะเด็ก ๆ สังเกตุไหมว่า ถ้าหากว่าน้องแปลได้หมด big แปลว่าใหญ่ rabbit กระต่าย extremely อย่างแรง cute boy เด็กผู้ชาย แต่น้อง ! ก็ยังไม่มีทางทราบอยู่ดีว่า มันเกิดอะไรขึ้นระหว่าง กระต่ายกับเด็ก จริงไหม เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่น้องต้องมีเมื่อพูดถึงการท่องศัพท์คือ Verb นะค่ะ เพราะถ้าหากว่า น้องไม่ทราบทุกอย่างก็คือ จบ เลยจริง ๆ ถ้าถามพี่ว่าคำนามตอนเด็ก ที่ท่องกันไปก็ไม่มีความหมายนะซิ คำตอบคือ ก็ไม่เชิง เพราะข้อดีของมันก็คือการที่ทำให้เราเห็นภาพ จะเห็นหน้ากระต่าย กับ เด็กผู้ชาย ขึ้นมาทันที แต่สิ่งหนึ่งที่หายไปคือ ทำอะไรกันละ ดังนั้น ถ้าคำนามน้องแปลไม่ได้ก็ยังไม่ต้องแปลมัน น้องต้องเอา กริยา ให้ได้ก่อน เพราะมันคือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดใน READING เลยก็ว่าได้นะคะ เอาละคำ เรามาทดสอบกันนะว่า ถ้าสมมุติประธานคือคำว่า Zimboxdog ซึ่งตั้งแต่เกิดมาในชีวิตนี้น้องไม่เคยได้ยินแน่นอน เพราะพี่เพิ่งพูดครั้งแรก 555+ สร้างขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ เลยนะ แล้วมีกริยาคือ eats / sleeps / walks / talks คำถามพี่คือ ถึงแม้น้องไม่เห็นหน้าเจ้าตัว Zimboxdog มาก่อนเลยในชีวิต แต่น้องก็ยังเข้าใจเนื้อเรื่องอยู่เช่นเดิมจริงไหม ? น้องรู้ว่ามัน กิน นอน เดิน คุย ใช่ไหมละ แค่ไม่เห็นภาพเฉย ๆ พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วเห็นชัดขึ้นเลยใช่ม๊ะ อิอิ


ทีนี้น้อง ๆ บางคนอาจจะสงสัยว่าคำนามบ้างตัวก็มี sense เช่นคำว่า problem เป็นความหมายเชิงลบ ตรงนี้ก็ต้องบอกน้องก่อนนะว่า คิดถูกต้องแล้วจ้า แต่น้องลองมองประโยคนี้ดูนะ น้องจะเห็นอะไรชัดขึ้นมาก ๆ


ศัพท์ cu-tep


คำถามพี่คือ มันจะสำคัญไหม ถ้าน้องแปล problem ได้แปลว่าปัญหา มีความหมายเชิงลบ แต่ตรงกันข้ามเลย คำว่า solved แปลว่าแก้ไข ซึ่งพูดรวม ๆ คือ ในประโยคนี้ทั้งหมดอ่ะ ความหมายเป็นเชิง บวก ตั้งนานแล้ว ปัญหานี้ได้ถูกจัดการไปนานแล้ว แต่น้องบางคนยังตราตรึงกับ problem อยู่เลย ทำให้การอ่านของน้องยากขึ้นเป็นเท่าตัว อันนี้ก็อยากจะฝากไว้นะคะ ให้น้องเลือกท่องศัพท์ให้ถูกแนวด้วยจ้า


ต่อมาน้อง ๆ อาจจะสงสัยกันว่า แล้ว Adjective Adverb หายไปไหน 555+ จริงๆ สองตัวนี้ก็มีบทบาทสำคัญเหมือนกัน เรามาทดลอบก่อนนะคะว่า ถ้าสมมุติแปล Adjective ไม่ได้ในประโยคไหนจะเกิดปัญหาบ้าง พี่จะแบ่งกรณีเป็นสองแบบนะ เดียวลองให้น้อง ๆ ลองวิเคราะห์ดูอีกทีนะว่า ถ้าสมมุติว่าแปลตัวไหนไม่ได้จะไม่เข้าใจเนื้อเรื่องกันแน่


1. กรณีที่หนึ่ง เป็นการต่อสู้กันระหว่าง Noun, Adjective กับ Verb

ศัพท์ cu-tep


2. กรณีที่สองมีแค่ Adjective กับ Noun เพียว ๆ

ศัพท์ cu-tep


น้องสังเกตุไหมว่า กรณีที่หนึ่งอะ ถึงแม้ว่าน้องจะไม่สามารถรู้จักคำว่า big ก็ยังเข้าใจเนื้อเรื่องอยู่ดีว่า เจ้า rabbit มันวิ่งจริงไหม ไม่มีความจำเป็นต้องรู้เลยว่า ใหญ่ หรือ เล็ก ดังนั้นถ้าหากเป็นกรณี adjective + noun เราอาจจะไม่ต้องทราบก็ได้ แต่ถ้าทราบก็ดีไป 55+ แต่ในกรณีที่สองเนี้ย เป็นสิ่งที่น้องต้องทราบแล้วจริงไหม เพราะว่าถ้าหากว่าน้องแปลคำว่า big คำเดิมเลยกับกรณีที่ 1 ไม่ได้ขึ้นมา ผลที่ตามมาคือ น้องจะไม่ทราบว่า rabbit มันทำอะไรอยู่จริงไหม ???? ดังนั้นจะเห็นได้ชัดว่า ถ้าหากเป็นกรณีที่สอง Verb to be. + adjective น้องต้องทราบแล้วนะ ไม่งั้นก็จะไม่มีทางเข้าใจเนื้อเรื่องอย่างแน่นอนว่าทำอะไรกันอยู่


จริง ๆ แล้ว adjective ก็เป็นเหมือนเสื้อคลุมที่ทำให้คำนามของน้องดูมีสีสันขึ้นเนาะ ไม่งั้น rabbit อย่างเดียวมันก็งั้น ๆ ละ พี่ว่านะ


เอาละตัวสุดท้ายแล้วนะ Adverb กันบ้าง จะบอกงัยดี ถ้าเป็นกรณีที่น้องเห็นใส่พวก -ly เนี้ยนะ ไม่ต้องแปลก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก แต่ถ้าอยากแปลจริง ๆ เช่นถ้าน้องเจอคำว่า slowly อยากแปลเหลือเกิน ง่ายนิดเดียววว เพียงแค่น้องตัด -ly ออก มันก็คือ slow ที่เป็น adjective ที่น้องรู้จักอยู่แล้วงัยละ ง่ายจะตาย ว่าไหม 555 ไม่เชื่อลองซักตัวอย่างนะ เช่นพี่เขียนว่า Suda runs slowly แต่พี่อยากรู้เหลือเกินว่า slowly แปลว่าอะไร พี่ก็แค่มองมันใหม่เป็น slow เท่านั้นเอง มันก็จะแปลได้แล้วจริงไหมละว่า มีความหมายในเชิงไหนกันแน่


เอาละทีนี้มาดุกันนะว่า สำหรับ Adverb แล้วเนี้ย มีอะไรบ้างที่ต้องรู้จัก พี่จะทำเป็นตารางให้น้องเห็นภาพชัด ๆ เลยนะ


ศัพท์ cu-tep


เหตุผลที่น้อง ๆ ต้องทราบสิ่งเหล่านี้ก็เพราะว่า มันเป็นเหมือนตัวหลอกเวลาเจอ ข้อสอบแนว True False Not Except เลยก็ว่าได้ ดังนั้นก็อย่าลืมไปท่องพวกนี้มาด้วยละ ส่วนกรณีอีกอัน ที่ต้องแปลเพราะ มันจะไม่โผ่คำว่า not ให้น้องเห็นจะ ๆ ทำให้น้องต้องทำการวิเคราะห์เอาเองว่าจะต้องแปลแบบไหน เช่น พี่เขียนว่า Suda hardly speaks. จะเห็นได้ชัดจริงไหมว่า ประโยคนี้ถ้าแปลคำว่า hardly ไม่ออกที่แปลว่า แทบจะไม่ ก็จะไม่เข้าใจเนื้อเรื่องว่า สุดาพูดหรือไม่พูด 555+ ดังนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น้องต้องระมัดระวังเลยละ

สุดท้ายนี้พี่ก็มี กราฟ อะไรบ้างอย่างมาให้น้องเห็นว่า การท่อง ศัพท์ cu-tep แท้จริงแล้ว มีบันไดสู่ความสำเสร็จเป็นเช่นไรบ้างนะ ก็ขอให้โชคดีในการ สอบ cu-tep นะคะ


cu-tep


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.chulatutor.com/cu-tep.php


อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ cu-tep
http://www.dek-d.com/education/32094/
http://education.kapook.com/view78243.html

http://www.unigang.com/Article/20187
http://www.unigang.com/Article/20667