จากเด็กจรจัดไร้บ้าน รับจ้างถูพื้นโรงเรียน สู่รั้วมหาวิทยาลัยชื่อก้องโลก ม.ฮาร์วาร์ด

จากเด็กจรจัดไร้บ้าน รับจ้างถูพื้นโรงเรียน สู่รั้วมหาวิทยาลัยชื่อก้องโลก ม.ฮาร์วาร์ด

ที่โรงเรียนเบิร์นส์ไฮสกูล ในเมืองลอนเดล รัฐนอร์ธแคโรไลน่า

สาวน้อยดอว์น ลอกกินส์ (Dawn Loggins) กำลังถูพื้นอย่างขมีขมัน

เพื่อหารายได้จุนเจือการเรียน …เธอเป็นนักเรียนเกียรตินิยม A รวดทุกวิชา

นอกเวลาเรียน ดอว์นต้องถูพื้นทั่วทั้งโรงเรียน ไม่เว้นแม้ห้องน้ำ

ก่อนหน้านี้ พ่อแม่เธอติดยา และได้หนีเธอไป ทอดทิ้งเธอให้ไร้บ้าน

ครูและชาวบ้านต้องบริจาคเสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นให้เธอ

และหางานภารโรงที่โรงเรียนให้ เพื่อหารายได้

เธอถูพื้นทำความสะอาด อย่างไม่เคยบ่นรำพัน

ซาบซึ้งที่มีงานหารายได้เล็กๆ น้อยๆ มาประทังชีวิตได้

ดอว์นเติบโตมาอย่างยากจนข้นแค้น บ่อยครั้งที่ไม่มีน้ำไฟให้ใช้

ไม่มีแสงสว่างที่จะทำการบ้านอ่านหนังสือได้

จนครูในโรงเรียนต้องหาเทียนไขให้เธอใช้ในยามค่ำมืด

....ด้วยเทียนไขนี้ เธออ่านหนังสือทำการบ้านอย่างหมั่นเพียรไม่เคยย่อท้อ

....จนผลการเรียนดีเด่น ได้รับเลือกให้เข้าค่ายศึกษาวิทยาศาสตร์ร่วม 6 สัปดาห์

ซึ่งเป็นค่ายวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนระดับยอดเยี่ยมของทั้งรัฐ

แต่ช่วงที่ที่เธอเข้าร่วมค่ายนี้เอง พอดีกับเป็นเวลาที่พ่อแม่ได้ทิ้งเธอไป

เธอกลับบ้านมาพบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน แถมมีประกาศติดไล่ให้ออกจากบ้าน

.....ทำให้ดอว์นไร้บ้าน ขาดพ่อแม่

ภายหลังดอว์นได้ข่าวว่าพ่อแม่ย้ายหนีไปอยู่อีกรัฐหนึ่งเสียแล้ว

เธอบอกว่า "ไม่เคยนึกคิดว่า พ่อเลี้ยงกับแม่จะทิ้งหนีหนูไปได้ง่ายๆ อย่างนั้น

แต่หนูก็ไม่ได้นึกโกรธพ่อแม่นะ เขาคงคิดว่าได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้หนูแล้ว

ความจริงหนูก็รู้ว่า ทั้งพ่อกับแม่มีปัญหาที่ต้องแก้ไขให้ได้ด้วยตัวเอง

หนูรู้ว่าพ่อกับแม่รักหนู เพียงแต่แสดงออกเหมือนที่ชาวบ้านทั่วไปเขาทำกันไม่เป็นเท่านั้นเอง"


หลังจากนั้น เธอต้องระเหเร่ร่อน ไปนอนตามบ้านเพื่อน....บางครั้งก็ต้องนอนกับพื้นบ้าน

ในขณะนั้น เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงต้องมีผู้ปกครองดูแลจนกว่าอายุจะครบ 18 ปี

และเนื่องจากเธอเลือกที่จะไม่ตามไปอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างรัฐ

แต่เลือกที่จะอยู่กับเมืองนี้เพื่อเรียนหนังสือต่อไป

ทำให้ทั้งชุมชนและบรรดาครูโรงเรียน รับหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเธอกันทั่วหน้า

และได้ขอให้คู่สามีภรรยาคนขับรถโรงเรียน ให้เธออาศัยพักที่บ้าน

โดยครูต่างสมทบค่าใช้จ่ายให้ทุกเดือน

ชีวิตเธอก็เริ่มเข้าที่เข้าทางโดยมีหลังคาคลุมหัว

และมีงานพิเศษทำ เพื่อให้เรียนหนังสือต่อไปได้

ย่างเข้าปีสุดท้ายในไฮสกูล เธอตัดสินใจเด็ดขาด

ที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย

เธอเลือกที่จะเดินบนทาง ที่ต่างจากพ่อและแม่

"เมื่อเด็ก หนูได้มีโอกาสเห็นหนทางที่เลวร้ายทั้งหลายอยู่ต่อหน้า

ทั้งยาเสพติด ทั้งชีวิตที่เลือนลอย และสิ่งแย่ๆ อื่นๆ

แต่หนูตัดสินใจแน่วแน่ว่า จะไม่เดินบนทางเหล่านั้นเด็ดขาด

หนูรู้ว่า ก า ร ศึ ก ษ า จะพาให้หนูพ้นจากวังวนเลวร้ายทั้งหลายได้

อาจมีคนมากมายที่โทษสิ่งแวดล้อมรอบตัว

แต่หนูใช้สถานการณ์แย่ๆ พวกนั้น มาเป็นพลังใจ ที่จะผลักดันให้หนูหลุดพ้นออกมาให้ได้"

นอกจากที่ตั้งใจเรียนดีแล้ว เธอยังเลือกทำกิจกรรมต่างๆ เป็นประธานชมรมถ่ายรูป

และริเริ่มทำโปรแกรมบริการสังคมเพื่อรวบรวมจดหมายเขียนให้กำลังใจทหารที่อยู่

ประจำการในแนวรบ พร้อมทั้งเป็นสมาชิกสมาคมเกียรติยศแห่งชาติ

และร่วมชมรมดุริยางค์ แล้วก่อนหน้านี้เธอยังวิ่งมาราธอนอีกด้วย

ในปีสุดท้ายในโรงเรียน เธอส่งใบสมัครเรียนไปมหาวิทยาลัยธรรมดา 4 แห่ง

ภายในรัฐนอร์ธแคโรไลน่า และที่ ม.ฮาร์วาร์ด รวมเป็นแห่งที่ 5

....ที่โรงเรียนของเธอ ตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ยังไม่เคยมีใครได้ไปเเรียน

มหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าสดุๆ ในอเมริกามาก่อนเลย

ดอว์นก็เลยตัดสินใจท้าทายความเชื่อ

โดยส่งใบสมัครไปที่สุดยอดมหาวิทยาลัยในฝัน คือที่ ฮาร์วาร์ด ด้วย

ครูแลรี่ การ์ดเนอร์ ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์

เป็นคนเขียนจดหมายรับรอง ประกอบการสมัครเรียนที่ฮาร์วาร์ด

เขาเขียนในจดหมายว่า "ข้าพเจ้าไม่ทราบจะหาสรรหาคำมาบรรยายใน

จดหมายรับรองนี้ได้อย่างไรให้ได้ดังใจคิด

ข้าพเจ้าไม่เคยเขียนจดหมายรับรองฉบับใดเหมือนฉบับนี้มาก่อนเลย

....และคงไม่ได้เขียนอย่างนี้เป็นฉบับที่สองอีกแน่นอน

นักเรียนส่วนมาก เมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก

แม้เพียงเศษเสี้ยวของที่ดอว์นต้องประสบมา ก็คงท้อถอยยอมแพ้ไม่เป็นท่า

แต่สาวน้อยผู้นี้ ที่แม้ต้องผ่านเหตุการณ์แสนสาหัส ต้องพบกับความหิวโซ

ระเหเร่ร่อนไร้บ้านอยู่อาศัย และเผชิญความลำบากอีกนานัปการ

แต่เธอก็ลุกขึ้นยืนผงาดเหนืออุปสรรคชีวิตทั้งปวงนั้น

....ยืนตระหง่านเป็นสตรีสาวน้อย ที่โดดเด่นเหนือหมู่คน"

เหตุการณ์ในเดือนต่อๆ มาเธอได้รับตำตอบรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยใน

รัฐนอร์ธแคโรไลน่าทั้ง 4 แห่ง เป็นจดหมายตอบรับที่แนบมาพร้อมกับ

เอกสารมหาวิทยาลัยอีกปีกใหญ่ๆ ทั้งสิ้น

แต่เมื่อมีจดหมายจากฮาร์วาร์ด กลับเป็นจดหมายบางๆ เพียงฉบับเดียว

ไม่มีเอกสารอื่นแนบมาด้วยเลย

ซึ่งเป็นลักษณะจดหมายตอบปฏิเสธที่นักเรียนไม่อยากได้รับกันเลย

เมื่อเปิดจดหมายออกอ่าน พบใจความว่า

"ถึงคุณดอว์น ลอกกินส์ ข้าพเจ้ามีความยินดีจะแจ้งให้ทราบว่า

คณะกรรมการคัดเลือกนักศึกษาเข้าเรียน ได้ให้ข้าพเจ้ามาแจ้งว่า

ท่านได้รับการคัดเลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของเราแล้ว....

โดยปรกติทางมหาวิทยาลัยจะส่งสัญญาณมาบอกก่อนเวลาอันควรเช่นนี้

สำหรับนักเรียนที่โดดเด่นมากๆ เท่านั้น....”

นอกจากจะได้รับเลือกเข้าเรียนแล้ว....เธอยังได้รับทุนการศึกษาจาก

มหาวิทยาลัยอีกด้วย

เมื่อเรื่องราวของเธอได้กลายเป็นข่าว "From Homeless to Harvard"

เธอได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ WBTV ว่า

"เมื่อคุณมีความฝัน คุณสามารถบุกบั่นให้ฝันเป็นจริงได้

โดยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ตัวคุณเองเพียงคนเดียวเท่านั้น

ที่จะสร้างฝันของตัวคุณเองให้เป็นจริงขึ้นมาได้"

นับแต่ที่เรื่องราวของเธอกลายเป็นข่าว มีผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ

และได้ส่งกำลังใจมาให้เธอมากมาย มีผู้ส่งเงินสนับสนุนให้เธอมาด้วย

ดอว์นบอกว่า ไม่ได้ต้องการเงินเหล่านั้น

"เพราะเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย หนูได้ทุนค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและอาหาร

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าตำราเรียน หนูสามารถหางานพิเศษทำเพื่อหาเงินมาได้"

เธอตั้งความหวังไว้ว่า จะสามารถจัดตั้งองค์กรการกุศลที่จะช่วยเหลือเด็กวัยรุ่น

ที่ประสบอุปสรรคขัดขวางการศึกษา โดยใช้เงินที่มีผู้บริจาคให้เธอมาเป็นทุนก่อตั้ง

"ยังมีเด็กอีกมากมายที่อนาคตยังมืดมน และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ

มากกว่าหนูอีก หนูอยากให้พวกเขาได้ใช้เรื่องราวของหนูเป็นแรงจูงใจ

และอยากให้ทำให้ผู้คนทั่วไปรับรู้ว่า ยังมีเด็กจรจัดไร้บ้านที่ต้องการความ

ช่วยเหลืออยู่อีกมาก"

เมื่อวันที่ 7 มิย.2012 ที่ผ่านมา เป็นวันพิธีจบการศึกษาของโรงเรียน

ตอนที่สาวน้อย ดอว์นเดินขึ้นรับประกาศนียบัตร เพื่อนนักเรียนทั้งโรงเรียน

ต่างได้ลุกขึ้นยืน ปรบมือดังกึกก้องโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงความชื่นชม

และให้เกียรติอย่างสูง แก่สาวน้อย-ดอว์น ลอกกิ้นส์ ผู้เด็ดเดี่ยวที่ทอฝั

นให้เป็นจริง...........เราขอยืนขึ้นเพื่อปรบมือให้เธอ

และขอส่งใจให้เธอจงสำเร็จสัมฤทธิ์ผล ในการสร้างสานฝัน ให้ตนเอง และให้โลกต่อไป....

ดูคลิปได้ที่ http://youtu.be/liTZlYpkdoo

(เรียบเรียงจากข่าว abc และ cnn โดย Hachapan Uachotikoon

http://www.youtube.com/v/koQTojuiiXg
ความคิดเห็นที่ 1
อันนี้เด็กไทย หมื่นชัย แก้วนา อาชีวะไร้แขน

http://www.youtube.com/watch?v=0TyPoHOBnGk


http://www.youtube.com/v/0TyPoHOBnGk
ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เด็กไทยใฝ่ดีก้อมีเหมือนกันครับ

สัมภาษณ์ นศ.วิศวะฯขายปลาหมึก

http://www.youtube.com/watch?v=SU2E9sBcrAM


http://www.youtube.com/v/SU2E9sBcrAM
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
นศ วิศวะฯขายปลาหมึก

http://www.youtube.com/watch?v=UUZjSE9eOT0


http://www.youtube.com/v/UUZjSE9eOT0
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ขอชื่นชมเยาวชนผู้บากบั่นเพื่อฝันของตัวเองบนเส้นทางที่สุจริต
ด้วยหัวใจที่กล้าหาญและเข้มแข็ง
นอกจากคุณจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จ
สามารถช่วยเหลือตนเองและคนอื่นได้ในอนาคตแล้ว
คุณยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้อีกมากมาย

ขอเป็นกำลังใจและขอเก็บเกี่ยวความงดงามในความคิดของพวกคุณ
เพื่อเป็นกำลังใจในวันที่ไม่สวยงามของเรา
ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ถูพื้นที่อเมริกา ไปเรียนฮาร์วาร์ดก็ไม่แปลก


ถ้าถูที่เมืองไทย ค่าแรงมันถูกมากๆ ถ้าไม่มีใครช่วยเลย จะมีเวลาไปเรียนเหรอ

ถ้าลงทุน ขายปลาหมึก ค่าเช่าที่ ค่าดอกเบี้ยมันสูงมากๆ สุดท้ายจะไปตายเพราะหนี้นอกระบบ

ถ้า อเมริกาเป็นประเทศที่ให้โอกาส ประเทศไทยคงต้องใช้ดวงอย่างเดียว

เรามักชื่นชม คนใฝ่ดี แต่นิยมกราบไหว้ ประเภท เงินเดือนไม่ถึงแสน แต่หลังเกษียรมีเงินเก็บพันล้าน ทุกคนก็อยากมีโอกาสเป็นคนดี(แบบนั้นกันมั่ง)


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
อุ๊ยส์ เรื่องนี้เราเคยดูหนังค่ะ ช่อง Hallmark ชื่อเรื่อง From Homeless to Harvard น่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6-1
"อุ๊ยส์ เรื่องนี้เราเคยดูหนังค่ะ ช่อง Hallmark ชื่อเรื่อง From Homeless to Harvard น่ะค่ะ


"


ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องที่คุณก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ .. คห.6 เกริ่นไว้ ผมก็เคยดูครับ ชอบมากกกกกก

แต่ดูเหมือนเรื่องที่เจ้าของกระทู้นำมาให้อ่านรู้สึกจะเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ตั้งหัวข้อเรื่องให้เหมือนกันหรือป่าวครับ?


อยากให้สื่อมวลชน กระจายข่าวดี ๆ แบบในเรื่องของกระทู้ และความเห็นต่าง ๆ ที่ลงมา เล่นข่าวแบบนี้เยอะๆ ๆๆๆ ให้มากกว่าบรรดานักเรียนนักเลงที่ตีกันรายวัน ไอ้พวกคลิปเด็กตบตีกันด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณมากๆค่ะที่เอามาแบ่งปัน มีกำลังใจทำงานอีกเยอะ

เธอคนนี้และคนหลายๆคนเก่งและแกร่งมากจริงๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
น่าชื่นชมทุกๆคนมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เรียน แล้วต้อง รู้

เข้าสถาบันดีๆ ก็ดีใจด้วย
แล้วอย่าหลงติดกับชื่อเสียงของสถาบัน

ดีชั่วอยู่กับตัวเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
นึกถึง ด็อกเตอร์ Q, Alfredo Quinones-Hinojosa, ที่ตอนนี้อยู่ Johns Hopkins เคยเป็นเด็กยากจน หนีเข้าเมืองผิดกฎหมายจากเม็กซิโก ไม่มีเงิน พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ รับจ้างเป็นกรรมกรในฟาร์ม เข้าเรียนที่ community college เข้าเรียนที่ UC Berkeley จนไปจบหมอที่ Harvard


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณ คุณ Ned ที่แนะนำด็อกเตอร์ Q, Alfredo Quinones-Hinojosa ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=9LrlYF_iS88


http://www.youtube.com/v/9LrlYF_iS88
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแชร์ในกระทู้นี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
คนรักดี ไม่ต้องมีใครไปเคี่ยวเข็ญ ดีได้เอง


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
อ่านแต่หัวกระทู้นึกว่าอุราฮาร่าบุกซะอีก


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16

เด็กวัยรุ่นซักครึ่งโลก (ก็พอ) เป็นอย่างดอว์นก็ดี
เห็นมีเเต่เด็กบ่นว่าชีวิตขาดนู่นขาดนี่เลยเรียนไม่ดี

นี่ไง คนที่เขาขาดไปหมดทุกอย่าง เขายังทำได้ขนาดนี้เลย



ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
หนา่มแหลมไม่มีใครเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีใครกลึง


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
อ่านแระน้ำตาเอ่ออเลยอะ ปลื้มใจจริงๆนะ
ไม่รู้คนเป็นแม่รู้จะรู้สึกยังไง นะ
คนมันจะรักดีอะนะต่อให้ผีป่าซาตานมาขวางขอไม่ทาน
แต่ถ้าคนมันจะชั่ว ต่อให้เกิดในครอบครัวดีแค่ไหนชั่วโดยสันดานได้


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ขอให้รักษาความดีงาม ขยันหมั่นเพียร ตลอดไปนะจ๊ะ แม่หนูน้อย


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
เหมือนพ่อเพื่อนผมเลยครับ เป็นเด็กวัดไม่มีเงิน ต้องตั้งใจเรียนมากให้จบเร็วๆจะได้ประหยัดเงิน

จบ ม.4 ก็สอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แล้วก็จบมหาวิทยาลัย 3 ปีครึ่ง พร้อมเกียรตินิยม

หลังจากนั้นได้ทุนไปเรียนต่อจนจบปริญญาเอกจากฮาร์วาร์ด ทุกวันนี้เป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ครับ

นึกถึงเรื่องของพ่อเพื่อนผมทีไรก็มีกำลังใจเวลาที่รู้สึกท้อทุกทีเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
หนังเรื่อง From Homeless to Harvard เป็นเรื่องของ Liz Murray นั่นก็สร้างจากเรื่องจริงนะคะ ชอบเหมือนกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
เธอ ช่างสุดยอดจริง ๆ เลย อ่านแล้วน้ำตาแทบไหลเหมือนกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
....โดยปรกติทางมหาวิทยาลัยจะส่งสัญญาณมาบอกก่อนเวลาอันควรเช่นนี้

สำหรับนักเรียนที่โดดเด่นมากๆ เท่านั้น....”

อ่านแล้วขนลุก
ประทับใจมากๆ

ขอชื่นชมทั้งตัวดอว์นและคนรอบข้างที่เป็นกำลังใจให้น้องได้เรียนหนังสือ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
เคยอ่านเจอก่อนหน้านี้แล้วประทับเรื่องราวของเด็กคนนี้มากเลย เธอโดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อเลียนอยู่ตลอด เด็กที่โรงเรียนจะเอาดอว์น ลอกกินส์ไปเป็นมุขตลกร้ายๆไว้ล้อเพื่อนผู้ชายว่าเธอแอบชอบพวกเค้าจนเธอแอบไปร้องไห้บ่อยๆ เธอต้องไปเอาน้ำที่สวนสาธารณะไม่ก็ที่ร้านสะดวกซื้อมาใช้ภายในบ้าน เรื่องราวของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนรมถึงผมด้วย

http://www.dailymail.co.uk/news/article-2156881/Dawn-Loggins-Harvard-bound-teen-abandoned-parents-sets-homeless-charity-graduating-high-school.html


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
สุดยอดครับ ดีใจกับเค้าด้วยครับ ส่วนผม ขอไปอาบน้ำนอนก่อนล่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
เราอ่านแล้วน้ำตาไหลเลย
ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกยังไง
ปัญหาเรากลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย

ไม่เคยดูหนังfrom homeless to Harvard เลย
สงสัยต้องหามาดูซะแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
น่าชื่นชมมากเลย โชคดีมากๆที่เป็นคนรักดีและเจอคนที่สงสารและสนับสนุน มีเด็กๆอีกเยอะ ที่ขาดไปหมดเช่นกัน แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนเหมือนเธอ เรื่องนี้นอกจากจะเป็นกำลังใจให้เด็กๆแล้ว อยากให้เรื่องนี้ทำให้คนรอบข้างตื่นตัว ว่าตัวเองก็สามารถช่วยเด็กๆได้เช่นกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ขอชื่นชมทุก คห. และแอบสนับสนุนไอเดียร์ คห. ๒๗ เต็มที่เลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 28