ขอเชิญผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากการขอ วีซ่าอเมริกา มาคุยครับ

ตัวผมเป็นคนที่โดนปฏิเสธวีซ่า อเมริกามา 2 ครั้งทำให้ผมรู้สึกได้ว่าผมได้รับความไม่เป็นธรรมครับ โดยผมจะเล่าประสบการณ์แต่ละครั้งให้ฟังนะครับ

ผมขอวีซ่าครั้งแรกตอนผมเพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ซึ่งตัวผมตอนเด็กๆ เคยไปอยู่อเมริกามาหลายครั้ง และอยู่นานเป็นเดือน เนื่องจากผมไม่ได้เจอตากับยายและครอบครัวผมที่อเมริกามานาน ผมจึงอยากไปเยียมและถือโอกาสไปเที่ยวก่อนหางานทำครับ
ผมได้เตรียมเอกสารทุกอย่าง รวมทั้ง Statement Bank book ของผมและพ่อผม โดยวงเงินก็หลักล้านครับ และให้พ่อผมเป็น Sponsor
ผมสัมภาษณ์ครั้งแรกกับแหม่ม โดยพูดตามนี้
แหม่ม: สวัสดีค่ะ คุณ.....
ผม: ชื่อ.......
แหม่ม: ไปเมกาทำไรค่ะ
ผม: ไปเยี่ยม ญาติ และเที่ยวครับ
แหม่ม: How long will you stay there ( ถามภาษาอังกฤษซะงั้น)
ผม: 1 month
แหม่ม: What will you do after come back to usa
ผม: Go to rehersal ceremony to receive my degree and Find a job
(พร้อมยื่นกำหนดการรับปริญญาให้เค้า)
แหม่ม ก็ส่ายหัว แล้วก็ยื่นใบปฏิเสธวีซ่า ให้ผม ผมก็ถามเค้าก็ว่าทำไมเค้าก็ไม่ตอบ แล้วผม อ่านใน นั้นว่าหลักฐานไม่แน่นพอ
เนื่องจากมันยาวนะครับขอต่อด้านล่างนะครับ

ความคิดเห็นที่ 1
รอฟังต่อ :D

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ผมกลับมาผมก็ปรึกษาพ่อแม่ และโทรหาญาติที่อเมริกา ตั้งนาน พวกเราทั้งหมดก็เลยเข้าใจว่า ผมยังไม่มีงานทำและ ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนว่าจะกลับมา ผมจึงตัดสินใจหางานทำ และทิ้งระยะไปปีนึง
พอกลับมารอบสอง ตอนนี้ผมมีงานทำ อยู่บริษัทของอเมริกาทำงานครบ 1 ปี
และมีคอนโดเป็นของตัวเอง ผมก็อยากไปเที่ยวพักผ่อนเหมือนเดิมไม่เจตนาคิดจะไปอยู่เลยยยยยยย
คราวนี้ผมมีทุกอย่างคิดว่ามั่นใจละ โดยผมเตรียมดังนี้ครับ
1. Statement bankbook ของพ่อและของผม วงเงินเท่าดิม และให้ Bank รับรองด้วย
2. จดหมายจาก อาผมเป็น LA PD (ตำรวจ) รับรองว่าจะไปอยู่กับเค้าเป็นเวลา 10 วัน และให้กรมตำรวจของที่โน่นออกรับรองให้ด้วย
3. จดหมายรับรองการทำงานบริษัทและเงินเดือน
4. สำเนาคอนโด
5. จดหมายรับรองของพ่อผม
พอเริ่มสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 พอถึงวันสัมภาษณ์เจอแหม่มคนใหม่หน้าเด็กๆๆ ใจดี
แหม่ม: สวัสดี ค่ะ คุณ.......
ผม: สวัสดีครับ
แหม่ม: ไปอเมริกากินวันค่ะ
ผม: 10 วัน
แหม่ม: ไปพักที่ไหนค่ะ
ผม: พักบ้านอาครับ (ผมยื่นจดหมายทุกอย่างของ อาให้หมด)
แหม่ม: ไปทำอะไรค่ะ
ผม: ไปเที่ยวครับ อยากไป disneyland ไม่ได้ไปนานครับ แหม่ม ก็หัวเราะ
พอคุยสัก She ก็ดูคอมอยู่ตั้งนาน แล้วอยู่ๆก็ถามคำถามที่ผมอึ้ง
แหม่ม: คุยเคยมีญาติมาขอวีซ่า ถาวรให้ไหมค่ะ
ผม ก็นึกได้ว่าเรื่องนี้เคยขอไปนานมาก เนื่องจากตากับยาย ผมอยากให้พ่อแม่และ ผม
ได้วีซ่าถาวรเพื่อจะได้มาเยี่ยมบ่อยๆโดยไม่ต้องขอวีซ่า และพี่สาวผมก็เป็น US Citizen
เพราะเกิดอเมริกา แต่ทางสถานฑูตไม่อนุมัติให้ แล้วในจดหมายบอกว่าถ้าไม่ยื่นเรื่องภายในกำหนดถือว่าสละสิทธิ์ ทางครอบครัวผมก็ไม่ได้ยื่น จึงช่างมัน
ผมก็ตอบแหม่มไปครับ: ว่าใช่ครับตอนนั้ผมไม่รู้เรื่องก็ตามพ่อแม่ครับ
แหม่ม ก็หยิบทุกอย่างมาดูตั้งนาน
แหม่ม ก็ส่งใบเดิมมาให้ ปฏิเสธวีซ่า อีกแล้วเหรอ
ผมก็รีบบอกเธอไปว่า ผมมีคอนโดรับรองได้ว่าผมกลับมาให้เป็นประกันเลย
แหม่ม: ขอโทษนะค่ะ คุณติดสถานะขอวีซ่าถาวรอยู่
ผม: ผมต้องทำไงครับ
แหม่ม: ลองให้ญาติที่เมกาไปยื่นขอสละสิทธิ์ดูนะค่ะ
ผมโมโหมากกกก ตรงที่คราวแล้วไม่เห็นเค้าพูดเรื่องนี้กับผมไม่บอกไรผม แต่พอคราวนี้เพิ่งมาบอก ผมจะได้ทำเรื่องตั้งแต่แรก แบบขอระบายนะครับ ปฏิเสธวีซ่านี้สองครั้งเสียเงินพอเอาไปซื้อตั๋วได้ส่วนนึงแล้วมั้งครับ คือผมว่ามันไม่ยุติธรรมอะครับ คือผมมีเจตนาดีไม่คิดจะไปอยู่ ให้ลำบากหลอกครับ เศรษฐกิจเป็นแบบนั้น เลยตอนนี้อยากจะถามทุกท่านว่า มีใครคิดว่าได้รับความไม่เป็นธรรมบ้างครับ มาแชร์กัน ผมอยากจะทำเรื่องส่งสถานฑูตไทย หรือองค์กร สักที่แล้วครับ เลยอยากได้ข้อมูลหลายๆคน มาเพื่อส่งเรื่องครับ ไม่งั้นคนที่เค้ามีญาติไม่ต้องเจอกันอีกเลยพอดี


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เราพอคาดการเหตุผลได้แต่แรกที่คุณบอกว่ามีครอบครัวอยู่อเมริกา
เราคิดว่าเหตุผลที่เขาไม่ให้ เพราะคุณมีครอบครัวอยู่ที่นั่น
เขาจึงคิดว่าคุณมีสิทธิในการขอวีซ่าถาวร อาจจะกลัวว่าอยากขอไปที่นั่นแล้วไปทำเรื่องทีหลัง
ยิ่งตอนหลังเขาให้เหตุผลมาว่าคุณยังติดสิทธิยื่นขอวีซ่าถาวรอยู่ เขาจึงไม่สามารถออกวีซ่าซ้ำซ้อนให้ได้
ลองติดต่อเรื่องยกเลิกขอวีซ่าถาวรดูก่อนนะคะ เพื่อแสดงเจตุจำนงค์ว่าเราไม่ได้ไปอยากอยู่ที่นั่นจริงๆ
เราว่าคราวต่อไปน่าจะได้ เพราะคุณไปขอวีซ่าท่องเที่ยวทั้งๆที่มีเรื่องวีซ่าถาวรค้างอยู่
เขาเลยคิดว่าคุณอาจจะไปโดดรอวีซ่าที่นั่นอะคะ รอผู้รู้มาตอบอีกที


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ระดับนี้เขามีเหตุผลกันครับ ไม่ใช่ความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรม

ลองทำตามแบบ จนท บอกก่อนดูครับ ถ้าทำเสร็จแล้วและยื่นใหม่ยังไม่ได้ก็ค่อยมาว่ากัน

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เสียดายเงินแทน


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เขาไม่รู้จักเรา เขาไม่ได้โกรธเคืองเรา

ความอยุติธรรม ไม่น่ามาเกี่ยว

เขามีเหตุผลของเขา


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เขาจะบอกข้อมูลทีละนิด ไม่บอกปัญหาที่เกิดกับเราทุกอย่าง ก็เงินค่าสัมภาษณ์ ค่าดำเนินการก็มากอยู่ เป็นรายได้ของเมกา ลองคูณกันเข้าไป ปีหนึ่งสถานทูตได้ค่าทำเรื่องวีซ่าเท่าไหร่ ดิฉันก็โดนเหมือนกัน อ้างว่าไม่เห็นใบเสร็จจ่ายเงิน ดิฉันเอาเเผ่นCopyเอกสารให้เขาดูว่าจ่ายจริง มาบอกตอนจะสัมภาษณ์ เเล้วอนุญาตให้ไปจ่ายเงินอีกที่ ไปรษณีย์เเถวๆสถานทูต พอจ่ายเสร็จเข้ามาสัมภาษณ์ใหม่เเละเราเอาใบที่จ่ายเงินให้ กลับบอกว่า เจอใบจ่ายเงินอันเเรกเเล้ว แต่ตตตต ที่จ่ายรอบสองเราจะไม่คืนเงินให้ท่าน ทั้งๆเป็นความผิดพลาดของเขาเอง ยังมีหน้ามาบอกว่า วันที่หมดอายุวีซ่าผิดๆอีก ทำให้ตอนเข้าไปอเมริกามีปัญหา เเต่ทั้งหมดก็ผ่านมาเเล้วค่ะ ตอนนี้อยู่เมกาเเล้ว เมื่อคิดย้อนหลังงงงงง เข้าใจเลยค่ะสำหรับคนถูกปฏิเสธ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เหตุผลเพราะ จนท บอกว่า คุณติดสถานะขอวีซ่าถาวรอยู่//เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องรับผิดชอบ เคลียร์ ตรงนี้ เรื่องนี้ ก่อนขอวีซ่าให้ผ่านอะค่ะ เราเห็นด้วยกับเหตุผลของสถานทูตค่ะ คนที่นี่ กว่าจะสอบแต่ละขั้น รอกี่ปีๆ กว่าจะยื่นเรื่องจนเป็นซิติเซ่นได้ ยากกว่าคุณขอวีซ่ามากค่ะ

คุณแค่ ติดสถานะขอวีซ่าถาวรอยู่ -- นี่คือ ปัญหา ในการขอวีซ่าไม่ผ่าน ก็ไปแก้ซะ แค่นั้นเองค่ะ เกือบได้แล้ว

จริงๆ เค้าไม่จำเป็นต้องบอกคุณก็ได้นะ ในเมื่อคุณไม่รับผิดชอบตัวคุณเอง ก็จะไม่ผ่านๆๆ อยู่อย่างนั้น มันเรื่องของคุณ (ปล่อยมานาน ไม่ยอมแก้ตั้งแต่แรกเอง) +หน้าที่ของคุณ

แต่เค้าคงอยากให้คุณผ่านมั๊ง เลยบอก ให้ไปแก้

ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เจ้าหน้าที่สถานทูตมีดุลยพินิจและหลักการของเขาในการพิจารณา เปรียบเหมือนคุณเองจะให้ใครสักคนเข้ามาในบ้านคุณ คุณจะใช้เหตุผลอะไรในการอนุญาต ไม่มีคำว่าเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม มีแต่ว่าจะให้หรือไม่ให้ เท่านั้นเอง
ลองค้นหาจุดอ่อนที่เจ้าหน้าที่บอกมาแล้วแก้ไขดู อาจจะมีทาง

โชคดีนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ตอนนี้ ทางคุณยาย ผมได้ไปที่ Homeland security Department ยื่นเรื่องขอสละสิทธิ์ให้เรียบร้อยแล้ว ครับ ผมไม่รู้ผมต้องรอเมื่อไหร่ถึงจะผ่าน กลัวครั้งต่อไปไม่ผ่านจริงๆครับ ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
สถานทูตไม่เคยดูเอกสารที่เราเตรียมไปเลย บอกว่าเราไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้ .เนื่องจากคุณไม่สามารถแสดงความผูกพันต่อถิ่นบ้านเกิดเพียงพอ . .
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เรื่องผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว ตอนนี้เป็นไงบ้างครับ ไปขอวีซ่าอีกไหม

หรือตอนนี้ขอผ่าน 10 ปี อยู่เมกาไม่กลับไทยแล้วครับ 555
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ตอนนี้ขอไม่อยากครับแต่คนที่ขอไม่ได้เขาก็ควรบอกเราว่าติดตรงไหนและที่สำคัญต้องเสียเงินค่าขอใหม่อีกจริงแล้วไม่ผ่านก็หน้าคืนเงินเราสักครื่งหนึ่งก็ยังดีครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ขอวีซ่ารอบ2 (ผ่านนะคะ)วันนี้เลย อยากแชร์เรื่องราว ของเราสดๆร้อนอะคะ เราขอวึซ่าครั้งแรกไม่ผ่าน เพราะตอนสัมภาษณ์เราคิดว่ามีการเข้าใจกันผิดอะคะ..
ของเราครั้งแรกเราไปสัมภาษณ์ 1อาทิตย์ก่อน.. ค่อนข้างมั่นใจว่าเราได้วีซ่า70-80% เพราะเรามีเอกสารครบ และ พาสปอร์ตเดินทางมาบ่อยมาก ทั้งเอเชียแหละยุโรป ตอนสัมภาษณ์ เรามีแฟนคนอเมกา เราจะไปเที่นวจะไปเยี่ยมครอบครัวแม่แฟน ตอนสัมภาษณ์ เราก้อบอกไปตามตรง เพราะไม่โกหก แต่มีตอนหนึ่ง 
ถามว่าเราเคยไปประเทษไหนมาบ้างใหม เราตอบไปว่า Yes I been to Europe 
แต่ท่านกงศุล ได้ยินว่าไม่เคยไป (เราสัมภาษณ์อังกฤษ) แต่เรามั่นใจนะ เราได้ยินคำถามแบบนั้น และก้อท่านก้อเลย ถามคำถามอื่น..ทั้งเรื่องแฟน และ ทำงานเรา ..สรุปส่งใบขาวมาให้ ว่าเราไม่ผ่าน กลับมาร้องไห้เลย เราบอกแฟนทุกอย่าง แต่ไม่รู้เพราะเหตุผลไรแน่ ไม่แน่อาจจะเข้าใจผิดหรือเปล่า หรือเพราะกลัวเราไปไม่กลับ คือเครียดร้องไห้ ถอดใจเลย แฟนก้อบอกไม่เป๋นไรขอใหม่ หากรอบนี้ไม่ได้ เราจะขอวีซ่าคู่หมั้น (คิดในใจ ดีอะ อาจผลพลอยได้ไปแต่งงาน)...
ที่นี้ เรากลับมาศึกษา หาจากคอมเม้นคนที่ผ่านและไม่ผ่าน ยิ่งไม่ผ่านเรายิ่งอ่าน และคิดว่า ครั้งต่อไปท่านกุงศุลจะถามอะไร เราหา รายเอียด เตรียมเอกสารใหม่ทันที..บ้างคนบอกให้เว้นระยะ เราคิดว่าเราจะไปเที่ยวอะ เดินทางก้อบ่อยเราตัดสินใจขอใหม่ทันที ทำตามขั้นตอนเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เครียด กลัว แหละไม่คาดหวัง เพราะโอกาสมีแต่คนไปรอบ2จะไม่ได้!! แต่เราคิด ถ้าไมาใ่ได้ครั้งนึ้ ปีหน้าขอวีซ่าคู่หมั้นเลย..

ไปครั้งนี้เราเตรียมทุกอย่าง ต้องบอกว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ข้อมูลไรได้ เพราะที่สถานทูตจะมีข้อมูลครั้งแรกที่ไม่ผ่าน (ย้ำๆๆนะคะ) เรากรอกไผดหมือนเดิม สิ่งที่เราทำ เราศึกษาข้อมูลใหม่ ทั้งเน็ท และ ความคิดเรา อะไรที่เราคิดว่าครั้งแรก ไม่ผ่านเพราะไร เตรียมเอกสาร เราเตรียมการตอบคำถาม แหละอะไรก้อตามคิดว่าPossitive (อันนี้เรื่องโชคแต่ละคนด้วย) เคสเราดันบอกมีแฟน มีคนรู้จัก โอกาสน้อย.วันนี้เราไปถึง แต่6.30เช้า ( เราจะข้ามไป้ลยนะคะ 
ตอนสัมภาษณ์ใหม่

ท่านกุงศุล.. สวัสดครับ คุณ....
*จะไปอเมกาทำใมครับ...??
*เราตอบ.. จะไปเที่ยว คะเราเพิ่มเติมทันที พอดีไปมาหลายประเทศแล้ว เหลืออเมกาไม่ได้ไปสักที
-ท่านกุงศล คุนจะไปที่ไหน
-เราตอบ จะไป...... .......
ท่านกุงศล คุณเคยมาขอวีซ่าแล้วไม่ผ่านใช่ใหมคับ
- เราตอบ ใช่คะ เพราะคิดว่าครั้งที่แล้ว อาจจะได้ยินหรือ สื่อสารกันผิดอะคะ จากนั้นเราเล่าคราวๆๆว่าเกิดไรบ้าง และ เราก้อยืนพาสปรอตเก่า3เล่มให้ ท่านดู ท่านคงเห็นมีการเดินทาง อันเก่าอะคะ ที่ว่า เราไม่เคยไป ท่านคงเห็นไม่ตรงกัน หรือเปล่า แหละ ท่านก้อลุกหันไปหาคนสัมภาษณ์คนเก่าเรา เราเห็นท่าน เปิดพาสเรา3เล่ม แหละโชว์ให้ ท่านคนเก่าดู ทุกหน้า แต่ไม่ได้ยินนะคะ คุยไรกัน เราเครียดมาก ณ.เวลานั้น แหละเห็นท่านคนปัจจุบัน ทำหน้า แบบ คิดอะคะ แหละคุยกัน.. (จากนั้นท่านก้อกลับมา)

--ท่านกุงศล รู้จักแฟนนานยาง, รู้จักได้ไง,เจอกันยางไง เราทำงานที่ไหน ชื่ออะไร กี่ปีแล้ว (ขอรวบนะคะ)
เราตอบ.. ไปตามความจริงหมด ..
- ท่านกุงศล แสกนนิ้วมือด้วยคับ
-ท่านกงศุล โอเครคับ เราจะออกวีซ่าให้กับคุณ อีก3วัน รับพาสปรอตคืนนะคับ
เชื่อใหมคะ งงมาก วิ้งๆๆเลย เห็น ผ่านแล้ว ดีใจมาก ณ.ตรงนั้น
**ท่านไม่ขอดูอะไรเลยด้วย สรุปที่เตรียมมา ไม่ได้ดูอะไรเลย แม้แต่จดหมายเชิญ หรือที่ทำงาน มีแค่พาสปรอตทั้งหมดอะคะ..

เราอยากจะบอกเผื่อเป็นกำลังใจ สำหรับคนไม่ผ่านครั้งแรก เราไปด้วยความจริวใจ สำคัญ เราศึกษาข้อมูลใหม่หมด อะไรด้อย อะไรเด่น อะไรเราขาด
เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนคำสัมภาษณ์จากเดิมได้เลย สู้ๆๆนะคะทุกท่าน เตรียมข้อมูลเป็นประโยชน์ ของเรา บอกความจริงอะคะ อย่าเปลี่ยนข้อมูลแตกต่างจากเดิม ศึกษาจากความผิดพลาด แต่ทั้งนี้ทั้ง นั้น เราครั้งนี้ แบบเตรียมใจ กลางๆๆ ทำบุญไหว้พระขอก่อนไป..ขอให้คนที่เคยขอไม่ผ่านขอใหม่นะคะ เมื่อพร้อม มีโอกาส อันนี้อาจเป็นประโยชน์แชร์กันบ้าง โชคดีคะทุกคน 
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
เพิ่งกลับจากอเมริกาค่ะ ไปโครงการมา1ปี แต่ไม่ได้ฝึกภาษาเลย ไม่ได้เที่ยวด้วยค่ะ เลยกะว่ากลับมา จะขอวีซ่านักเรียนไปเรียนภาษา+เที่ยวซัก3เดือน จริงๆก่อนกลับทางโรงเรียนจะเปลี่ยนสถานะวีซ่าให้ค่ะ แต่เราบอกว่าขอกลับมาทำให้ถูกต้องดีกว่า เผื่อเราอยากกลับไปเที่ยวหลังเรียนภาษาจบอีกจะได้ไม่เสียประวัติ พอเรากลับมาก็เดินเรื่องปกติ วีซ่าไม่ผ่านค่ะ ครั้งแรกท่านกงสุลบอกว่าให้วีซ่าไม่ได้ เราตกใจเลยได้แต่เดินงงๆออกมา พอรอบสอง ท่านบอกว่าคุณมีคุณสมบัติไม่พอ ไม่ต้องมาขออีก เราเลยไม่กล้าไปขออีกแล้วค่ะ รู้สึกแย่มากเลย รอบที่สองพูดจาไม่ดีด้วย เราทั้งโกรธเขาและตัวเราเอง น่าจะเชื่อทางโรงเรียนเปลี่ยนสถานะไปเลยที่นั้น ตอนนี้เท่ากับว่าเราไปไม่ได้ ไม่รู้จะได้ไปอีกไหม และสถานะการขอวีซ่าเราเสียไปเลยค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 15