ความปลอดภัยจากการใช้ถรแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ

ผมอ่านกระทู้ของคุณIBussararat แล้วเห็นว่าเราน่าจะมาช่วยกันโหวตให้การท่าฯช่วยพัฒนาการสื่อสารในแนวรุกมากยิ่งขึ้นครับ ดีกว่ารอให้เกิดปัญหาร้ายแรงแล้วค่อยมาหาทางแก้ในภายหลัง........ลองอ่านกระทู้ของท่านจขกท.ดูแล้วก็จะรู้ว่าผู้หญิงนั้นหากต้องใช้แท็กซี่ในช่วงดึกๆแล้วจะเกิดอะไรขึ้น.....หากการท่าจะเจียดเงินสักเล็กน้อยเพื่อตั้งเครือข่ายวิทยุเหมือนจส100.ขึ้นมาแล้วช่วยเป็นศูนย์กลางของการสื่อสารได้........ผมว่าน่าจะดีขึ้นมากทีเดียว.....คือหากคุณเป็นผู้โดยสารกำลังนั่งแท็กซี่ออกจากสุวรณภูมิแล้วเกิดเจอะเหตุการณ์แบบจขกท.ก็โทรเข้าไปหาวิทยุสุวรรณภูมิ......ทำเป็นแกล้งถามว่า คนขับแท็กซี่ไม่รู้ทางลงสุขุมวิท50จะทำยังไงดี..ให้เจ้าหน้าที่อธิบายให้คนขับแท็กซี่จะได้ไหมฯ.......พูดง่ายๆว่าแท็กซี่คันนี้จะอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่วิทยุของสนามบินอยู่ตลอดเวลา.....การคุกคามที่กล่าวก็จะลดลงและความปลอดภัยก็จะเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก.......

ความคิดเห็นที่ 1
จากกระทู้ที่แล้ว ... หาก จขกท มาอ่าน ลองคิดนิด นะครับ

จขกท ขึ้นทางด่วนที่ด่านไหนครับ ค่าทางด่วนเท่าไหร่

แล้วด่านที่ สอง ด่านไหน ค่าทางด่วนเท่าไหร่ครับ

ถ้ามาทางพระราม 9 ด่านแรกจะ 25 บาท ถ้าตรงมา จ่ายอีกด่าน 45 บาท จะลงที่ด่าน 62 เท่านั้น

แต่ถ้า ขึ้นพระราม 9 ด่านแรก 25 บาท แล้ว แยกไปทางบางนา จะจ่าย อีก 40 บาท จะลงสุขุมวิท 50 ได้

แต่ถ้าคุณมาทางที่ 2 การที่ คนขับจะไปลง 62 ได้นั้น คุณต้องจ่ายค่าทางด่วน 3 ครั้ง ครับ

คุณลองคิดดูอีกทีสิครับว่า คุณจ่ายค่าทางด่วนกี่ครั้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
โหวตค่ะ โหวต 2 เรื่อง
เรื่องแรกตามกระทู้เลยค่ะ อย่างน้อยก็อุ่นใจนะคะ กับความปลอดภัย taxi ดีๆก็มีเย๊อะแย๊ะค่ะ
เรื่องที่สอง ขอขอบคุณ คุณเคี้ยงโมโต คุณเป็นสุภาพบุรุษค่ะ ที่เห็นความปลอดภัยของผู้หญิงเป็นเรื่องน่าใส่ใจ ทั้งที่ผู้ชายบางคนมองว่าเป้นเรื่องของผู้หญิงขี้ระแวง


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เกรงว่าจะขวางโลก

ถ้าคิดจะล้อมคอกคงไม่ใช่แต่ตั้งตามเจ้าของกระทู้เสนอแต่คงต้องทำอีกหลายอย่างมากมายไปหมด จะง่ายกว่าไหมถ้าจะแก้ที่ตัวเราเอง

เราเป็นผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวบ่อยมากๆ สิ่งแรกที่เราควรคิดก่อนจะตัดสินใจทำอะไรก็คือทำตัวเองให้ปลอดภัยมากที่สุด เราเลือกสิ่งแวดล้อมไม่ได้เราสั่งคนอื่นไม่ได้แต่เราเลือกที่จะเอาตัวเราไปอยู่ได้ เลือกให้ตัวเราเป็นได้

เราใช้แท็กซี่สนามบินบ่อยมากนะ แต่ไม่เคยมีปัญหาแบบที่เคยมีโพสมาทั้งหลายแหล่เลย ไม่ใช่ว่าเราโชคดีแต่เราเลือกจะเอาตัวเองไปไว้ในที่ๆเราคิดว่าปลอดภัย และไม่เสียอารมณ์

แท็กซี่ปฏิเสธไม่ไปเคยเจอไหม เคยแต่ไม่ไปก็ไม่ขึ้น รอคันใหม่จนกว่าจะไปและก็ไม่เคยเสียเวลาไปเสียอารมณ์กับคนพวกนั้น ถ้าใครใช้บริการบ่อยๆจะรู้เลยว่าแท็กซี่คันไหนสมควรเข้าไปถาม คันไหนมารอจับฝรั่งไม่ควรสนใจ คันไหนสมัครใจไปก็ไป โดยเฉพาะแท็กซี่ขาจรที่มาส่งผู้โดยสาร แค่ได้คนติดรถกลับออกไปเขาก็ดีใจแย่แล้วไม่ต่อรองไม่เรื่องมาก ถามว่าแท็กซี่แบบนี้มีเยอะไหม มีมาเรื่อยๆแหละ ใจเย็นคอยสังเกตก็จะรู้

ความไม่ปลอดภัยมันอยู่ทุกๆที่รอบๆตัวเรานั่นแหละไม่ใช่แค่แท็กซี่สุวรรภูมิ สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าที่ไหนเวลาไหนปลอดภัยสำหรับเราไม่ใช่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในภาวะเสี่ยงซะเอง

เราอ่านกระทู้นั้นเราคิดว่าไม่สามารถตัดสินได้จากข้อมูลที่เล่ามาว่าคนขับคิดไม่ดีกับผู้โดยสารนะ ทางลงทางด่วยสุขุมวิท 50 ไม่ใช่ทางลงหลักและไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักแล้วถ้าใช้ทางด่วนเส้นทางที่ใช้กันบ่อยๆมันลงทางนี้ไม่ได้เหมือนที่ข้างบนบอกนั่นแหละ

ไม่ต้องตั้งอะไรกันใหม่หรอก ปัจจุบัน 191 จส100 สวพ91 และช่องทางอื่นๆก็เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้วไม่ว่าจะถามทางหรือขอความช่วยเหลือใดๆ การท่าเขาช่วยอะไรไม่ได้หรอกเพระาเวลาเกิดเหตุรถแท็กซี่ไม่ได้อยู่ในสนามบิน ทีมีอยู่ก็เพียงพอแล้วมันขึ้นอยู่กับว่าจะรู้จักใช้หรือเปล่าเท่านั้น

ใช้สติกันบ้างก็ดี ไม่อยากได้ยินบ่อยๆ แบ่งปันกันเป็นเรื่องดี ช่วยเหลือกันก็เป็นเรื่องดี แต่อะไรที่มันเยอะหรือมากเกินไปมันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรนอกจากมันปากสนุกปากแค่นั้นเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจะระแวงระวังมากไปผมว่าไม่ผิด ผู้หญิงขึ้นแท๊กซี่คนเดียวตอนกลางคืนแค่นี้มันก็เสี่ยงมากพอแล้วนะผมว่า ผมไม่ได้โลกสวยครับแต่ถ้าเป็นพี่สาวน้องสาวลูกสาวเราเราก็ห่วง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
อันนี้อาจจะไกลเกินกว่าความรับผิดชอบของการท่าไปนิดนึงครับ
แต่ถ้าเป็นกรมการขนส่งทางบกล่ะก็ ผมว่าก็ควรจะมีมาตรการคัดกรองคนขับแท็กซี่ที่ดีกว่าในปัจจุบันนี้นะครับ
เดี๋ยวนี้เห็นมาขับแท็กซี่กันง่ายดายมาก เพิ่งออกจากคุกประวัติอาชญากรรมยาวเหยียดก็ขับได้
สอบใบขับขี่งูๆปลาๆ ก็ขับได้ เรื่องอบรมจริยธรรมคนขับไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่เคยมี


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
อันที่จริง จขกท. โน้นเขาก็ขอจบไปแล้ว
คือที่เพื่อนๆหลายคนตั้งคำถามเขาเนี่ยมันมีเหตุผล ไม่ใช่จะหาว่าเขาหวาดระแวงเกินไป แต่มันมีความเป็นไปได้สูงที่เรื่องมันอาจเป็นแค่ความเข้าใจผิด และบางทีก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีเขาด้วย ถึงแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อก็เถอะ

ลองศึกษาดราม่าจากหว้ากอนี้แล้วจะเข้าใจ ว่าบางทีเสพข่าวมากไปอาจทำให้เผลอใช้ความหวาดระแวงเหนือเหตุผล ก็ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ ในดราม่านี้เจ้าตัวลุยเต็มที่เพราะมั่นใจ เรื่องถึงตำรวจ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นโอละพ่อ จากการรักษาสิทธิ์ตัวเองก็กลายเป็นการทำละเมิดคนอื่น

http://drama-addict.com/2012/06/05/แท็กซี่คนจน/

(เปลี่ยนคำว่า ดราม่า เป็นภาษาอังกฤษก่อน)

สังคมที่พร้อมจะเห็นพ้องและคล้อยตามทุกอย่างตามที่ได้รับการบอกเล่าโดยไม่คิดสงสัย ไม่ตั้งคำถาม
จะไปเรียกว่า "สังคมอุดมปัญญา" ได้อย่างไรครับ?

ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
#คุณpomm42

เราจ่ายค่าทางด่วน 2 ครั้ง เป็นเงินทั้งหมด 65 บาทค่ะ

เราขอสรุปเลยละกัน ทั้งหมดทั้งมวลมันไม่สำคัญหรอก จนกว่าเราจะเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ถูกมั้ย?


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
แทนที่จะออกมาเหวี่ยงใส่คนอื่นที่ไม่คล้อยตามหรือไม่เห็นด้วย
คุณเจ้าของความเห็นที่7 เอาเวลาไปทบทวนตัวเองดีกว่าไหม
ถ้าคุณคิดว่าความปลอดภัยมันสำคัญจริงๆแล้วล่ะก็
คุณควรคิดถึงมันก่อนที่จะตัดสินใจนั่งแท็กซี่คนเดียวตอนตีสี่แล้วล่ะ

สิ่งต่างๆมันขึ้นกับการกระทำของตัวเราเอง
ถ้าจะแก้ก็แก้ที่ตัวเองก่อน
เพราะเราไปบังคับให้คนอื่นทำอะไรตามใจเราไม่ได้

สำหรับกรณีคุณ ข้อมูลมันไม่ชัดเจนมีแต่ความคิดเห็นของตัวคุณเอง
แต่คุณก็ออกมากล่าวหาเขาในที่สาธารณะ แถมลงทะเบียบรถเสร็จสรรพ
อีกฝ่ายเขาเสียหายแล้ว เขาไม่มีโอกาสได้ชี้แจง อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนกล่าวหา
มันไม่แฟร์กับคู่กรณีของคุณ

พื้นที่บอร์ดสาธารณะมันไม่ใช่ที่ๆใครอาจด่าใคร คิดอะไรก็ออกโพสโดยไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่อาจไม่ละเมิดคนอื่น

นอกจากนั้นเรื่องบ้างเรื่องเท็จจริงยังไม่รู้ ใส่สีตีไข่ลงไปกลายเป็นการสร้างความหวาดระแวงให้สังคมไปซะอีก


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขึ้นแท๊กซี่ชั้น 1 ก็หมดเรื่องแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เจ้าของกระทู้นี่ก็ชอบเหวี่ยงเกินนนนนนนน



ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ก็ดีกว่าที่....ปล่อยให้เลยตาม...เลย !

เจ็บ-ทุกข์-ได้-ยาก....ขึ้นมา

ถามแค่นิดเดียว...คนที่เก่งฉกาจในนี้ จะสามารถไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที...มั้ย

ข่าวคราวของสังคมบ้านเมืองเรา...มันก็มีให้เห็นตามสื่อเป็นระยะ ไหนบางข่าว ก็อาจจะไม่มีให้เห็นอีก...

จะไปอะไรกันนัก-กันหนา กับหญิงสาวคนหนึ่ง ! จะพยายามหยิบยกประเด็นต่างๆ ออกมา...เพื่ออะไรกัน

นอกซะจาก..คำเขียนในลักษณะ..กระแนะ-กระแหน่ หรือ..เสียดสียังกะ..ตุ๊ดแต๋วแตก

แค่นี้...เธอก็สร้างอุทาหรณ์ให้กับหญิงสาวนานา..นับประการ...แล้วครับ

คนเรา...ก็นะ...มันก็สามารถมาพูดกันทีหลังได้ทั้งนั้นแหละ ว่า....ณ เวลาตี 4 ทำไมเธอถึงไม่คิดดูตาม้า-ตาเรือกันบ้าง

ยังไงๆ แล้ว...คนเราก็คิดพูดแบบนี้กันได้ทั้งนั้นละครับ ! แต่...ทำไม ไม่หัดคิดในด้านของความจำเป็น กับสถานการณ์นั้นๆ กันบ้าง

เป็นหญิงสาวที่ไหนๆ ก็จะต้องเรียก taxi ให้ไปส่งบ้านกันทั้งนั้น...

แต่..ทั้งนี้-ทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับดวง-ชะตาของ ผดส. อีกเช่นกัน ว่า..จะเจอะเจอคนขับประเภทไหน

ทำไม...ไม่อ่าน คคห. ของ ผญ. ส่วนใหญ่ในกระทู้โน้นละ ว่า ผญ. แต่ละคนมี คคห. แบบไหนกลับมา

ส่วนใหญ่ ก็จะต้องกลัวกันทั้งนั้น ! ลำพังแค่จะไปงัดข้อกับ ผช. ก็ไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้ว แล้วจะให้ไปสู้รบตบมือกับคนขับรถไปทำไมกัน

เคทนี้...ผมอยากจะปกป้องหญิงสาวนะครับ ! เพราะรู้สึกว่า...ถ้าผมเห็น ผช. คนไหน มัวแต่คิดในด้านหลักการทฤษฐี ว่าคนขับอาจจะไม่รู้เส้นทาง หรือ..จขกท. คิดมากไปป่าว !

ผมรู้สึกว่า...ทำไม ไม่คิดเป็นห่วงเพศที่อ่อนแอกว่าเลยซักนิด แถมมิหนำซ้ำ..ยังอุตสาห์ย้ายวิกโรงละคร...มาเล่นในกระทู้นี้อีก

ซึ่ง...ถ้าอ่าน คคห. ของ จขกท. อันนี้ คือคุณ..เคี้ยงโมโต ! (คงจะลูกครึ่งญีปุ่น อะป่าว)

เค้าก็มีเจตนาที่ดีให้กับ ผญ. แบบเต็มเปี่ยมท่องแท้จริงๆ ซึ่งก็ถือได้ว่า...น่าเคารพและสรรเสริญในด้านของความคิดมากๆ เลยครับ

แต่กลับกลายเป็นว่า...ยังมีแก๊งค์กวนเมืองตามราวี...สุภาพสตรี ที่เธอพยายามดิ้นรนหนีออกจากรถให้ได้.....มันเพื่ออะไรกัน ?

โอกาสที่ taxi มันจะหื่น..อ่ะ...มันมีได้แน่นอน ! กับยามเวลานั้นๆ

ท่าทางคนที่เก่งๆ ในนี้ ! คงจะไม่มีแฟนละมั้ง ถึงไม่ค่อยคิดเป็นห่วง ผญ. ซักนิด

เอาละ...คนเราในนี้ มันคงหาโอกาสมาทำความรู้จักกันได้ยาก...แต่มันก็สามารถดูความนึกคิดได้จากตัวหนังสือได้อีกเช่นกัน ว่า...เป็นคนแบบไหน หรือมีศีลธรรมแค่ไหน

พอเถอะ ! อย่าไปตามจิกอะไรๆ กับ ผญ. กันเลยครับ กับเคทลักษณะแบบนี้

ก็อย่างที่บอกไปนั้นแหระ....หากในกระทู้อื่นๆ ที่มี ผญ. มาบ่นโน้น บ่นนี้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ผมเองก็มักจะมี คคห. ในลักษณะแบบไปกวนๆ เค้าเป็นประจำ..เพราะผมเจอะเจอ ผญ. มามากมายกายกอง จึงรู้ได้ว่า..ผญ. มักจะคิดอะไรแบบจุกจิก คิดเล็ก-คิดน้อย

แต่...เรื่องแบบนี้ ! ผมจะเป็นห่วงเป็นใยมากจริงๆ คือ...ไม่ยากให้หญิงสาวไปโดนข่มขื่น หรือไปถูกทำแบบมิดี-มิร้าย กับคนที่เธอไม่ได้...รัก

คือ...มันกันไว้ดีกว่าแก้..นะครับ ! หากเกิดอะไรขึ้นมาละ...ไม่ว่าเธอจะถูกถ่ายคลิป ,ไม่ว่าเธอจะถูกกรรโชกทรัพย์ ,หรือแม้กระทั้งอาจจะติด...เอดส์ !!!

แล้วทีนี้....ถ้าหญิงสาวในนี้โดนแบบนั้นขึ้นมา....

แล้วไงครับ...คนในนี้ก็จะต้องมี คคห. ประมาณว่า...."มันเป็นเวร-กรรม ของคุณ" นี้แหระ มันจะเป็น "คำตอบสุดท้าย" กับคนที่จะมาออก คคห.

แต่พอเค้าพยายามหนีเอาตัวรอด กลับกลายเป็นว่า.....ไม่เห็นด้วยซะอีก

ปล....คืนนี้กลับบ้านดึกซะหน่อย...พอดีเรียก taxi 3 คัน..ดันพาหลงซะ 3 รอบ

สงสัยคราวหน้า ! ต้องขอขับเอง...แล้วนะเนี้ยยย


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
กระทู้ที่เราตั้งขึ้นมาเราต้องการที่จะสื่อว่า เราเชื่อและอยากเตือนคนอื่นๆว่าคนขับแท็กซี่คันนั้นเป็นบุคคลอันตราย ก็แค่นั้นแหละ ที่เล่ามาทุกคำเป็นความจริง ไม่มีแต่งเติมแม้แต่น้อย ใครจะเชื่อหรือเห็นด้วยหรือไม่นั้นก็สุดแล้วแต่ เรารู้อยู่แล้วว่าต้องมีอยู่สองมุม ก็ในนี้มันเป็นที่ให้คนมาแสดงความเห็นนี่นะ เราไม่รู้สึกแย่ที่คนอื่นไม่เชื่อหรือไม่เห็นด้วย แต่ขออย่างเดียวอย่าทำให้รู้สึกเหมือนสมน้ำหน้าที่เราไปขึ้นแท็กซี่คนเดียวตอนตี 4 เราก็ไม่ได้ไปขึ้นแท็กซี่ตอนตี 4 ทุกวันหรอกนะ แล้วตอนนั้นน่ะ ถ้าไม่ขึ้นแท็กซี่แล้วจะกลับบ้านยังไง
แล้วถ้าไปต่างประเทศกลับมาเครื่องลงตี 2 3 4 ทำไงดีล่ะ เพราะไม่ควรขึ้นแท็กซี่เวลานั้น ต้องให้พ่อแม่พี่น้องไปรับใช่มั้ย หรือว่านั่งรอจนหกโมงเช้าแล้วค่อยกลับ ต่อให้ระวังตัวยังไงก็เถอะ มันไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกนะว่าเมื่อไหร่จะเจอคนชั่ว

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณ Greenapple1 ที่เป็นห่วงผู้หญิงค่ะ
ถึงแม้ว่า จะยังไม่รู้ว่า ตกลงจขกท.คิดไปเอง หรือ แท๊กซ๊่ น่ากลัวจริงๆก็ตาม

ปล.แท๊กซ๊่ถ้าไม่รู้ทางก็บอกมาตรงๆสิ มันไม่ได้เสียหน้าเลยนะ
ดีกว่าจะมาถามซ้ำๆ ว่าซอย 62 หรอๆๆ
ไม่คิดว่ามันแปลกรึไง บอกว่าไปซอย 50 แต่จะพาเราไป 62 ซะงั้น

ส่วนเรื่องโยนเงิน เรากลับเฉยๆนะ
ก็คนมันกลัว รีบ อยากออกจากรถ
จะให้ยื่นเงินให้ รอเงินทอน หรือยังไงคะ ??

เวลาคนเรากลัวอะ มันก็ลนลานทั้งนั้นแหละ

ง่ายๆเลยนะ ถ้าคุณเจอเงาคนยืนอยู่ปลายเตียง
คุณจะกลัวร้องกรี๊ดก่อนมั้ย???
หรือจะต้องมาพิจารณา
อาจจะเป็นผ้าม่านปลิว หรือ เป็นเงาต้นไม้นะ ?
เอ๋ หรือว่า จะเป็นโจรมาขโมยของ หรือเป็นผีน้าาาาา
พอรู้ว่าเป็นอะไรค่อยวิ่งหนีอย่างงั้นสินะ

ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงแท๊กซ๊่ค่ะ
แท๊กซี่คงซึ้งมาก ที่มีคนเป็นห่วงเค้าขนาดนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
น่าเห็นใจ จขกท.กระทู้ก่อนเหมือนกันนะคะ แต่ดูลักษณะการตอบกระทู้ก็แรงใช่ย่อยเหมือนกัน บางคนแนะนำดีๆ คุณก็เหวี่ยงใส่นิดๆ เหมือนกัน อ่านแล้วเสียความรู้สึกเลยค่ะ




ตอบกลับความเห็นที่ 14